ตอนที่ 70 การประมูลเครื่องประดับ ตอนที่ 1
ติดตามตอนอื่น ๆ ได้ที่ : novelrealm
เย่เชียนไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าเขาจะพบหลินโรวโร่วในสถานที่แห่งนี้ และเธอก็ควงแขนชายวัยกลางคนเอาไว้ด้วยซ้ำพวกเขาดูสนิทสนมและหัวเราะและพูดคุยกันอย่างดูมีความสุข คิ้วของเย่เชียนขมวดขึ้นอย่างรุนแรง หลินโรวโร่วเป็นเพียงพยาบาลเธอจะมีเงินมาช้อปปิ้งที่นี่ได้อย่างไร? ที่นี่แม้แต่พนักงานอาชีพทั่วๆไปก็ยังต้องเสียเงินเดือนถึงสามเดือนถึงจะมาจับจ่ายใช้สอยกันได้
ใบหน้าของเย่เชียนดูไม่สบอารมณ์อย่างมาก เขาเป็นคนที่ขีดเส้นแบ่งระหว่างความรักและความเกลียดชังอย่างชัดเจนที่สุด และถึงแม้ว่าเขาจะไม่ใช่คนดีเลิศเลอเพอร์เฟค แต่ในกรณีของหลินโรวโร่วในครั้งนี้ถ้าหากเธอไม่ได้ชอบเขาแล้วเธอก็ควรจะบอกเขาตรงๆแต่กลับเลือกที่จะซ่อนจากเขาและทำแบบนี้ในที่สาธารณะ
“เกิดอะไรขึ้น?..ผู้หญิงคนนั้นเป็นเพื่อนของเธอหรอ” ฉินหยูถามอย่างงุนงง เย่เชียนไม่รู้ว่าฉินหยูซื้อเสื้อผ้าของเธอเสร็จแล้ว ตอนนี้เธออยู่ข้างๆเย่เชียนและมองไปที่หลินโรวโร่ว
เย่เชียนตื่นขึ้นจากภวังค์ความกังวลของเขาโดยการปรากฏตัวของฉินหยูอย่างกะทันหันและพยักหน้าโดยไม่ได้พูดอะไรมาก ฉินหยูมองไปที่เย่เชียนจากนั้นก็มองไปที่หลินโรวโร่วอีกที และดูเหมือนเธอจะเข้าใจอะไรบางอย่าง แต่เนื่องจากเย่เชียนไม่ได้พูดอธิบายอะไรใดๆเธอจึงไม่ได้ถามเขา
หลังจากเดินเล่นและช้อปปิ้งในห้างสรรพสินค้าเสร็จแล้วและมันก็ใกล้จะห้าโมงเย็นแล้ว เย่เชียนไปที่ลานจอดรถกับฉินหยูพร้อมกับถือถุงที่ไปช้อปปิ้งต่างๆ จากนั้นพวกเขาก็เข้าไปในรถและตรงไปที่โรงแรม เย่เชียนไม่ได้พูดอะไรระหว่างทางเลยแต่น้อย ฉินหยูเห็นว่าเย่เชียนอารมณ์ไม่ดีและยังไม่ได้พูดอะไรสักคำจึงทำให้บรรยากาศก็ค่อนข้างอึดอัดและหดหู่เล็กน้อย
หลังจากถึงโรงแรมเย่เชียนก็ก้าวออกจากห้องอาบน้ำหลังจากอาบน้ำเสร็จเย่เชียนก็เริ่มรู้สึกดีขึ้น เย่เชียนรู้สึกว่าเขาไม่ได้รู้แน่ชัดถึงสถานการณ์ทั้งหมดดังนั้นเขาจึงไม่ควรสงสัยหลินโรวโร่ว เพราะท้ายที่สุดแล้วเขารู้ว่าหลินโรวโร่วที่เขารู้จักนั้นไม่ใช่ผู้หญิงที่ไร้สาระเช่นนั้น ไม่อย่างงั้นเธอคงไม่คอยกังวลคอยเป็นห่วงเป็นใยพนักงานรักษาความปลอดภัยธรรมดาๆอย่างตัวเขาเองหรอก..
ส่วนฉินหยูเธอก็เปลี่ยนชุดราตรีสีดำของเธอเสร็จแล้ว รูปลักษณ์ของเธอเปล่งประกายอย่างเฉิดฉายและสูงส่งทำให้เย่เชียนรู้สึกหลงใหลในตัวเธอเล็กน้อย “คืนนี้คุณดูสวยมาก!” เย่เชียนชื่อชมฉินหยูอย่างจริงใจ
ผู้หญิงมักจะมีความสุขเมื่อได้รับคำชื่อชมและเยินยอ ถึงแม้ว่าฉินหยูจะมั่นใจในรูปลักษณ์ของเธอมากก็ตาม แต่การได้ยินคำพูดเหล่านั้นจากเย่เชียนก็ทำให้เธอรู้สึกมีความหวานในหัวใจอย่างช่วยไม่ได้ อย่างไรก็ตามบางทีมันอาจจะเป็นนิสัยที่เป็นธรรมชาติของเธอในการพูดอย่างฉุนเฉียวเกรี้ยวกราด เธอตะค่อกกลับมาว่า “แล้วเมื่อก่อนฉันไม่สวยเหรอ?”
เย่เชียนหัวเราะเบาๆและตอบว่า “คุณน่ะสวยเสมอ..แต่คืนนี้คุณสวยและงดงามมากกว่าวันไหนๆ”
ฉินหยูฉีกยิ้มอย่างมีความสุขและพูดแค่ว่า “มันจะสายแล้วรีบไปกันเถอะ!” เมื่อเธอเห็นเย่เชียนสวมชุด Gianfranco Ferre เธอก็รู้สึกมีพลังมากขึ้นดวงตาของเธอเป็นประกายราวกับน้ำพุปะทุจากภูเขาทั้งลึกและกว้างใหญ่เช่นเดียวกับท้องฟ้าที่ระยิบระยับไปด้วยดวงดาวอันกว้างใหญ่ไพศาล อารมณ์ที่พุ่งพล่านหลั่งไหลออกมาจากตัวเธอทำให้ตัวเธอเองใจเต้นไม่เป็นจังหวะ สิ่งนี้เห็นได้ชัดเหมือนคำกล่าวที่ว่า ‘เทวรูปต้องการแผ่นทองคำบนร่างกายและผู้ชายก็ต้องการเครื่องแต่งกายที่ดี’ คำกล่าวเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่เหลวไหลเลย
เมื่อพวกเขามาถึงที่จอดรถของโรงแรมอยู่ๆฉินหยูก็โยนกุญแจรถไปให้เย่เชียนและพูดว่า “เธอขับรถ!” เย่เชียนน้อมรับอย่างยินดี เขาไม่ได้ขับรถซุปเปอร์คาร์แบบนี้มาสักระยะหนึ่งแล้ว และแน่นอนว่าเขาจะไม่ปล่อยให้โอกาสนี้สูญเปล่า เขาสามารถขับรถเร็วได้ถึง 170 ไมล์ต่อชั่วโมงจากนั้นลัมโบร์กินี่คันนี้จะเหมือนดั่งค้างคาวรัตติกาลที่วิ่งเร็วชั่วข้ามคืน แต่ทว่าถนนกลับเต็มไปด้วยรถสันจรดังนั้นเย่เชียนจึงรู้สึกผิดหวังที่เขาไม่สามารถปลดปล่อยความเร็วสูงสุดของลัมโบร์กินี่คันนี้ได้ แต่แค่ความเร็วปัจจุบันที่พวกเขาเผชิญอยู่ก็ทำให้ฉินหยูกลัวมากแล้ว โชคดีที่เย่เชียนมีความชำนาญในการขับพยาพาหนะแถบจะทุกชนิด เขาขับไปตามท้องถนนราวกับกระกายแสงสีดำทมิฬ
“ไปที่โรงแรมไฮแอท!” ฉินหยูพูดขึ้นมาก
“หือ? เราไม่ได้จะไปบ้านของเหว่ยเฉิงหลงหรอกเหรอ?” เย่เชียนถามด้วยความประหลาดใจ
“คืนนี้ที่โรงแรมไฮแอทจะมีการจัดแสดงโชว์เครื่องประดับของแมรี่ผู้เป็นที่รักของราชวงศ์และเป็นนักออกแบบที่มีชื่อเสียงระดับโลก หลังจากการจัดแสดงโชว์ดีไซเนอร์แมรี่จะนำเครื่องประดับต่างๆมาประมูลโดยรายได้ทั้งหมดจะนำเข้าสู่มูลนิธิการกุศลต่างๆ ทั้งดาราและบรรดาผู้ดีชนชั้นสูงของเมืองเซี่ยงไฮ้จะไปรวมตัวกันที่นั่นเพื่อประมูล เหว่ยเฉิงหลงจึงย้ายการจัดงานราตรีไปที่นั่น” ฉินหยูตอบอย่างกระตือรือร้น
เมื่อเย่เชียนได้ยินชื่อแมรี่เขาก็ตกตะลึงไปชั่วขณะทันใดนั้นเขาก็มีสีหน้าที่เหม่อลอยและเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มอย่างรวดเร็วจากนั้นเขาก็เลี้ยวรถไปทางที่ตั้งของโรงแรมไฮแอท ชื่อของแมรี่นั้นโด่งดังไปทั่วยุโรปและเครื่องประดับเกือบจะทั้งหมดของราชวงศ์ในสหราชอาณาจักรก็ได้รับการออกแบบจากแมรี่เป็นการส่วนตัว อาจกล่าวได้เลยว่าแมรี่นั้นเป็นนักออกแบบเครื่องประดับประจำราชวงศ์ของสหราชอาณาจักร แต่นั่นมันก็คือสิ่งที่คนนอกทั่วไปรู้เกี่ยวกับเธอแต่สำหรับเย่เชียนเขาคุ้นเคยกับแมรี่มากกว่านั้นมาก
สามวันผ่านไปแล้วแต่นักฆ่าจากองค์กรเซเว่นคิลก็ยังไม่สามารถทำภารกิจของพวกเขาได้สำเร็จ ดังนั้นเย่เชียนจึงเชื่อว่าพวกเขาได้เคลื่อนพลออกจากประเทศจีนไปแล้ว นอกจากนี้ยังมีฟูจุนเฉิงและจ้าวไท่จู้คอยปกป้องจ้าวเทียนห่าวอยู่ ดังนั้นเย่เชียนจึงไม่ต้องกังวลและสำหรับจ้าวหยาก็ไม่มีอันตรายใดๆเพราะหลี่เหว่ยจะอยู่คุ้มกันเธอต่อไปอีกสักระยะหนึ่ง ดังนั้นด้วยเหตุผลเหล่านี้เย่เชียนจึงสามารถเข้าร่วมงานราตรีได้อย่างไร้ซึ่งความกังวล และนอกจากนี้เย่เชียนยังรู้สึกได้สึกว่าตอนนี้เหล่าพี่น้องหน่วยเขี้ยวหมาป่าของเขาน่าจะเคลื่อนพลมาถึงประเทศจีนแล้ว
เมื่อพวกเขามาถึงทางเข้าโรงแรมไฮแอทก็มีพนักงานสองคนมาเปิดประตูรถให้ทันทีอย่างเคารพ เย่เชียนโยนกุญแจรถให้พวกเขาและให้พวกเขาเอามันไปจอดที่ลานจอดรถ พนักงานต้อนรับรู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก เพราะมีคนรวยจำนวนมากมาเยือนโรงแรมไฮแอทแก่งนี้แต่คนที่ขับรถลัมโบร์กินี่นั้นมีน้อยมาก เขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าเขาจะโชคดีที่ได้มีโอกาสขับรถซุปเปอร์คาร์ระดับนี้ด้วยตัวเอง
มีผู้คนจำนวนมากมายพากันกรูกันเข้าไปที่ประตูของโรงแรมทีละคนๆ ผู้หญิงทั้งหมดแต่งกายด้วยชุดราตรีและผู้ชายก็สวมสูทผูกเนคไทเช่นกัน เย่เชียนส่ายหัวอย่างไม่สบอารมณ์กับการรวมตัวของคนในสังคมชนชั้นสูงที่ดูเหมือนกันไปซ่ะหมดทุกที่ เมื่อย้อนกลับไปตอนที่เขาไปเข้าร่วมงานเลี้ยงของราชวงศ์ในสหราชอาณาจักร ล้วนแล้วก็เป็นเหมือนที่นี่แต่ที่นั่นนั้นจะมีเพียงแขกเท่านั้นที่แตกต่างจากที่นี่เพราะว่าที่แห่งนั้นล้วนแล้วมีแต่ราชวงศ์และนายทหารระดับสูงกับผู้มีอิทธิพลระดับโลกเท่านั้น
หลังจากออกจากรถแล้วฉินหยูควงแขนของเย่เชียนอย่างเป็นธรรมชาติจากนั้นพวกเขาก็ค่อยๆเดินไปที่ห้องโถงของโรงแรม ซึ่งโรงแรมไฮแอทเป็นบริษัทในเครือของฉินหยุนกรุ๊ปและยังเป็นโรงแรมที่ดีที่สุดในเมืองเซี่ยงไฮ้อีกด้วย การออกแบบภายในให้หรูหราคงไม่ใช่เรื่องที่เกินจริง ขณะที่พวกเขากำลังเดินไปก็มีผู้คนที่รู้จักฉินหยูทักทายเธออย่างสุภาพและในที่สุดพวกเขาต่างก็หันมามองเย่เชียนกันด้วยความประหลาดใจ ซึ่งมันทำให้เย่เชียนรู้สึกไม่สบายใจ เย่เชียนคิดกับตัวเองว่าพวกเขาต้องคิดว่าฉินหยูที่เป็นดั่งเป็นราชินีน้ำแข็งผู้เยือกเย็นที่แสนเย็นชาในสายตาของพวกเขาและเธอที่ไม่เคยมีพฤติกรรมรักใคร่เช่นนี้กับชายใดมาก่อนจึงทำให้พวกเขาต่างก็พากันมองเช่นนี้
ฉินหยูยังคงเป็นตัวของตัวเองที่ยังสงบและเยือกเย็นและสง่างามตามตัวตนปกติของเธอ เธอเพียงแค่พยักหน้าเบาๆกับผู้คนที่ทักทายเธอ และเธอก็ไม่ได้แสดงออกมากนัก
“หยูหยู่..ในที่สุดคุณก็มา..ฉันคิดว่าคุณจะไม่มาเสียแล้ว” เมื่อพวกเขามาถึงทางเข้าของโรงแรม เหว่ยเฉิงหลงก็รีบเดินไปข้างหน้าเพื่อต้อนรับพวกเขาทันที
ในทันใดนั้นฉินหยูก็มีสีหน้าและท่าทางรังเกียจขณะที่เธอตอบไม่แยแสว่า “โปรดเรียกชื่อเต็มของดิฉันด้วย..เนื่องจากฉันตกลงที่จะมาร่วมงานราตรีฉันก็จะไม่กลับคำพูดของฉัน นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงโชว์เครื่องประดับของมาสเตอร์แมรี่ในคืนนี้ถึงแม้ว่าคุณจะไม่ได้เชิญฉัน ถึงยังไงฉันก็มาอยู่แล้ว”
เหว่ยเฉิงหลงยิ้มเจื่อนๆและตอบว่า “เครื่องประดับทั้งหมดที่จะนำมาประมูลในคืนนี้เป็นเครื่องประดับชั้นยอด ถ้าหากคุณชอบชิ้นไหนคุณก็มาบอกฉัน..แล้วฉันจะซื้อให้คุณเอง!”
.
.
.
.
.
.
.
ติดตามตอนอื่น ๆ ได้ที่ : novelrealm