ตอนที่ 6 เกราะดาราจรัสแสง
ติดตามตอนอื่น ๆ ได้ที่ : novelrealm
สำหรับหลงเฉิน แม้ว่าเซี่ยวฮวงจะเป็นเพียงคนรับใช้ที่ขี้ขลาดตาขาวและกลัวตาย แต่เขาก็ติดตามรับใช้หลงเฉินมานานถึง 6 ปี และซื่อสัตย์ต่อเขาอย่างมาก ไม่ว่าหลงเฉินจะได้ดีแค่ไหน เขาจึงไม่เคยหลงลืมเซี่ยวฮวงเลยสักครั้ง
หลงเฉินรู้มานานแล้วว่าเซี่ยวฮวงมีพ่อแม่ที่ป่วยไข้ต้องดูแล หากเกิดอะไรขึ้นกับเซี่ยวฮวง หลงเฉินคงต้องโทษตัวเองเป็นแน่!
เขาฉีกกระดาษแผ่นนั้นออกเป็นชิ้น ๆ โดยไม่พูดอะไร จากนั้น เขาก็รีบรุดออกจากบ้านตระกูลหยางด้วยความเร็วปานลมกรด และมุ่งตรงไปยังโรงเตี๊ยมตะวันฉาย
โรงเตี๊ยมตะวันฉายอยู่ถัดจากหอนางโลมหยกมรกต หลงเฉินเร่งฝีเท้าเต็มที่ ผู้คนที่เดินอยู่บนถนนต่างรู้สึกราวกับมีลมพัดผ่านมาแล้วก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย
หลงเฉินใกล้เข้าไปทีละก้าว มีผู้คนมากมายเดินไปมาอยู่หน้าโรงเตี๊ยม หลงเฉินจึงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องชะลอฝีเท้าลง เขาเข้าใกล้ประตูมากขึ้นเรื่อย ๆ
ในตอนนั้นเอง รถม้า 4 คันก็พุ่งออกมาจากทางด้านซ้ายของถนน ผู้คนบนถนนต่างตะโกนโหวกเหวกและหลบให้พ้นทาง แต่ความเร็วของรถม้าก็มิได้ชะลอลงเลย หลงเฉินสามารถหลบได้อย่างง่ายดาย ทว่าในตอนนั้นเอง เด็กน้อยคนหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากตัวเขากำลังมองรถม้าด้วยความงงงันและเริ่มร้องไห้จ้า
รถม้านั้นรวดเร็วมาก หากมันวิ่งทับเด็กน้อยเข้าละก็ ร่างคงแหลกจนไม่เหลือแม้โครงกระดูก หลงเฉินตกใจ เขาควรจะเบี่ยงตัวหลบ แต่เขากลับหันไปและกอดเด็กน้อยเอาไว้ ปราณแท้จริงทั่วทั้งร่างปะทุขึ้นมา พร้อมกับที่ม้าเหยียบลงบนหลังของหลงเฉิน และทำให้เขากระเด็นออกไป
ใคร ๆ ต่างก็คิดว่าหลงเฉินและเด็กน้อยคงไม่รอดแน่ แต่สิ่งที่พวกเขาไม่คาดคิด คือหลงเฉินหมุนตัวกลับกลางอากาศและลงมายืนบนพื้นได้อย่างมั่นคง เขาไม่ได้ปลอบโยนเด็กน้อย และก่อนที่ทุกคนจะมองเห็นเขาได้ชัดเจน หลงเฉินก็อันตรธานหายไปเสียแล้ว เพราะเขาจำต้องรีบไปช่วยชีวิตเซี่ยวฮวงให้เร็วที่สุด
อย่างไรก็ตาม ภาพที่เกิดขึ้นนั้นช่างโกลาหลวุ่นวาย หลงเฉินอดทนกับอาการปวดกล้ามเนื้อบนหลังและเข้าไปในโรงเตี๊ยมตะวันฉาย
ขณะที่เขาก้าวเท้าข้ามธรณีประตู หลงเฉินก็เกือบชนเข้ากับคน ๆ หนึ่งที่อยู่เบื้องหน้า
เด็กหนุ่มคนนี้อายุราว ๆ 14-15 ปีเท่านั้น และดูอ่อนเยาว์กว่าหลงเฉิน แม้รูปร่างหน้าตาของหลงเฉินถือได้ว่าหล่อเหลาอยู่แล้ว แต่เด็กหนุ่มที่อยู่เบื้องหน้านั้นงดงามจนทำให้ตัวเขาดูราวกับปีศาจไปทันตา หากไม่ใช่เพราะลูกกระเดือกที่เห็นได้ชัดเจน หลงเฉินคงคิดว่าเขาเป็นหญิงสาวที่งดงามราวกับแกะสลักจากหยก
ทั้งสองเกือบจะชนกัน ทำให้หลงเฉินมองเขาด้วยความตกใจและพินิจพิจารณา
“นี่เจ้าเป็นหญิงหรือชายกันแน่?”
หลงเฉินถึงกับควบคุมตนเองไม่อยู่ และหลุดปากถามออกไป
อย่างไรก็ตาม เด็กหนุ่มรูปงามกลับไม่ถือโทษโกรธเคือง เขามองหลงเฉินอย่างใจเย็น ชี้ไปที่ลูกกระเดือกของตนเองและเอ่ยขึ้น
“ข้าเป็นผู้ชาย”
สีหน้าของเขาจริงจัง และเสียงก็ไพเราะเสนาะหู หลงเฉินเคยฟังเสียงหญิงสาวในหอนางโลมพูดจาหยอกเย้ากัน แต่เมื่อได้ยินเสียงเด็กหนุ่มพูด เขากลับรู้สึกหวั่นไหวเล็กน้อย
เขาตำหนิตนเองในใจ และเมื่อตระหนักว่ายังไม่ได้ช่วยชีวิตเซี่ยวฮวง เขาจึงรีบผละจากเด็กหนุ่ม และเข้าไปในโรงเตี๊ยมตะวันฉายทันที
“ข้าเห็นว่าท่านเพิ่งช่วยชีวิตเด็กคนหนึ่งไว้...”
เด็กหนุ่มพูดไล่หลังหลงเฉิน แต่ไม่คาดคิดว่าเขาจะเร่งรีบเข้าไปในโรงเตี๊ยมถึงเพียงนั้น เขาจึงหุบปาก และมองหลงเฉินด้วยความกระหายใคร่รู้ เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้รู้สึกรังเกียจหลงเฉิน แต่กลับรู้สึกชื่นชมกับการที่หลงเฉินช่วยชีวิตผู้อื่นไว้ก่อนหน้านี้
“คน ๆ นี้เหมือนกับพี่ใหญ่ ที่มีคลื่นพลังดวงดาวแผ่ออกมา พวกเขาคงจะฝึกกระบวนท่าในกลุ่มดวงดวงอยู่แน่ ๆ ข้าเองก็ไม่ได้ใช้วิชาเกราะดาราจรัสแสงมานานแล้ว...”
เด็กหนุ่มพึมพำกับตนเองขณะมองแผ่นหลังของหลงเฉิน
เมื่อหลงเฉินเดินเข้ามา เขาก็รู้สึกถึงสายตาที่จับจ้องอยู่ เมื่อหันกลับไป เขาก็เห็นหยางจ้านนั่งอยู่ตรงที่นั่งริมหน้าต่าง เบื้องหน้าเขาคือสาวงามคนหนึ่ง
“หยางจ้านอยู่ที่นี่จริง ๆ เป็นไปได้รึไม่ว่าเขาคือผู้ที่อยู่เบื้องหลังการลักพาตัวเซี่ยวฮวง?”
เมื่อมองไปยังหญิงสาวที่อยู่เบื้องหน้าเขา หลงเฉินก็ส่ายศีรษะพลางเอ่ยขึ้น
‘หากหยางจ้านผู้นี้ต้องการมีเรื่องกับข้า เขาก็ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีนี้เลย ยิ่งไปกว่านั้น เขาคงมาที่นี่เพื่อมาหาสาว ๆ มากกว่า…’
เมื่อคิดได้เช่นนี้ หลงเฉินจึงไม่เสียเวลาอีกต่อไป และรีบตรงไปยังชั้นสองของโรงเตี๊ยมตะวันฉาย เพื่อไปยังห้องดอกโบตั๋นหมายเลข 1 ตามที่เขียนไว้ในกระดาษ เมื่อมาถึง เขาก็มิอาจสะกดกลั้นความโกรธภายในใจได้อีก
ขณะที่เข้ามาในห้อง หลงเฉินก็สัมผัสได้ถึงแสงวาบของดาบที่กำลังพุ่งเข้าใส่ เขารีบเบี่ยงตัวหลบในทันที ชั่วขณะนั้นเองที่เขาเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นภายในห้อง ในตอนนี้ ผู้ที่จู่โจมเขาเมื่อครู่กำลังยืนอยู่ที่ประตู เขาปิดประตูเบา ๆ และมองหลงเฉินด้วยสายตาเย็นชา ในขณะที่อีกด้านหนึ่ง หลงเฉินเห็นเซี่ยวฮวงถูกมัดด้วยเชือกป่านทั้งตัว และมีเศษผ้าอุดปากไว้
ด้านข้างตัวเขามีชายอีกคนยืนอยู่ ทั้งสองปิดบังใบหน้าเอาไว้ และจิตสังหารของพวกเขาก็ไม่อาจประเมินได้เลย
พวกเขาคือคนที่ลอบฆ่าหลงเฉินในคืนนั้น หลงเฉินยังคงไม่เข้าใจว่าเหตุใดถึงมีคนส่งนักฆ่ามาจัดการคนที่ไร้ความสำคัญเช่นเขา
“เจ้าสองคนเป็นใคร เหตุใดจึงทำเช่นนี้กับข้า?”
“เพียงแค่รับเงินมา เพื่อล้างแค้นให้คนอื่น ไม่ต้องถามให้มากความ หยางเฉิน ยอมรับความตายของเจ้าซะเถอะ!”
ดาบสองเล่มฟาดฟันมาทางหลงเฉินทันที แรงเหวี่ยงของดาบนั้นช่างดุดัน เสียงลมที่แหวกอากาศทำให้รู้สึกเสียววาบจนขนหัวลุก
“ปราณแท้จริงของทั้งสองคนไม่ต่างกับข้านัก แต่คงมีประสบการณ์มาโชกโชน และคงสังหารคนไปมากมายแล้ว น่ากลัวกว่าเจ้าลาโง่เฉินหลิวเป็นร้อยเท่า หากข้าไม่ทุ่มพลังสุดฝีมือ ข้าคงได้ตายที่นี่เป็นแน่!”
“ดูจากการเคลื่อนไหวของคนทั้งสองแล้ว พวกเขาน่าจะชำนาญในการต่อสู้ร่วมกัน ข้าจะต้องเอาชนะคนใดคนหนึ่งให้ได้เสียก่อน เช่นนั้นแล้ว ข้าก็จะสามารถทำลายพลังในการโจมตีร่วมกันของพวกเขาได้!”
ท่ามกลางความมืด หลงเฉินจ้องมองด้วยสายตาเย็นชา ดาบสองเล่มพุ่งเข้าใส่เขาด้วยความเร็ว เขาใช้ความว่องไวของตนเองกลิ้งตัวไปทางด้านข้าง ซึ่งการทำเช่นนั้น ทำให้เขาแก้ปัญหาการเผชิญหน้าทั้งสองคนในคราเดียวได้อย่างชาญฉลาด ชายชุดดำทั้งสองคนจู่โจมอีกครั้ง โดยที่คนหนึ่งยืนอยู่ด้านหน้า และอีกคนหนึ่งอยู่ด้านหลัง
“ดาบวายุหมุน!”
เสียงตะโกนดังขึ้น ชายที่อยู่เบื้องหน้าพุ่งเข้าใส่หลงเฉินพร้อมคมดาบ เมื่อเห็นว่าชายชุดดำทั้ง 2 คนแยกห่างจากกัน หลงเฉินกัดฟันแน่นและใช้ปราณทั้งหมดในร่าง แทนที่จะหนีไป เขากลับพุ่งตัวเข้าใส่ชายชุดดำอย่างบ้าคลั่ง!
“หมัดดาวตก!”
ในห้องที่มืดสนิท ระเบิดที่ส่องประกายดุจแสงดาวส่องสว่างไปทั่ว ดวงตาของชายชุดดำเบิกกว้างและรู้สึกราวกับมีคลื่นพลังรุนแรงปะทะเข้ากับดาบของตนจนเปลี่ยนทิศ มันพุ่งเข้าใส่ร่างของเขาพร้อมเสียงอันดัง
ปังงง!
ชายชุดดำที่อยู่ด้านหน้ากระอักเลือดออกมาและชนเข้ากับชายชุดดำอีกคนที่อยู่ข้างหลัง หลงเฉินรีบวิ่งไปข้างหน้าและชิงดาบของเขามา ก่อนจะแทงเข้าไปที่หัวใจของคู่ต่อสู้พร้อมเสียงคำราม ทำให้เสื้อผ้าและใบหน้าของชายชุดดำถูกย้อมด้วยสีแดงฉาน
สิ่งที่น่าประหลาดใจที่สุด คือแสงดาวที่แผ่ออกมาจากหมัดดาวตกทำให้สายตาของคู่ต่อสู้พร่ามัว และหมัดดาวตกเป็นวิชาต่อสู้ระดับอำพันขั้นกลาง เช่นนั้นแล้ว มันจึงเทียบได้กับการโจมตีที่รุนแรงที่สุดของผู้ฝึกฝนในขอบเขตชีพจรมังกรขั้นสาม จึงทำให้ชายชุดดำบาดเจ็บอย่างหนัก และหลงเฉินก็สามารถฆ่าพวกเขาได้อย่างง่ายดาย
เมื่อชายชุดดำอีกคนเห็นว่าสหายของตนถูกฆ่า เขามองหลงเฉินด้วยความประหลาดใจ และใช้โอกาสนี้รีบพุ่งตัวผ่านหน้าต่างโดยไม่สนสิ่งใดทั้งสิ้น หลงเฉินต้องการไล่ตามคนร้ายไปเพื่อถามให้ได้ว่าใครที่พยายามลอบสังหารตนเอง ทว่าในตอนนั้น ประตูก็เปิดออกในทันที หยางจ้านยืนอยู่ตรงประตู เห็นว่าใบหน้าของหลงเฉินเต็มไปด้วยเลือด และมีคนตายนอนอยู่บนพื้น
“เจ้าคนสารเลว เจ้านี่ช่างไม่รู้ดีรู้ชั่วเอาเสียเลย กล้าดีอย่างไรถึงฆ่าคนในโรงเตี๊ยมตะวันฉายด้วยฝีมืออ่อนด้อยเช่นนั้น เจ้าไม่รู้เลยรึว่าข้าเป็นสหายของเถ้าแก่ชิง?”
หลงเฉินเมินเฉยเขาโดยสิ้นเชิง หันกลับไปแก้มัดให้เซี่ยวฮวง และเอ่ยขึ้น
“เซี่ยวฮวง เจ้ารีบออกไปจากที่นี่ก่อนเถอะ แล้วค่อยคุยกันทีหลัง”
นักฆ่าสองคน คนหนึ่งตาย อีกคนหนีไปได้ เซี่ยวฮวงมองหลงเฉินด้วยความประหลาดใจ ทว่าหยางจ้านที่เพิ่งเข้ามากลับมีสายตาไม่เป็นมิตร ทำให้เซี่ยวฮวงรู้สึกหวาดกลัว แม้ว่าเขาจะเป็นห่วงความปลอดภัยของหลงเฉิน แต่เขาก็รู้ตัวดีว่าตนเองคงไม่สามารถทำอะไรได้ ดังนั้น เขาจึงรีบวิ่งลงไปข้างล่าง
เมื่อเห็นว่าหลงเฉินไม่สนใจ ใบหน้าของหยางจ้านก็ค่อย ๆ บิดเบี้ยวด้วยความโกรธ
ด้านหลังหยางจ้าน ชายร่างอ้วนที่แต่งตัวหรูหรามองดูที่เกิดเหตุซึ่งเต็มไปด้วยเลือด สีหน้าของเขาซีดเผือดและเอ่ยขึ้น
“นายน้อยผู้นี้ช่างอุกอาจเกินไปแล้ว ท่านก่อเหตุนองเลือดถึงเพียงนี้ ทำให้ลูกค้าของข้าหวาดกลัวจนหนีเตลิดกันไปหมด”
เมื่อเพิ่งสังหารคนไป และภายในจิตใจของเขาก็ยังคงคุกรุ่นด้วยจิตสังหารที่รุนแรง เพียงมองด้วยสายตา เขาก็ทำให้เถ้าแก่ชิงหวาดกลัวจนต้องถอยหนีไป
หยางจ้านอยู่ในขอบเขตชีพจรมังกรขั้นสี่ และได้เรียนรู้ทักษะต่อสู้มามากมายเช่นกัน ในตอนนี้ หยางจ้านจึงยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่เขาสามารถเอาชนะได้ เขาจึงทำได้เพียงอดทนเท่านั้น
แม้ว่าหลงเฉินจะเพิกเฉยต่อหยางจ้าน แต่เขาก็ยังเกรี้ยวกราด
เขาไม่ชอบหลงเฉินมาแต่ไหนแต่ไร และยังเคยกลั่นแกล้งเขาอีกด้วย แต่ในเมื่อตอนนี้หลงเฉินมีความแข็งแกร่งขึ้นมาบ้าง และยังทำให้เฉินหลิวบาดเจ็บก่อนหน้านี้อีก เขาจึงทำได้เพียงสะกดกลั้นความโกรธเอาไว้ แต่เมื่อความเกลียดชังครั้งใหม่บังเกิดขึ้น สายตาที่เขามองเฉินหลงจึงเต็มไปด้วยจิตสังหาร
“...คราวที่แล้ว เจ้าทำให้เฉินหลิวบาดเจ็บ แต่ข้าก็ไว้ชีวิตเจ้า มาวันนี้ เจ้าทำให้ตระกูลหยางเสื่อมเสียชื่อเสียง ดูเหมือนว่าข้าคงจะต้องสั่งสอนบทเรียนให้เจ้าเสียหน่อย เจ้าจะได้ไม่ไปดูถูกคนอื่นและทำตามอำเภอใจเช่นนี้อีก!”
ขณะพูด เขาก็ก้าวมาข้างหน้าเล็กน้อย พร้อมท่าทีข่มขวัญอันทรงพลังแผ่ออกมากดดันหลงเฉิน
“คน ๆ นี้... แข็งแกร่งมาก”
ขอบเขตชีพจรมังกรขั้นสี่นั้นนับว่าไม่ธรรมดาทีเดียว ดวงตาของหยางจ้านจับจ้องมาที่เขาด้วยความโกรธแค้นซึ่งหนักอึ้งดุจดั่งขุนเขา หลงเฉินถึงกับต้องถอยหลังไปเล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม เขายังไม่วางดาบในมือ เลือดที่ติดอยู่บนดาบยังคงหยดลงบนพื้น เมื่อรวมกับแววตากระหายเลือด ดูราวกับเขากำลังจะเข้าปะทะหยางจ้านได้ทุกเมื่อ
เมื่อเห็นท่าทางของหลงเฉิน ความโกรธแค้นในใจของหยางจ้านก็ทวีความรุนแรงมากขึ้น เขากัดฟันพูด
“เจ้าเศษสวะ เจ้ายังกล้าท้าทายข้าอีกรึ!? หากวันนี้เจ้าไม่คุกเข่าและเลียเท้าข้าละก็ อย่าหวังว่าจะออกไปจากที่นี่ได้แบบเป็น ๆ เลย!”
หลงเฉินไม่เอ่ยคำพูดใด ๆ และมองเขาด้วยสายตาเย็นชา
เขาตระหนักดีว่าหากหยางจ้านกดดันเขามากเกินไป แม้ว่าเขาจะไม่ต้องการเอาชีวิตหยางจ้าน แต่เขาก็มุ่งมั่นว่าจะทำให้คู่ต่อสู้ต้องชดใช้อย่างสาสม
ขณะที่ทั้งสองกำลังจะเคลื่อนไหว ด้านหลังเถ้าแก่ชิง หญิงสาวที่เคยนั่งอยู่กับหยางจ้านเมื่อครู่ก็ปรากฏตัวขึ้น เมื่อเห็นทุกอย่างในห้องนั้น ใบหน้าของนางก็ซีดเผือดและผงะถอยหลังไปหลายก้าว
“ท่านพี่จ้าน อย่าทำเช่นนี้เลย เราไปจากที่นี่กันเถอะ...”
หยางจ้านถอนหายใจ เขาหันกลับมามองที่หญิงคนนั้น ก่อนจะมองหลงเฉินและพูดอย่างเกรี้ยวกราด
“ก็ได้ วันนี้ข้าจะปล่อยเจ้าไปก่อน แต่พรุ่งนี้เช้า เจ้าจะได้รู้ว่าความตายเป็นเช่นไร!”
จากนั้น เขาจึงจากไปพร้อมหญิงสาว
หลงเฉินถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขาทิ้งดาบลงกับพื้น
“หยางจ้าน เรามีหนี้แค้นครั้งใหม่เพิ่มเข้ามาแล้วสินะ ข้าใกล้จะตัดผ่านขอบเขตชีพจรมังกรขั้นสามเต็มที เมื่อไรที่ข้าแข็งแกร่งกว่าเจ้า เจ้าต่างหาก ที่จะได้ลิ้มรสความตาย...”
หนึ่งในนักฆ่าที่ลอบสังหารเขาตายไปแล้ว แต่เขาก็ไม่รู้ว่าเลยว่าอีกคนจะสร้างปัญหาให้ตัวเขาอีกหรือไม่ เมื่อยังหาตัวผู้บงการไม่ได้ เขาจึงรู้สึกสับสนอย่างมาก
เขาวิ่งลงไปข้างล่างและพบว่าเซี่ยวฮวงกำลังรอเขาด้วยท่าทีกระวนกระวาย เมื่อเห็นว่าหลงเฉินปลอดภัย เขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกและรีบเอ่ยขึ้น
“นายน้อยเฉิน ข้าวิ่งลงมาข้างล่าง แล้วจู่ ๆ ก็มีเด็กหนุ่มรูปงามให้ข้ามอบสิ่งนี้กับท่าน เขาบอกว่าเขาชื่นชมในตัวท่านอย่างมาก แต่ตอนนี้เขาไม่อยู่แล้ว”
หลงเฉินผงะไปทันที เขาย้อนนึกไปถึงเด็กหนุ่มผู้มีใบหน้าหล่อเหลา ทั้งน้ำเสียงที่ไพเราะเสนาะหู และใบหน้าจริงจัง เขาก็รู้สึกขบขันอย่างบอกไม่ถูก เขารับคัมภีร์ลับมาจากเซี่ยวฮวงด้วยความงุนงง
“เด็กหนุ่มผู้นั้นบอกว่าสิ่งนี้สอดคล้องกับเพลงหมัดดาวตกของท่าน วันนี้เขาเห็นท่านช่วยเด็กน้อยไว้ จึงคิดว่าท่านเป็นคนดี ยิ่งไปกว่านั้น เขาไม่ต้องการสิ่งนี้แล้ว ก็เลยมอบให้ท่าน”
หลงเฉินพยักหน้าและมองดูคัมภีร์ ‘เกราะดาราจรัสแสง’ อย่างละเอียด
“มันคือวิชาระดับอำพันขั้นกลาง...”
“ข้าก็แค่ช่วยเด็กไว้ เจ้าหนุ่มคนนั้นถึงกับให้คัมภีร์เกราะดาราจรัสแสงกับข้า ดูเหมือนที่มาที่ไปของเขาจะไม่ใช่เล่น ๆ เสียแล้ว ข้าเดาว่าคงไม่ใช่คนในเมืองพฤกษาหมอกนี่หรอก แต่น่าเป็นตระกูลใหญ่จากเมืองอื่นมากกว่า...”
“ช่างมันเถอะ การพบกันในวันนี้คือชะตาลิขิต ข้ากำลังต้องการสิ่งนี้อยู่พอดี ในเมื่อเขาให้มันกับข้า หากได้พบกันในวันหน้า ข้าจะตอบแทนความมีน้ำใจของเขาแน่นอน”
หลงเฉินยิ้ม และไปส่งเซี่ยวฮวงที่บ้าน จากนั้น เขาก็กลับไปที่ตระกูลหยาง
“...ดูดซับพลังดวงดาวศักดิ์สิทธิ์ และผสานเข้ากับเนื้อหนัง กระดูก และเลือด ... ด้วยการบ่มเพาะทั้งวันทั้งคืนและเพียรพยายาม จึงจะบรรลุวิชาเกราะดาราจรัสแสงได้ ... ขณะเดิน ฝุ่นทรายจะปลิวว่อน ก้อนหินจะกระเด็นไปทั่ว และในทุก ๆ หมัด จะดึงพลังของกระบวนท่านี้ออกมาได้ ...”
“เกราะดาราจรัสแสงนี้เป็นคัมภีร์ที่เยี่ยมยอดจริง ๆ เทียบกับทักษะยุทธ์อื่น ๆ แล้ว มันมีค่ากว่ามากทีเดียว”
“เกราะดาราจรัสแสง มีสองระดับด้วยกัน คือระดับรู้แจ้ง และระดับเชี่ยวชาญ อย่างไรก็ตาม แม้คัมภีร์นี้จะกำกวม แต่ข้าก็ยังสามารถเข้าใจมันได้ คืนนี้ แสงดาวช่างสุกสกาว ข้าต้องใช้แสงดาวในคืนนี้เพื่อฝึกวิชาเกราะดาราจรัสแสง ต่อให้ข้าต้องเจอกับหยางจ้านอีกครั้ง ข้าก็น่าจะหนีรอดมาได้อย่างไร้รอยขีดข่วน ยิ่งไปกว่านั้น อาจจะสู้เขาได้อย่างสูสี!”
สำหรับหลงเฉิน เกราะดาราจรัสแสงนั้นไม่ได้ยากจนเกินไป
ในตอนนี้ แสงดาวสว่างไสว และเขากำลังฝึกวิชาอยู่ภายใต้แสงดาวเฉกเช่นปลาที่แหวกว่ายอยู่ในน้ำ
เวลาผ่านไป เมื่อเห็นว่าแสงจากดวงดาวบนท้องฟ้ากำลังทอดลงมาบนร่างของเขา ร่างของเขาจึงดูราวกับกลุ่มดาวที่เปล่งรัศมีออกมาอย่างเลือนราง
ทันใดนั้นเอง หลงเฉินก็ลืมตาขึ้น
“เกราะดาราจรัสแสงยังฝึกไม่สำเร็จ แต่หลังจากประสบการณ์การต่อสู้ที่น่าตื่นเต้นในวันนี้ การได้อาบแสงดาวรวมทั้งพลังของจี้หยกลึกลับ ปราณแท้จริงของข้าก็เพิ่มขึ้นอีกครั้ง คราวนี้แหละ ข้าจะพยายามบรรลุสู่ขอบเขตชีพจรมังกรขั้นสามให้จงได้!”
************************************
ติดตามตอนอื่น ๆ ได้ที่ : novelrealm