ตอนที่ 69 ช้อปปิ้ง
ติดตามตอนอื่น ๆ ได้ที่ : novelrealm
ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่แห่งนี้มีมากกว่ายี่สิบชั้นและถือได้ว่าเป็นห้างสรรพสินค้าชั้นนำที่เฟื่องฟูที่สุดในเมืองเซี่ยงไฮ้ ซึ่งแต่ละชั้นต่างก็ขายสินค้าที่หลากหลายรวมไปถึงร้านค้านำเข้าสินค้าหลากหลายแบรนด์ดังๆทั่วโลก อาจกล่าวได้ว่าที่นี่นั้นตราบใดที่คุณมีเงินคุณก็จะสามารถหาซื้ออะไรก็ได้ที่คุณต้องการ แต่แน่นอนว่าสินค้าที่นี่นั้นก็มีราคาแพงมากเช่นกัน ซึ่งผู้คนจำนวนมากต่างก็ทำได้แค่จ้องมองและถอนหายใจไปกับสินค้าชั้นนำเหล่านี้ ดังนั้นพนักงานธรรมดาๆบางอาจคนใช้เวลานานหลายเดือนในการประหยัดอดออมเพื่อที่จะมาช้อปปิ้งในสถานที่แห่งนี้แต่ท้ายที่สุดแล้วพวกเขาก็สามารถซื้อได้แค่ไม่กี่อย่าง
สินค้าและบริการที่มีราคาแพงนั้นต้องมาพร้อมกับคุณภาพการบริการที่ดีที่สุด เพราะฉะนั้นพนักงานขายในสถานที่แห่งนี้ได้รับการคัดเลือกจากผู้ที่ผ่านการฝึกอบรมอย่างพิถีพิถันและมีความสามารถที่ยอดเยี่ยมที่สุด
มีสถานที่เช่นนี้อยู่อีกหลายแห่งในต่างประเทศ แต่สำหรับเย่เชียนที่ไม่ได้ให้ความสำคัญกับวิถีชีวิตเช่นนี้สักเท่าไหร่เพราะมันไม่มีอะไรที่น่าสนใจเกี่ยวกับสถานที่แห่งนี้เลยสำหรับเขา เย่เชียนชอบใส่เสื้อผ้าที่สบายๆเท่านั้นและมันไม่สำคัญว่าพวกมันจะมาจากแบรนด์ชั้นนำที่มีชื่อเสียงหรือซื้อตามท้องถนนก็ตาม
แต่เนื่องจากนี่เป็นคำขอของฉินหยูเขาจึงไม่สามารถปฏิเสธเธอได้ เพียงเพราะเขาไม่สนใจมันก็ไม่ได้หมายความว่าฉินหยูจะไม่สนใจด้วย เพราะท้ายที่สุดแล้วคืนนี้เขาก็เสนอตัวเป็นแฟนของฉินหยูชั่วคราวและพาเธอไปที่งานราตรี ถึงแม้ว่าเย่เชียนจะไม่เชื่อว่าการสวมสูทผูกเน็คไทแล้วจะทำให้เขาเป็นส่วนหนึ่งของสังคมชนชั้นสูง แต่เย่เชียนไม่ต้องการฉินหยูต้องเสียหน้าต่อหน้าผู้คนที่เรียกว่าสังคมชนชั้นสูง
ฉินหยูมองเย่เชียนขึ้นและลงจากหัวจรดเท้าจากนั้นก็พาเขาไปที่ร้านสูทชั้นนำ Gianfranco Ferre เย่เชียนไม่เข้าใจถึงรสนิยมของแฟชั่นสักเท่าไหร่ แต่ภายใต้อิทธิพลของหลี่เหว่ยที่เป็นคนทันสมัยใฝ่ในแฟชั่นเย่เชียนก็พอคุ้นเคยกับชื่อแบรนด์ต่างประเทศอยู่บ้าง ยกตัวอย่างเช่น Gianfranco Ferre สไตล์ของแบรนด์เสื้อผ้านี้มีลายเส้นเล็กๆและโครงสร้างที่เหมาะสมหรูหรางานฝีมือที่ประณีตโดยนักออกแบบระดับโลกที่สามารถใช้รูปทรงเรขาคณิตได้อย่างเต็มที่ในการรังสรรค์การตัดเย็บที่เหมาะสม นี่คือสิ่งที่ไม่เหมือนใครในแฟชั่นของสุภาพบุรุษทั้งหลาย Ferre โดยรวมแล้วชุดสูทของ Ferre นั้นดูมีสไตล์มาก สูทและเสื้อเชิ้ตและเน็คไทและชิ้นส่วนประดับอื่นๆแฟชั่นแบบคลาสสิคสุดหรูสีค่อนข้างอ่อนและเรียบเนียนโดยเฉพาะอย่างยิ่งสีดำและสีน้ำเงิน ซึ่งตอนนี้แบรด์ไหนๆก็ใช้การออกแบบที่ทันสมัยผสมผสานความคลาสสิคและใหม่เพราะจะดูเป็นสุภาพบุรุษมากขึ้นและมันจะช่วยปลดปล่อยออร่าของความเป็นชายที่มีเอกลักษณ์เป็นเลิศ
