ตอนที่แล้วตอนที่ 75 การประมูลเครื่องประดับ ตอนที่ 6
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 77 งานราตรี ตอนที่ 2

ตอนที่ 76 งานราตรี ตอนที่ 1


ติดตามตอนอื่น ๆ ได้ที่ : novelrealm

ทุกคนในสถานที่แห่งนี้คิดว่าเหว่ยเฉิงหลงเป็นบ้าแน่ๆเขาต้องบ้าไปแล้ว จะมีใครซื้อสร้อยคอเส้นเดียวในราคาสิบห้าล้านหยวนบ้าง อย่างไรก็ตามพวกเขาทั้งหลายยังรู้จักเหว่ยเฉิงหลง ที่เป็นถึงนายน้อยของบริษัทเหว่ยตงเซียนกรุ๊ปยักษ์ใหญ่และเงินจำนวนนั้นก็อาจจะไม่มากสำหรับคนอย่างเขา

เย่เชียนไม่ได้โง่เหมือนเหว่ยเฉิงหลง เพราะสร้อยคอเส้นนี้เป็นดั่งทรัพย์สมบัติของเย่เชียนเองหากเขาต้องการก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเสียเงินเพื่อให้ได้มันมา จุดประสงค์ที่เขาประมูลก็เพื่อจะรีดเงินออกจากลูกคุณหนูคนนี้เพราะอย่างไรก็ตามเหว่ยเฉิงหลงก็จะต้องจ่ายสำหรับส้อยคอเส้นนี้แต่ทว่าสร้อยคอเส้นนี้ถึงยังไงมันก็ยังคงเป็นของเย่เชียนอยู่วันยันค่ำ

“สิบห้าล้านหยวนครั้งที่หนึ่ง!..สิบห้าล้านหยวนครั้งที่สอง!..สิบห้าล้านหยวนครั้งที่สาม!..ปิดการประมูล!..ขอแสดงความยินดีด้วย!..สร้อยเพชรดวงดาวแห่งความรักเส้นนี้เป็นของคุณ! ขอเสียงปรบมือให้เขาอีกสักรอบ” พิธีกรปรบมืออย่างหนักแน่นพร้อมกับแอบด่าในใจ ‘โถ่ๆๆ..ฉันไม่เคยเจอคนโง่และบ้าขนาดนี้เลย”

เย่เชียนยักไหล่เล็กน้อยและฉีกยิ้มจากนั้นก็พูดว่า “พ่อหนุ่มคนนั้นยอดเยี่ยมมาก”

ฉินหยูมองไปที่เย่เชียนด้วยท่าทางที่ดูอ่อนโยนและพูดว่า “เธอยังพูดแบบนั้นได้อีกหรอ..ถ้าเหว่ยเฉิงหลงไม่เพิ่มราคาเสนอของเขาในตอนนั้น..เธอจะทำยังไง?”

เย่เชียนยิ้มอย่างอ่อนโยนและพูดว่า “ก็ผมเห็นว่าคุณชอบสร้อยเส้นนั้นจริงๆ”

“หึ่ม..ไม่ว่ามันจะแพงหรือถูกแค่ไหนมันก็เป็นแค่เครื่องประดับ..แค่เธอมีความจริงใจของเธอที่จะซื้อให้ฉันด้วยใจแค่นั้นก็เพียงพอแล้ว” ฉินหยูพูดอย่างจริงจัง

“ห๊า..อ๋อ? จริงๆแล้วที่นายเสนอราคาเมื่อกี้ก็เพื่อที่จะซื้อให้อาเจ๊หยูนี่เอง..จริงๆแล้วทั้งสองคน......” จ้าวหยาชะงักไปชั่วครู่จากนั้นเธอก็นึกขึ้นได้และพูดอย่างมีความสุขว่า “อาเจ๊หยู..พี่นี่ช่างเป็นพี่สาวที่ดีของฉันจริงๆ..ไปคุยกับพ่อของฉันให้ทีสิไปบอกเขาว่าเจ๊หยูกับเย่เชียนนั้นรักกัน..แล้วฉันก็ไม่จำเป็นที่จะต้องแต่งงานกับเขาแล้ว..และทั้งสองคนก็จะได้รักกันและแต่งงานกันได้ในที่สุดไง”

“ไร้สาระหน่า” ฉินหยูจ้องเขม็งไปที่จ้าวหยาและพูด ปากของจ้าวหยาสั่นเทาและเธอรีบปิดปากของเธออย่างเชื่อฟัง

“ในเมื่อเรามาด้วยกันเราก็ต้องอยู่ด้วยกันจนกว่างานเลี้ยงนี้จะจบ” ฉินหยูพูดอย่างจริงจัง

เย่เชียนส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้และไม่ได้คิดว่างานเลี้ยงในคืนนี้จะจบลงอย่างราบรื่น “คุณไปรอผมในงานเลี้ยงก่อน..เดี๋ยวสักพักผมจะตามไป” เย่เชียนพูด

