ตอนที่แล้วตอนที่ 16 ปีศาจวายุเก้าดัชนี
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 18 ผนึกมังกร

ตอนที่ 17 เหยียดหยาม


ติดตามตอนอื่น ๆ ได้ที่ : novelrealm

การกระทำของหลงเฉินสร้างความสับสนวุ่นวายขึ้นในฝูงชน  ทุกอย่างเกิดขึ้นในชั่วพริบตา กระบวนท่าปีศาจวายุเก้าดัชนีที่รุนแรงของหยางหลิงเยวี่ยปะทะเข้ากับร่างของหลงเฉินในการโจมตีเพียงครั้งเดียว  ด้วยปราณอันทรงพลัง ทุกครั้งที่นางโจมตีหลงเฉิน เสื้อผ้าของเขาจะฉีกขาด พร้อมกับเลือดสด ๆ ไหลทะลักออกจากปาก!

 

เมื่อเกิดเหตุการณ์อย่างกะทันหัน คนตระกูลหยางทั้งหมดจึงยืนขึ้น สีหน้าของพวกเขาต่างกระวนกระวายใจ โดยเฉพาะหยางเสวี่ยชิง  สีหน้าของนางซีดเผือด นางกุมที่วางแขนเก้าอี้ไว้แน่นจนมันแตกเป็นเสี่ยง ๆ

 

แม้แต่หยางหลิงชิงเองก็หน้าถอดสีและรีบรุดมายังลานประลอง!

 

“หยุดนะ! พี่หลิงเยวี่ย!”

 

วินาทีที่กระบวนท่าปีศาจวายุเก้าดัชนีปรากฏขึ้น เขาจะหยุดมันได้อย่างไร? ผู้นำตระกูลหยางกำลังจะเตรียมรับมือ แต่แล้วเขาก็มองเห็นสายตาของหลงเฉิน!

 

หลงเฉินจ้องเขม็งไปที่หยางหลิงเยวี่ย เลือดยังคงไหลออกมาจากปากอย่างต่อเนื่อง  แต่สายตาของเขายังคงลุกโชน ทำให้ผู้นำตระกูลหยางรู้สึกตกใจ

 

นี่เป็นสีหน้าที่เด็ดเดี่ยวที่สุดที่เขาเคยเห็นในชีวิต!

 

เกรี้ยวกราด! สู้ไม่ถอย! หยิ่งยโส! บ้าระห่ำ! โหดเหี้ยม!

 

เหล่านี้คือสิ่งที่เขาเห็นในดวงตาของหลงเฉิน  แม้ว่าตัวเขาเองจะมีฝีมือกล้าแกร่งกว่าหลงเฉินมาก แต่สายตาเช่นนี้กลับทำให้เขารู้สึกสั่นเทิ้มในหัวใจด้วยความกลัว

 

“หากเด็กคนนี้เติบโตขึ้น... ด้วยภาวะจิตใจของเขาในตอนนี้... ช่างน่าเหลือเชื่อจริง ๆ!”

 

หากผู้นำตระกูลหยางไม่ลงมือ ก็ไม่มีใครกล้าทำอะไร  แต่ในตอนนี้ หยางเสวี่ยชิงก้าวออกมาข้างหน้า แต่ถูกผู้นำตระกูลหยางห้ามไว้

 

ไม่มีใครสังเกตเห็นการกระทำของหยางเสวี่ยชิง แม้แต่นางเองก็ไม่รู้ตัว

 

เมื่อทุกคนคิดว่าหลงเฉินต้องตายแน่แล้ว  ทันใดนั้น เมื่อหยางหลิงเยวี่ยใช้พลังถึงขีดจำกัด และดัชนีที่ 7 ของกระบวนท่าปีศาจวายุเก้าดัชนีก็ปะทะเข้ากับร่างของหลงเฉิน ทันใดนั้น เขาคำรามออกมาอย่างบ้าคลั่ง และเหวี่ยงหมัดออกไป

 

หลังจากใช้กระบวนท่าปีศาจวายุเก้าดัชนี  หยางหลิงเยวี่ยที่อ่อนล้าและหวาดกลัว ก็ถูกหมัดของหลงเฉินต่อยเข้าที่ท้อง นางกรีดร้องออกมาอย่างน่าสมเพช และกระเด็นออกจากลานประลองจนกระแทกลงกับพื้นเสียงดังสนั่น  นางกระอักเลือดออกมาทันทีและหมดสติไป!

 

หยางอู่เดือดดาล แต่กลับถูกหยางชิงเสวียนห้ามเอาไว้

 

“พาหลิงเยวี่ยไปรักษาตัวก่อน ส่วนเจ้าห้ามลงมือใด ๆ ทั้งสิ้น”

 

หยางอู่มองหลงเฉินด้วยสายตาเย็นชา จากนั้นจึงยอมทำตามคำสั่ง  อย่างไรก็ตาม ลึก ๆ ในใจเขาได้วางแผนจัดการกับหลงเฉิน อย่างที่ใคร ๆ ก็รู้ว่าหยางหลิงเยวี่ยเป็นน้องสาวของเขา  ปกติแล้ว แม้กระทั่งตัวเขาเองก็ไม่เคยลงมือหรือตำหนินางสักครั้ง

 

ในขณะที่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น ทั้งลานประลองก็ตกอยู่ในความเงียบสงัด ทุกคนจับจ้องไปที่เด็กหนุ่มซึ่งยังยืนผงาดอยู่บนลานประลองเพียงคนเดียว

 

เสื้อผ้าของเขาขาดวิ่นด้วยพลังของปีศาจวายุเก้าดัชนี เผยให้เห็นแผ่นหลัง เลือดยังคงไหลออกมาจากปาก และบาดแผลที่หน้าอกก็ยังคงมีเลือดไหล  เนื้อตัวของเขาชุ่มโชกไปด้วยเลือด

 

ถึงกระนั้นแล้ว เขายังยืนผงาดอยู่บนลานประลองอย่างมั่นคง  ด้วยกระบวนท่าปีศาจวายุเก้าดัชนีไม่สามารถทำให้เขาถอยหลังไปได้แม้แต่ก้าวเดียว หลังจากเอาชนะหยางหลิงเยวี่ยได้ในการโจมตีสุดท้าย  เขาก็ยังไม่ล้มลง ความโหดร้ายในรอยยิ้มเผยออกมาให้เห็นบนใบหน้าราวกับเทพสงคราม เขากวาดตามองไปทั่ว

 

เมื่อมองไปยังร่างที่ยืนอยู่บนลานประลอง  ใบหน้าของหยางเสวี่ยชิงซีดเผือด นางผงะถอยหลังไป ภายในใจเกิดความสับสนมากมายราวกับระลอกคลื่นนับพัน

 

นางไม่กล้าสบตาหลงเฉินแม้แต่น้อย  จึงได้หันหลังกลับ และออกไปจากที่นั่น!

 

หลงเฉินมองนางจากไปเงียบ ๆ

 

‘พวกท่านเห็นหรือยัง? รู้สึกกลัวหรือไม่? ใช่แล้ว! ข้าเป็นคนตระกูลหลง! ข้าคือลูกชายของหลงฉิงหลาน พวกเราไม่ยอมอ่อนข้อให้ใคร! ทุกคนที่เคยดูถูกเหยียดหยามข้า พวกเจ้ารู้เอาไว้เลยว่าสักวันหนึ่ง ข้า... หลงเฉิน จะกลายเป็นฝันร้ายของพวกเจ้า! และวันนี้ก็เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของฝันร้ายเท่านั้น!’

 

‘หยางเสวี่ยชิง! จากวันนี้ไป ท่านจะเห็นหลงเฉินที่แตกต่างจากเดิมโดยสิ้นเชิง! เขาจะเป็นจุดศูนย์กลางของทุกคน  ท่านไม่มีสิทธิ์ดูถูกเขาอีกต่อไปแล้ว เขาจะกลายเป็นคนที่ทำให้ท่านประหลาดใจและต้องเคารพยำเกรง!’

 

ในใจของเขา คลื่นพลังมหึมาโหมกระหน่ำอยู่ภายใน

 

ครั้งนี้คือการบาดเจ็บสาหัสที่สุดที่เขาเคยได้รับ  แต่มันก็เป็นสิ่งที่น่าประทับใจที่สุดในชีวิตของเขา! เพราะวันนี้เขาสามารถยืนผงาดบนลานแห่งนี้ และมองไปยังทุกคน!

 

ทุกคนทำได้เพียงมองไปที่ร่างที่อยู่บนลานประลอง  พวกเขาตกใจจนไม่สามารถเอ่ยคำใดออกมาได้

 

เพื่อที่จะชนะ เขาใช้ร่างของตนเองเพื่อปิดกั้นกระบวนท่าปีศาจวายุเก้าดัชนีของหยางหลิงเยวี่ย  ไม่เคยมีใครกล้าทำอะไรบ้าระห่ำเช่นนั้น

 

หยางหลิงชิงวิ่งมาที่ลานประลอง  แต่เพราะสิ่งที่เกิดขึ้น นางจึงชะงักฝีเท้า  เมื่อเห็นเลือดที่โชกชุ่มไปทั่วร่างของหลงเฉิน และเลือดที่ยังคงไหลทะลักออกมาจากมุมปากของเขา น้ำตาของนางก็เริ่มไหลรินลงมา

 

ท้ายที่สุด  สายตาของหลงเฉินก็เลื่อนมาจับจ้องที่ผู้นำตระกูลหยาง  เขาหัวเราะเบา ๆ และเอ่ยด้วยเสียงอันดัง

 

“หยางหลิงเยวี่ยพ่ายแพ้ในการต่อสู้ประลองความแข็งแกร่ง และข้าก็ยังยืนอยู่ตรงนี้ เช่นนั้นแล้วเราก็น่าเห็นได้ชัดว่าใครคือผู้ชนะ  ท่านตา ได้โปรดมอบผนึกมังกรให้ข้าด้วยเถอะ!”

 

“โปรดมอบผนึกมังกรให้ข้าด้วย!”

 

เสียงที่ดังราวสายฟ้าก้องอยู่ในโสตประสาทของทุกคนที่อยู่ ณ ที่แห่งนั้น

 

ชายผู้นี้เลือดท่วมไปทั้งตัว  แต่เขาก็ยังไม่ล้มลง สายตาที่ลุกโชนนั้นทำให้ไม่มีใครกล้าดูแคลนเขาได้อีก  จากวันนี้ไป เขาจะถูกจารึกเอาไว้ในใจของทุกคนอย่างแน่นอน

 

ผู้นำตระกูลหยางมีอาการกลืนไม่เข้าคายไม่ออกอย่างเห็นได้ชัด  แต่เขาก็ไม่สามารถหลบเลี่ยงสายตาของผู้ที่อยู่บนลานประลองได้

 

แต่ทว่า ทันใดนั้นเอง  แสงสีครามก็พุ่งมาสู่ลานประลอง

 

“เจ้าคนสารเลว!  คืนชีวิตลูกชายข้ามา!”

 

คนผู้นั้นคือหยางหยุนเทียน ผู้ซึ่งบรรลุขอบเขตชีพจรมังกรขั้นเจ็ด!

 

ในการประชุมตระกูล  หลงเฉินได้สร้างความวุ่นวายครั้งใหญ่  แล้วหยางหยุนเทียนซึ่งยังอยู่ในตระกูลหยาง จะไม่รู้ได้อย่างไร?

 

ก่อนหน้านี้ ตอนที่หลงเฉินกำลังต่อสู้กับหยางหลิงเยวี่ย เขาจำต้องอดกลั้นเอาไว้ แต่เมื่อหลงเฉินกลายเป็นผู้ชนะและไม่ทันได้ตั้งตัว เขาจึงรีบรุดขึ้นไปยังลานประลองและต้องการปลิดชีวิตหลงเฉิน!

 

หยางหยุนเทียนนั้นแข็งแกร่งกว่าหยางหลิงเยวี่ยมาก  การฝึกฝนของเขาเกือบจะบรรลุขอบเขตชีพจรมังกรขั้นแปด และเมื่อเขาเคลื่อนไหว ความแข็งแกร่งที่สามารถพลิกภูเขาและท้องทะเลได้ก็ถาโถมเข้าใส่หลงเฉินทันที

 

ทุกคนต่างคาดเดาไปต่าง ๆ นานา ว่าหลงเฉินจะสามารถครอบครองผนึกมังกรได้อย่างไร  แต่จู่ ๆ ก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น ทุกคนจึงร้องอุทานออกมาด้วยความประหลาดใจ

 

และหลงเฉินที่เพิ่งหนีพ้นจากอันตรายกลับต้องมาพบกับอันตรายที่ร้ายแรงยิ่งกว่า!

 

ก่อนหน้านี้ เมื่อหลงเฉินต่อสู้กับหยางหลิงเยวี่ย  เขาลืมเรื่องที่หยางหยุนเทียนพูดถึงไปเสียสนิท อาจกล่าวได้ว่าเขาประเมินจิตสังหารของหยางหยุนเทียนต่ำเกินไป

 

เดิมที เขาคิดว่าผู้นำตระกูลหยางจะปกป้องเขา แต่ในตอนนี้ เขาไม่สนใจอีกแล้ว  ผู้นำตระกูลหยางอยู่ไกลออกไป และเมื่อหยางหยุนเทียนลงมือโจมตี มันคือการลอบโจมตีที่ไม่คาดคิด!

 

ชั่วขณะนั้นเอง ที่หลงเฉินกำลังอยู่ในอันตรายอย่างยิ่ง!

 

อย่างไรก็ตาม เขาเพิ่งเอาชนะหยางหลิงเยวี่ยได้และยังอยู่ในสภาพที่เลวร้าย การโจมตีอย่างกะทันหันของหยางหยุนเทียนเองก็รวดเร็วและรุนแรงมาก  เขารู้ว่าหลงเฉินใช้ปราณไปจนหมดสิ้นแล้ว เขาจึงไม่ได้ใช้ทักษะการต่อสู้ที่ทรงพลังใด ๆ เพียงปราณแท้จริงของขอบเขตชีพจรมังกรขั้นเจ็ด ก็เพียงพอที่จะจัดการกับหลงเฉินได้แล้ว

 

หมัดของหยางหยุนเทียนจู่โจมเข้ามาในทันที  หลงเฉินคำรามก้องและใช้หมัดดาวตก 2 ครั้งรวด  แต่เขายังคงกระอักเลือดออกมา

 

ทั่วทั้งร่างกายรู้สึกเจ็บปวดราวกับถูกแผดเผา!

 

เขาเกือบจะหมดสติหลังจากเจอทั้งกระบวนท่าปีศาจวายุเก้าดัชนีและหยางหยุนเทียน  แต่หยางหยุนเทียนกลับไม่ต้องการเช่นนั้น เมื่อตระหนักได้ว่าเขาไม่สามารถฆ่าหลงเฉินภายในหมัดเดียว เขาก็ปรากฏตัวเบื้องหน้าหลงเฉินในครู่ต่อมา

 

“เจ้าโจรชั่ว ลงนรกซะเถอะ!”

 

ในตอนนั้น หลงเฉินเริ่มขาดสติ วิสัยทัศน์ของเขาเลือนราง เขาเห็นเพียงสิ่งที่มีรูปลักษณ์คล้ายคลึงกับมังกร  มันค่อย ๆ ขยายใหญ่ขึ้นในสายตาของเขา ...แล้วพลังที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าหมัดดาวตกนับ 10 เท่า ก็พุ่งตรงเข้ามาในทันที!

 

“นี่คือ... ผนึกมังกร...”

 

เขาไม่คิดว่าจะต้องมาตายเร็วถึงเพียงนี้ หลังจากครุ่นคิดดูแล้ว เขายังมีความรู้สึกไม่เต็มใจ  แต่อย่างน้อยเขาก็ทำสิ่งหนึ่งได้สำเร็จ ซึ่งก็คือการทำให้ผู้หญิงคนนั้นมองเขาด้วยทัศนคติที่แตกต่างออกไป!

 

เขาคิดถึงหลงฉิงหลาน... คิดถึงหลิงซี…

 

ในเวลานี้ ความอบอุ่นถาโถมเข้าสู่ร่างกายของเขา  หลงเฉินตระหนักได้ว่าเขาได้สติมากขึ้นกว่าเดิม ดวงตาของเขาเบิกโพลงขึ้นอย่างกะทันหัน เพียงเพื่อจะพบว่ากระบี่หลิงซีที่อยู่บนหูของตนเองมีขนาดใหญ่ขึ้น ภาพที่เห็นนั้นก็ราวกับนางฟ้าที่เคยปรากฏตัวให้เขาเห็นมาแล้วครั้งหนึ่ง

 

หลงเฉินยังคงเห็นแต่ข้างหลังของนาง แต่ครั้งนี้กลับชัดเจนยิ่งขึ้น …

 

เมื่อเขาออกมาจากอาณาเขตรกร้างของสัตว์อสูร  หลิงซีก็หดตัวจากกระบี่หลิงซีกลายเป็นต่างหูหมุดและเสียบอยู่ที่หูของหลงเฉิน  แม้ว่าหลงเฉินไม่รู้ว่าจะดีใจหรือเสียใจมากไปกว่ากัน แต่เขาก็ยินยอมให้นางทำเช่นนั้น

 

หลิงซีเป็นห่วงความปลอดภัยของหลงเฉิน ดังนั้น นางจึงคืนร่างกลับเป็นกระบี่อีกครั้งและปรากฏตัวออกมา

 

เดิมทีทุกคนคิดว่าหลงเฉินต้องตายด้วยน้ำมือของผนึกมังกร  แต่สิ่งที่น่าประหลาดใจยิ่งกว่าคือการที่จู่ ๆ ต่างหูก็กลายร่างเป็นกระบี่อย่างไม่คาดคิด จากนั้น หญิงสาวที่งดงามราวนางฟ้าก็ปรากฏตัวขึ้น

 

“เจ้าโง่ ทำให้เป็นห่วงอยู่เรื่อยเชียว ... หากเจ้าทำแบบนี้อีกข้าจะไม่ช่วยเจ้าแล้วนะ...”

 

เสียงของหลิงซีดังขึ้น

 

หลงเฉินกำลังนอนแผ่อยู่บนลานประลอง  ขณะที่เขาเงยหน้าขึ้น เขาก็ยังมองไม่เห็นใบหน้าของหลิงซี  แต่จากสีหน้าตกตะลึงของทุกคน เขารู้ว่านางจะต้องงดงามมากแน่ ๆ …

 

ลำแสงจำนวนหนึ่งพุ่งออกมาจากไอหมอกของกระบี่หลิงซี  และปะทะเข้ากับการโจมตีของหยางหยุนเทียนด้วยเสียงดังสนั่น  ในตอนนั้นเอง ผู้นำตระกูลหยางก็มีโอกาสออกมาขวางหน้าหยางหยุนเทียนไว้

 

ก่อนหน้านี้ การเคลื่อนไหวของหยางหยุนเทียนนั้นรวดเร็วมาก  ไม่ว่าผู้นำตระกูลหยางจะแข็งแกร่งกว่าหยางหยุนเทียนเพียงใด เขาก็ไม่สามารถตามได้ทัน และยังทิ้งห่างอยู่เล็กน้อย

 

ในตอนนั้น หลงเฉินเกือบตายได้ทุกขณะ!

 

หลิงซีแปรเปลี่ยนเป็นหมอกสีขาวอีกครั้งและคืนร่างเป็นกระบี่หลิงซี  กระบี่หลิงซีหดตัวเล็กลงเรื่อย ๆ และเสียบเข้าที่หูของหลงเฉิน หลงเฉินได้ยินเสียงที่อ่อนแรงอย่างมากของหลิงซี  ดูเหมือนว่านางจะใช้พลังไปมากทีเดียว

 

“...ข้าต้องหลับแล้ว ข้าจัดการที่เหลือไม่ไหว...”

 

“เสี่ยวซี...”

 

เมื่อถูกนางช่วยไว้ถึง 2 ครั้ง 2 ครา  หลงเฉินรู้สึกขอบคุณจากใจจริง

 

เขาต้องการแก้แค้น และต้องการตอบแทนผู้ที่เขาติดหนี้บุญคุณด้วยเช่นกัน ในเมื่อหลิงซีช่วยเขาไว้ ในภายภาคหน้าเขาจะต้องตอบแทนนางอย่างแน่นอน

 

ในตอนนี้ เกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้นมากมาย  การปรากฏตัวของหลงเฉินเป็นเหตุการณ์ไม่คาดฝัน และเขาสามารถเอาชนะหยางหลิงเยวี่ยได้  หยางหยุนเทียนลงมือโจมตีก็เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง แต่ส่งที่น่าประหลาดใจที่สุด คือหญิงสาวที่ปรากฏตัวออกมาจากกระบี่และช่วยหลงเฉินเอาไว้

 

ในใจของพวกเขา  หลงเฉินค่อย ๆ กลายเป็นคนลึกลับมากขึ้นเรื่อย ๆ

 

แม้แต่ผู้นำตระกูลหยางก็ไม่รู้ว่าเหตุการณ์เช่นนี้คืออะไร  หลานของเขาผู้นี้ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจหลายครั้ง เห็นได้ชัดว่าเขาเก็บงำความลับเอาไว้มากมาย

 

แต่นี่ไม่ใช่เวลาที่จะตั้งคำถาม  หยางหยุนเทียนควรจะฆ่าหลงเฉินไปแล้ว แต่เขาไม่คาดคิดว่าเด็กสาวผู้นั้นจะปรากฏตัวขึ้นมาและขวางการโจมตีของเขาไว้  และเมื่อเขาจะลงมืออีกครั้ง ผู้นำตระกูลหยางก็มายืนอยู่เบื้องหน้า …

 

ด้วยดวงตาที่แดงก่ำ หยางหยุนเทียนมองผู้นำตระกูล และคำรามเสียงดัง

 

“ท่านพ่อ เขาทำให้หลานของท่านต้องตาย  ลูกชายของข้า! วันนี้ท่านยังจะปกป้องเขาอีกหรือ? เหตุใดท่านถึงทำให้ข้าผิดหวังเช่นนี้?”

 

สายตาของผู้นำตระกูลหยางแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชา

 

“วันนี้เจ้าก็อายุ 40 แล้ว ไม่ใช่เด็ก ๆ อีกต่อไป ข้าจึงไม่จำเป็นต้องพูดอะไรอีก ในเมื่อนี่คือการประชุมของตระกูลหยาง  แขกทุกคนในเมืองพฤกษาหมอกมารวมตัวกันที่นี่ ข้าจะไม่ยอมเสียหน้าเป็นอันขาด เราค่อยคุยเรื่องนี้กันวันหลัง เสวียนเอ๋อร์  พาเขาออกไป!”

 

ผู้นำตระกูลหยางแข็งแกร่งไร้เทียมทาน  แม้ว่าหยางหยุนเทียนต้องการฆ่าหลงเฉินในทันที เขาก็ตระหนักว่าผู้นำตระกูลได้ลั่นวาจาแล้ว  หากเขาไม่ทำตามและทำให้ผู้เป็นบิดาขุ่นเคือง เขาคงไม่มีโอกาสฆ่าหลงเฉินอย่างแน่นอน

 

ดังนั้น หลังจากที่มองหลงเฉินด้วยสายตาเกรี้ยวกราด  เขาทำได้เพียงสะกดกลั้นความโกรธและจากไป

 

เขารู้ดีว่าตราบใดที่หลงเฉินยังอยู่ในตระกูลหยาง  เขาก็มีวิธีอีกนับหมื่นนับพันที่จะฆ่าหลงเฉินให้ได้

 

ในวันนี้  ผู้นำตระกูลหยางรู้สึกกังวลเกี่ยวกับชื่อเสียงของตระกูล  แต่ในภายภาคหน้ายังมีโอกาสอีกมากมายนัก

 

เมื่อหยางหยุนเทียนจากไป  ผู้นำตระกูลหยางก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก  สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ทำให้เขาปวดหัวไม่น้อย  และในตอนนนี้ เขามองหลงเฉินที่ยังนอนแผ่อยู่บนลานประลอง  ขณะที่เขากำลังตรวจสอบอาการบาดเจ็บ เขาก็เห็นว่าหลงเฉินลุกขึ้นนั่ง  เมื่อมองจากท่าทางแล้ว เขากำลังเข้าฌานอยู่!

 

จริงสินะ!

 

ก่อนหน้านี้ เขากินโสมภูเขาปีศาจเข้าไป  พลังของสมุนไพรยังคงหลงเหลืออยู่ในร่างกายของเขา  ดังนั้น แม้ว่าในครั้งนี้ การต่อสู้จะทำให้เขาบาดเจ็บสาหัส แต่พลังของสมุนไพรก็ถูกดึงออกมาอย่างเต็มที่เพราะเหตุนี้   หลังจากที่เขาทุกข์ทรมานกับอาการบาดเจ็บสาหัส หยกมังกรลึกลับก็ได้ปล่อยปราณออกมาในปริมาณที่มากกว่าเดิม ภายใต้การผสมผสานของสองสิ่งนี้ หลงเฉินจึงรู้สึกว่าเขาแข็งแกร่งพอที่จะตัดผ่านไปสู่ขอบเขตชีพจรมังกรขั้นห้าได้แล้ว!

 

และเขาก็บรรลุขอบเขตชีพจรมังกรขั้นห้าต่อหน้าทุกคน!

 

***************

ติดตามตอนอื่น ๆ ได้ที่ : novelrealm

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด