ตอนที่ 131-132
ตอนที่ 131 : กู่หยุนซีตัดสินใจ
ภาพฉากที่ได้เห็นครั้งแรกนั้นแตกต่างจากประสบการณ์การต่อสู้ที่หอคอยแห่งการทดสอบอย่างไม่ต้องจำแนก
มันราวกับเป็นประสบการณ์การศึกส่วนตัวของยอดฝีมือ!
นี่คือประสบการณ์ที่หาได้ยากมากล้ำ!
“ไม่นึกเลยว่าระบบฝึกสอนทำครัวจะน่ากลัวแบบนี้ เกือบพลาดไปเสียแล้ว!”
กู่หยุนซีรู้สึกว่าตนเองโชคดีที่เป็นคนแรกซึ่งได้ทราบประโยชน์ของการฝึกสอนทำครัว
ซึ่งเถ้าแก่และเหยาซือหยานไม่นับรวม
อย่างไรก็ดี เถ้าแก่ยอดเยี่ยมเกินไปแล้ว!
“หือ? ดูทางนั้น ทำไมภาพบนหน้าจอของกู่หยุนซีถึงแตกต่างจากคนอื่น?”
ขณะนี้เองที่มีคนสังเกตุเห็นพร้อมอุทานออก
ภาพที่ปรากฏบนหน้าจอของผู้อื่นล้วนเป็นตัวผู้เล่นเอง ทว่าของกู่หยุนซีคือบุคคลแปลกหน้าในชุดสีดำ
บรรดาศิษย์ที่ไม่ได้เล่นไม่ได้ออกไปไหน แต่เลือกอยู่รับชม
เวลาจำกัดเพียงสามชั่วโมง รอคอยประเดี๋ยวมันก็ผ่านพ้นไป
ได้ยินเสียงอุทานร้อง กลุ่มคนจึงย้ายไปรับชมทางด้านหลังกู่หยุนซี
“หือ? นั่นมังกรไม่ใช่หรือ?”
“ถูกต้องแล้ว! ออร่าเช่นนี้เกรงว่าคงไม่ใช่แค่ขอบเขตเต๋ากระมัง? อย่างน้อยก็ต้องขอบเขตราชัน!”
“กู่หยุนซีเผชิญหน้าศัตรูเช่นนั้นได้อย่างไร? นี่ไม่น่าเป็นไปได้!”
“
“กู่หยุนซีถือมีด ฮ่าฮ่า เป็นมีดทำครัวเสียด้วย นั่นหรือจะสับฟันมังกรได้?”
“ฮ่าฮ่า... หือ...?!!”
รอยยิ้มและเสียงหัวเราะกลายเป็นต้องแข็งค้าง
สีหน้าแต่ละคนชะงักงันชวนขบขัน
ดวงตาต่างเบิกกว้างออก ใบหน้าจับจ้องที่หน้าจออย่างไม่อาจนึกเชื่อ
พวกเขาได้เห็นอะไรไป?
กู่หยุนซีใช้มีดทำครัวเพียงเล่มเดียวสับฟันมังกรดำ!
“นี่ฝันไปหรือ?”
ความคิดเช่นนี้ถึงกับผุดขึ้นมาในใจแต่ละคน
มู่หรงไห่เองก็กำลังรับชมหน้าจอของกู่หยุนซี
นอกจากสีหน้าตื่นตะลึงแล้ว นางยังเผยความประทับใจมากล้ำ
ยิ่งการฝึกฝนสูงส่งเพียงใด ก็ยิ่งยากเข้าใจกระบวนการฝึกฝนมากขึ้นเท่านั้น นั่นคือความน่าสะพรึงของการอยู่เบื้องสูง!
สำหรับมู่หรงไห่เถิงที่อยู่ขอบเขตทดสอบเต๋าระดับสูงสุด นางมั่นใจมากล้นว่ากำลังของมังกรดำตัวนั้นอย่างไรก็เหนือกว่าขอบเขตทดสอบเต๋า
ทั้งยังเหนือกว่าอย่างมหาศาล!
ไม่ต้องกล่าวถึงราชัน บางทีอาจเป็นถึงขอบเขตนักบุญ!
กระนั้นกู่หยุนซีกลับได้สังหารมังกรดำตัวนั้นเพียงหนึ่งกระบวนท่า บอกกล่าวตามตรง มู่หรงไห่เถิงไม่คิดเชื่อ!
