ตอนที่แล้วตอนที่ 49 หญิงสาวผู้ลึกลับ..ฉินหยู
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 51 ศึกระหว่างผู้หญิงทั้งสอง ตอนที่ 1

ตอนที่ 50 ตีกรอบให้จนตรอก


ติดตามตอนอื่น ๆ ได้ที่ : novelrealm

เย่เชียนเหลือบมองไปที่หวังยู่อย่างเย็นชาและพูดว่า “นี่..คุณเกลียดผมมากขนาดนั้นเลยเหรอ? ทำไมคุณต้องทำให้ผมดือดร้อนอยู่เรื่อยเลย?”

“ฉันแค่ทำตามหน้าที่!..ตอนนี้มีคนแจ้งว่านายเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรม..นายควรให้ความร่วมมือกับเราจะดีกว่า!” หวังยู่ยังคงพูดอย่างเย็นชา

“ผมไปฆ่าคนเมื่อไหร่?..อย่ามาใส่ร้ายผม!” เย่เชียนพูด

“ตีหนึ่งของเมื่อคืนนี้..จ้าวเซี่ยชายชาวจีนคนหนึ่งถูกฆ่าตายและมีพยานบางคนเห็นว่าฆาตกรคือนาย!” หวังยู่ตอบอย่างเย็นชา

เมื่อได้ยินสิ่งที่หวังยู่พูดเย่เชียนก็อดไม่ได้ที่จะยื้มออกมา ถ้าสิ่งหวังยู่พูดเป็นความจริงล่ะก็มันต้องใครบางคนอยู่เบื้องหลังอย่างแน่นอน เย่เชียนยังคิดไม่ออกว่าจะเป็นใคร แต่อีกฝ่ายประเมินเขาต่ำเกินไปแผนที่ดูโง่เขลาเช่นนี้มันช่างแยบยลยิ่งนัก คดีฆาตกรรมนั้นไม่ช้าก็เร็วสุดท้ายแล้วก็ต้องพบความจริง

“จ้าวเซี่ย?” เย่เชียนพึมพำกับตัวเองเพราะเขาจำได้ว่าดูเหมือนชายคนนี้จะเป็นแฟนของเพื่อนร่วมรุ่นของหลินโรวโร่ว และดูเหมือนว่าเขาจะโดนลูกหลงตอนอยู่ที่บาร์เมื่อวันนั้น

“แล้วทำไมผมถึงต้องฆ่าเขาด้วยล่ะ?” เย่เชียนถามอย่างช่วยไม่ได้

“ในใจนายรู้ดีว่านายทำอะไร..เมื่อคืนนายอยู่ที่ไหนตอนตีหนึ่ง?”

“ผมนอนอยู่ที่บ้าน!” เย่เชียนตอบ

“มีใครพิสูจน์ได้ไหม” หวังยู่ถามอย่างดุดัน

เย่เชียนใช้ความคิดและนึกได้ว่าในเวลานั้นเขาอยู่กับจ้าวเทียนห่าว แต่ตอนนี้เห็นได้ชัดเลยว่ามีใครบางคนกำลังล้อมกรอบต้อนให้เขาจนมุม เพื่อทำให้คนที่อยู่เบื้องหลังเผยตัวออกมาเย่เชียนจึงเงียบไปชั่วขณะและพูดว่า “ผมยังโสดอยู่นะ” ในขณะที่เขาพูดเขาก็มองไปที่หวังยูราวกับว่าเขากำลังจะพูดว่า “ผมโสด..คุณสนใจจะลองพิสูจน์ด้วยตัวเองไหมล่ะ?”

เมื่อมองไปที่ดวงตาของเย่เชียน เธอจำได้ว่าผู้ชายคนนี้เคยทำอะไรกับเธอบ้างตอนที่เขาอยู่ในสถานีตำรวจหวังยู่ไม่ต้องการที่จะเจอหน้าเขาอีก เพราะตั้งแต่วันนั้นมาก็มีเงาของเย่เชียนวนเวียนอยู่ในใจของเธอในความคิดของเธออยู่ตลอดเวลา และไม่สามารถขจัดเขาออกไปจากหัวของเธอได้ และเมื่อเธอไปที่กรมตำรวจในวันนี้เลขาธิการก็ได้สั่งให้เธอไปจับเย่เชียนโดยเร็วที่สุดและเขาก็สั่งเป็นพิเศษว่าไม่มีข้อห้ามใดๆหากเย่เชียนขัดขืนสามารถจับตายได้ในทันที ในเวลานั้นหวังยู่ก็ตกใจอย่างมากและเธอก็อดไม่ได้เลยที่จะกังวลเกี่ยวกับเย่เชียน เนื่องจากเธออยู่ที่สถานีตำรวจมาระยะหนึ่งแล้วเธอรู้เรื่องเกี่ยวกับผู้กำกับมาบ้างเล็กน้อย แต่ในคราวนี้มันร้ายแรงมากจนผิดปกติ และคำสั่งจับตายนั้นต้องมาจากเบื้องบนอย่างแน่นอน

ระหว่างทางมาที่นี่เพื่อจับกุม หวังยู่ก็ได้พิจารณาคิดหาวิธีที่จะช่วยเย่เชียนอยู่เช่นกัน แต่เมื่อเธอเห็นหน้าเขาเธอก็ไม่รู้ว่าจะพูดยังไง เธอรู้สึกผิดอยู่เล็กน้อยและพูดว่า “นายไม่ต้องกังวลไปนะ..ฉันจะไม่ปล่อยให้นายเจอเรื่องร้ายๆอย่างแน่นอน!” หวังยู่รู้สึกเขินอายเล็กน้อยขณะพูด

หวังยู่มีเหตุผลบางอย่างที่ทำให้เธอไม่เต็มใจที่จะทำเช่นนี้ แต่ในด้านของหยางเหว่ยนั้นเขาตั้งใจทำตามหน้าที่เพราะถึงแม้ว่าเย่เชียนจะมีน้องชายเป็นอธิการกระทรวงความมั่นคงสาธารณะแต่คราวนี้มันเป็นถึงคำสั่งของหัวหน้าคณะกรรมการเทศบาลและสั่งเป็นการส่วนตัวอีกด้วย ถึงแม้ว่าอธิการกระทรวงความมั่นคงสาธารณะจะสั่งห้ามได้แต่มันก็เท่านั้นหยางเหว่ยก็ไม่ต้องการเช่นนั้นอย่างแน่นอน เขาไม่ปล่อยโอกาสนี้หลุดลอยไปและนอกจากนี้ผู้กำกับการกรมตำรวจยังสั่งอนุมัติจับตายได้หากเย่เชียนขัดขืนหยางเหว่ยก็สามารถวิสามัญได้ในทันที...

และแม้ว่าเลขาธิการของคณะกรรมการเทศบาลจะไม่ได้พูดอย่างชัดเจนก็ตาม แต่หยางเหว่ยก็เข้าใจว่านี่คือการปล่อยให้พวกเขาหาข้ออ้างเพื่อที่จะฆ่าเย่เชียน เมื่อถึงตอนนั้นแล้วแม้ว่าน้องชายของเย่เชียนจะเป็นอธิการกระทรวงความมั่นคงสาธารณะก็ตามแต่เขาก็ช่วยอะไรไม่ได้ แล้วและบางทีคนอื่นอาจไม่รู้ว่าจริงๆแล้วใครหนุนหลังและอยู่เบื้องหลังของเย่เชียนอย่างน้องชายของเขา แต่สำหรับหยางเหว่ยนั้นชัดเจนมากมีคนที่ทรงอิทธิพลยิ่งกว่าฝั่งของเย่เชียนมาก และตราบใดที่เขาทำดีและทำตามคำสั่งเบื้องบนในครั้งนี้เขาก็จะได้รับกานสนุบสนุนที่ดีและเติบโตได้อย่างง่ายดายในอนาคต…

เมื่อตระหนักถึงสิ่งเหล่านี้หยางเหว่ยก็ไม่ลังเลเลยเขาเดินตรงไปหาเย่เชียนและจ้องมองไปที่เย่เชียนและพูดว่า “หยุดพูดไร้สาระได้แล้ว..มากับพวกเราซะ” หยางเหว่ยพูดขณะที่เอื้อมมือไปคว้าตัวเย่เชียน

เย่เชียนไม่ได้ขยับใดๆเขาเพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้นเฉยๆด้วยใบหน้าที่เย็นชา ทันใดนั้นหยางเหว่ยก็คว้าคอเสื้อของเย่เชียน และเมื่อหยางเหว่ยมองหน้าของเย่เชียนเขาก็เห็นสิ่งที่ดูคล้ายกับดาบน้ำแข็งที่เย็นยะเยือกอยู่ในดวงตาของเย่เชียนและอดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้านไปทั้งตัว และหลังจากนั้นเย่เชียนก็พูดอย่างเย็นชาว่า “ปล่อยมือของนายซะ!”

ถึงแม้ว่าหยางเหว่ยจะขาดความมั่นใจและกำลังหวั่นเกรงแต่เขาก็นึกขึ้นได้ว่ามีปืนอยู่ที่ตัวและความกล้าของเขาก็ค่อยๆเพิ่มมากขึ้นอย่างช้าๆ เขาไม่ได้กังวลว่าเย่เชียนจะขัดขืน แต่!ตอนนี้เขากังวลอย่างมากว่าเย่เชียนจะไม่ขัดขืนใดๆ เพราะถ้าเย่เชียนขัดขืนเขาเมื่อไหร่เขาก็จะมีข้ออ้างเพื่อจะฆ่าเย่เชียน ถึงกระนั้นหยางเหว่ยก็ยังไม่ยอมแพ้แสร้งพูดต่อว่า “ผู้ต้องสงสัยทำไมไม่ให้ความร่วมมือ..ตอนนี้นายต้องการที่จะขัดขืนการจับกุมเหรอ?” หยางเหว่ยพูดอย่างเกรี้ยวกราด

"ผมต้องการทราบว่าตอนนี้พวกคุณต้องการให้ผมไปกับพวกคุณเพื่อที่จะสอบสวนหรือจะให้ผมขัดขืนการจับกุมกันแน่? พวกคุณคิดจะทำอะไรกันแน่? ขอโทษทีนะตอนนี้ผมกำลังรับประทานอาหารอยู่พวกคุณต้องการจะจับผมอย่างนั้นหรือ? ถ้าเช่นนั้นก็เอาหมายจับมาสิหรือไม่ก็กลับไป!”

"ฮ่าฮ่า..นายคิดว่านี่มันเป็นหนังตำรวจฮ่องกงเหรอ? หมายจับเหรอ? นายเป็นผู้ต้องสงสัยคดีฆาตกรรมพวกเรามีสิทธิ์จับนายไปพิจารณาคดี!” หยางเหว่ยหัวเราะและพูดอย่างเย้ยหยัน

เย่เชียนยิ้มและพูดอย่างเย็นชาว่า “มันไม่ใช่หนังตำรวจไล่จับผู้ร้ายหรอก แต่มันเป็นหนังที่สร้างแรงบัลดาลใจให้กับศาลเตี้ย!!” ทันทีที่เย่เชียนพูดจบเขาก็ย่อตัวลงและเตะเสยหยางเหว่ยอย่างรวดเร็วทำให้หยางเหว่ยกระเด็นออกไป คราวนี้พวกตำรวจที่มาพร้อมกับหวังยู่ก็ตื่นตระหนกกันยกใหญ่ พวกเขาชักปืนออกมาและจ่อปืนไปยังเย่เชียน และถ้าหากเย่เชียนเคลื่อนไหวอีกครั้งพวกเขาก็ไม่ลังเลที่จะเหนี่ยวไกยิงโดยไม่มีการเตือนใดๆ

เห็นได้ชัดว่าหวังยู่ไม่คาดคิดไม่ได้คาดหวังว่าเย่เชียนจะขัดขืนและปฏิเสธการจับกุมเช่นนี้ และเธออดไม่ได้ที่จะเหงื่อตกเพราะกังวลเกี่ยวกับเย่เชียนอย่างมาก หวังยู่หันหน้าและมองไปที่เพื่อนร่วมงานจากนั้นก็พูดว่า “เก็บปืนของพวกคุณไป!”

เย่เชียนแสยะยิ้มและพูดอย่างไม่แยแสสิ่งใดๆว่า “ของเด็กเล่นนี่เอาเก็บไปเถอะ!” ปืนลูกโม่ขนาด .38 นี้ในความคิดของเย่เชียนแล้วมันก็เหมือนกับของเล่นของเด็กจริงๆ

เมื่อเห็นว่าเย่เชียนยังคงดิ้นรนอยู่ สำหรับหวังยู่แล้วเธอก็อดไม่ได้ที่ระเบิดขึ้นมาในใจว่า ‘ไอ้บ้า..ไอ้คนบ้า..ทำไมต้องอยากตายด้วยล่ะ?’

หยางเหว่ยพยายามอดกลั้นต่อความเจ็บปวดและพยายามดิ้นรนเพื่อลุกขึ้นจากพื้นเขาเหมือนไก่ตาแตกที่กำลังบ้าคลั่งทันใดนั้นเขาก็ชักปืนออกมาและพุ่งเข้าไปจ่อปืนใส่เย่เชียน “หยางเหว่ยหยุด!” ทันใดนั้นหวังยู่ก็รีบตะโกนขึ้นมาอย่างกระวนการวายใจ แต่ในเวลานี้หยางเหว่ยไม่ฟังคำพูดของเธอแล้ว เพราะชายที่อยู่ตรงหน้าของเขาทำให้เขาต้องอับอายต่อหน้าผู้คนมากมาย ถ้าหยางเหว่ยไม่ล้างแค้นในตอนนี้ล่ะก็เขาก็คงจะต้องลำบากในอนาคตและนอกจากนี้มันยังเป็นคำสั่งของเลขาธิการกรรมการเทศบาลและผู้กำกับก็อนุมัติอีกด้วย ทั้งหมดทั้งมวลแล้วมันช่างเป็นโอกาสที่ดีอย่างยิ่ง ฉะนั้นหยางเหว่ยจึงรู้สึกว่าตอนนี้ชีวิตของเย่เชียนอยู่ในกำมือของเขาแล้วและเขาก็สามารถปลิดชีพของเย่เชียนเมื่อไหร่ก็ได้ที่เขาต้องการ..

“ถ้าคุณกล้าแตะต้องเขา!! ร่างที่ไร้วิญญาณของคุณจะไปนอนกองอยู่ข้างถนน และจะไร้ชีวิตเพื่อยู่ดูแสงตะวันในวันต่อๆไป!!” ทันใดนั้นเองเสียงอันเย็นยะเยือกราวกับพายุน้ำแข็งที่โหมกระหน่ำก็ดังขึ้นและทุกคนก็หันหน้าไปมองยังทิศทางที่มาของเสียง...

.

.

.

.

.

.

.

ติดตามตอนอื่น ๆ ได้ที่ : novelrealm

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด