ตอนที่ 5 แต่งงานกับฉันเถอะ
ติดตามตอนอื่น ๆ ได้ที่ : novelrealm
* นิยายเรื่องนี้เป็นลิขสิทธิ์ของ Novel Kingdom (หจก.โนเวล คิงด้อม) *
**ไม่อนุญาตให้ดัดแปลง แก้ไขหรือเผยแพร่ก่อนได้รับอนุญาต หากฝ่าฝืนทาง หจก. จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด**
หลินหยีรีบก้าวเท้ามาด้านหน้าทันที เพื่อที่จะให้ตัวเองได้อยู่ในจุดที่กู้เฉิงเซียวมองเห็นอย่างชัดเจน
ทว่ากู้เฉิงเซียวก็มองข้ามหลินหยีไป เขาหรี่ตาลงและมองไปยังชายหนุ่มที่อยู่ด้านหลังหลินหยีก่อนจะชะงักไป
—ในที่สุดเขาก็ได้เจอคนที่กำลังตามหาแล้ว—
ถ้าเขาไม่รู้มาก่อนหน้านี้ เขาคงคิดว่าผู้ชายที่อยู่ด้านหลังหลินหยีเป็นผู้ชายจริงๆแน่ๆ —แต่เขาจำเธอได้ สาวน้อยคนนี้เป็นผู้หญิง—
เขาเห็นหญิงสาวสวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวลายสก๊อตสีฟ้าอ่อนและคอเสื้อตัวโคร่งที่หลวมจนเลื่อนตกลงมาและเผยให้เห็นผิวเนียนใส เมื่อบวกรวมกับแสงอาทิตย์นอกหน้าต่างที่สาดส่องมากระทบตัวทำให้เธอดูเปล่งปลั่งสดใสยิ่งขึ้น
กู้เฉิงเซียวมองดูอีกฝ่ายอย่างละเอียดไม่ว่าจะเป็นผมที่ถูกซอยสั้นไปจนถึงผิวขาวนวลเนียนผุดผ่องที่มองเห็นจากส่วนที่โผล่พ้นเสื้อผ้าของเธอ ขณะที่เขากำลังจับจ้องเธออยู่นั้นหญิงสาวก็ก้มหน้าลงพร้อมกับพาร่างที่ดูผอมแห้งบอบบางหลบไปอยู่มุมหนึ่งของห้อง ‘อืม ดูท่าทางจะไม่ค่อยมีปากมีเสียงนะ’
‘ดีเลยตรงกับที่ต้องการอยู่พอดี’
“เงยหน้าขึ้นซิ” เขาสั่งคนที่ยืนหลบมุมก้มหน้างุด
หลินเฉี่ยนสะดุ้ง ‘หมายถึงฉันเหรอ?’
จูม่านยวี่ได้ยินแขกคนสำคัญของบ้านพูดก็ดึงหลินเฉี่ยนออกจากมุมห้องก่อนที่จะพยายามดันตัวเธอให้ออกไปนอกห้อง “ดูแต่งตัวเข้าสิ วันนี้มีแขกมาที่บ้าน อย่างน้อยๆก็ควรไว้หน้ากันบ้าง ออกไปเดี๋ยวนี้เลยนะ!”