ความแตกต่างทางขอบเขตพลังไม่อาจถมเต็มได้ด้วยพลังวิญญาณอันมหาศาล
มันราวกับนำดาบอันแหลมคมไปให้เด็กถือเล่น
กระทั่งว่าคว้าดาบแหลมคมนั้นขึ้นมาใช้งาน ทว่าไม่มีทางใช้ได้ดังใจ หากคิดสังหารผู้อื่น บางทีอาจต้องเจ็บตัวหรือเผลอสังหารตนเอง
ทว่าหากดาบนั้นถูกส่งไปยังนักฆ่ามือพระกาฬ เช่นนั้นมือสังหารย่อมเพิ่มพูนอำนาจมันได้อีกหลายเท่า การเข่นฆ่าผู้คนทั่วไปกล่าวได้ว่าแทบไม่ต้องออกแรง!
นี่คือความแตกต่างของขอบเขตพลัง!
กู่หยุนซีไม่ทราบว่าผู้อื่นกำลังให้ความสนใจ นางไม่อาจอดทนกลับไปแบบฝึกหัดทำซุปกระดูกมังกรเก้าวิญญาณได้ไหว
ผ่านไปครู่หนึ่ง ภาพมุมมองบุคคลที่หนึ่งของกู่หยุนซีจึงจบลง
นางถอนหายใจออกมาเสียงยาว ความตกตะลึงยังติดค้างภายในใจ มันเป็นความรู้สึกที่ชวนให้เหลือเชื่อ
ในสายตากู่หยุนซี สัตว์อสูรทรงอำนาจนั้นเป็นตัวตนที่ไม่อาจยุ่งเกี่ยวด้วยได้
กระนั้นตอนนี้ มันกลับทำให้นางรู้สึกว่าก็ไม่ได้ยิ่งใหญ่เพียงนั้น
สัตวอสูรแล้วอย่างไร?
สำหรับผู้ฝึกตนที่ขอบเขตทดสอบเต๋าระดับสูงสุด พวกมันย่อมไม่ต่างอะไรกับวัตถุดิบสำหรับทำอาหาร
เพื่อคิดก้าวเท้าสู่จุดสูงสุดของโลกแห่งการฝึกตน สิ่งแรกที่ต้องทำคือรู้จักตนเองให้มาก!
สำหรับกู่หยุนซีแล้ว ก้าวนี้ที่ได้รับมันเสมือนฝันไป
ตอนที่ 132 : การฝึกฝนของเถ้าแก่
“เป็นอะไรไป? ทำไมหันมองข้ากันหมด?”
กู่หยุนซีค่อยได้ตระหนักว่าผู้คนรอบด้านเผยสีหน้างงงัน
“หยุนซี เมื่อครู่เล่นหอคอยแห่งการทดสอบหรือ? ไฉนพวกเราไม่เคยเห็นภาพฉากเช่นนั้น?”
“ไม่นึกเลยว่ากู่หยุนซีจะแข็งแกร่งถึงขนาดนี้!”
“ฉากแบบนั้นปรากฏในเกมเมื่อใดกัน?”
……
ทันใดนี้เองที่เสียงพูดคุยได้ดังอึกทึกขึ้นมา
กู่หยุนซีต้องหันมองแต่ละคนที่ถาโถมคำถามเข้าใส่ สุดท้ายจึงต้องกล่าวเสียงดัง “หยุดก่อน! เงียบกันก่อน!”
เสียงนี้ดังไม่น้อย ทุกคนในร้านต้นตำรับต่างได้ยิน ซึ่งก็รวมถึงกลุ่มศิษย์ที่เล่นหอคอยแห่งการทดสอบอยู่ด้วย
กลุ่มคนหันมองกู่หยุนซีด้วยความสงสัย ไม่ทราบว่าเหตุใดนางจึงโพล่งตะโกนออกมา
ที่หอคอยแห่งการทดสอบ ความสนใจจะถูกหันเหไปทางด้านนั้นหมดสิ้น เป็นผลให้หลายคนไม่ทันได้ตระหนักว่าเมื่อครู่รอบด้านเกิดอะไรขึ้น
ครู่หนึ่งแล้วกู่หยุนซีค่อยสูดลมหายใจตั้งสมาธิ
ลั่วฉวนและเหยาซือหยานต่างก็ได้ยินเสียงของกู่หยุนซี ขณะนี้ส่งสายตาสงสัยมาถามไถ่
ด้วยถูกจ้องโดยหลากหลายคน ใบหน้ากู่หยุนซีต้องแดงก่ำ
ขณะนี้นางดึงสติกลับคืนมาจึงค่อยทราบ ว่าเมื่อครู่นี้เสียมารยาทไปเพียงใด
กลุ่มศิษย์เหล่านี้ต่างทราบกันดี ว่านางมักเงียบงันและเผยภาพลักษณ์สดใสอยู่เสมอ!
กู่หยุนซีกระแอมไอเสียงเบาเป็นการแก้สถานการณ์
นางหัวเราะแห้ง “คือแบบนี้ เมื่อครู่ข้าตื่นเต้นไปเล็กน้อย ดังนั้นจึงไม่ทันระวังว่าเผลอส่งเสียงดังไป!”
ไม่มีผู้ใดตอบรับ
ครั้งนี้ค่อยทำกู่หยุนซีอับอายต่อเรื่องราว
ทันใดนี้นางจึงหันสายตามองทางเจียงเหวิ่นฉางสหายรักให้ช่วยเหลือ
เจียงเหวิ่นฉางย่อมฉลาดมากพอ นางทราบความหมายสายตาของกู่หยุนซี
นางเผยยิ้มพร้อมกล่าวออก “หยุนซี เมื่อครู่ไม่เป็นตัวเจ้าเอาเสียเลย เกิดอะไรขึ้น?”
กู่หยุนซีจึงอธิบาย “ที่จริงแล้วเมื่อครู่นี้ข้าเข้าสู่ระบบฝึกสอนทำครัว จากนั้นก็เลือกอาหารออกมาเดาสุ่มไป แต่แล้วที่ได้รับกลับเป็นประสบการณ์สังหารมังกรอันน่าตื่นตา”
“ฝึกสอนทำครัว? ล้อกันเล่นหรือ?”
“ไม่ใช่ว่าก็แค่ทำครัวงั้นหรือ? ไฉนจึงเกิดฉากการต่อสู้...”
กลุ่มศิษย์ยังคงงงงัน
พวกเขาย่อมได้เห็นลูกบอลให้เลือก แต่พอตรวจสอบแล้วก็พบว่าเป็นห้องครัว
เมื่อได้ทราบว่าเป็นระบบฝึกสอนทำครัว ดังนั้นจึงละความสนใจกันไป
หนึ่งวันมีเวลาเพียงสามชั่วโมง ดังนั้นจึงต้องใช้สอยอย่างล้ำค่า ผู้ใดกันคิดเสียเวลากับการทำครัว?
กู่หยุนซีจึงได้แต่กล่าวออก “เมื่อครู่ที่ได้ประสบพบเจอกับตัวเอง เป็นข้าได้รับคำอธิบายพร้อมวิธีการได้รับอาหารมื้อนั้นมา!”
ผู้คนยังคงเงียบ...
หาวัตถุดิบทำอาหาร!
อาหารอะไรกันต้องใช้มังกรเป็นวัตถุดิบ?
“เป็นเรื่องจริง!” กู่หยุนซีไหวไหล่พร้อมกล่าวบอก
ขณะนี้นางจึงค่อยได้เห็นลั่วฉวน ดวงตาต้องเกิดประกายขึ้นมา
“เถ้าแก่สมควรทราบรายละเอียด ให้เถ้าแก่อธิบายแทนแล้ว!”
ทันใดนี้สายตากว่าสิบคู่จึงย้ายมองมาทางลั่วฉวนแทน
“ระบบ นี่เรื่องอะไรกัน?”
แม้สีหน้าของเขาไม่แปรเปลี่ยน ทว่าในใจเรียกหาระบบสอบถามแล้ว
บอกกล่าวตามตรง ตัวเขาเองก็เกิดข้อสงสัย
เมื่อวานหลังจากระบบทิ้งการฝึกสอนทำครัวเอาไว้ ก็มีแต่เหยาซือหยานและกู่หยุนซีที่เข้าไปใช้งาน
ลั่วฉวนหาได้ทราบอันใดด้วยไม่
แต่ด้วยฐานะเถ้าแก่ร้าน ดังนั้นย่อมต้องแสดงภูมิความเป็นเจ้าของร้าน!
ลั่วฉวนจะตอบกลับว่า “ไม่รู้เหมือนกัน!” อย่างนี้หรือ ได้ที่ไหน!
สงบนิ่งต่อทุกสถานการณ์จึงเป็นพื้นฐานการฝึกฝนตนเองของเถ้าแก่ร้าน!