“สวัสดีค่ะ..ยินดีต้อนรับคุณผู้หญิง..ไม่ทราบว่าคุณผู้หญิงกำลังมองหาสินค้าประเภทไหนอยู่คะ!” พนักงานขายยิ้มแย้มแจ่มใสและถามอย่างสุภาพอ่อนน้อม แต่เมื่อสายตาของเธอหันไปที่เย่เชียนเธอก็อดไม่ได้ที่จะแสดงความประหลาดใจออกมาเล็กน้อย เธอไม่เคยเห็นผู้หญิงที่ร่ำรวยและสวยเหมือนเธอมาก่อนและเธอก็ไม่เคยเห็นผู้ชายที่แต่งตัวธรรมดาๆเหมือนเย่เชียนมาก่อนเช่นกัน แต่ถึงเขาจะไม่ได้ขี้เหร่ก็ตามแต่ก็ไม่ได้มีเสน่ห์และความสง่าผ่าเผยเลยแม้แต่น้อย
“ไม่เป็นไร..เดี๋ยวเราเดินดูรอบๆเอง” ฉินหยูพูดเบา ๆ
หลังจากนั้นฉินหยูก็เดินมาที่ชั้นแขวนเสื้อผ้าและดึงเสื้อผ้าออกมาดูในบางครั้ง อย่างไรก็ตามทุกครั้งที่เธอดึงออกมาดูเธอเพียงแค่ขมวดคิ้วและเอากลับไปแขวนที่เดิม เย่เชียนเดินตามหลังเธอด้วยสีหน้าที่ไม่สบอารมณ์นัก เขาไม่เข้าใจจริงๆเพราะถึงยังไงพวกมันทั้งหมดก็เป็นแค่เสื้อผ้ามันจะมีเรื่องใหญ่อะไรให้คิดและทำไมพวกผู้หญิงถึงต้องจู้จี้จุกจิกขนาดนี้ด้วย ตราบเท่าที่มันพอดีกับสะส่วนมันก็เพียงพอแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นเสื้อผ้าเหล่านี้ก็ดูคล้ายกันไปหมด
หลังจากผ่านไปกว่าหนึ่งชั่วโมงในที่สุดฉินหยูก็หยิบสูทและเน็คไทออกมา เธอไม่ได้ถามความคิดเห็นของเย่เชียนเลยแม้แต่น้อย แต่กลับส่งมอบชุดเหล่านั้นให้พนักงานขายแล้วพูดว่า “ช่วยห่อให้ฉันด้วย”
“ขอบคุณ..คุณผู้หญิง!” พนักงานขายรับสินค้าด้วยความสุภาพด้วยมือทั้งสองและบรรจุผลิตภัณฑ์อย่างระมัดระวังจากนั้นก็ถามว่า “คุณจะชำระด้วยบัตรเครดิตหรือเงินสด?”
“บัตร!” ฉินหยูตอบขณะดึงบัตรเครดิตออกจากกระเป๋าของเธอและยื่นให้พนักงานขาย
“ขอบพระคุณคุณลูกค้า..ยินดีต้อนรับคุณทั้งสองแล้วมาใช้บริการทางเราใหม่อีกครั้ง!” พนักงานขายตอบกลับหลังจากส่งเสื้อผ้าที่ห่อใส่ถุงเสร็จแล้ว เย่เชียนหยิบถุงอย่างเป็นธรรมชาติเนื่องจากฉินหยูจ่ายเงินไปแล้วเขาจึงไม่อยากให้เธอต้องถือถุงแทนเขา..
ดูเหมือนว่าฉินหยูยังไม่หายเขินอายจากเหตุการณ์ที่น่าอึดอัดใจที่ผ่านมา จนถึงตอนนี้เธอก็ยังไม่ได้พูดกับเขาเลยแม้แต่น้อย และหลังจากที่พวกเขาออกจากร้าน Gianfranco Ferre แล้วพวกเขาก็เข้าไปในร้าน Hugo Boss นี่คือแบรนด์เสื้อผ้าชื่อดังจากประเทศเยอรมนี การออกแบบและโครงสร้างของเสื้อผ้าที่นี่มีความเป็นสุภาพบุรษอย่างมากและสามารถขยายความน่าลุ่มหลงของผู้ชายได้อย่างดีเยี่ยม
ด้วยประสบการณ์ความชำนาญด้านแฟชั่นของฉินหยูเธอใช้เวลาน้อยลงมากและใช้เวลาไปเพียงครึ่งชั่วโมงในการทำให้รูปลักษณ์ของเย่เชียนเสร็จสมบูรณ์ จากนั้นเธอก็หยิบรองเท้าหนังคู่หนึ่งและนาฬิกามาด้วย ตลอดเวลานั้นเย่เชียนเดินตามเธอจากด้านหลังด้วยสีหน้าที่เหม่อลอยจนบางครั้งเขาก็รู้สึกคลุมเครือว่าเขาคือของเล่นคั่นเวลาของฉินหยู?
เย่เชียนเดินเข้าไปด้านข้างของฉินยูและโน้มตัวพร้อมร้อยยิ้มและพูดว่า “คุณซื้อเสื้อผ้าราคาแพงให้ผมมากมายขนาดนี้ ผมไม่แน่ใจว่าค่าว่าจ้างของผมมันจะพอให้คุณหักมัน..คุณคงไม่ได้คิดให้ผมทำงานให้คุณไปตลอดชีวิตใช่มั้ย?”
“ไม่แน่นอน แต่ถึงยังไงก็ตามเธอก็ต้องเซ็นสัญญาทาสระยะยาว!” ฉินหยูตอบอย่างเฉยเมย
“ห๊ะ? คุณเห็นผมเป็นของเล่นขั้นเวลาจริงๆเหรอ? ถ้าผมไม่สามารถจ่ายหนี้นี้คืนได้จริงๆแล้วล่ะก็ ผมก็ไม่คิดที่จะจ่ายมันด้วยร่างกายของผมหรอกนะ ไม่ว่าจะยังไงก็ตามเมื่อเราไปถึงโรงแรมแล้วถ้าคุณคิดจะทำอะไรล่ะก็ ผมจะกลับทันที” เย่เชียนดูเสียใจมากราวกับว่าฉินหยูหลอกเขาด้วยวิธีที่ไม่น่าสบอารมณ์ยิ่งนัก ผู้คนอื่นๆหากได้เห็นการแสดงออกและปฏิกิริยาของเย่เชียนแล้วพวกเขาคงคิดว่าฉินหยูเป็นมนุษย์ป้าที่หลอกล่อเด็กๆด้วยรอยยิ้ม
ฉินหยูจ้องมองเขาและพูดว่า “เธอมีเสื้อผ้าของเธอแล้ว..แต่ฉันยังไม่มีชุดราตรีสำหรับงานการ่าไนท์คืนนี้เลย..ไปกันเถอะ!”
หลังจากพูดเสร็จฉินหยูก็เดินเข้าไปในร้าน Dior โดยไม่ลังเลใดๆ ส่วนเย่เชียนก็ทำได้เพียงแค่เดินตามถือถุงใบใหญ่และใบเล็กสองสามใบ ร้านนี้ให้ความสำคัญกับผู้ชายมากเมื่อคุณเข้าไปในร้านจะมีเลานจ์พร้อมโซฟาสำหรับนั่งรอผู้หญิงจับจ่ายใช้สอยของพวกเธอ เย่เชียนเดินไปที่นั่นอย่างเป็นธรรมชาติโดยไม่ลังเลและนั่งลง เย่เชียนไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเสื้อผ้าของผู้หญิงเลยและไม่สามารถให้ความคิดเห็นใดๆได้ ดังนั้นเขาจึงปล่อยให้ฉินหยูไปทำสิ่งต่างๆตามใจของเธอเอง
เวลาผ่านไปเรื่อยๆและเรื่อยๆ แต่ฉินหยูก็ยังไม่พบชุดราตรีที่เธอพอใจเลย สิ่งนี้ทำให้ดวงตาของเย่เชียนเริ่มส่อแววอย่างไม่สบอารมณ์ การออกแบบของ Dior มุ่งเน้นไปที่ส่วนเว้าส่วนโค้งของสรีระตามร่างกายของผู้หญิงมากกว่าสีสัน ด้วยการออกแบบเสื้อผ้าของ Dior เสน่ห์ที่แตกต่างและโดดเด่นของกุลสตรีจะเปล่งประกายขึ้นอย่างเฉิดฉาย ทุกๆครั้งที่ฉินหยูลองชุดมันทำให้เย่เชียนตกตะลึงจนสรรหาคำพูดไม่ได้ พูดอย่างตรงไปตรงมาแล้วในบรรดาผู้หญิงที่เย่เชียนรู้จักนั้นฉินหยูเธอดูมีเสน่ห์ที่เป็นสมเป็นกุลสตรีมากที่สุด
ในที่สุดฉินหยูก็ก้าวออกมาจากห้องลองชุดเธอสวมชุดราตรีสีดำมันวาว จนเย่เชียนถึงกับตกตะลึงจนอ้าปากค้างและพูดไม่ออกอย่างช่วยไม่ได้ เขาไม่สามารถสรรหาคำพูดใดๆได้เพื่ออธิบายความงดงามอันน่าทึ่งของฉินหยูในตอนนี้ ถ้าหากเขาต้องพูดอะไรบางอย่างจริงๆเขาก็พูดได้แค่ว่ามันคือความงดงามที่สามารถทำให้เมืองนี้เกิดหายะนะได้เลย
แต่ทว่าในขณะนี้เย่เชียนก็ได้เหลือบมองโดยไม่ได้ตั้งใจจนพบกับร่างที่ดูคุ้นเคยอย่างไม่คาดคิดไม่คาดฝันมาก่อน
.
.
.
.
.
.
.
ติดตามตอนอื่น ๆ ได้ที่ : novelrealm