“เดี๋ยวก่อน” กู้เฉิงเซียวเห็นสิ่งที่จูม่านยวี่กำลังทำก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากหยุดยั้งเธอไว้
หลินเผยเห็นกู้เฉิงเซียวมีท่าทีไม่พอใจนักก็คิดเอาว่าต้นเหตุมาจากหลินเฉี่ยน ทำให้เขารู้สึกไม่พอใจหลานสาวเป็นอย่างมาก แต่เขาก็สะกดอารมณ์โกรธและรีบพูดขึ้นมาว่า“เอ่อ..หลินเฉี่ยนเป็นลูกสาวของน้องชายของผมกับอดีตภรรยาของเขาน่ะครับ เฮ้อ...เธอไม่มีพ่อแม่คอยอบรมเลี้ยงดูตั้งแต่เล็กๆแล้ว หวังว่าคุณกู้จะไม่ถือสานะครับเพราะเธอเองก็น่าสงสาร”
คำพูดของหลินเผยเสียดแทงหัวใจของหลินเฉี่ยนอย่างรุนแรง
“ให้เธอเข้ามาครับ”
หลังจบคำพูดของกู้เฉิงเซียว จูม่านยวี่ก็ทำได้เพียงแค่ปล่อยมือออกจากตัวหลินเฉี่ยนและไม่ลืมกระซิบขู่เสียงเบากับหลานสาวของสามี “แกมันตัวซวยในบ้าน ถ้าครั้งนี้แกทำเสียเรื่องละก็ ฉันไม่ปล่อยแกไว้แน่”
เดิมทีหลินเฉี่ยนไม่ต้องการจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เลยสักนิด แต่เมื่อได้ยินป้าสะใภ้พูดแบบนั้น เธอก็ชักอยากจะทำให้เรื่องนี้สนุกขึ้นแล้วสิ
‘หึ แขกสำคัญนักใช่ไหม ดี งั้นขอเข้าไปสร้างความวุ่นวายให้พอหอมปากหอมคอสักหน่อยก็แล้วกัน’—การทำให้พวกเขาไม่มีความสุขคือสิ่งที่ทำให้เธอมีความสุข
“ให้เธอเข้ามาครับ” กู้เฉิงเซียวพูดอีกครั้งด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นจนทำให้อุณหภูมิภายในห้องลดลงไปหลายองศา บรรยากาศภายในบ้านเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความตึงเครียด
หลินเฉี่ยนเองเมื่อได้ฟังก็สะดุ้ง เธอกำสายกระเป๋าสะพายนักเรียนแน่นโดยไม่รู้ตัว แล้วจึงเดินเข้าไปด้านในเธอ เงยหน้าขึ้นอย่างไม่ค่อยจะนอบน้อมสักเท่าไหร่ ทว่าเมื่อเธอมองไปที่กู้เฉิงเซียวสาวน้อยก็ชะงักไปราวกับกำลังเห็นอภินิหารจากองค์พระประธานในโบสถ์
เป็นเพราะแสงแดดยามเย็นที่ส่องลอดหน้าต่างเข้ามาปะทะนัยน์ตาทำให้เธอตาพร่าจนต้องรีบหลบอีกทั้งระยะห่างที่มากพอสมควรก็ทำให้หลินเฉี่ยนเห็นใบหน้าเขาไม่ชัดเจน แต่ไม่ว่าอย่างไรรังสีความน่ายำเกรงของผู้ชายคนนี้ก็ทำให้เธอรู้สึกหวาดหวั่นอย่างมาก
“ทำไมหน้าเธอถึงมีแผลมากขนาดนั้น?”
หลินเฉี่ยนตอบกลับไปเสียงเบา “ไม่ทันได้ระวัง ก็เลย...หกล้ม”
‘หกล้ม? คงจะมีแค่หลินหยีเท่านั้นแหละที่จะเชื่อเหตุผลหลอกเด็กนี่ ดูแผลที่จมูกกับเปลือกตาเธอสิ ดูก็รู้ว่าเพิ่งถูกชกมา’
ทันใดนั้นกู้เฉิงเซียวพูดขึ้นอีกครั้งด้วยน้ำเสียงเรียบๆแต่มันกลับดูเหมือนกำลังสั่นคลอนภูเขาทั้งลูก—“เธอแต่งงานกับฉันเถอะ”—
“.......” หลินเฉี่ยนนิ่งอึ้ง
“........” ทุกคนในบ้านก็เช่นกัน
“คุณกู้คะ เอ่อ... ธะ...เธอไม่ใช่ลูกสาวของฉันนะคะ คุณตั้งใจจะมาขอลูกสาวของฉันไม่ใช่เหรอคะ?” จูม่านยวี่ได้ยินคำพูดนั้นก็ลนลานและอดไม่ได้ที่จะรีบพูดแทรก เธอพยายามผลักลูกสาวทั้งสองของตัวเองให้ก้าวออกมาด้านหน้า
“คุณกู้คะ หลินเซียวกับหลินหยีเป็นลูกสาวแท้ๆของฉันค่ะ คุณพิจารณาใหม่เถอะนะคะ”
หลังจากได้ยินประโยคนั้น กู้เฉิงเซียวก็รู้สึกว่ามันคงจะไม่ได้เป็นเรื่องดีเท่าไหร่นักที่จะพูดปฏิเสธ เขาเองก็ไม่อยากจะทำร้ายน้ำใจคนที่นับได้ว่าเป็นผู้ใหญ่ของบ้านหลังนี้ออกไปตรงๆ แต่เขารู้ดีว่าหากไม่ออกปากให้ชัดเจนตั้งแต่ตอนนี้ก็คงไม่ใช่เรื่องดีเช่นกัน
“คุณหนูหลินที่ผมมาหาก็คือหลินเฉี่ยนครับ”
“……”
คนตระกูลหลินทั้งบ้านเกิดอาการตกตะลึงในทันที เพราะหลินเฉี่ยนเวลานี้ที่มีสภาพกระเซอะกระเซิง ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำแถมเสื้อผ้าก็ยับยู่ยี่ ไหนจะทรงผมที่เหมือนกับรังนกนั่นอีก ตอนนี้เธอเองก็อายุแค่ยี่สิบปีเท่านั้น ไม่รู้เลยจริงๆว่ากู้เฉิงเซียวชอบเธอไปได้อย่างไร
คนทั้งหมดงุนงงปนสับสนจนทำอะไรไม่ถูกโดยเฉพาะหลินเผยที่ยืนอ้ำอึ้งสมองตีบตันไปหลายวินาที มันจะเป็นแบบนี้ไปได้ยังไง? และที่สำคัญคือเขาขายหลินเฉี่ยนให้กับประธานหัวแล้วด้วย เมื่อคืนพวกเขาก็...กันแล้ว แถมดูเหมือนว่าประธานหัวจะไม่ได้ออมมือสักนิด หลินเฉี่ยนถึงได้มีสภาพแบบนี้กลับมา
จูม่านยวี่สะกิดสามีของเธอราวกับอยากจะให้เขาพูดอะไรบางอย่าง
ขณะที่หลินเผยกำลังจะอ้าปากพูด กู้เฉิงเซียวก็ลุกขึ้นยืน เขาก้าวเท้ามาด้านหน้า ยังไม่ทันที่อีกฝ่ายจะเดินมาถึงตัวเขา หลินเผยก็รู้สึกได้ถึงแรงกดดันบางอย่างจนทำให้คำพูดที่เขาคิดจะพูดออกมาถูกกลืนกลับเข้าไปเหมือนเดิม
กู้เฉิงเซียวไม่ได้มองสองสามี-ภรรยาหลิน สายตาคมจับจ้องอยู่ที่สาวน้อยผมสั้น เขาเดินตรงเข้าไปหาเธอพร้อมกับถามขึ้นมาอีกครั้งว่า “เธอเต็มใจจะแต่งงานกับฉันไหม? ตอนนี้เลย”
“ว่าไงนะ?” สีหน้าของหลินเฉี่ยนตกตะลึง ถ้าเสียงในหัวเธอดังออกมาถึงข้างนอกได้ หลินเฉี่ยนมั่นใจว่าแม้แต่บ้านข้างๆก็คงได้ยินคำว่า ‘เชร้ด’ ได้อย่างชัดเจน
“ฉันถามเธอว่า…หลินเฉี่ยน—เธอ—เต็มใจ—จะแต่งงาน—กับ—ฉัน—กู้เฉิงเซียว—ไหม?” กู้เฉิงเซียวถามอีกครั้ง เขาจงใจเน้นทุกเสียงทุกพยางค์ให้ชัดที่สุด
หลินเฉี่ยนเบิกตากว้าง หรือว่านี่เธอกำลังฝันอยู่? ผู้ชายที่ลุงของเธอต้องประจบเอาใจ คนที่ลุงและป้าดูเกรงใจมากเหลือเกิน คนที่แค่เห็นไกลๆก็ยังดูดีมีชาติตระกูลและเหมือนจะเพอร์เฟคไปเสียทุกอย่างขนาดนั้น แต่กลับขอผู้หญิงอย่างเธอแต่งงานเนี่ยนะ?!
