ตอนที่ 32 ดัชนีปีศาจจำแลง
ติดตามตอนอื่น ๆ ได้ที่ : novelrealm
หยางหลิงเยวี่ยมองดวงตากลัดมันของไป๋ซื่อจี นางรู้สึกหมดสิ้นความหวัง
นางรู้ถึงสิ่งที่ไป๋ซื่อจีกำลังจะทำ ซึ่งนางเองก็เคยเฝ้าฝันถึงวันเช่นนั้นเพราะเขาคือผู้ที่นางชอบจนหมดใจ แต่อย่างไรก็ตาม มันช่างกะทันหันจนนางรู้สึกเจ็บปวดอย่างเหลือแสน เมื่อทุกอย่างกำลังจะเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาผู้อื่นรวมทั้งพี่ชายของนางเอง
“ไป๋ซื่อจี! เจ้าทำแบบนี้ทำไมกัน? เหตุใดคนตระกูลไป๋ถึงทำเช่นนี้กับพวกเรา? เจ้าไม่ได้ตั้งใจจะฆ่าพวกเราใช่หรือไม่? แล้วเหตุใดพวกเราถึงกลายเป็นเป้าหมายของเจ้าได้ล่ะ? ปล่อยน้องสาวข้าไปเถอะ!”
หยางอู่ได้รับบาดเจ็บสาหัส และในตอนนี้เขาก็ถูกไป๋ซื่อตงและไป๋จื้อซิงจับตัวเองไว้ เขาจึงไม่สามารถเคลื่อนไหวได้แม้แต่น้อย
“ท่านพี่ ช่วยข้าด้วย!”
น้ำเสียงสิ้นหวังของหยางหลิงเยวี่ยทำให้ดวงตาของหยางอู่เต็มไปด้วยเลือด อย่างไรก็ตาม ความเจ็บปวดรุนแรงในร่างกายของเขาได้จำกัดการเคลื่อนไหวของเขาไว้อย่างสมบูรณ์!
ครู่ที่ผ่านมา ไป๋ซื่อเฉินและไป๋ซื่อจีจู่โจมเขาพร้อมกัน มันเป็นการลอบทำร้าย เช่นนั้นแล้วเขาจึงเสียท่าอย่างง่ายดาย
ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความฝืนใจ เมื่อเห็นน้องสาวของตนเองกำลังจะถูกทำให้อัปยศอดสู เปลวไฟแห่งความโกรธเกรี้ยวกำลังจะปะทุออกมาจากดวงตาของเขา แต่เขากลับไร้กำลังและรู้สึกอับจนหนทางเหลือเกิน!
ขณะที่ทั้งสองกำลังสิ้นหวังอยู่นั้น เสียงลมพัดรุนแรงดังมาจากในป่า ครู่ต่อมาร่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้น ร่างนั้นยืนอยู่เบื้องหน้าไป๋ซื่อจีที่กำลังมองสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
คนผู้นั้นคือหลงเฉิน…
เมื่อเห็นว่าหลงเฉินปรากฏตัว ไป๋ซื่อจีก็หยุดการกระทำของตนเองและมองหลงเฉินด้วยสายตาดุดัน จากนั้นเขาก็หัวเราะอย่างเย็นชา
“ข้ากำลังจะสำเร็จภารกิจแรกก่อนจะไปหาเจ้าอยู่แล้วเชียว ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะมาหาข้าด้วยตัวเอง ไม่เป็นไร ข้าจัดการกับเจ้าก่อนก็ได้ แล้วค่อยจัดการกับยัยปีศาจนี่ต่อ ข้าจะได้ไม่ต้องมาห่วงหน้าพะวงหลัง”
หยางหลิงเยวี่ยและหยางอู่รู้สึกโล่งอกเมื่อพวกเขาเห็นว่ามีใครบางคนมาที่นี่ แต่เมื่อพวกเขาเห็นว่าผู้ที่มาถึงนั้นคือหลงเฉิน พวกเขาก็ชะงักไปก่อนจะหันหน้าหนีด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
สำหรับพวกเขาแล้ว หลงเฉินไม่มาที่นี่เสียยังจะดีกว่า
ในทางกลับกัน ก่อนหน้านี้พวกเขาต่างก็สนิทสนมกับคนตระกูลไป๋และปฏิเสธหลงเฉินอย่างสิ้นเชิง แต่ทว่าในตอนนี้ พวกเขากลับถูกคนตระกูลไป๋ทรยศหักหลัง และพวกเขาคงถูกหลงเฉินเย้ยหยันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นอกจากนี้แล้ว หลงเฉินก็บรรลุเพียงขอบเขตชีพจรมังกรขั้นห้า ซึ่งคงจะถูกไป๋ซื่อจีที่บรรลุขอบเขตชีพจรมังกรขั้นเจ็ดฆ่าตายอย่างไม่ต้องสงสัย
เมื่อมีหลงเฉินอยู่เบื้องหน้าราวกับโล่กำบัง พวกเขาก็คงถูกทำให้อับอายและตายช้าลงอีกเล็กน้อยเท่านั้น นี่อาจจะเป็นผลที่เกิดขึ้นจากการปรากฏตัวของหลงเฉินตามความคิดพวกเขา
เมื่อเห็นท่าทางของหลงเฉิน ไป๋ซื่อตงและไป๋จื้อซิงก็รู้สึกประหม่าเล็กน้อย แต่เมื่อคิดว่าไป๋ซื่อจีอยู่ที่นี่ พวกเขาจึงสงบใจลงได้
โดยเฉพาะไป๋ซื่อตงที่ก่อนหน้านี้ต้องทุกข์ทรมานจากความอัปยศใหญ่หลวงเพราะหลงเฉิน แต่เขาก็ไม่กล้าล้างแค้น ในตอนนี้เมื่อหลงเฉินปรากฏตัว เขาก็แสร้งทำท่าทางโหดเหี้ยมทั้ง ๆ ที่ในใจกลับหวาดกลัว เขาเอ่ยขึ้น
“พี่ซื่อจี หลังจากที่ท่านทำให้เขาบาดเจ็บสาหัสแล้ว ขอให้ข้าได้เป็นคนเด็ดหัวเขาเองได้หรือไม่?”
ไป๋ซื่อจีไม่สนใจหยางหลิงเยวี่ยอีก เขามองหลงเฉินด้วยสีหน้ามุ่งร้ายและเย้ย
“ถ้าข้าไม่พลั้งมือข้าเขาตายในกระบวนท่าเดียว ก็แล้วแต่เจ้าเถอะ”
เมื่อเห็นว่าหยางอู่และหยางหลิงเยวี่ยหันหน้าหนีไปด้วยความผิดหวังเมื่อเห็นว่าเขามาถึง หลงเฉินก็โกรธจนเลือดขึ้นหน้า
ทั้งสองคนนี้ไม่เคยคิดดีกับเขา และหลงเฉินก็ไม่เต็มใจจะช่วยพวกเขาเช่นกัน เขาเพิกเฉยต่อไป๋ซื่อจีและหันไปมองหยางหลิงเยวี่ยที่อยู่ในสภาพน่าสมเพช
“หลิงชิงอยู่ที่ใด?”
