ตอนที่ 2 เสน่ห์ของคุณชายเฉี่ยนที่ได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง
ติดตามตอนอื่น ๆ ได้ที่ : novelrealm
* นิยายเรื่องนี้เป็นลิขสิทธิ์ของ Novel Kingdom (หจก.โนเวล คิงด้อม) *
**ไม่อนุญาตให้ดัดแปลง แก้ไขหรือเผยแพร่ก่อนได้รับอนุญาต หากฝ่าฝืนทาง หจก. จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด**
ณ คาบวิชาคำนวณสาขาวิชาการเงินห้อง 1...
หลินเฉี่ยนนั่งตัวตรง สายตาจับจ้องไปที่กระดานดำตรงหน้าสลับกับเลื่อนไปสบสายตาอาจารย์เป็นบางครั้ง ในมือจับปากกาและขีดเขียนขยุกขยิกช้าๆ ท่าทางของเธอดูราวกับเข้าใจในสิ่งที่อาจารย์พูดทุกอย่าง
“ได้คำตอบกันรึยัง?” อาจารย์กาวกวาดตามองไปรอบห้องก่อนจะหยุดลงที่สาวน้อยผมสั้นกุด “หลินเฉี่ยน ข้อนี้คำตอบคือเท่าไหร่?”
หลินเฉี่ยนยังคงนั่งเหม่อลอยในท่าเดิมคล้ายไม่ได้ยินเสียง
เพื่อนนักเรียนที่นั่งอยู่ด้านหน้าเห็นท่าทางของเธอก็แอบหัวเราะออกมา ในขณะที่อาจารย์ตะโกนเรียกชื่อเธอขึ้นมาอีกครั้ง “หลินเฉี่ยน!”
“คะ?!” หลินเฉี่ยนสะดุ้งพร้อมกับลุกขึ้นยืนด้วยความตกใจ
“คำตอบข้อนี้คือเท่าไหร่?”
หลินเฉี่ยนก้มหน้ามองสมุดจดของเธอก่อนจะพบว่ามันมีแต่คำว่า ‘คนชั่ว’ ถูกเขียนอยู่เต็มหน้ากระดาษ เธอจึงรีบหันไปมองสมุดของฉู่โม่เฟิงที่นั่งข้างๆ แต่ไอ้เพื่อนใจร้ายกลับไม่ยอมให้เธอดูคำตอบ หึ่ย!
อาจารย์กาวขยับแว่นบนหน้าก่อนที่จะพูดเสียงเข้ม “ไม่ต้องไปดูของคนอื่น ดูคำตอบของตัวเอง”
หลินเฉี่ยนเงยหน้าขึ้นสบตาอาจารย์ตรงๆ ก่อนตอบกลับไปว่า “หนูไม่รู้ค่ะอาจารย์”
“ไม่รู้? เมื่อกี้ครูอธิบายไปซะละเอียดขนาดนั้น หรือเธอไม่ได้ฟังที่ครูพูดเลย?”
“หนู...ฟังไม่เข้าใจน่ะค่ะ”
“ไม่เข้าใจ? มันยากขนาดนั้นเลยเหรอ? นี่มันเป็นความรู้พื้นฐานทั้งนั้น แถมครูก็เคยอธิบายไปไม่รู้ตั้งกี่ครั้งแล้วด้วย”
หลินเฉี่ยนมองอาจารย์ตาปริบๆ “เอ้า ถ้าหนูเข้าใจหมดแล้ว อาจารย์ก็ตกงานสิคะ”
ทันทีที่เธอพูดจบทั้งห้องก็ฮาครืน เสียงหัวเราะลั่นไปทั่ว
ปัง! เสียงตบโต๊ะดังขึ้นจากอาจารย์กาวผู้ไม่ขำด้วย ทั้งห้องเงียบเสียงในทันที อาจารย์เริ่มมีท่าทีหัวเสียพร้อมกับพูดอบรมยืดยาว “หลินเฉี่ยน! ความรู้ของเธอตอนนี้คิดว่าตัวเองจะสอบผ่านได้ยังไง? อีกไม่กี่วันก็จะสอบไฟนอลแล้ว เธอยังจะมานั่งใจลอยทำตัวเรื่อยเฉื่อย ฝันอะไรลมๆแล้งๆไปวันๆอีกเหรอ?”
“แล้วยังไงคะ? ถึงหนูจะนอนทั้งวันทั้งคืนมันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับอาจารย์สักหน่อย!” หลินเฉี่ยนเถียงกลับอย่างรวดเร็ว สาวห้าวเอามือสองข้างล้วงกระเป๋ากางเกงและยืนทิ้งน้ำหนักตัวไปบนขาซ้ายในขณะที่เท้าขวายื่นออกไปด้านหน้าอย่างหาเรื่อง ก่อนจะพูดตามไปอีกว่า “หนูก็เป็นของหนูแบบนี้ ทีตอนอาจารย์จะนอนหนูยังไม่เคยไปห้ามเลย!” ถึงแม้วาจาและท่าทางของเธอจะดูนักเลงแต่มันก็เท่ไม่หยอก แถมยังดูห้าวหาญกว่าผู้ชายที่ฮอตที่สุดในห้องอย่างฉู่โม่เฟิงซะอีก
“วู้วววววว” เสียงนักเรียนในห้องโห่ร้องตอบรับพร้อมกับทุบโต๊ะเชียร์ด้วยความสนุกสนาน จนทำให้อาจารย์โกรธมากยิ่งขึ้น
“เงียบเดี๋ยวนี้นะ!ส่วนเธอ...เลิกเรียนแล้วเรียกผู้ปกครองมาพบครูด้วย!” อาจารย์กาวชี้มาที่หลินเฉี่ยน
“ไม่ว่างค่ะ”
“ไม่มาก็ไม่ต้องกลับบ้าน!”
“ได้แบบนั้นก็ดีเลยค่ะ ขอบคุณมากนะคะอาจารย์”
“วู้วฮู้วววววววววๆๆๆ” เสียงของเพื่อนในห้องโห่ร้องถูกใจขึ้นมาอีกครั้ง
หลังจากเลิกเรียน หลินเฉี่ยนก็ถูกกักตัวอยู่ภายในห้องพักอาจารย์ โดยทั่วไปในฐานะนักศึกษาการถูกเรียกพบผู้ปกครองแน่นอนว่ามันถือเป็นเรื่องที่น่าอับอาย แต่สำหรับหลินเฉี่ยนแล้ว เธอไม่แน่ใจนักว่าควรจะอับอายดีหรือไม่—ไม่ใช่อายเพราะถูกเรียกพบผู้ปกครอง แต่เป็นเพราะเธอไม่มีผู้ปกครองคนใดให้เรียกพบได้เลยต่างหาก
ในมหาวิทยาลัย ฉายา ‘คุณชายเฉี่ยน’ เป็นที่รู้จักของคนจำนวนมาก ‘การเรียนไม่เอาไหน กิจกรรมไม่ได้เรื่อง ชอบก่อกวนชวนให้ปวดกระบาลไปวันๆ’ แถมยังตั้งอกตั้งใจก่อเรื่องอย่างสุดความสามารถ เธอถือว่าเป็นนักศึกษาที่สร้างความปวดหัวให้กับอาจารย์มากที่สุด เพราะนอกจากเธอจะไม่ตั้งใจเรียนแล้วยังส่งผลกระทบไปถึงเพื่อนคนอื่นๆด้วย
นี่ถ้าไม่ใช่เพราะว่าพ่อแท้ๆที่เธอไม่เคยเจอหน้าเลยมานานกว่าสิบปีจ่ายเงินบริจาคให้กับการก่อสร้างโรงยิมของมหาวิทยาลัย เธอคงไม่มีทางได้เข้ามาอยู่ในมหาวิทยาลัยแห่งนี้แน่ๆ
อาจารย์ที่ปรึกษาเห็นหน้าหลินเฉี่ยนก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมาในทันที “ยืนดีๆ แล้วก็ถอดต่างหูนั่นออกด้วย”
ทันทีที่ได้ยิน หลินเฉียนก็รีบ….ทำตรงกันข้ามทุกอย่าง “ไม่ค่ะ หนูสะดวกแบบนี้”
“ดูทำตัวเข้าสิ หัดดูตัวเองซะบ้าง ผู้หญิงก็ไม่ใช่ ผู้ชายก็ไม่เชิง!”
หลินเฉียนอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีฟ้าคู่กับกางเกงขายาวสีเข้มที่ชายเสื้อบางส่วนหลุดลุ่ยออกมานอกกางเกง ด้วยการแต่งกายแบบนี้บวกกับท่าทางห้าวเป้ง อีกทั้งที่ผมซอยจนสั้นกุดนั่นอีกจึงทำให้เธอดูไม่ได้ต่างอะไรกับผู้ชายแท้ๆเลย
“เธอเป็นเด็กผู้หญิงนะ ช่วยทำตัวให้มันดีๆให้เหมือนกับที่ผู้หญิงเขาทำกันหน่อยไม่ได้รึไง? ครูบอกให้ยืนให้ดีๆ!”
หลิวเฉี่ยนยังคงยืนกระดิกเท้าต่อไปอย่างท้าทายราวกับจะบอกว่า ก็หนูจะยืนแบบนี้ครูจะทำไม? ถึงแม้ว่ามันจะดูค่อนข้างหยาบคายแต่ก็ถือว่าเท่มากในสายตาวัยรุ่นทั่วไป
“เอาเบอร์พ่อเธอมา”
“ไม่ทราบค่ะ”
“ไม่ทราบ? แม้แต่เบอร์โทรศัพท์พ่อของตัวเองเธอยังไม่รู้เหรอ?”
“เหอะ อาจารย์ หนูยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าเขาเป็นใคร”
อาจารย์ที่ปรึกษาได้ยินคำพูดนั้นก็รู้สึกโกรธในขณะเดียวกันก็รู้สึกเจ็บปวดไปด้วย ตอนนี้เด็กคนนี้นับวันยิ่งควบคุมยากมากขึ้นทุกทีแล้ว “แล้วแม่ของเธอล่ะ?”
“ก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นอาจารย์ที่ปรึกษาก็ไม่อยากถามต่ออีก เพราะรู้ดีว่าหากถามต่อไปเด็กคนนี้คงจะสวนกลับมาว่า ‘หนูไม่มีทั้งพ่อทั้งแม่ ไม่มีใครดูแลหนูทั้งนั้นแหละ’
ความเวทนาทำให้อาจารย์ใจอ่อนก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างอ่อนอกอ่อนใจ “เฮ้อ...หลินเฉี่ยน...ครูต้องทำยังไงกับเธอดีเนี่ย? เธอดูคะแนนสอบของเธอสิ ไม่อยากจบเหรอ? ถ้าเป็นแบบนี้เงินที่บริจาคมาก็เหมือนกับเสียเปล่าเลยนะ”
มหาวิทยาลัยแห่งนี้มีการเรียนการสอนที่เข้มงวดมาก และไม่ว่าจะสอบเข้ามาด้วยวิธีการใดก็ตามแต่หากคะแนนสอบแย่เกินจะเยียวยาหรือทำผิดกฎของมหาลัยก็จะถูกไล่ออกทันที ซึ่งสำหรับหลินเฉี่ยนคนนี้เรียกได้ว่า มีครบทุกอย่าง จนอาจารย์ที่ปรึกษาเองก็หมดหนทางที่จะช่วยเหลือแล้วเช่นกัน
ในเวลานั้นเองฉู่โม่เฟิงก็ถือกองเอกสารเข้ามาในห้องพักอาจารย์ ในฐานะของรองประธานสภานักศึกษาจึงทำให้เขาโดดเด่นและดีเลิศในสายตาของทุกคน เขาเพียบพร้อมในทุกๆด้านและถูกยกย่องว่าเป็นนักศึกษาดีเด่น สามประการ—เรียนดี หน้าตาหล่อเหลา และมาจากครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ
หลินเฉี่ยนมองเขาด้วยสายตาโกรธเคืองเพราะเห็นว่าอีกฝ่ายเข้ามาแต่กลับไม่ได้ช่วยอะไรเธอได้เลย “อาจารย์ อย่าหว่านล้อมให้เสียเวลาเลย หนูรู้ว่าอาจารย์อยากจะพูดอะไร ครั้งหน้าหนูสัญญาจะไม่พูดจาต่อล้อต่อเถียงกับอาจารย์กาวอีก พอถึงคาบของอาจารย์กาวปุ๊บหนูจะรีบฟุบหลับทันทีเลย ตกลงไหมคะ?”
อาจารย์ที่ปรึกษาได้ยินเช่นนั้นก็ถอนหายใจครั้งที่ร้อยแปดก่อนจะพูดขึ้นว่า “ถ้าเธอทำแบบนั้นครูก็หมดปัญญาจะช่วยเธอแล้วนะ”
“ได้แบบนั้นก็เยี่ยมเลยค่ะ หนูเองก็ไม่อยากให้อาจารย์ต้องปวดหัวกับหนูอีกแล้ว” เธอเงยหน้าขึ้นมองเพดานก่อนที่จะผิวปากด้วยท่าทางสบายใจ ‘หึ ดูแลเรอะ มันก็คือการควบคุมดีๆนี่แหละ ไม่มีใครควบคุมข้าได้หรอก แล้วคนอย่างข้าก็จะไม่ยอมให้ใครมาควบคุมด้วย!’
...
หลังจากเดินออกมาจากห้องพักอาจารย์ หลินเฉี่ยนก็รีบมองหาเป้าหมายและในทันทีที่มองเห็นร่างสูงคุ้นตาเธอก็กระชับเป้บนหลังก่อนจะวิ่งหน้าตั้งพุ่งตัวลัดสนามหญ้า กองใบไม้แห้งที่ถูกกวาดรวมกันไว้ปลิวว่อนกระจัดกระจาย เธอเร่งความเร็วสูงสุดเพื่อไปดักหน้าไอ้คนใจร้าย—ฉู่โม่เฟิง ก่อนที่จะฟาดฝ่ามืออรหันต์เข้าใส่บ่ากว้างของอีกฝ่ายพร้อมกับแผดเสียงต่อว่าด้วยความโมโห “ฉู่โม่เฟิง! แกนี่โคตรใจดำเลย แค่คำตอบโจทย์เลขในห้องเรียนแค่นี้ก็ไม่ยอมให้ฉันดู!”
ฉู่โม่เฟิงที่มีความสูงร้อยแปดสิบห้าเซนติเมตรไม่ได้ก้มหน้าลงมามองหลินเฉี่ยนที่เตี้ยกว่าเลยสักนิด เขาเพียงแต่แลดูเธอผ่านหางตาพร้อมกับถามผ่านหัวเธอไปด้วยน้ำเสียงดูถูก “ทำไมฉันต้องให้เธอดูด้วย?”
“แม่ง! นี่คิดจะเปิดศึกกับฉันเหรอวะ?!” หลินเฉี่ยนโยนกระเป๋าเป้บนหลังทิ้งไปก่อนที่จะใช้ขาข้างหนึ่งก้าวขึ้นไปบนบันไดด้านข้างแล้วดีดตัวออกเพื่อกระโดดขึ้นไปเกาะหมับอยู่บนหลังของฉู่โม่เฟิง
“เฮ้ย ลงไปเดี๋ยวนี้นะ!” ฉู่โม่เฟิงพูดพร้อมกับพยายามสะบัดเอาปลิงตัวเขื่องที่เกาะหนึบอยู่บนหลังออกไป แต่ไม่ว่าจะสะบัดยังไงก็ไม่สามารถผลักเธอออกไปได้ “หลินเฉี่ยน นี่เธอเป็นหมาโบกปูนหรือไง ห๊ะ!”
“เออ! แถมฉันยังแข็งแรงมากด้วย”
หลินเฉี่ยนและฉู่โม่เฟิงเป็นเพื่อนเรียนร่วมห้องกันตั้งแต่มัธยม แม้ว่าทั้งสองจะดูไม่ลงรอยกันนักแต่พวกเขาก็รู้จักกันมานาน
เป็นเพราะฉู่โม่เฟิงเป็นหนุ่มป๊อปจึงทำให้เป็นที่หมายปองของสาวๆมากมาย และมักจะมีทั้งสาวรุ่นพี่รุ่นน้องเข้ามาสารภาพรักเขาอยู่เสมอ
ความจริงข้อหนึ่งที่ต้องยอมรับคือ ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยกับโรงเรียนมัธยมนั้นมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เพราะในมหา’ลัยการอยู่ต่างคณะกันก็เหมือนกับถูกภูเขาลูกนึงขวางกั้นเอาไว้ มันดูไกลลิบจนแทบจะมองอีกฝั่งไม่เห็น จึงไม่น่าแปลกใจที่ใครหลายคนจะคิดว่าเจ้าของฉายา ‘คุณชายเฉี่ยน’ เป็นผู้ชาย และแน่นอนว่าหลินเฉี่ยนเองก็ไม่ได้คิดที่จะไปแก้ไขความถูกต้องเรื่องพวกนั้นด้วย
และนั่นจึงทำให้หลินเฉี่ยนเองก็ป็อปปูลาร์อยู่ไม่น้อย แต่สิ่งที่แตกต่างกันก็คือเธอได้ความนิยมทั้งจากเพศชายและเพศหญิง ถ้าจะให้เธอพูดด้วยตัวเอง เธอก็คงจะบอกว่า ‘เสน่ห์อันล้นเหลือของเธอสามารถดึงดูดคนได้ทุกเพศ ฮ่าๆๆๆ’
ฉู่โม่เฟิงเองก็ไม่ได้คิดที่จะสะบัดเธอออกอย่างจริงจังนัก เพราะหากเขาคิดจะทำจริงๆก็ทำได้ไม่ยาก เขาค้อมตัวลงต่ำก่อนที่จะกระทืบเท้าพร้อมกับพูดด้วยท่าทางหัวเสีย “หลินเฉี่ยน เลิกยั่วโมโหฉันสักทีได้ไหม?”
“ฉันยั่วโมโหแกแล้วแกจะทำไม?” หลินเฉี่ยนใช้ขาทั้งสองข้างเกี่ยวเอวของฉู่โม่เฟิงไว้เพื่อให้ตัวเธอเกาะเขาแน่นขึ้นกว่าเดิม ยิ่งกว่านั้นยังใช้มือทั้งสองข้างยึดเสื้อตรงหน้าอกของคนตัวโตกว่าอย่างแน่นหนาพร้อมกับใช้แก้มนุ่มๆแนบกับแก้มของเขาก่อนที่จะพูดเสียงดังใกล้ๆหูเขาว่า “ฮ่าๆๆ ฉู่โม่เฟิง! พูดมาสิว่า แก-จะ-ทำอะไร-กับ-ฉัน!”
ฉู่โม่เฟิงชะงักไปเล็กน้อยก่อนที่จะใช้มือทั้งสองข้างจับมือของปลิงบนหลังแน่นคล้ายกับพยายามดึงมือเธอออกจากเสื้อของตัวเอง แต่แท้จริงแล้วนั่นเพื่อช่วยป้องกันไม่ให้เธอตกลงไปด้านล่าง ทันใดนั้นใบหน้าหล่อเหลาของคนตัวโตก็หันมาหาและมันใกล้จนลมหายใจอุ่นๆเป่ารดไปบนใบหน้านวล ก่อนเขาจะพูดว่า “ถ้าเธอยั่วโมโหฉัน ฉันจะ—”
“หลินเฉี่ยน ลงมาเดี๋ยวนี้นะ!” ยังไม่ทันที่ฉู่โม่เฟิงจะพูดจบ เสียงแหลมๆแสบแก้วหูก็ดังขัดจังหวะ ทั้งสองเงยหน้าขึ้นก่อนที่จะพบกับสายตาราวกับสัตว์ร้ายของหนานอินที่กำลังก้าวเข้ามาหา ที่ด้านหลังของเธอมีกลุ่มคนจำนวนหนึ่งเดินตามมาติดๆ
.
.
.
* นิยายเรื่องนี้เป็นลิขสิทธิ์ของ Novel Kingdom (หจก.โนเวล คิงด้อม) *
**ไม่อนุญาตให้ดัดแปลง แก้ไขหรือเผยแพร่ก่อนได้รับอนุญาต หากฝ่าฝืนทาง หจก. จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด**
ติดตามตอนอื่น ๆ ได้ที่ : novelrealm