ทว่า… “ฉันตกลง!” ถึงจะยังตกตะลึงและงุนงงอยู่แต่หลินเฉี่ยนก็ตอบออกมาในทันทีโดยไม่หยุดเสียเวลาคิดแม้แต่น้อย
‘หึหึหึ! ก็การทำให้คนพวกนี้เจ็บปวด คือความสุขของเธอ โอกาสเอาคืนงามๆมาถึงแล้วจะมัวแต่ลังเลอะไรอยู่อีก’
และมันก็เป็นไปอย่างที่หลินเฉี่ยนคาด ทุกคนในบ้านตกตะลึงไปพร้อมๆกัน โดยเฉพาะจูม่านยวี่ที่แทบจะล้มทั้งยืนแล้ว ป้าสะใภ้ของเธอทำหน้าเหมือนกำลังขาดอากาศหายใจอยู่ตรงนั้น
กู้เฉิงเซียวแปลกใจไม่น้อยที่เห็นหลินเฉี่ยนตอบตกลงอย่างง่ายดายเช่นนี้ ทว่าเขาก็รู้สึกพอใจอยู่มาก นี่นับเป็นโชคดีของเขาแล้วเพราะมันช่วยลดความยุ่งยากให้น้อยลงได้
นาทีถัดมา ท่ามกลางสายตาที่ยังคงนิ่งค้างอย่างตกตะลึงของคนบ้านหลิน กู้เฉิงเซียวก็พาหลินเฉี่ยนเดินออกไปจากบ้านโดยไม่สนใจใคร
...ความเงียบงันอันเคว้งคว้างเข้าครอบงำคนบ้านหลิน…
จูม่านยวี่เหมือนจะได้สติขึ้นมาก่อน เธอกวาดตามองลูกสาวที่เป็นเหมือนกับอัญมณีล้ำค่าล้ำค่าของบ้านก่อนที่จะพูดออกมาราวกับไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง “ให้ตายเถอะ เป็นแบบนี้ได้ยังไงเนี่ย มันเป็นแบบนี้ได้ยังไง! หัวหน้ากู้นั่นตาบอดรึยังไงถึงได้ไปคว้าเอากรวดข้างทางแทนที่จะเลือกพลอยน้ำงามแบบนี้?”
หลินเผยที่ยืนอยู่ข้างๆเองก็ทุบหน้าอกของตัวเองอย่างวิตกจริต “แย่แล้ว แย่แน่ แย่แน่ๆ” เขาเอาแต่พูดคำว่าแย่ซ้ำไปซ้ำมา ทั้งสีหน้าและแววตามีแต่ความหวาดกลัว เขาใช้สายตาตื่นตระหนกจ้องมองมาที่ภรรยาของตัวเอง และจูม่านยวี่เองก็พอจะเข้าใจความหมายของมัน เธอแทบจะร้องไห้ออกมาแล้ว
ธุรกิจของตระกูลหลินที่ผ่านมาไม่ได้ราบรื่นเท่าไหร่นัก โดยเฉพาะในปีนี้พิษของวิกฤติเศรษฐกิจสร้างปัญหาใหญ่หลวง โชคยังดีที่ได้ประธานหัวเข้ามาช่วยพยุงเอาไว้ แต่ขึ้นชื่อว่านักธุรกิจแน่นอนว่าการช่วยเหลือนั้นไม่ใช่จะให้เขามาแบบเปล่าประโยชน์ เพราะมันมีข้อแลกเปลี่ยน
ประธานหัวชื่นชอบการเล่นสนุกกับหญิงสาวเป็นอย่างมากโดยเฉพาะกับเด็กสาวๆวัยขบเผาะ ก่อนหน้านี้เป้าหมายของหัวเทียนหมิงคือหลินหยีแต่คนอย่างหลินเผยจะยอมปล่อยให้ลูกสาวแท้ๆของตัวเองถูกปู้ยี่ปู้ยำแบบนั้นได้ยังไง หลังจากที่ปรึกษากับภรรยาของเขาแล้วทั้งคู่ก็ตกลงกันว่าจะส่งหลินเฉี่ยนไปแทน
หลินเผยจะเป็นคนบอกให้หลินเฉี่ยนออกไป ส่วนเรื่องจัดหายาเป็นหน้าที่ของจูม่านยวี่ หลังจากนัดแนะกันเรียบร้อยแล้วสองสามี-ภรรยาก็พาหลินเฉี่ยนไปส่งถึงโรงแรมที่นัดหมายไว้กับหัวเทียนหมิงตามเวลานัด
แต่ทว่าวันรุ่งขึ้น นายพลหนุ่มหล่ออย่างกู้เฉิงเสียวกลับมารับหลินเฉี่ยนไปจากบ้านนี้เพื่อไปเป็นภรรยาของเขา
ถ้าหากเรื่องนี้ถูกเปิดโปงขึ้นมาว่าหลินเฉี่ยนเคยถูกพาไปขายให้กับผู้ชายอื่นมาก่อนหน้านี้ ดูท่าว่าสถานการณ์ของพวกเขาอาจจะต้องเลวร้ายมากแน่ๆ
เมื่อหลินเผยและภรรยาของเขาคิดถึงผลลัพธ์ที่จะตามมา ทั้งสองก็รู้สึกขนหัวลุกขึ้นทันที เหงื่อเย็นๆไหลพลั่กไปทั่วทั้งตัว
…...
กู้เฉิงเซียวรีบพาหลินเฉี่ยนเดินทางไปที่สำนักงานทะเบียน แต่กว่าจะฝ่าการจราจรที่แน่นขนัดมาได้ก็เป็นเวลาปิดทำการแล้ว ทว่าทันทีที่กู้เฉิงเซียวกดโทรศัพท์เพียงครั้งเดียว หัวหน้าของสำนักงานก็เดินทางมาทำเรื่องจดทะเบียนสมรสให้กับพวกเขาด้วยตัวเองในทันที
กระบวนการทั้งหมดใช้เวลาเพียงแค่—สองนาทีเท่านั้น—
เมื่อคู่สามี-ภรรยาหมาดๆทั้งสองออกมาจากสำนักงานทะเบียนก็เป็นเวลาที่ฟ้าเริ่มมืดแล้ว พระอาทิตย์กำลังจะตกดินและไม่กี่นาทีถัดจากนั้นแสงสีทองก็จางหายไป
หลังจากก้าวพ้นออกมาจากสำนักงาน ภาพบรรยากาศของเมืองและผู้คนที่จอแจในยามอาทิตย์อัสดงก็กระตุ้นให้หลินเฉี่ยนรู้สึกตัว…บางทีอาจจะเป็นเพราะเครื่องแบบนายพลสูงศักดิ์บนตัวเขาที่ทำให้เธอวางใจและตัดสินใจทำตามเขาเช่นนี้ แต่ไม่ว่าจะเพราะอะไร…
—ตอนนี้เธอได้จดทะเบียนสมรสกับชายแปลกหน้าที่เพิ่งจะเจอกันครั้งแรกด้วยเวลาไม่ถึงชั่วโมงไปแล้ว…. นี่มันเป็นเรื่องประหลาดเกินไปรึเปล่าเนี่ย?—
‘หรือว่าเราจะทำเกินไป? ถ้าอยากถอนตัวตอนนี้จะทันไหมหว่า?’
กู้เฉิงเซียวที่เดินอยู่ด้านหน้าหันกลับมามองหลินเฉี่ยนพร้อมกับใช้สายตาสำรวจไปทั่วตัวเธอราวกับกำลังตรวจสอบอะไรบางอย่างบนร่างเล็กๆนี่
ถึงแม้ใบหน้าของเธอตอนนี้จะเต็มไปด้วยบาดแผลมากมายแต่เขาก็ยังจำได้
ผมที่ซอยสั้นเหมือนผู้ชาย ใบหน้าที่เรียกได้ว่าไร้ที่ติ เครื่องหน้าทั้งหมดถูกจัดวางอย่างลงตัวเหมือนกับเป็นภาพวาดที่ถูกบรรจงวาดด้วยความประณีต ถ้าจะนับเป็นประติมากรรมก็คงจะเป็นศิลปะชั้นยอดที่ถูกสรรค์สร้างอย่างพิถีพิถันซึ่งนั่นก็รวมไปถึงผิวที่ขาวนวลเนียนผุดผ่องราวกับหยกชั้นเยี่ยม ใช่แล้ว...เป็นคนเดียวกัน ใช่เธอไม่ผิดแน่
“ขึ้นรถ”
“อื้อ”
.
.
.
* นิยายเรื่องนี้เป็นลิขสิทธิ์ของ Novel Kingdom (หจก.โนเวล คิงด้อม) *
**ไม่อนุญาตให้ดัดแปลง แก้ไขหรือเผยแพร่ก่อนได้รับอนุญาต หากฝ่าฝืนทาง หจก. จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด**
ติดตามตอนอื่น ๆ ได้ที่ : novelrealm