ตอนที่ 21 หมัดปีศาจวายุเก้าดัชนี
ติดตามตอนอื่น ๆ ได้ที่ : novelrealm
เด็กสาวตระกูลหยางในตลาดจอมยุทธ์จะต้องเป็นหยางหลิงชิงอย่างแน่นอน
หยางหลิงชิงดีต่อหลงเฉินมาก และหลงเฉินเองก็ปฏิบัติต่อนางในฐานะญาติแท้ ๆ เมื่อคิดว่านางอาจโดนกลั่นแกล้ง หลงเฉินก็ไม่พูดพล่ามและรีบรุดไปยังต้นทางของเสียงทันที
เสียงเมื่อครู่ น่าจะเป็นเพลงหมัดดาวตกของหยางหลิงชิง ลูกหลานจากตระกูลไป๋และตระกูลหยางมักจะไม่ยุ่งเกี่ยวกัน อย่างไรก็ตาม หยางหลิงชิงถึงกับใช้หมัดดาวตก ซึ่งหมายความว่านางกำลังโกรธมาก
หลงเฉินเห็นคนกลุ่มใหญ่มุงดูอยู่เบื้องหน้าจากระยะไกล มียอดฝีมืออยู่ในกลุ่มนั้นจำนวนหนึ่ง แต่ไม่มีใครกล้าเข้าไปห้ามการทะเลาะวิวาท แม้ว่าพวกเขาจะมีพลังมากพอ แต่พวกเขาจะกล้าเข้าไปยุ่งกับความขัดแย้งระหว่างลูกหลานตระกูลไป๋และตระกูลหยางได้อย่างไร? พวกเขาจะไม่กลัวกับผลที่ตามมาอย่างนั้นหรือ?
หลงเฉินไม่กลัวว่าผู้คนที่เขาผลักออกไปให้พ้นทางจะรู้สึกไม่พอใจ และเป็นจริงดังว่า หยางหลิงชิงกำลังสู้อยู่กับหญิงสาวรูปงามน่าหลงใหลผู้หนึ่ง แต่ดูเหมือนหยางหลิงชิงเป็นฝ่ายเสียเปรียบ และกำลังพ่ายแพ้
ด้านข้างหลงเฉิน ชายวัยกลางคน 2 คนกำลังพูดคุยกัน พวกเขาคงเป็นเจ้าของร้านค้าในบริเวณนั้น
“หยางหลิงชิงจากตระกูลหยางนี่ช่างเก่งกาจจริง ๆ แต่ไป๋จื้อซิงจากตระกูลไป๋มีอายุมากกว่าเล็กน้อย และยังบรรลุขอบเขตชีพจรมังกรขั้นหกแล้วด้วย นางจึงเหนือกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย”
“พวกนางมีพลังต่างกัน 1 ระดับ หยางหลิงชิงรับมือได้นานขนาดนี้ก็ดีมากแล้ว”
“ตระกูลไป๋และตระกูลหยางมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาโดยตลอด ทำไมจู่ ๆ แม่นางทั้งสองถึงมาสู้กันได้ล่ะ?”
“ข้าก็มิทราบได้ ตอนที่ข้ามาถึง พวกนางก็สู้กันแล้ว”
"บางที อาจจะเกี่ยวกับการบริหารบ้านเมืองก็ได้ ข้าคิดว่าอำนาจในเมืองพฤกษาหมอกกำลังเปลี่ยนแปลงไปเสียแล้ว ... "
หลงเฉินไม่พูดอะไร เขารีบรุดไปยังที่เกิดเหตุ ขณะที่เขากำลังจะลงมือ เขาก็ได้ยินเสียงที่ตื่นเต้นของหลิงซี
“นี่ ... เจ้าเห็นเด็กหนุ่มผู้นั้นรึเปล่า? ในกระเป๋าที่เอวของเขามีหญ้าวิญญาณนิมิตอยู่ มันเป็นสมุนไพรระดับอำพันขั้นกลางและสามารถบำรุงวิญญาณได้นะ!”