หยางหลิงเยวี่ยไม่ตอบคำถามเขา นางพยายามดึงเสื้อผ้าที่เหลืออยู่น้อยนิดมาปกปิดร่างกาย แต่สิ่งที่นางทำก็ไม่เป็นผล
ในความคิดของหยางหลิงเยวี่ย การมาถึงของหลงเฉินไม่สามารถช่วยอะไรนางได้ นางยังคงจ่อมจมอยู่ในความเศร้าโศกและตื่นตระหนกจนไม่สามารถพาตัวเองให้หลุดพ้นออกมาได้ เมื่อนางคิดว่าตนเองจะเผชิญกับความอัปยศได้เช่นไรหลังจากที่หลงเฉินตาย นางก็รู้สึกราวกับจะหมดสติ
ในตอนนี้ หลงเฉินรู้สึกบันดาลโทสะจริง ๆ แล้ว เขาไม่ได้โกรธที่หยางหลิงเยวี่ยดูแคลนในตัวเขา แต่เป็นเพราะเขาห่วงใยหยางหลิงชิงจากใจจริงต่างหาก!
“หยางหลิงเยวี่ย! หยางอู่! ข้าถามพวกเจ้าว่าหยางหลิงชิงอยู่ที่ใด?”
แต่หยางอู่และหยางหลิงเยวี่ยกลับไม่ปริปาก ทำให้หลงเฉินแลดูโง่เง่าราวกับตัวตลก อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้ ไป๋ซื่อจีที่ถูกหลงเฉินเพิกเฉยก็เริ่มมีน้ำโหขึ้นมา
ความมุ่งร้ายในดวงตาของเขาค่อย ๆ ทวีความรุนแรง เมื่อปราณแท้จริงในร่างกายของเขาเริ่มโคจรอย่างรวดเร็ว!
เขาเดินเข้ามาหาหลงเฉินอย่างช้า ๆ เสียงของเขาเย็นยะเยือกจนสามารถทำให้คนอื่น ๆ รู้สึกราวกับอยู่ในฤดูเหมันต์
“ความตายอยู่ใกล้แค่เอื้อม อย่ามาทำเป็นกล้าหาญและคอยห่วงผู้อื่นอยู่เลย เจ้าทำร้ายน้องชายข้า ดังนั้นข้าก็เลยอยากจะฆ่าเจ้ามาตั้งนาน หากไม่เห็นแก่ท่านปู่ของข้าที่ทำให้ข้าต้องอดทนมาถึงทุกวันนี้ เจ้าคงได้เจอกับขยะไร้ค่าอย่างพ่อของเจ้าในปรโลกไปนานแล้ว!”
“เจ้าว่าไงนะ?”
หลงเฉินกำหมัดแน่น สิ่งที่เขาทนไม่ได้มากที่สุดคือการที่คนอื่นเรียกพ่อของเขาว่าขยะ โดยเฉพาะเมื่อมันออกมาจากปากของไป๋ซื่อจี เป็นเพราะไป๋ซื่อจีคือลูกชายของไป๋จ้านสง และหยางเสวี่ยชิงปฏิบัติต่อไป๋จ้านสงราวกับสมบัติล้ำค่า!
‘ยัยผู้หญิงน่าสมเพชนั่น! หากนางรู้ว่าคนจากตระกูลไป๋ทำอะไรกับคนตระกูลหยางในวันนี้ ข้าอยากจะรู้นักว่านางจะทำหน้าเช่นไร!’
สายตาที่ไป๋ซื่อจีมองมาทำให้หลงเฉินรู้สึกไม่พอใจอย่างมาก และท่าทีโง่เง่าของหยางอู่และหยางหลิงเยวี่ยก็ทำให้ใจของเขาเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว เขาระเบิดโทสะออกมาตั้งแต่ที่เขาไม่รู้ว่าหยางหลิงชิงอยู่ที่ใด
และเขายังพบว่าไป๋ซื่อเฉินไม่ได้อยู่ที่นี่ในตอนนี้ ซึ่งตอนที่ไป๋ซื่อเฉินมาที่ภูเขาเดียวกาย เขาก็เริ่มมีทีท่าสนใจในตัวหยางหลิงชิงอีกด้วย…
เมื่อเขาเห็นสิ่งที่ไป๋ซื่อจีทำกับหยางหลิงเยวี่ย หลงเฉินก็เริ่มสังหรณ์ใจไม่ดี เมื่อเขาคิดว่าหยางหลิงชิงซึ่งดีกับเขามากกำลังถูกทำให้อับอาย ปราณแท้จริงในร่างกายก็เริ่มโคจรอย่างบ้าคลั่ง มันแปรเปลี่ยนเป็นมังกรตัวยาวสีแดงและถาโถมเข้าสู่เส้นชีพจรทั้งหก!
รอยประทับของมังกรที่เคยหายไปจากการกลายร่างของเขาค่อย ๆ ปรากฏขึ้นบนร่างกายอีกครั้ง เขารู้สึกราวกับว่ามังกรปีศาจเงาโลหิตซึ่งเคยหายไปจากอวัยวะภายใน กระดูก และมัดกล้าม ได้ปรากฏกายขึ้นอีกครั้ง มันร้องคำรามอย่างบ้าคลั่ง!
“หากมีอะไรเกิดขึ้นกับหลิงชิง ทุกคนในตระกูลไป๋ของเจ้าจะต้องตายอย่างน่าสมเพช! พวกเจ้าทุกคน ไปลงนรกซะเถอะ!”
ในดวงตาของหลงเฉิน ลูกตาของเขาถูกย้อมเป็นสีแดงเข้ม ปราณแท้จริงที่มีแสงสีแดงอ่อน ๆ แผ่กระจายออกมาจากผิวหนังทั่วทั้งร่าง!
ดูเหมือนว่าไป๋ซื่อจีจะไม่ปล่อยหลงเฉินไปง่าย ๆ ในครานี้ ดังนั้นหนทางเดียวที่จะช่วยหยางหลิงชิงได้ก็คือฆ่าไป๋ซื่อจีให้เร็วที่สุด ซึ่งนับว่าเป็นการบรรลุเป้าหมายที่หลงเฉินมาที่ภูเขาเดียวดายแห่งนี้ด้วยเช่นกัน
เมื่อเห็นคลื่นพลังน่าสะพรึงกลัวแผ่กระจายออกมาจากดวงตาของหลงเฉิน ไป๋ซื่อจีก็ผงะไปชั่วครู่ จากนั้นเขาก็หัวเราะอย่างเย็นชา
“ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเจ้าถึงกล้าเผชิญหน้ากับข้า เจ้าบรรลุขอบเขตชีพจรมังกรขั้นหกแล้วนี่เอง! แต่เหตุใดจึงกล้าสู้กับข้าด้วยความแข็งแกร่งเพียงเท่านี้ล่ะ? อย่างไรก็ตาม ความเร็วในการพัฒนาฝีมือของเจ้านับว่ารวดเร็วเกินไป ข้าจะปล่อยให้เจ้ามีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ได้อีก”
วินาทีที่ไป๋ซื่อจีพูดจบ หยางอู่และหยางหลิงเยวี่ยต่างก็หันมามองด้วยความประหลาดใจ ในจิตใต้สำนึกของพวกเขา พวกเขาหวังเพียงว่าหลงเฉินจะสามารถยืนหยัดอยู่ได้นานขึ้นอีกเล็กน้อย
แต่เมื่อได้ยินว่าหลงเฉินบรรลุขอบเขตชีพจรมังกรขั้นหกแล้ว พวกเขาต่างรู้สึกประหลาดใจ ราวกับความสิ้นหวังในใจบรรเทาลงเล็กน้อย พวกเขาถึงกับคาดหวังว่าหลงเฉินอาจจะสามารถยืนหยัดอยู่ได้นานพอที่ใครสักคนจะมาช่วย
แม้ในที่สุดก็พบความหวัง แต่ความสิ้นหวังก็ยังครอบงำคนทั้งสองอยู่ไม่จางหาย
เมื่อสิ้นเสียงของไป๋ซื่อจี เขาก็เริ่มลงมือจู่โจมหลงเฉินอย่างฉับพลัน!
คลื่นพลังของขอบเขตชีพจรมังกรขั้นเจ็ดปะทุขึ้นอย่างสมบูรณ์แบบ และทันใดนั้น พลังรุนแรงก็พุ่งตรงมาที่หลงเฉินพร้อมกับส่งให้ใบไม้ปลิวว่อนไปทั่วทุกที่!
อย่างไรก็ตาม ส่งที่ทำให้ไป๋ซื่อจีประหลาดใจมากที่สุดก็คือพลังอันรุนแรงของเขากลับไม่ได้ทำให้หลงเฉินถอยหลังไปแม้แต่ก้าวเดียว!
‘เจ้าจะทนได้นานแค่ไหนกัน? เจ้าคนดื้อด้าน...’
‘ก้าวหน้ามาไกลด้วยอายุเพียงเท่านี้ ความจริงแล้วเจ้าก็ไม่ได้ไร้ค่าขนาดนั้นหรอก แต่ในเมื่อได้มาเจอกับข้า นับแต่นี้ต่อไป ข้าเกรงว่าเจ้าจะไม่ได้เป็นแม้แต่เศษซากของขยะด้วยซ้ำ!’
ภายในร่างกายของหลงเฉิน มังกรสีแดงเรืองรองของพลังปราณกำลังร้องคำรามอย่างบ้าคลั่ง
หลงเฉินตระหนักว่าแรงกดดันที่เขาเคยต้องต้านทานไว้อย่างเต็มที่กลับไม่มีผลกับตัวเขาในตอนนี้มากเท่าใดนัก
“เช่นนั้นรึ?”
หลงเฉินยิ้มเยาะ เมื่อไป๋ซื่อจีพุ่งเข้ามา ดวงตาของเขาฉายแววมุ่งร้าย ก่อนจะส่งเสียงคำรามก้องและพุ่งเข้าใส่ไป๋ซื่อจีในเวลาเดียวกัน!
ทั้งคู่ปะทะกันด้วยเสียงกัมปนาทราวดาวตกสองดวงพุ่งชนกัน ด้วยเสียงอันกึกก้องนั้น แสงดาวสว่างวาบขึ้นในพริบตา และ ‘หมัดปีศาจห้าทิศ’ ก็แตกสลายไปในทันที ทั้งสองล่าถอยมาตั้งหลัก!
การโจมตีของหลงเฉินทำให้ไป๋ซื่อจี หยางอู่ และหยางหลิงเยวี่ยต้องประหลาดใจ และเขายังสามารถยืนหยัดสู้กับกระบวนท่าของไป๋ซื่อจีซึ่งนับว่าทำได้ไม่เลวเลยทีเดียว พวกเขารู้ว่ายิ่งหลงเฉินรับมือได้นานเพียงใด โอกาสที่พวกเขาจะหลบหนีได้ก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น พวกเขาจึงเฝ้ามองอย่างกระวนกระวาย สวดภาวนาให้หลงเฉินต้านทานได้นานขึ้นอีก!
เสียงของไป๋ซื่อจีดังขึ้น
“ข้าได้ยินมาว่าเจ้าสามารถใช้เพลงหมัดดาวตกของตระกูลหยางได้อย่างสมบูรณ์แบบ เรื่องนั้นก็ไม่เลว มันสามารถต้านทานหมัดปีศาจห้าทิศที่ใช้พลังของข้าไปราวครึ่งหนึ่งได้!”
หยางอู่และหยางหลิงเยวี่ยพลันรู้สึกสิ้นหวังขึ้นมาในทันที ปรากฏว่ากระบวนท่าที่หลงเฉินต้านทานได้นั้นเป็นพลังเพียงครึ่งหนึ่งของหมัดปีศาจห้าทิศ และหากไป๋ซื่อจีใช้พลังทั้งหมดที่มี หรือแม้แต่ใช้กระบวนท่าดัชนีสวรรค์ทมิฬ หลงเฉินจะไม่ตายในทันทีเลยหรือ?
สีหน้าของหยางหลิงเยวี่ยซีดเผือดอีกครั้ง ในขณะที่หยางอู่มองน้องสาวของตนเองอย่างอับจนหนทางและไม่สามารถช่วยอะไรนางได้เลย
หลงเฉินแอบหัวเราะในใจ เป็นเพราะเขาเองก็ใช้พลังไปเพียงครึ่งหนึ่งเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม เขาไม่มีเวลามาเล่นกับไป๋ซื่อจี เมื่อเห็นสีหน้ากระหยิ่มยิ้มย่องนั้น ความโกรธแค้นก็ปะทุขึ้นในหัวใจเขา!
“ไป๋ซื่อจี เจ้าเป็นคนแรกที่ข้าอยากจะฆ่าให้ตาย!”
ในหัวใจของหลงเฉิน เขากู่ร้องด้วยโทสะ!
หลงเฉินรับรู้ถึงความแข็งแกร่งของไป๋ซื่อจี เพียงไม่กี่อึดใจ หลงเฉินก็ตระหนักดีว่าเขาไม่มีเวลามาต่อสู้ไป๋ซื่อจี พลังปราณของเขาปะทุขึ้นราวกับมังกร และในครานี้ เขาก็พุ่งเข้าใส่ไป๋ซื่อจีอย่างรวดเร็ว แม้แต่พื้นดินเบื้องล่างก็เริ่มสั่นไหว!
ขณะที่เขาวิ่ง มือทั้งสองก็สร้างตราประทับขึ้นมา พร้อมกับที่ปราณโลหิตหมุนวนอย่างรวดเร็วและส่งเสียงหวีดแหลม!
“ไป๋ซื่อจี ตายเสียเถอะ!”
ในตอนนี้ หยางอู่และหยางหลิงเยวี่ยมองหลงเฉินด้วยความตกใจสุดขีด โดยเฉพาะหยางอู่ เขาคุ้นเคยกับคลื่นพลังของผนึกมังกรดี ในเวลากว่าสิบวัน หลงเฉินกลับสามารถใช้ผนึกมังกรได้สำเร็จ ทั้ง ๆ ที่หยางอู่ต้องใช้เวลาถึงครึ่งปี ไม่แปลกใจเลยที่หลงเฉินช่างมีพรสวรรค์ในการเรียนรู้ทักษะยุทธ์อย่างมาก
‘เพียงกว่าสิบวัน... ผนึกมังกร... เป็นไปไม่ได้! จู่ ๆ เขาก็กลายเป็นอัจฉริยะเช่นนี้ไปได้อย่างไร?’
นี่คือสิ่งที่หยางหลิงเยวี่ยและหยางอู่คิด ในหัวของพวกเขามิอาจทำความเข้าใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้ และพวกเขาก็ไม่รู้เลยว่าปราณโลหิตสีแดงจาง ๆ และผนึกมังกรที่เขาใช้นั้นแตกต่างไปจากผู้อื่น!
เมื่อเห็นว่าจู่ ๆ หลงเฉินก็กลายเป็นมังกรปีศาจเงาโลหิตที่ร้องคำรามและพุ่งเข้าใส่ ไป๋ซื่อจีก็ตกตะลึงไปครู่หนึ่ง แต่ทันใดนั้น ความตกใจก็แปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มเย็นยะเยือก
‘ผนึกมังกรงั้นรึ? ผนึกมังกรของผู้ที่บรรลุขอบเขตชีพจรมังกรขั้นหก หรือจะมาสู้กระบวนท่าดัชนีสวรรค์ทมิฬของตระกูลไป๋ได้?’
“เพลงดัชนีสวรรค์ทมิฬ! ดัชนีปีศาจจำแลง!”
*************************************
ติดตามตอนอื่น ๆ ได้ที่ : novelrealm