ตอนที่ 62 จังหวะแห่งโชค
ติดตามตอนอื่น ๆ ได้ที่ : novelrealm
ความวิตกกังวลของหลี่ฮ่าวก็ลดลงเล็กน้อยเมื่อเขาได้ยินคำพูดของหวังปิง จากนั้นเขาก็พูดอย่างโกรธเคืองว่า “พวกเขาข้ามหัวผมและมอบคำสั่งโดยพละการไปยังหัวหน้ากรมตำรวจโดยไม่เห็นหัวผม พวกเขาล้ำเส้นเกินไป ท่านรองหวังคุณคิดว่าใครอยู่เบื้องหลังเรื่องพวกนี้?”
“ฉันก็ยังไม่ค่อยมั่นใจ” หวังปิงตอบ “จากสิ่งคุณเพิ่งจะพูดไปว่าเย่เชียนเพิ่งจะกลับมาที่ประเทศนี้ดังนั้นแล้วเขาจึงไม่สามารถที่จะเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของพรรคการเมืองใดๆได้ และแน่นอนว่าอีกฝ่ายไม่ได้โจมตีทั้งฉันหรือคุณมันอาจจะเป็นความอาฆาตแค้นหรือบาดหมางส่วนตัว..เราต้องการเพียงแค่รู้ว่าเย่เชียนพบกับใครมาบ้างเมื่อเร็วๆนี้จากนั้นทุกอย่างก็คงจะชัดเจนขึ้น!”
หลี่ฮ่าวยืนขึ้นและพูดว่า “ผมจะไปตรวจสอบทันทีครับ!”
หวังปิงโบกมือบอกให้เขานั่งลงก่อนและพูดว่า “ไม่มีอะไรที่คุณต้องกังวลขนาดนี้ วันนี้ที่ฉันโทรหาคุณที่นี่ด้วยเหตุผลสองประการ อย่างแรกคือฉันต้องการเข้าใจสถานการณ์ความเป็นมาของเย่เชียน และอย่างที่สองเมื่อเช้าวันนี้ฉันตื่นขึ้นมาและเห็นว่ามของสำคัญวางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงของฉันน่ะ!”
“มันคืออะไรหรอครับ?” หลี่ฮ่าวถามด้วยความประหลาดใจ
หวังปิงวางแฟ้มเอกสารลงบนโต๊ะกาแฟและพูดว่า “มันคือสิ่งเหลานี้” พอหลี่ฮ่าวก็หยิบขึ้นมาดูก็ตกใจ จากนั้นหวังปิงก็พูดต่ออีกว่า “ไฟล์และเอกสารเหล่านี้มีบันทึกข้อมูลของอู่หยางเฉิงที่รับสินบนระหว่างดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าเทศบาลเมือง!”
“ใครเป็นคนเอามันมาให้ครับ?” หลี่ฮ่าวถาม
“ฉันไม่รู้..พอตื่นมาตอนเช้ามันก็วางอยู่แล้ว และฉันคิดว่าเขาต้องรู้อย่างแน่ชัดว่าฉันเป็นคู่แข่งทางการเมืองของอู่หยางเฉิงนั่นอาจจะเป็นเหตุผลที่เขาส่งสิ่งเหล่านี้มาให้” หวังปิงขมวดคิ้วขณะที่เขาพูด
“ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้ว..คนคนนั้นก็ต้องการยืมมือคุณเพื่อกำจัดอู่หยางเฉิงสินะ เขาต้องมีปัญหาใหญ่กับอู่หยางเฉิงอยู่แน่ๆ”
หวังปิงส่ายหัวและพูดว่า “ฉันกลัวว่ามันจะไม่ง่ายอย่างนั้น การเลือกตั้งผู้ว่าเทศบาลก็กำลังจะเกิดขึ้นและยิ่งมีไฟล์และเอกสารเหล่านี้มันจะเป็นเรื่องง่ายมากที่จะกำจัดอู่หยางเฉิง แต่ถ้าหากนั่นเป็นแรงจูงใจของเขาแล้วทำไมเขาถึงไม่ส่งตรงไปยังคณะกรรมการตรวจสอบวินัยเลยล่ะ ทำไมเขาถึงต้องเอามันมาอยู่ในมือของฉัน?”
“ท่านรองหวังคุณไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้เดี๋ยวผมจะสืบหาว่าใครเป็นคนเอามันมาให้โดยเร็วที่สุด!” หลี่ฮ่าวตอบอย่างกระตือรือร้น
หวังปิงยิ้มอ่อนๆและพูดว่า “ไม่จำเป็นหรอก..คนคนนั้นทำเช่นนี้ก็เพราะว่าเขาไม่ต้องการให้เรารู้ว่าเขาเป็นใคร แล้วคุณอาจจะหาเขาไม่เจอเลยด้วยซ้ำ..ฉันก็แค่อยากรู้เฉยๆเพราะฉันได้รับไฟล์และเอกสารเหล่านี้ในคืนที่เย่เชียนถูกจับกุมพอดี ดังนั้นฉันจึงสงสัยว่าทั้งสองเหตุการณ์นี้มันเกี่ยวข้องกันหรือไม่!”
“ท่านรองครับคุณกำลังบอกว่าพี่สองและอู่หยางเฉิงเคยเจอและติดต่อกันมาก่อนหน้านี้แล้วหรอครับ” หลี่ฮ่าวถามอย่างสงสัย
“นั่นมันก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่ฉันแค่รู้สึกว่าทุกอย่างมันบังเอิญและประจวบเหมาะกันพอดิบพอดีเกินไป” หวังปิงตอบพร้อมครุ่นคิดไปด้วย
“แต่อย่างไรก็ตามเนื่องจากคนคนนั้นนำสิ่งเหล่านี้มาให้ฉันและไม่ได้โจมตีฉันและฉันก็คิดว่าตอนนี้เรามีบางสิ่งที่ต้องทำ!” ดวงตาของหวังปิงเปล่งประกายในขณะที่เขาพูด ก่อนหน้านี้เขาจัดการเรื่องของเขาอย่างรอบคอบไม่ใช่เพราะเขาเป็นคนขี้ขลาด แต่เป็นเพราะเขาแค่ปกปิดความแข็งแกร่งและซ่อนมันเอาไว้ใช้ในภายหลัง แต่ทว่าตอนนี้โอกาสก็มาถึงแล้ว หากเขาไม่ทำความเข้าใจกับสิ่งต่างๆให้ดีและคิดให้ถี่ถ้วนมันก็จะน่าเสียดายโอกาสดีๆแบบนี้อย่างมาก
“คุณหลี่ฮ่าว!..กลับไปที่สำนักงานของคุณโดยด่วน!!..แล้วกักตัวเย่เชียนเอาไว้ที่สำนักงานความมั่นคงของคุณเอาไว้ก่อน อย่าให้เขาถูกนำไปขังไว้ที่อื่น! ไม่ว่าอู่หยางเฉิงจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเย่เชียนในเรื่องนี้หรือไม่ก็ตาม..ถ้าเป็นเช่นนั้นเย่เชียนเขาก็เป็นพยานที่มีค่ามาก ดังนั้นผู้บงการที่อยู่เบื้องหลังสถานการณ์ทั้งหมดของเย่เชียนก็อาจจะเป็นอู่หยางเฉิง เพราะเขาสั่งให้วิสามัญและยิงเย่เชียนในทันทีก็เพราะเขาต้องการให้เย่เชียนตายเพื่อที่จะปิดปาก ดังนั้นคุณต้องรีบนำหน้าพวกเขาและปกป้องเย่เชียนเอาไว้ให้ดีที่สุด” หวังปิงพูดอย่างกระตือรือร้นและตรงไปตรงมา
ถึงแม้ว่าถ้าหวังปิงจะไม่ได้พูดคำพูดเหล่านั้น แต่หลี่ฮ่าวก็จะทำแบบนั้นอยู่แล้วเพราะเย่เชียนเป็นพี่ชายของเขา เขาจะไม่ปล่อยให้เกิดอะไรขึ้นกับเย่เชียนอย่างแน่นอนถ้าเขาสามารถช่วยได้ จากนั้นเขาก็พยักหน้าและตอบว่า “ครับ!..ผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้!”
หลังจากพูดเสร็จหลี่ฮ่าวก็กล่าวอำลากับหวังปิงและรีบออกจากบ้านหวังปิงไป หากสิ่งต่างๆเป็นไปตามที่หวังปิงคาดการณ์เอาไว้เย่เชียนก็ตกอยู่ในอันตรายร้ายแรงอย่างมากและเขาต้องรีบไปให้เร็วที่สุด และถึงแม้ว่าลูกสาวของหวังปิงจะอยู่ในเขตการปกครองนั้น แต่ลำพังเธอเองก็ไม่สามารถจัดการกับฝ่ายตรงข้ามได้ด้วยตัวคนเดียวอย่างแน่นอน
หลังจากที่หลี่ฮ่าวออกไปหวังปิงก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและโทรออก
หวังยู่เธอนอนไม่หลับทั้งคืนเพราะเธอประกาศกร้าวเอาไว้ว่าตัวเธอเองจะทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยเย่เชียนให้ได้ แต่ปัญหาเหล่านั้นมันยากเย็นเหลือเกิน และถึงแม้ว่าพ่อของเธอจะสนับสนุนด้วยก็ตาม แต่ก็ยังยากที่จะแก้ไขอยู่ดี
หวังยู่เธอลุกออกจากเตียงในเช้าวันรุ่งขึ้น เธอกินอาหารเช้าไม่ลงและเธอก็รีบขึ้นรถและขับรถตรงไปยังสถานีตำรวจอย่างเร่งรีบ เธอไม่เหมือนกับฉินหยูที่สามารถขับลัมโบร์กินี่ไปรอบๆเมืองอย่างเปิดเผยได้ เพราะเธอเป็นข้าราชของรัฐและพ่อของเธอก็เป็นถึงรองผู้ว่าเทศบาลเมืองการโอ้อวดคงไม่ใช่เรื่องที่ดี
หวังยู่มีความรู้ที่ขมขื่นเมื่อเธอนึกถึงฉินหยูเธอก็แอบเสียใจเล็กน้อยเพราะผู้หญิงหน้าอกแบนคนนั้นคุ้นเคยกับเย่เชียนและเธอก็ขโมยเขาไปจากตัวเธอเอง หวังยู่เธอไม่สามารถเข้าใจได้ว่าทำไมฉินหยูหรือผู้หญิงที่ผู้คนขนานนามเรียกเธอกันอีกชื่อหนึ่งว่าเจ้าหญิงน้ำแข็งผู้เย็นชาแห่งเซี่ยงไฮ้นั้นจะรู้จักและคุ้นเคยกับเย่เชียนและเป็นถึงแฟนของเขาได้อย่างไร เธอคิดอย่างโกรธเคืองในใจกับตัวเองว่า ‘แม่นางฉินหยูที่ทำตัวเย็นชาดั่งภูเขาหมื่นปี ที่แท้มันกลับกลายเป็นว่าเธอคงจะเหงาเข้าถึงกระดูกเลยสินะ..’
เมื่อเธอผ่านแผงขายอาหารเช้าตามทางหวังยู่ก็คิดในใจว่าเธอควรจะซื้ออาหารเช้าไปให้เย่เชียน เธอคิดอยู่นานมาก แต่สุดท้ายเธอก็ตัดสินใจไม่ได้ อย่างแรกคือเธอไม่ต้องการตกเป็นประเด็นซุบซิบกันในหมู่เพื่อนร่วมงานของเธอ อย่างที่สองคือเธอไม่อยากให้เย่เชียนเห็นว่าเธอกำลังทำดีกับเขาและเป็นห่วงเขาด้วยเพราะเหตุผลอะไรก็ตาม และเหตุการณ์เมื่อคืนที่ห้องสืบสวนนั้นทำให้เธออายและขายหน้าอย่างมากที่เธอเดินชนขอบประตู และถ้าเธอเอาอาหารเช้ามาให้เขาแน่นอนว่าเย่เชียนคนนั้นก็จะยิ่งอวดดีกับเธอ
หวังยู่ไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเธอถึงกังวลมากเมื่อได้ยินว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับเขาที่จริงแล้วตัวเองเกลียดเขาไม่ใช่หรอ? ตัวเองชอบเขาจริงๆหรอ? เป็นไปไม่ได้ตัวเองจะตกหลุมรักคนขี้โกงชอบฉวยโอกาสและไร้ยางอายคนนั้นได้อย่างไร?
หวังยู่เธอยังคงเพ้อฝันไปต่างๆนาๆจนเธอไม่รู้ตัวว่าเธอขับมาถึงสถานีตำรวจแล้ว เธอหยุดรถและเก็บความรู้สึกเอาไว้จากนั้นเธอก็เข้าไปที่สถานีตำรวจ ซึ่งตอนนี้มันยังเช้าตรู่อยู่เพื่อนๆเจ้าหน้าที่คนอื่นๆอีกหลายคนก็ยังไม่มา หลังจากที่เธอทักทายเจ้าหน้าที่เฝ้าเวรแล้วเธอก็ไปที่โต๊ะทำงานของเธอและตรวจสอบแฟ้มคดีของเย่เชียนอย่างละเอียด
ไม่นานหลังจากนั้นเจ้าหน้าที่คนอื่นๆก็มาถึงกันทีละคนๆ และเจ้าหน้าที่ประจำการเฝ้าเวรคนปัจจุบันก็ได้เดินไปหาหัวหน้ากรมและรายงานอย่างรวดเร็วจนหูเยว่ตื่นตระหนกทันทีและอุทานออกมาอย่างดังว่า “อะไรนะ? นักโทษหลบหนี? หวังยู่!..รีบระดมพลเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายและสั่งให้ออกตามล่านักโทษผู้ต้องสงสัยในทันที”
หวังยู่ยืนขึ้นด้วยความสับสนและถามว่า “หัวหน้าเกิดอะไรขึ้นคะ?”
.
.
.
.
.
.
ติดตามตอนอื่น ๆ ได้ที่ : novelrealm