ขณะที่หลงเฉินกำลังวิ่ง สายตาของเขาก็เหลือบไปเห็นเด็กหนุ่มผู้นั้น เพราะเขายืนอยู่ข้างหลัง ไม่ไกลจากไป๋จื้อซิงแห่งตระกูลไป๋
“เขาคือผู้ที่บรรลุขอบเขตชีพจรมังกรขั้นหกอีกคนหนึ่งของตระกูลไป๋ ไป๋ซื่อตง งั้นรึ?”
ช่างเป็นเรื่องบังเอิญเมื่อสิ่งที่เขาปรารถนาอยู่กับเด็กหนุ่มคนนั้น
แม้จะไม่ใช่เพราะหญ้าวิญญาณนิมิต แต่หลงเฉินก็จะเข้าไปแทรกแซงการทะเลาะวิวาทในวันนี้อย่างแน่นอน
การกระทำของเขาทำให้ทุกคนต่างหันมามองด้วยความตกตะลึง
“นั่น... นั่นคือบุตรชายของนายหญิงลำดับ 3 ของตระกูลหยางนี่ ผู้ที่เป็นต้นเหตุของความโกลาหลในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ข้าได้ยินมาว่าเขาบรรลุขอบเขตชีพจรมังกรขั้นห้าแล้ว อย่างไรก็ตาม ฝีมือของเขาก็ยังห่างชั้นกับเด็กทั้งสองจากตระกูลไป๋อยู่ดี”
“แต่ดูเหมือนว่าก่อนหน้านี้ เขาจะเอาชนะหยางหลิงเยวี่ยที่บรรลุขอบเขตชีพจรมังกรขั้นหกได้ด้วยนะ”
“แล้วอย่างไร? ข้าได้ยินมาว่าเขาใช้ลูกไม้สกปรกเพื่อเอาชนะหยางหลิงเยวี่ย ความจริงแล้วเขาไม่ได้แข็งแกร่งขนาดนั้นหรอก!”
ชายวัยกลางคนทั้งสองสนทนากันต่อไป พวกเขามองหลงเฉินโดยไม่ละสายตา เพื่อรอดูว่าหลงเฉินจะทำเช่นไรต่อไป
เพราะอย่างไรเสีย คู่ต่อสู้ทั้งสองต่างก็บรรลุขอบเขตชีพจรมังกรขั้นหก ส่วนตัวเขาเพิ่งจะบรรลุเพียงขั้นห้า แต่กลับหาญกล้าเข้าร่วมการต่อสู้
ในตอนนี้ หากเกราะดาราจรัสแสงและพลังปราณของขอบเขตชีพจรมังกรขั้นห้าของหลงเฉินปะทุขึ้น ปราณของเขาก็ยังด้อยกว่าคู่ต่อสู้ทั้งสองที่บรรลุขอบเขตชีพจรมังกรขั้นหกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และช่องว่างนั้นก็สามารถเติมเต็มได้ด้วยเกราะดาราจรัสแสง
แสงดาวจาง ๆ แทรกซึมผ่านผิวกายของเขา ความรู้สึกของคลื่นพลังดวงดาวที่คุ้นเคยนี้ หยางหลิงชิงรู้ว่าในที่สุดหลงเฉินก็มาถึง
ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความเศร้าโศก ความขุ่นเคือง และไม่เต็มใจ เพราะคู่ต่อสู้ของนางมีพลังที่จะเอาชนะนางได้อย่างสมบูรณ์ ในตอนนี้ ฝ่ายตรงข้ามเพียงต้องการทำให้นางขายหน้าเท่านั้น
ทันใดนั้นเอง นางรู้สึกถึงพลังรุนแรงที่เกิดขึ้นกับร่างกายเมื่อนางถูกหลงเฉินดึงกลับมา เวลานี้ หลงเฉินกำลังเผชิญหน้ากับไป๋จื้อชิงโดยตรง ไป๋จื้อซิงผู้งดงามน่าหลงใหลและกำลังกลั่นแกล้งหยางหลิงชิงอย่างสนุกสนาน นางไม่คิดว่าจู่ ๆ จะมีชายหนุ่มปรากฏตัวขึ้นเบื้องหน้า จึงได้ถอยหลังออกไปหลายก้าวด้วยความตกใจ
ทั้งสองฝ่ายจึงแยกออกจากกัน
หยางหลิงชิงทำหน้าบูดบึ้งและมองหลงเฉิน เขาเห็นว่านางกำลังจะร้องไห้
“เกิดอะไรขึ้น?”
หยางหลิงชิงมองไป๋จื้อชิงด้วยความรังเกียจ นางกัดฟันแน่น
“ข้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม แต่ตอนที่นางเห็นข้า นางก็พูดจาเหยียดหยามข้า จนในที่สุด ข้าก็ทนไม่ไหวและลืมสิ่งที่ท่านปู่เตือนเอาไว้...”
หากแม้แต่ผู้ที่อารมณ์ดีอยู่เสมออย่างหยางหลิงชิงยังไม่สามารถทนได้ ถ้อยคำที่ไป๋จื้อชิงใช้จะต้องร้ายกาจมากแน่ ๆ
“นางเหยียดหยามเจ้างั้นรึ? นางคิดว่าจู่ ๆ ก็จะมากลั่นแกล้งน้องสาวข้าได้รึอย่างไร ...?”
หลงเฉินมองไป๋จื้อซิงด้วยสายตาดุดัน
“น้องหลิงชิง เจ้าพูดอะไรของเจ้าน่ะ? ข้าเพียงแค่พูดคุยกับเจ้านิดหน่อยเท่านั้นเอง ก่อนที่เจ้าจะโจมตีข้า ข้าเองก็อยากจะถามเจ้าเหมือนกันว่าทำไม ทำไมเจ้าถึงบอกว่าข้าเหยียดหยามเจ้าล่ะ?”
สายตาของหลงเฉินทำให้อีกฝ่ายหวาดกลัว อย่างไรก็ตาม เมื่อนางรู้ถึงพลังของของหลงเฉิน ในที่สุด นางก็รวบรวมความกล้าและแสร้งทำเป็นไร้เดียงสา
หลงเฉินรังเกียจผู้หญิงเช่นนี้ พวกปฏิเสธที่จะยอมรับในสิ่งที่ตนเองกล้าทำ แม้ว่านางจะดูไร้เดียงสา แต่จิตใจของนางกลับชั่วร้าย นางคงทำเป็นเพียงปฏิเสธเรื่องแย่ ๆ ที่ตนทำด้วยการแสร้งทำตัวน่าสงสาร
เมื่อไม่มีฝ่ายใดได้รับบาดเจ็บ ดังนั้นเรื่องก็ควรจะจบลงได้แล้ว แต่อย่างไรก็ตาม หลงเฉินต้องการหญ้าวิญญาณนิมิต และในตอนนี้เขามีข้ออ้างแล้ว เขาย่อมไม่ปล่อยมันไปอย่างแน่นอน
เขาตบไหล่หยางหลิงชิง
“หลิงชิง ข้าก็เป็นญาติเจ้ามาหลายปี แต่ข้ากลับไม่เคยทำอะไรเพื่อเจ้าเลย วันนี้คอยดูให้ดีล่ะ”
หยางหลิงชิงเข้าใจสิ่งที่หลงเฉินพูดในทันที ฝ่ายตรงข้ามก็เช่นกัน พวกเขามองมาที่หลงเฉินราวกับมองคนปัญญาอ่อน
หยางหลิงชิงจับแขนเขาไว้ด้วยความกระวนกระวาย และห้ามเขาไว้
“อย่าเลย ลืมเรื่องวันนี้ไปเสียเถอะ ท่านปู่ห้ามไม่ให้เรามีเรื่องบาดหมางกับคนตระกูลไป๋ ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาทั้งสองก็บรรลุขอบเขตชีพจรมังกรขั้นหกแล้ว ส่วนพวกเรา...”
หลงเฉินหัวเราะและดึงมือหยางหลิงชิงออกอย่างอ่อนโยน ความมุ่งมั่นในดวงตาของเขาทำให้หยางหลิงชิงไขว้เขวเล็กน้อย และในตอนนี้ หลงเฉินก็ได้เดินเข้าไปในสนามรบแล้ว
เมื่อเห็นว่าหลงเฉินไม่กลัวตาย ผู้คนรอบข้างจึงต่างถกเถียงกันและเยาะเย้ยเขา
ชายวัยกลางคนก่อนหน้านี้มองหลงเฉินด้วยความตกใจ
“เด็กนี่ใจกล้าไม่เลว แต่หุนหันพลันแล่นเกินไป”
“จริงด้วย คนบ้าระห่ำเช่นนี้มักจะพบกับชะตากรรมที่น่าเศร้า หากรู้จักข่มใจสักหน่อย วันหนึ่งก็จะสามารถผงาดขึ้นมาได้ นั่นต่างหากคือวิธีที่ถูกต้อง”
สำหรับไป๋จื้อซิงและไป๋ซื่อตง เมื่อรู้ว่าหลงเฉินไม่ยอมหยุด พวกเขาก็พ่นลมอย่างดูถูก และกำลังจะเอ่ยวาจาเยาะเย้ย พวกเขาไม่รู้เลยว่าหลงเฉินไม่ปล่อยให้พวกเขามีโอกาสทำเช่นนั้น ขณะที่เขาเดินออกไป สีหน้าของเขาดุดัน เขาถีบตัวจากพื้นอย่างรุนแรงและพุ่งตรงไปยังคนทั้งสองราวกับพายุหมุน จากการเคลื่อนไหวของเขา สามารถบอกได้ว่าเขาต้องการจัดการกับทั้งคู่ในเวลาเดียวกัน!
ฝูงชนแตกตื่นในทันที การกระทำของหลงเฉินทำให้พวกเขาสับสน แม้แต่ชายวัยกลางคนทั้งสองที่กำลังเอ่ยถึงเขาก็ยังมองหน้ากันด้วยความตกใจ
“เด็กคนนี้ ... เป็นคนพิลึกจริง ๆ แม้ว่าเขาจะมีปราณน้อยกว่า แต่ก็กล้าหาญไม่เบา ...”
ในตอนนี้ ไป๋จื้อซิงและไป๋ซื่อตงมองหน้ากัน ทั้งคู่เห็นความขบขันในสายตาของอีกฝ่าย ไป๋จื้อซิงเป็นคนก้าวร้าว ดังนั้นนางจึงลงมือด้วยการขัดขวางหลงเฉิน
ในตอนนี้ หลงเฉินพุ่งตัวไปด้านหน้าไป๋จื้อซิง ลมกระโชกแรงจับตัวหนาแน่นที่นิ้วมือ ก่อให้เกิดพายุกระหน่ำห่อหุ้มรอบนิ้วของเขาอย่างรวดเร็ว เสียงอันทรงพลังของปราณทำให้ไป๋จื้อซิงขมวดคิ้ว
นางหัวเราะอย่างเย็นชา พร้อมด้วยพลังปราณในร่างที่ปะทุขึ้น ด้วยพลังปราณอันทรงพลัง นางกำหมดขวาแน่นและเหวี่ยงหมัดออกไปก่อนที่หลงเฉินจะทันได้เข้าใกล้นาง พลังปราณรุนแรงนั้นถาโถมเข้าใส่หลงเฉิน และภายในปราณนั้น มีเงาหมัดจำนวนหนึ่งปรากฏให้เห็นได้อย่างเลือนราง
“หมัดปีศาจห้าทิศ!”
หลงเฉินเผชิญหน้ากับเงาหมัดทั้งห้า อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ เขายิ้มเยาะออกมา นิ้วมือของเขาเตรียมพร้อมที่จะปล่อยพลังออกไป พร้อมกันนั้นเอง ลมพายุขนาดใหญ่ที่สามารถถอนรากถอนโคนต้นไม้ได้ก็พุ่งเข้าใส่ไป๋จื้อซิง!
“หมัดปีศาจวายุเก้าดัชนี!”
“ดัชนีที่หนึ่ง เจาะจง!”
“ดัชนีที่สอง บุกทะลวง!”
“ดัชนีที่สาม เปลี่ยนแปลง!”
“ดัชนีที่สี่ กำจัด!”
สิ่งที่ทำให้ทุกคนประหลาดใจคือพลังอันรุนแรงที่หลงเฉินระเบิดออกมา ทำให้ไป๋จื้อซิงถอยหลังไปหลายก้าว หลงเฉินจู่โจมด้วยดัชนีทั้งห้าอย่างต่อเนื่อง จนหมัดปีศาจห้าทิศถูกทำลายและอันตรธานหายไปอย่างไร้ร่องรอย!
แม้ว่าไป๋จื้อซิงจะใช้พลังปราณทั้งหมดของนาง นางก็ยังตกใจกับกระบวนท่าของหลงเฉิน ด้วยโลหิตและพลังปราณที่กำลังพลุ่งพล่าน ใบหน้าของนางซีดเผือดขณะมองไปยังใบหน้าชั่วร้ายของหลงเฉินพร้อมกับอาการสั่นเทิ้มเล็กน้อย
หลงเฉินเป็นผู้ที่ไร้ความปรานีในทุกย่างก้าว คลื่นพลังอันบ้าคลั่งของเขาทำให้ทุกคนแทบหยุดหายใจ โดยเฉพาะหยางหลิงชิง นางรู้ดีว่าหลงเฉินฝึกเพลงหมัดดาวตกมาก่อน
“เขาไปฝึกวิชาปีศาจวายุเก้าดัชนีตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? และหมัดที่เขาใช้ก็น่าสะพรึงกลัวกว่าหมัดของพี่หลิงเยวี่ยเสียอีก? เขาใช้ดัชนีได้มากสุดเท่าใดกันนะ?”
ดวงตางดงามของหยางหลิงชิงจับจ้องไปที่หลงเฉิน เป็นเขาเองที่ช่วยนางไว้ในตอนนี้ ดังนั้นนางจึงมองหลงเฉินเหมือนกับเสาหลักที่คอยค้ำจุนนางไว้ ในเวลานี้ นางเห็นแววตาที่มุ่งมั่นของหลงเฉิน ในที่สุดนางก็เข้าในคำพูดของเขาก่อนหน้านี้ ที่ว่า
‘...หลิงชิง ข้าเป็นญาติเจ้ามาหลายปี แต่ข้ากลับไม่เคยทำอะไรเพื่อเจ้าเลย วันนี้คอยดูให้ดีล่ะ…’
ถ้อยคำเหล่านี้ดังก้องอยู่ในใจของหยางหลิงชิง
เมื่อเห็นหลงเฉินใช้หมัดปีศาจวายุเก้าดัชนีอย่างต่อเนื่องจนทำให้ใบหน้าของไป๋จื้อซิงซีดเผือด หยางหลิงชิงก็รู้สึกโล่งอก ดวงตาของนางแดงก่ำเล็กน้อยเพราะนางปฏิบัติต่อหลงเฉินเช่นเดียวกับพี่ชายคนหนึ่ง แม้แต่หยางจ้านก็คงไม่สู้เพื่อนางถึงเพียงนี้
อย่างไรก็ตาม ที่หลงเฉินต่อสู้อย่างหนัก ส่วนหนึ่งก็เพื่อนาง และเพราะเขาต้องการหญ้าวิญญาณนิมิตด้วยเช่นกัน
หลงเฉินตะโกนลั่น ดัชนีของเขาพุ่งออกมาราวกับพายุ!
“ดัชนีที่แปด จักรวาลล่มสลาย!”
ไป๋จื้อซิงใช้แขนของนางป้องกันตัว แต่เมื่อพลังที่บ้าคลั่งปะทะเข้าที่แขนของนาง เสื้อผ้าที่ปกคลุมบริเวณแขนถึงกับขาดวิ่นออก ในขณะเดียวกัน นางกรีดร้องอย่างน่าสมเพชและกระอักเลือดออกมา
ไป๋จื้อซิงล้มลงไปต่อหน้าหลงเฉิน ตอนนั้นเอง ไป๋ซื่อตงก็เริ่มเคลื่อนไหวในที่สุด จากที่เคยมีสีหน้าเหลือเชื่อ กลับแปรเปลี่ยนเป็นความเกรี้ยวกราดในทันที
เขายืนอยู่ด้านหลังไป๋จื้อซิงไม่ถึงหนึ่งเชียะ เมื่อเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขากำลังจะปลดปล่อยพลังปราณออกมาและสู้กับหลงเฉินอย่างเอาเป็นเอาตาย หลังจากที่หลงเฉินเอาชนะไป๋จื้อซิงได้ เขาก็ยังไม่หยุด เพราะเป้าหมายที่แท้จริงของเขาคือไป๋ซื่อตง ดัชนีที่เต็มไปด้วยลมพายุปรากฏขึ้นเบื้องหน้าไป๋ซื้อตงและพุ่งเข้าที่ศีรษะของเขา หากโดนเข้า เขาจะต้องสมองระเบิดออกมาอย่างแน่นอน
“ดัชนีที่เก้า โองการฟ้าดิน!”
การกระทำของหลงเฉินทำให้ฝูงชนเกิดความปั่นป่วน ทุกคนคิดว่าไป๋ซื่อตงไม่สามารถหลบการโจมตีของหลงเฉินได้อย่างแน่นอน
ไป๋ซื่อตงรู้ตัวว่าการโจมตีของหลงเฉินนั้นกะทันหันจนเกินไป แม้ว่าเขาจะปล่อยพลังปราณทั้งหมดออกมาและพยายามหลบเลี่ยง แต่เขาก็ไม่มีเวลาพอให้ทำเช่นนั้น!
เงามัจจุราชค่อย ๆ แผ่คลุมทัศนวิสัยของเขา เมื่อมองไปยังดัชนีที่พุ่งแทงเข้ามาราวกับดาบ ไป๋ซื่อตงก็รู้สึกราวกับทั่วทั้งร่างอ่อนแรงลง ขาทั้งสองข้างอ่อนยวบ และเป้ากางเกงเริ่มกลายเป็นสีเข้ม ดูเหมือนว่าเขาจะปัสสาวะรดตัวเอง …
เป้ากางเกงของไป๋ซื่อตงเปียกชุ่ม แต่ไม่มีใครกล้าหัวเราะเยาะเขาในตอนนี้ เพราะเมื่อกำลังเผชิญกับความตาย ไม่ว่าใครก็ปัสสาวะราดกันได้ทั้งนั้น …
อย่างไรก็ตาม การฆ่าไป๋ซื่อตงคงทำให้ทั้งเมืองพฤกษาหมอกต้องสั่นสะเทือนอย่างแน่นอน เมื่อฝูงชนที่มุงดูนึกถึงผลที่จะตามมา ปากคอของพวกเขาแห้งผาก
“เจ้าหมอนี่ ... เขาคิดอะไรอยู่กันแน่นะ?”
************************************
ติดตามตอนอื่น ๆ ได้ที่ : novelrealm