ตอนที่แล้วตอนที่ 185 จอมตบหน้า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 187 กำเนิดบอสโลกตัวแรก

ตอนที่ 186 ปรมาจารย์เมนอสปรากฏอีกครั้ง


ตอนที่ 186 ปรมาจารย์เมนอสปรากฏอีกครั้ง

ณ ใจกลางห้องห้องทำงานของศจ.อลาสเตอร์ที่ถูกดัดแปลงให้มาเป็นพื้นที่ในการทดลองมนตราโบราณอย่างเวทมนต์เคลื่อนย้ายตำแหน่งที่ถูกทำลายไปโดยราชาปีศาจเดียโบเมื่อครั้งทำสงครามกับเหล่ามนุษย์ในอดีต ศจ.อลาสเตอร์พร้อมด้วยแม่มดขาวElunirบัดนี้ได้ใช้ความรู้และวิชาที่ได้ร่ำเรียนมาทั้งหมดในชีวิตของคนทั้งคู่ นำมาสร้างประตูมิติที่สลักมนตราและอักขระโบราณขนาดย่อมๆเอาไว้ที่ใจกลางห้องทำงานแห่งนี้

“นี้คงจะเป็นจอมเวทย์ฝึกหัดมาร์กี้ลูกศิษย์ของยัยแม่มดเฒ่าสินะ...ฮาฮ่า ช่างมีความละม้ายคล้ายคลึงกับอาจารย์ของเมื่อตอนวัยเยาว์เสียจริงๆ”

ศจ.อลาสเตอร์กล่าวทักทายกับเจสเปอร์และหิมะน้อยอย่างอบอุ่น ใบหน้าที่เคยบอบช้ำจากวันวานที่ต้องแบกผลพ่วงจากมนตราที่ไม่เสถียรเองก็ได้เลือนหายไปจากร่างจนหมดสิ้น

ซึ่งนั่นช่วยให้ ศจ.อลาสเตอร์ในเวลานี้ดูมีสง่าราศีที่น่าภูมิฐานสมกับที่เป็นผู้ดูแลสมาคมผู้ควบคุมธาตุประจำอาณาจักรกรีนเวต้าเหมือนอย่างวันแรกที่เจสเปอร์ได้รู้จัก

“ข้าได้เห็นท่านอาจารย์ยิ้มแย้มได้อีกครั้งศิษย์คนนี้ก็โล่งใจ แลละต้องขออภัยท่านอาจารย์ด้วยที่ศิษย์ไม่ได้ตอบรับคำเชิญแล้วรีบมาพบท่านตั้งแต่แรก”

“ไม่เป็นไรๆจะมาช้ามาเร็วนั่นไม่สำคัญ ขอเพียงเจ้าตั้งใจจะมา คนแก่ๆเช่นข้าก็ดีใจ”

ศจ.อลาสเตอร์ตบลงบนไหล่ของเจสเปอร์เบาๆด้วยความรักและเอ็นดูเหมือนลูกหลาน ก่อนที่จะเดินนำทั้งสองเข้ามาดูกับประตูมิติที่ถูกซ่อมแซมขึ้นใหม่ พร้อมกันนี้ก็ได้อธิบายอักขระต่างๆที่ศาสตราจารย์ได้เรียงร้อยเอาไว้ให้แก่เจสเปอร์ได้รับฟัง ซึ่งแน่นอนว่าหิมะน้อยมาร์กี้ ต่างงุนงงและสับสนไปหมด ไม่ใช่ว่าการเดินทางในครั้งนี้ของหัวหน้ากิลด์จะเป็นการออกไปเที่ยวเล่นหรอกเหรอ?

‘นี้มันไม่ต่างอะไรกับการเรียนประวัติศาสตร์และอักษรโบราณที่แสนจะน่าเบื่อไม่ใช่หรือไง!!’

อย่างไรก็ตามไม่ใช่แค่หิมะน้อยที่งุนงงสับสน ตัวเจสเปอร์เองก็ไม่เข้าใจถึงตัวอักษรตรงหน้าพวกนี้เช่นเดียวกัน ถึงเขาจะเป็นผู้ที่ย้อนเวลากลับมามีความรู้เกี่ยวกับเกมและเควสลับอยู่มากมายเต็มไปหมด แต่นั้นก็ไม่ได้แปลว่าตัวเขาจะเป็นผู้ที่รู้ทุกเรื่อง ซึ่งตัวอักษรและมนตราโบราณพวกนี้ก็เป็นหนึ่งในเรื่องที่เขาไม่รู้เช่นกัน...แต่เอ๊ะ!! บ้าน่า ฉันเข้าใจมันได้อย่างไร

เจสเปอร์ถึงกลับผงะและก้าวถอยหลังออกมาด้วยความแปลกใจ เมื่อจู่ๆตัวอักษรที่น่าฉงนสำหรับเขาอยู่ดีๆก็เกิดเข้าใจขึ้นมาไปเสียอย่างนั้น เหมือนกับว่ามีอะไรบางอย่างมาดลใจทำให้เขารับรู้ตัวอักษรตรงหน้านี้ได้อย่างถ่องแท้

‘วูมมม!!’

ภายในช่องเก็บของที่สวมใส่ติดตัวเจสเปอร์ ดาบอีเทอนัลวอร์เบลด ที่นอนหลับใหลได้ส่องประกายขึ้นที่ละน้อย เสมือนสัญญาณชีพของหัวใจที่เต้นเป็นจังหวะ ซึ่งแท้ที่จริงแล้ว สาเหตุที่เจสเปอร์รับรู้ตัวอักษรและอักขระมนตราโบราณตรงหน้านี้ได้ส่วนหนึ่งก็มาจากพลังที่เชื่อมโยงระหว่างตัวเขากับดาบเล่มนี้ที่เคยกลืนกินแร่ที่ใช้สำหรับสร้างประตูมิติอย่างแร่ Telelium พร้อมทั้งตัวผู้ประดิษฐ์อักขระเหล่านี้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน นอกเสียจากปรมาจารย์เมนอสและอริยตำนานทั้งหลายที่เคยพิทักษณ์โลก The Era เอาไว้นั่นเอง

“อักขระตรงจุดนี้มีบางอย่างผิดแปลกไป!! ท่านอาจารย์ศิษย์ขอแก้ไขมันได้หรือไม่?”แต่ยังไม่ทันที่ ศจ.อลาสเตอร์และแม่มดขาว Elunirจะอนุญาตให้ทำการแก้ไข เจสเปอร์ก็พลันหยิบดาบอีเทอนัลวอร์เบลดที่ส่องแสงวูบวาบขึ้นมาถืออยู่ในมือแล้ว

“ช้าก่อนศิษย์ข้า...เจ้าจะทำอะไร หยิบดาบขึ้นมาทำไม??!!”

เสียงของศาสตราจารย์ยังคงก้องกังวานอยู่ในหัวของเจสเปอร์อย่างต่อเนื่อง...แต่ทว่าชายหนุ่มกลับไม่สามารถควบคุมร่างกายของเขาและหยุดรั้งมันได้เลยแม้แต่น้อย เขารู้สึกตัว!! แต่ไม่อาจบังคับร่างกายของเขาในตอนนี้ได้ มันค่อยๆขยับไปเองนอกเหนือคำสั่ง คล้ายกับโดนสะกดหรือชักใย

‘หมวก VRของเขาเสียอย่างนั้นเหรอ?’

เจสเปอร์พยายามแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ทั้งพยายามออฟไลน์ฉุกเฉินหรือเปิดช่องหน้าต่างเพื่อกินน้ำยาล้างอาการผิดปกติที่เกิดขึ้น เพราะเขาไม่อยากให้อาการ *Bug ที่เกิดกับเขาในตอนนี้เป็นตัวทำลายมนตราระดับสูงที่ศจ.อลาสเตอร์ทุ่มเทอย่างหนักเพื่อสร้างสิ่งนี้ขึ้นมา

สุดท้ายกว่าที่เจสเปอร์จะกลับมาควบคุมตัวละครของเขาได้อีกครั้ง ทุกอย่างก็สายไปเสียแล้ว พร้อมกับสถานะที่เด้งกระพริบอยู่ 2-3 วินาที ก่อนจะดับวูบเป็นหน้าจอมืดเปล่าๆ

[ท่านสูญเสียพลังเวทมนต์ในตัวเกินขีดจำกัด ตัวละครของท่านเข้าสู่สภาวะจำศีลชั่วคราวเป็นเวลา 59.59 นาที เพื่อฟื้นฟูพลังเวทมนต์ให้กับสู่สภาพปกติ]

บังคับจำศีล!!’ การนอนหลับทั้งๆที่ตัวละครยังออนไลน์อยู่ ประหนึ่งการพักผ่อนและหลับนอนในโลก The Era Onlineที่ผู้เล่นส่วนมากมักใช้การพักผ่อนลักษณะนี้เพื่อคงสถานะออนไลน์เป็นต้น

แต่เขาเพิ่งกลับเข้าเกมมาได้ไม่นานค่าสถานะทุกอย่างล้วนสมบูรณ์พร้อม แล้วเหตุใดยังต้องจำศีล? ระหว่างที่เขาสูญเสียการควบคุมต้องเกิดเรื่องอะไรขึ้นอย่างแน่นอน!!

‘zZz!!’

เป็นเวลากว่า 1 ชั่วโมงที่เจสเปอร์ถูกระบบบังคับให้จำศีล...ชายหนุ่มตื่นขึ้นมาพร้อมกับค่าพลังเวทมนต์ที่เหลือเพียง 1 หน่วย ร่ายกายอ่อนเปลี้ยเพลียแรงเกินกว่าจะลุกขึ้นยื่นได้ไหว ซึ่งข้างๆตัวเขา มีเด็กน้อยตาใสนั่งเฝ้ามองอยู่ไม่ห่าง พร้อมทั้งตะโกนเรียกชื่อเขาอย่างต่อเนื่องเมื่อ ชายหนุ่มลืมตาตื่นขึ้น ‘พี่เจส!!ท่านอาจารย์...พี่เจสฟื้นแล้วคะ’

ไม่นานนัก NPC ศจ.อลาสเตอร์และแม่มดขาว Elunirก็รีบวิ่งเข้ามาดูอาการของเจสเปอร์ในทันที เป่าปากด้วยความโล่งใจเล็กน้อย ก่อนจะสอบถามอาการที่เกิดขึ้นเพื่อให้แน่ใจว่าศิษย์รักของตนปลอดภัยดี

“ท่านอาจารย์ข้าขอโทษที่ไปแตะต้องประตูมิติของท่าน…จนทำให้มันแปดเปื้อน”เจสเปอร์ก้มหน้าลงพลางรู้สึกผิดกับเรื่องที่เกิดขึ้น

“ขอโทษ…เจ้าไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวเจ้าอย่างนั้นเหรอ? เอ่อ...เรื่องนั้นช่างมันก่อนเถอะ ข้าและแม่มดขาวจะไปเอายาฟื้นพลังมาให้ ระหว่างนี้เจ้าก็ถามเรื่องที่เกิดขึ้นจากแม่หนูนี้เอาล่ะกัน”

เจสเปอร์มองออกในทันทีว่า NPCทั้งสองจงใจปิดบังเรื่องที่เกิดขึ้นเอาไว้ พวกเขาพยายามบ่ายเบี่ยงและโยนเรื่องนี้ให้กับหิมะน้อยเป็นคนอธิบาย ซึ่งคำตอบที่เจสเปอร์ได้ยินจากปากน้องสาวตัวน้อยคนนี้ก็ยิ่งทำให้เรื่องทั้งหมดยิ่งพิศวงเข้าไปใหญ่ เพราะการที่เจสเปอร์ควบคุมร่างกายของตนเองไม่ได้เกิดจากบัคตามที่เขาเข้าใจในตอนแรก แต่เป็นเพราะมีใครคนหนึ่งขอยืมร่างของเขาไปใช้นั่นเอง และคนๆนั้นก็คือ จิตส่วนหนึ่งของปรมาจารย์เมนอสที่ผนึกจิตวิญญาณไว้กับดาบอีเทอนัลวอร์เบลด เมื่อตอนส่งมอบดาบเล่มนี้ให้กับเขา

จิตที่ว่านี้เป็นเศษเสี้ยวที่เบาบาง มันอ่อนแอเสียจนไม่อาจทำอันตรายต่อสรรพสิ่งใดๆบนโลกนี้ได้ แต่เพราะด้วยพลังจากประตูมิติที่ผนึกอักขระโบราณที่ปรมาจารย์เป็นผู้คิดค้นได้แผ่กลิ่นอายมายังดาบให้ตื่นขึ้นเหมือนเมื่อครั้งที่เจสเปอร์ใช้ดาบเล่มนี้ซ่อมแซมมนตราไม่เสถียรเพื่อช่วย ศจ.อลาสเตอร์และแม่มดขาว Elunir ที่หายตัวไปหนก่อน ในครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน ทั้งแร่ Telelium ที่ดาบได้กลืนกิน ผสมโรงกับอักขระโบราณที่เกือบจะสมบูรณ์ได้ผลักดันให้จิตที่บอกบางของปรมาจารย์เมนอสได้ตื่นขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับช่วยแก้ไขเวทมนต์ที่ไม่สมบูรณ์นี้ให้ประจักษ์แก่สายตา ทั้งนี้ยังได้เน้นย้ำถึงภารกิจอันยิ่งใหญ่ที่จอมปีศาจเดียโบกำลังจะหลุดออกมาจากโลกแห่งความตายให้กับ NPC ทั้งสองได้รับรู้อีกด้วย

“ถึงประตูมิตินี้จะถูกปรับแต่งให้ใช้งานได้แล้วโดยเอ่อ...ท่านปรมาจารย์เมนอส แต่จุดเชื่อมโยงของประตูยังคงกระจัดกระจายจนไร้แก่นสาร จึงเป็นหน้าที่ของเราที่จะต้องเดินทางไปสร้างมนตราอาคมที่ปลายทางพิกัดเหล่านี้ตามคำบอกของท่านปรมาจารย์”

ศจ.อลาสเตอร์ยังคงดูเกร็งๆกับเจสเปอร์ที่ถูกปรมาจารย์เมนอสใช้ร่างของเขาเป็นสื่อเมื่อสักครู่อยู่เล็กน้อย

อย่างไรก็ตามสำหรับภารกิจที่ต้องเดินทางไปทั่วทั้งอาณาจักรเช่นนี้ก็ดูจะหนักหนาสาหัสเกินไปเสียหน่อย ถ้าต้องให้ผู้เล่นออกเดินทางด้วยรถม้าหรือเดินเท้าเปล่าเพื่อไปสร้างประตูมิติ ฉะนั้นแล้วก่อนที่เจสเปอร์จะสลบแล้วเข้าสู่สภาวะจำศีล ปรมาจารย์เมนอสยังได้ใช้พลังจากจิตวิญญาณอันอ่อนแอที่สิงสถิตย์อยู่ในดาบ ช่วยปลดผนึกพลังเวทย์ที่ดูดกลืนจากแร่ Teleliumให้เชื่อมกับประตูมิติบานนี้เป็นเฮือกสุดท้าย เพื่อใช้ส่งตัวเหล่านักเดินทางให้ไปถึงปลายทางที่เคยเป็นที่ตั้งของประตูบานก่อนในอดีต ก่อนที่มันจะถูกทำลายไปอีกด้วย

โดยพลังในการเคลื่อนย้าย(Warp Portal)ของดาบจะถูกจำกัดให้ใช้งานได้เพียง 1 ครั้ง ก่อนที่ดาบจะใช้เวลาในการคูลดาวน์เพื่อฟื้นคืนพลังนานถึง 5 วัน(ในเกม)ด้วยกัน ซึ่งเป้าหมายแรกที่ศจ.อลาสเตอร์และแม่มดขาว Elunirตัดสินใจที่เชื่อมประตูเป็นที่แรกนั้นก็คือเมืองอีรูไดซ์ หรือเมืองหลวงของอาณาจักรกรีนเวต้าที่มีสมาคมจอมเวทย์และผู้ควบคุมธาตุตั้งอยู่ประจำเมืองด้วยนั้นเอง

“ในเมื่อทุกอย่างพร้อมแล้วก็เริ่มลงมือได้เลย!!” ศจ.อลาสเตอร์ แม่มดขาวElunir หิมะน้อยและเจสเปอร์ต่างเขยิบเข้ามาใกล้กับปากประตูมิติด้วยท่าทีระมัดระวัง

‘ปึกก!!’

‘วูบบบบบ!!’

เจสเปอร์ค่อยๆปักดาบอีเทอนัลวอร์เบลดในมือของเขาลงที่ใจกลางวงเวทย์อามคมที่ถูกสลัก...ประกายจากดาบถูกถ่ายพลังลงสู่ใจกลางวงเวทย์จนเกิดแสงสะท้อนเจิดจ้าขึ้นกระทบกับดวงตาจนพล่ามัว

‘ติ้ง!!’

[โปรดเลือกพิกัดที่หมายในการเคลื่อนย้าย]

[ระบบตรวจเช็คว่าท่านยังไม่มีพิกัดที่บันทึกเอาไว้]

[กรุณาเลือกที่หมายจากค่ากำหนดเดิม: เมืองอีรูไดซ์]

‘วูบบบบ!!’

เมื่อเจสเปอร์ได้กดเลือกที่หมายเป็นที่เรียบร้อย ตัวเขาและคนอื่นรอบข้างก็เหมือนถูกพลังอะไรบางอย่างดูดกลืนเข้าไปในวงเวทย์ด้วยความรุนแรง สิ่งแวดล้อมภายนอกเคลื่อนผ่านไปอย่างรวดเร็ว จนไม่สามารถที่จะจับโฟกัสได้เลยว่าที่แห่งนั้นคืออะไร...?

เพียงพริบตาเดียวทุกอย่างก็พลันหยุดนิ่ง หิมะน้อยที่กำมือพี่ชายของเธอเอาไว้แน่น ค่อยคลายมือออกอย่างช้าๆ ก่อนจะร้องตะโกนด้วยเสียงเจื้อยแจ้วเล็กๆของเธอ ด้วยความสงสัย…ใจกลางป่าเขาเช่นนี้คือเมืองหลวงอีรูไดซ์ที่เจริญแล้วอย่างนั้นเหรอ? ประตูมิติต้องส่งพวกเขามาผิดอย่างแน่นอน?

“ไม่หรอกที่นี้แหละถูกแล้ว...เมืองอีรูไดซ์!!”

เป็นศจ.อลาสเตอร์เองที่ออกมายืนยันว่าพื้นที่ใจกลางป่าเขาแห่งนี้คือเมืองอีรูไดซ์ แต่เป็นหมู่บ้านอีรูไดซ์เดิมก่อนที่จะถูกสร้างขึ้นเป็นเมือง...ซึ่งประตูมิติที่เคยถูกทำลายไปเมื่อตอนสงครามแท้ที่จริงแล้วก็ตั้งอยู่ตรงที่พวกเขาทั้ง 4 ยืนอยู่นั่นเอง

ผนวกกับที่ 2 NPC เคยผลัดลงจากมนตราไม่เสถียรคราวก่อน ก็พอจะยืนยันได้ส่วนหนึ่งแล้วว่าพวกเขาทั้ง 4 คนได้ถูกส่งมายังตำแหน่งที่ถูกต้องแล้ว

...โปรดติดตามตอนต่อไป...

Bug คือ จุดบกพร่องหรือความผิดพลาดในโปรแกรมคอมพิวเตอร์ นอกจากปัญหาเกี่ยวกับโปรแกรมแล้ว อาจเป็นปัญหาเกี่ยวกับตัวเครื่องก็ได้ บางทีคนเขียนโปรแกรมอาจจงใจทำไว้ หรืออาจไม่ได้ตั้งใจก็ได้ เมื่อเกิด bug ในโปรแกรมขึ้นมามักจะสร้างปัญหากวนใจให้กับผู้พบเจอเป็นอย่างมาก

เข้าไปร่วมพูดคุยกับไรท์หรือสมาชิกนักอ่านคนอื่นๆได้ที่แฟนเพจตามลิงค์ด้านล่างเลยนะครับ

www.facebook.com/writelazy

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด