ตอนที่ 26 เกล็ดสีแดงโลหิต
ติดตามตอนอื่น ๆ ได้ที่ : novelrealm
ในเวลานี้ คลื่นพลังอันน่าพรั่นพรึงที่ทำให้หลิงซีตัวแข็งทื่อไปเพราะความกลัวได้จางหายไปในที่สุด เดิมที หลิงซีคิดว่าหลงเฉินคงไม่เป็นไร แต่นางไม่คิดคาดคิดเลยว่าเขาจะลงไปนอนกลิ้งอยู่บนพื้นด้วยความเจ็บปวด หลิงซีทั้งตื่นกลัวและตกใจ นางปรากฏตัวออกมาจากกระบี่หลิงซีและกอดเขาไว้ด้วยร่างเล็กจิ๋วที่กำลังหวาดวิตก
“หลงเฉิน! หลงเฉิน! เกิดอะไรขึ้นกับเจ้า? อย่าทำให้ข้ากลัวแบบนี้สิ...”
ขณะที่นางพูด ดวงตาของนางค่อย ๆ แดงก่ำ หากนางยังมีน้ำตาอยู่ นางคงร่ำไห้ออกมานานแล้ว
“ผิวหนังของข้า เจ็บเหลือเกิน!”
ในตอนนี้ หลงเฉินรู้สึกถึงความเจ็บปวดทุรนทุรายที่มาจากทุกส่วนของร่างกาย!
เศษเสี้ยวของแก่นโลหิตสืบทอดในร่างกายของเขาค่อย ๆ แพร่กระจายไปทั่วร่างราวกับยาพิษ และปฏิกิริยาบนผิวหนังก็เกิดขึ้นจากหยกเลือดที่สัมผัสกับผิว
“หลงเฉิน เจ้า... มีบางอย่างกำลังเติบโตอยู่ในร่างของเจ้า!”
เสียงที่ตื่นตระหนกของหลิงซีดังขึ้น ในตอนนี้ หลงเฉินรู้สึกเจ็บปวดทรมานอย่างแสนสาหัส หัวใจของเขาตื่นตระหนกอย่างมากเมื่อได้ยินเสียงของหลิงซี เขาจึงลืมตาขึ้น และมองไปที่แขนของตนเอง
สิ่งที่เขาเห็น คือแขนทั้งแขนของเขาได้กลายเป็นสีเลือด ส่วนผิวหนังบริเวณแขนแปรเปลี่ยนเป็นจ้ำเล็ก ๆ ขนาดเท่าเล็บนิ้วมือจำนวนมากเรียงต่อกันอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย พร้อมกับมีบางอย่างเริ่มงอกออกมา หลงเฉินตกใจเมื่อเห็นว่าสิ่งเหล่านั้นคือเกล็ดสีแดงดุจเลือด!
เขาตกใจอย่างมาก เขาก้มหน้าลงสำรวจร่างกายของตนเองและอดทนกับความเจ็บปวดแสนสาหัสที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นไปตามคาด ทั่วทั้งร่างถูกปกคลุมไปด้วยเกล็ดสีแดงดุจเลือด และบนนิ้วมือ นิ้วเท้า หัวเข่า ข้อศอก และส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย มีกระดูกแหลมคมราวกับใบมีดงอกออกมา ความแหลมคมของเกล็ดนั้นมากกว่ามีดธรรมดา ๆ เสียอีก
เมื่อมองไปยังกระดูกแหลมคมราวใบมีดที่ยื่นออกมาจากนิ้วมือ หลงเฉินก็ผงะไป
“นี่มัน... กรงเล็บ?! นี่ข้ากลายเป็นสัตว์ร้ายไปแล้วรึ?”
เขาแตะแผ่นหลังของตนเองและสัมผัสได้ว่ามีเดือยแหลมคมมากมายงอกออกมาจากหลังเรียงตัวเป็นแถว และยังมีเดือยแหลมคมสีแดงอีกหลายแห่งบนร่างกาย แม้แต่บนศีรษะก็ยังถูกปกคลุมไปด้วยเกล็ดจำนวนนับไม่ถ้วน ผมของเขาหายไป และถูกแทนที่ด้วยเขาแหลมสีแดงเลือดอันดุร้าย!
แม้ว่าหลงเฉินจะยังไม่เห็นรูปลักษณ์ทั้งร่างของตนเอง แต่ก็บอกได้ว่าร่างกายของเขาในตอนนี้อยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อมรบอย่างที่สุด เกล็ดสีแดงเลือดมีพลังป้องกันที่แข็งแกร่งอย่างยิ่งยวด และเขาแหลมเหล่านั้นก็สามารถใช้โจมตีได้!
“รูปลักษณ์เช่นนี้... เกราะที่ทำจากเกล็ดสีแดงเลือดช่างดูสะดุดตาจริง ๆ ...”
ในเวลานี้ ความเจ็บปวดในร่างกายของหลงเฉินค่อย ๆ ทุเลาลงอย่างช้า ๆ ดูเหมือนว่าเขาจะแปลงร่างเสร็จสมบูรณ์แล้ว เขามองร่างของตนเองด้วยความฉงนสงสัย และเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงปีติยินดี แม้จะรู้สึกโศกเศร้าไปด้วยก็ตาม
เมื่อได้ยินว่าหลงเฉินสามารถพูดได้เช่นปกติ หลิงซีจึงถอนหายใจอย่างโล่งอก ขณะที่นางกำลังจะเอ่ยวาจา หลงเฉินก็ถามขึ้นมาในทันที
“เสี่ยวซี บอกข้าสิ ข้าดูหล่อเหลาดีหรือไม่?”
หลิงซีพินิจพิจารณาดูแล้ว รูปลักษณ์ของหลงเฉินในตอนนี้ดูชั่วร้ายและกระหายเลือด แต่ทว่าโครงร่างบนร่างกายของเขา ทั้งเกล็ดและเดือยแหลมต่าง ๆ กลับให้ความรู้สึกถึงความสมบูรณ์แบบ เขาช่างดูงามสง่า แต่จะมีประโยชน์อันใดกัน?
“หลงเฉิน เจ้า... ตอนนี้เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?”
หลงเฉินนิ่งคิดไปชั่วครู่
“ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน... แต่ข้ารู้สึกราวกับมีพลังแข็งแกร่ง เป็นความรู้สึกที่ทรงพลังอย่างมาก!”
เขาสัมผัสได้ถึงพลังในร่างกาย และในตอนนี้ หนึ่งในพันส่วนของแก่นโลหิตสืบทอดซึ่งหลอมรวมเข้ากับร่างกายทั่วทั้งร่าง ได้แพร่กระจายออกไปเรื่อย ๆ จนถึงจุดสุดท้าย จุดตันเถียนของเขา
ในตอนนี้ ร่างกายของหลงเฉินเปลี่ยนแปลงเป็นสถานะรูปร่างที่แสนจะแปลกประหลาด
หลงเฉินมองเห็นเงาของมังกรโลหิตศักดิ์สิทธิ์ม้วนตัวไปมา และร้องคำรามอยู่ภายในอวัยวะทุกส่วนในร่างกาย กระดูก แม้กระทั่งเลือดทุกหยด!
อวัยวะทุกส่วนของเขา ตลอดจนกล้ามเนื้อทุกมัดดูราวกับมีชีวิตขึ้นมา จังหวะการเต้นของหัวใจก็เร็วขึ้นหลายเท่า เมื่อเลือดที่ได้รับการปรับเปลี่ยนไหลเวียนไปตามอวัยวะและมัดกล้าม มันก็ถูกกลืนกินอย่างสมบูรณ์
หลงเฉินไม่เคยจินตนาการว่าจะได้เห็นภาพที่แปลกประหลาดเช่นนี้มาก่อน!
“ข้ากลายเป็นแบบนี้ไปได้เยี่ยงไร... เกิดอะไรขึ้นกับข้ากันแน่?”
หลงเฉินยังคงพึมพำกับตัวเอง แต่ในเวลานั้น แก่นโลหิตสืบทอดกลับผสานเข้ากับปราณแท้จริงในระดับขอบเขตชีพจรมังกรขั้นห้า ทำให้ปราณของเขาก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ปราณของเขาในตอนนี้ เริ่มเผยให้เห็นสีของเลือด ขณะที่ปราณกำลังโคจรในจุดตันเถียน สีแดงเลือดนั้นก็เข้มขึ้นเรื่อย ๆ!
ไม่มีความเจ็บปวดใดเกิดขึ้นระหว่างขั้นตอนเหล่านี้ แต่หลงเฉินตกตะลึงเมื่อพบว่าปราณสิบส่วนในร่างกายของเขาสามารถแปรสภาพเป็นปราณสีแดงเลือดได้เพียง 1 ส่วนเท่านั้น
เมื่อเขาตระหนักได้ หลงเฉินก็รู้สึกกระหายเลือดไปทั่วทั้งร่าง และสีหน้าท่าทางของเขาก็ยิ่งน่าเกลียดน่ากลัวมากขึ้น
หลิงซีพูดขึ้นด้วยความหวาดวิตก
“เจ้า... ตอนนี้เกิดอะไรขึ้นกับเจ้าน่ะ?”
หลงเฉินสัมผัสได้ถึงความเป็นห่วงในสายตาของนาง และเขายังรู้สึกถึงความอบอุ่นอีกด้วย
“ข้า... ข้ารู้สึกหิวมาก ... ข้าทนไม่ไหวแล้ว ... หิวเหลือเกิน!”
ขณะที่เขาพูด หลงเฉินก็ส่งเสียงคำรามออกมาด้วยความเจ็บปวด ทั้งคู่ต่างตกตะลึงกับเสียงที่หลงเฉินคำรามออกมา เพราะมันคือเสียงคำรามของมังกร!
อย่างไรก็ตาม หลงเฉินไม่มีเวลาไปสนใจเรื่องนั้น ปราณสิบส่วนที่ถูกแปรสภาพไปเหลือปราณโลหิตเพียง 1 ส่วน ทำให้เขารู้สึกหิวกระหายเพราะขาดพลังปราณ ในเวลานี้ หลงเฉินตระหนักได้ว่าตนเองมีสภาพไม่ต่างกับสัตว์อสูร!
“ข้าหิวมาก! ...หิวเหลือเกิน!”
หลงเฉินล้มตัวลงกับพื้น ความเจ็บปวดทำให้ร่างกายของเขารู้สึกอ่อนแอ สถานการณ์ในวันนี้ช่างโกลาหล และหัวใจของหลิงซีก็ว้าวุ่นเช่นกัน หลงเฉินบอกว่าเขาหิว แต่นางไม่มีทางออกใด ๆ ดังนั้น นางจึงทำได้แค่ตื่นตกใจเท่านั้น
“ข้า... ข้าจะออกไปข้างนอก ไปหาอะไรให้เจ้ากินนะ!”
เมื่อนางออกไป นางจึงจำต้องควบคุมกระบี่หลิงซีให้บิน และนางจะต้องตายภายในไม่กี่ลมหายใจ มิต้องพูดถึงการหาอะไรมาให้หลงเฉินกิน เมื่อหลงเฉินได้ยินว่านางจะออกไปข้างนอก เขาจึงรีบห้ามนางไว้
“ไม่นะ! เจ้าไม่ต้องออกไปไหนทั้งนั้น! ข้าไม่กินหรอก...”
หลงเฉินพูดออกมาด้วยจิตใต้สำนึก หลิงซีจึงร้องถามขึ้นด้วยความกระวนกระวาย
“แล้วเจ้าอยากจะกินอะไรล่ะ?”
หลงเฉินผงะไปทันที เขาเองก็ครุ่นคิดว่าตัวเขาเองอยากกินอะไรกันแน่ ความหิวกระหายนี้เกิดขึ้นเพราะขาดแคลนปราณที่ถูกเปลี่ยนสภาพ เช่นนั้นแล้ว…
ยังมีหยกวิญญาณอีกมากกว่า 500 ชิ้นในตัวของหลงเฉิน เมื่อคิดได้เช่นนี้ เขาก็รีบเอาหยกวิญญาณออกมา และวินาทีที่หยกวิญญาณปรากฏขึ้น หลงเฉินก็ตระหนักว่าสิ่งที่สัญชาตญาณในร่างกายปรารถนานั้น มิใช่การสกัดพลังวิญญาณฟ้าดินจากหยกวิญญาณ แต่เพื่อกินเข้าไปโดยตรง!
เขาไม่สามารถต้านทานสิ่งล่อตาล่อใจนี้ได้อีกต่อไป ภายใต้การสายตาตื่นตกใจของหลิงซี เขารีบคว้าหยกวิญญาณขึ้นมาหนึ่งกำมือและยัดมันเข้าไปในปาก หยกวิญญาณที่บรรจุปราณแท้จริงถูกบดขยี้เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยด้วยฟันที่แหลมคมของเขา พลังวิญญาณฟ้าดินปริมาณมากถูกกลืนลงไปในท้องของหลงเฉินอย่างสมบูรณ์ จากนั้นก็เข้าสู่จุดตันเถียนของเขา มันแปรสภาพเป็นปราณโลหิตอย่างรวดเร็ว!
ในเวลานั้น หลงเฉินรู้สึกราวกับคนอดอยากที่จู่ ๆ ก็ได้กินอาหารอันโอชะ แต่หากคนพวกนั้นสวาปามอาหารเข้าไป พวกเขาคงติดคอถึงตาย แต่สำหรับหลงเฉินนั้น มิใช่เลยสักนิด!
ร่างกายของเขาดูดกลืนพลังวิญญาณฟ้าดินอย่างรวดเร็ว หยกวิญญาณเกือบหกร้อยชิ้นถูกกลืนลงท้องภายในหนึ่งก้านธูป และทั้งหมดก็แปรสภาพเป็นปราณโลหิตในบัดดล
แต่หลงเฉินยังรู้สึกว่าความหิวกระหายเพียงบรรเทาขึ้นเท่านั้น!
ดูเหมือนว่าหยกวิญญาณไม่ได้ส่งผลต่อปราณโลหิตมากนัก แม้แต่หยกที่มีพลังมากพอจะทำให้เขาบรรลุขอบเขตชีพจรมังกรขั้นหก แต่เขากลับรู้สึกราวกับได้กินเพียงอาหารเรียกน้ำย่อยเท่านั้น!
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าด้วยเหตุใด อาหารเรียกน้ำย่อยก็สามารถบรรเทาความหิวโหยได้ในที่สุด
หลงเฉินรู้สึกราวกับว่าหากเขาไม่กินอะไรในคืนนี้ เขาอาจต้องหิวโหยจนตาย
เมื่อเห็นว่าหลงเฉินกินหยกวิญญาณเข้าไป หลิงซีถึงกับตื่นตระหนกจนพูดอะไรไม่ออก แม้ว่านางจะเคยพบเจออะไรมามากมาย และเป็นคนที่มากด้วยความรู้ แต่นางก็ไม่เคยเห็นอะไรเยี่ยงนี้มาก่อน เมื่อนางเห็นว่าหลงเฉินกลับคืนสู่สภาพปกติหลังจากกินหยกวิญญาณเข้าไป นางจึงรู้สึกโล่งใจขึ้นเล็กน้อย
ขณะที่หลิงซีกำลังจะเอ่ยปากพูด หลงเฉินที่เพิ่งกินหยกวิญญาณเสร็จก็พูดขึ้นในทันที
“เสี่ยวซี เจ้าเปลี่ยนร่างกลับไปเป็นกระบี่หลิงซีเถอะ เราต้องออกไปข้างนอกกันสักพัก เจ้าต้องช่วยข้าหาฝูงสัตว์อสูรที่อยู่ใกล้ ๆ เร็วเข้า!”
มันยังคงเป็นช่วงเวลาสำคัญ แม้ว่าหลิงซีจะมีคำถามมากมาย แต่เมื่อเห็นสายตาร้อนรนของหลงเฉิน นางจึงตัดสินใจเชื่อฟังอย่างว่าง่ายและเปลี่ยนร่างกลับเป็นกระบี่หลิงซี จากนั้นก็เสียบเข้าที่หูของหลงเฉิน
อย่างไรก็ตาม ร่างกายของหลงเฉินแข็งแกร่งผิดปกติ แม้แต่ความแหลมคมของกระบี่หลิงซี นางยังต้องใช้ความพยายามอย่างมากที่จะแทงทะลุเกล็ดเหล่านั้นเข้าไป
หลงเฉินวิ่งออกไปโดยไม่พูดอะไร ภายนอกเป็นเวลาดึกดื่นแล้ว และร่างกายของเขาก็คละคลุ้งไปด้วยกลิ่นคาวเลือดอย่างรุนแรง อย่างไรก็ตาม เลือดนั้นแฝงไปด้วยคลื่นพลังอำนาจแห่งบรรพกาล ทำให้สัตว์อสูรตัวเล็ก ๆ อยู่ในละแวกนั้นต่างตัวสั่นขึ้นมาอย่างไร้เหตุผล
หลงเฉินมุ่งหน้าลึกเข้าไปในภูเขาเดียวดาย และหลังจากเดินมาพักหนึ่ง หลิงซีก็เอ่ยขึ้น
“มีถ้ำอยู่ข้างหน้าพวกเรา ข้าสัมผัสได้ว่าตรงนั้นมีสัตว์ที่มีพลังปราณอาศัยอยู่ข้างใน แต่ดูเหมือนว่าพวกมันทุกตัวจะเป็นสัตว์อสูรระดับอำพันขั้นห้า เจ้า...”
ก่อนที่หลิงซีจะพูดจบ ร่างของหลงเฉินก็พุ่งไปทางถ้ำแห่งนั้นแล้ว กลิ่นของอาหารที่อยู่ข้างหน้ากลายเป็นสิ่งเดียวชัดเจนอย่างยิ่งสำหรับเขา
ถ้ำใต้ดินนั้นอับชื้นมาก และกลิ่นคาวเลือดก็ตลบอบอวลอย่างรุนแรง ซากศพและกระดูกมีให้เห็นตลอดทาง เพียงชั่วครู่ หลงเฉินก็มาถึงถ้ำชั้นใต้ดิน
พื้นที่ภายในถ้ำนั้นกว้างใหญ่มาก และด้านล่างเป็นบ่อโคลนสีดำสนิท กลิ่นเน่าเหม็นลอยคลุ้งออกมาจากบ่อ แต่หลงเฉินก็ไม่ทันได้สังเกต
ไม่ไกลจากเท้าของเขาคือบ่อโคลน และในตอนนี้ ร่างสีแดงดุจเลือดร่างหนึ่งก็ค่อย ๆ โผล่หัวออกมาจากบ่อโคลนนั้น ดวงตาสีแดงเข้มจดจ้องอย่างเยือกเย็นไปยังหลงเฉินที่กำลังพุ่งตัวเข้าไป
“นั่นมัน... กิ้งก่าโลหิตใต้ดิน”
คลื่นพลังที่เปล่งออกมาจากร่างของหลงเฉินนั้นแตกต่างไปจากเดิมอย่างมาก และเขาก็ค้นพบว่าภายในถ้ำนั้นมีจุดสีแดงขนาดใหญ่เริ่มส่องสว่างขึ้นราวกับตะเกียงนับไม่ถ้วนในยามรัตติกาล อย่างไรก็ตาม ตะเกียงเหล่านี้ทำให้รู้สึกถึงอำนาจและเลือด
ด้วยเสียงพุ่งโฉบเพียงวูบเดียว หลงเฉินก็สัมผัสได้ว่ากิ้งก่าโลหิตที่ใกล้ที่สุดกำลังพุ่งเข้าหาเขา และกลิ่นเหม็นเน่าก็มาจากร่างกายของมันนั่นเอง
เขาสังเกตว่ากิ้งก่าโลหิตใต้ดินเองก็มีเกล็ดสีแดงเลือดและกระดูกแหลมตามร่างกาย รูปร่างของมันคล้ายคลึงกับร่างกายของหลงเฉินในตอนนี้ อย่างไรก็ตาม เกล็ดของมันหนา สกปรก และผิดปกติ เขาแหลมของมันก็โค้งงอ เมื่อเทียบกับหลงเฉินในแง่ของความงดงามแล้ว นับว่าแตกต่างอยู่มากโข
หลงเฉินไม่ได้สนใจเท่าใดนัก เมื่อกิ้งก่าโลหิตพุ่งเข้าใส่เขา ดูเหมือนร่างกายขนาดใหญ่ของมันกำลังจะชนเขา หากเป็นเขาในอดีต หลงเฉินจะต้องใช้ทักษะการต่อสู้ในการทำลายกิ้งก่า แต่ในตอนนี้ เขากลับไม่ทำเช่นนั้น
เขารู้สึกราวกับว่าเลือดภายในตัวทั้งหมดกำลังเดือดพล่าน แม้ว่ากิ้งก่าโลหิตจะสกปรก แต่ความคิดวิปริตของหลงเฉินกลับมองว่ามันเป็นอาหารอันโอชะ
เขากระโดดเข้าใส่เงาสีแดงนั้น ในครู่ต่อมา แขนของเขาก็พุ่งเสียบเข้าไปกลางอกและคว้าหัวใจของมันไว้!
********************
ติดตามตอนอื่น ๆ ได้ที่ : novelrealm