“กลับมาเร็วๆนะ” ฉินหยพูดด้วยความกังวล

เย่เชียนพยักหน้าและเดินออกไป

ที่มุมทางเดินของโรงแรมเย่เชียนก็สังเกตเห็นร่างที่คุ้นเคยเขาเดินไปหาคนๆนี้ด้วยความตกตะลึงเล็กน้อย “คุณยังไม่ไปอีกเหรอ” เย่เชียนถามเมื่อเดินมาถึงเขา อันที่จริงเขาก็ไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายเป็นใคร แต่เย่เชียนรู้สึกว่าตัวตนของเขาคุ้นเคยมาก

“ราชาหมาป่าเย่เฉียนคุณสมควรได้รับชื่อเสียงเหล่านั้นของคุณจริงๆฉันยอมรับเลย แม้ว่าฉันจะสวมหน้ากากในครั้งแรกที่เราพบกัน แต่ในการพบกันครั้งที่สองนี้คุณสามารถจดจำฉันได้อย่างง่ายดาย มีเพียงไม่กี่คนบนโลกใบนี้ที่สามารถทำเช่นนั้นได้ สำหรับเขี้ยวหมาป่าที่เอาชนะเสือดำโลหิตจนกลายเป็นกลุ่มกองกำลังทหารรับจ้างอันดับหนึ่งของโลกนั้นไม่ใช่เพราะโชคช่วยเลย” อีกฝ่ายอายุราวๆสามสิบปี เขามีสีหน้าที่ดูเรียบเฉยสบายๆ แต่ในดวงตาของเขาเต็มไปด้วยการสรรเสริญเยินยอและจริงใจอย่างชัดเจน

“คุณก็พูดเกินไป..ขอบคุณ” เย่เชียนพูดด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย “ผมหวังว่าคุณจะปฏิบัติตามข้อตกลงของเรา”

“ฉันโชคดีที่ราชาหมาป่าอย่างคุณเข้ามาแทรกแซงในครั้งนี้มิฉะนั้นฉันก็คงจะพลั้งฆ่าคนดีคนหนึ่งไปเสียแล้วและทำลายชื่อเสียงขององค์กรเซเว่นคิลทั้งหมด นับตั้งแต่ก่อตั้งองค์กรเซเว่นคิลโดยผู้ก่อตั้งคนแรกเราไม่เคยฆ่าคนดีเลยสักครั้งแต่ครั้งนี้เราเกือบจะทำมันลงไป..ฉันจะไปแล้วขอให้เราได้พบกันอีกครั้งในสักวันหนึ่ง เมื่อถึงเวลานั้นฉันอยากจะขอเคล็ดลับบางอย่างจากราชาหมาป่า..ฉันหวังว่าราชาหมาป่าจะใจกว้างนะเมื่อถึงเวลานั้น” ชายวัยกลางคนพูดอย่างสบายๆเป็นกันเอง

เย่เชียนยิ้มเจื่อนๆพูดว่า “ผมไม่อยากเป็นครูของใครหรอกแล้วผมก็คิดว่าหัวหน้าของพวกคุณเป็นดั่งพี่ชายของผม ถึงแม้ว่าเราจะไม่เคยพบกันก็ตาม ผมหวังว่าคุณจะสามารถส่งข้อความจากผมถึงหัวหน้าของคุณได้ว่าผมอยากจะเป็นเพื่อนกับเขา”

“แน่นอน..!” ชายวัยกลางคนพูดและกล่าวคำอำลาว่า “งั้นฉันจะไม่รบกวนแล้ว..โชคดีราชาหมาป่า”

.

“เช่นกัน..ลาก่อน!” เย่เชียนกล่าวคำอำลากลับ

เมื่อมองด้านหลังของชายวัยกลางคนขณะที่เขาเดินจากไปเย่เชียนก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มจางๆ เกี่ยวกับกฏเหล็กการสังหารทั้งเจ็ดนั้นถึงเย่เชียนจะไม่เข้าใจเรื่องนี้มากนัก แต่ก็พอทราบมาเล็กน้อยว่าทุกครั้งที่องค์กรเซเว่นคิลได้รับภารกิจก่อนอื่นนั้นพวกเขาจะตรวจสอบพฤติกรรมของเป้าหมายอย่างระมัดระวัง และด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงไม่เคยพลั้งฆ่าคนดีเลยแม้แต่คนเดียว นี่คือสิ่งที่เย่เชียนชื่นชมอย่างมากกับองค์กรเซเว่นคิล ดังนั้นเย่เชียนจึงต้องการเป็นมิตรกับองค์กรเช่นนี้ ในฐานะทหารรับจ้างมักจะเกี่ยวข้องกับการทำงานในที่โล่งพื้นที่เปิดกว้างและอื่นๆอีกหลายแบบและการได้รับการสนับสนุนจากองค์กรเซเว่นคิลนั้นจะทำให้สิ่งต่างๆแตกต่างออกไปเพราะองค์กรเซเว่นคิลเป็นองค์กรที่ได้รับความนิยมพวกเขามีวิธีการปฏิบัติภารกิจที่แปลกประหลาดและคาดเดาได้ยากโดยมักจะปฏิบัติภารกิจอย่างรอบคอบและคอยจับผิดผู้คนอยู่เสมอ ตอนที่เขาช่วยจ้าวเทียนห่าวอาจเป็นเพียงแค่ความโชคดีแต่ก็ต้องขอบคุณความโชคดีนั้น นอกจากนี้จากประสบการณ์ของเขาในการใช้ชีวิตอยู่บนเส้นแบ่งระหว่างความเป็นและความตายที่ทำให้ประสาทสัมผัสของเขาดีเยี่ยมเป็นเลิศ

หลังจากที่เย่เชียนเดินเตร่อยู่ตรงกลางโถงทางเดินเป็นเวลานาน แต่เขาก็ยังไม่พบสมาชิกหน่วยเขี้ยวหมาป่าคนอื่นๆเลย เขาจึงส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้และตัดสินใจกลับไปที่งานราตรี ในความเป็นจริงแล้วเย่เชียนก็ไม่รู้ว่าแผนของพวกนั้นที่อยู่เบื้องหลังงานนี้คืออะไร แต่เย่เชียนก็ค่อนข้างสบายใจที่จะปล่อยให้แจ็คผู้ที่มีฉายาว่าหมาป่าหิมะดูและสิ่งต่างๆและโดยการมีเขาอยู่รอบๆนั้นจะสามารถควบสถานการณ์ต่างๆได้ แต่สิ่งที่เย่เชียนกังวลจริงๆคือหลี่เหว่ยเขาหายไปนานแล้วและยังไม่กลับมาอีก แล้วตัวเองจะต้องเจอปัญหาแบบไหนอีก? แต่อย่างไรก็ตามเขามั่นใจในความแข็วแกร่งของหลี่เหว่ยมากเพราะไม่ว่าทักษะการต่อสู้และความเฉลียวฉลาดหลักแหลมของเขาล้วนแล้วแต่ยอดเยี่ยมและเพอร์เฟค ถึงแม้ว่าจะมีคนมาไล่ต้อนเขาให้จนมุมก็ตามสุดท้ายแล้วหลี่เหว่ยก็ยังสามารถหลบหนีออกมาได้โดยไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆเลยแม้แต่น้อย

งานราตรีถูกจัดขึ้นที่ชั้นสองของโรงแรม เป็นไปได้มากที่เหว่ยเฉิงหลงจะจองสถานที่เอาไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ ในโรงแรมนั้นการจัดวางการออกแบบธีมก็หรูหรามากเช่นกัน

เมื่อเขาเข้ามาเขาก็เห็นว่าฉินหยู,หูวเค่อและจ้าวหยา หญิงสาวทั้งสามนั่งอยู่ที่มุมหนึ่งและดื่มไวน์แดงอย่างสบายใจเย่เชียนก็ยิ้มอ่อนๆทันทีและเดินเข้าไป ฉินหยูในตอนนี้ค่อนข้างมีสีหน้าจริงจังเผยให้เห็นถึงความกังวลใจแต่เมื่อเธอเห็นเย่เชียนมาถึงแล้วฉินหยูก็รู้สึกผ่อนคลายและยิ้มเล็กน้อย เย่เชียนเดินไปอยู่ข้างๆเธอและนั่งลงจากนั้นฉินหยูก็กระซิบถามว่า “มีอะไรหรือเปล่า?”

“ไม่มีอะไรหรอก” เย่เชียนตอบและยิ้มอย่างอ่อนโยน

เย่เชียนรู้สึกผ่อนคลายและมีความสุขมาก แต่สำหรับเหว่ยเฉิงหลงนั้นกำลังอดกลั้นความโกรธเกรี้ยวอยู่และเย่เชียนที่ได้ก้าวเข้ามาและดันไปเพิ่มราคาประมูลจนทำให้เขาต้องใช้เงินสิบห้าล้านหยวนเพื่อซื้อสร้อยคอดวงดาวแห่งความรักและถึงแม้ว่าเงินสิบห้าล้านจะไม่ได้มีความหมายสำหรับเขามากนัก แต่เขาก็ยังคิดว่าเงินไม่ควรถูกใช้ไปอย่างไร้เหตุผลเช่นนี้ หลังจากที่เขาเซ็นสัญญาในใบสัญญาการประมูลและส่งมอบเช็คมูลค่าสิบห้าล้านหยวนแล้วเขารู้สึกเสียใจขึ้นมาทันที แต่มันก็สายเกินไปเสียแล้ว เขาหวังเพียงว่าเขาจะมอบสร้อยคอเส้นนี้ให้กับฉินหยูและให้ฉินหยูพึงพอใจและเต็มใจที่จะไปนอนกับเขาแล้วเงินสิบห้าล้านนั้นก็จะคุ้มค่าที่สุดให้คุ้มกับที่เสียไป..

.

.

.

.

.

.

.

ติดตามตอนอื่น ๆ ได้ที่ : novelrealm

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด