ตอนที่ 1 จุดเริ่มต้น
ติดตามตอนอื่น ๆ ได้ที่ : novelrealm
* นิยายเรื่องนี้เป็นลิขสิทธิ์ของ Novel Kingdom (หจก.โนเวล คิงด้อม) *
**ไม่อนุญาตให้ดัดแปลง แก้ไขหรือเผยแพร่ก่อนได้รับอนุญาต หากฝ่าฝืนทาง หจก. จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด**
ในตอนที่ชายคนนั้นกดร่างทาบทับลงมาหลินเฉี่ยนเองก็รู้สึก ทว่าแขนขาทั้งสองข้างกลับไร้เรี่ยวแรงและสติของเธอก็เลือนรางเกินกว่าจะต่อต้านได้
ความเจ็บปวดภายในใจตอกย้ำความรู้สึกเจ็บเจียนตายในตอนนั้นได้อย่างชัดเจน เธอเก็บความบริสุทธิ์มาเป็นเวลากว่ายี่สิบปี แต่กลับต้องถูกคนแก่น่าขยะแขยงพรากมันไปจากเธอ
เป็นเพราะเงินเพียงอย่างเดียวที่ทำให้ลุงของเธอยอมขายเธอให้กับตาแก่ตัณหากลับอายุห้าสิบกว่านี่
ทั้งๆที่ลุงเป็นลุงแท้ๆของเธอแต่เขากลับกล้าทำแบบนี้......
เธอไม่น่าเผอเรอจนประมาทคนพวกนี้เลย
เกลียด...เกลียดที่สุด
—
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนเมื่อหลินเฉี่ยนเริ่มรู้สึกตัวตื่น เธอขยับเปลือกตาช้าๆก่อนที่จะลืมตาขึ้น ตอนนี้ท้องฟ้าด้านนอกเริ่มสว่างแล้วและเธอก็พบว่าตัวเองสามารถขยับนิ้วได้แล้วด้วย—ความสามารถในการควบคุมร่างกายและสติสัมปชัญญะของเธอกลับคืนมาแล้ว
หลิงเฉี่ยนพาร่างกายที่บอบช้ำลุกขึ้นนั่งช้าๆ ผมซอยสั้นในเวลานี้กระเซอะกระเซิงไม่เป็นทรงและมีบางส่วนปรกลงมาถึงตา มือเรียวปัดปอยผมออกตามสัญชาตญาณก่อนจะค่อยๆเงยหน้าขึ้นเผยให้เห็นคางมนและแนวสันกรามเล็กได้รูป เครื่องหน้าทั้งหมดประกอบกันอย่างลงตัวไร้ที่ติที่ถูกขับเน้นด้วยผิวขาวละเอียดนวลเนียนราวกับหยกเนื้อดี นี่เป็นความสมบูรณ์แบบที่สวรรค์สร้าง
ภายใต้แสงอ่อนๆในยามเช้าตรู่ เธอดูคล้ายกับเด็กหนุ่มที่มีดวงตาสดใส ไม่สิ...สาวน้อยต่างหากล่ะ
หลินเฉี่ยนดึงผ้าห่มปิดบังหน้าอกเปลือยเปล่าของตัวเอง ในขณะที่เรือนร่างไร้ที่ติส่วนที่เหลือถูกซ่อนไว้ภายใต้ผ้าห่มผืนใหญ่
ในห้องมืดสลัว หลินเฉี่ยนใช้ตาคู่งามกวาดมองไปรอบๆ ที่นี่เต็มไปด้วยกลิ่นที่ทำให้เธอรู้สึกวิงเวียน เพราะมันผสมปนเปไปด้วยกลิ่นของเหล้า น้ำหอม ควันบุหรี่และกลิ่น......กลิ่นของเหลวของผู้ชายที่น่าขยะแขยงนั่น
เธอรู้สึกปวดร้าวไปทั่วทั้งตัวคล้ายร่างกายกำลังจะแตกสลาย โดยเฉพาะจุดซ่อนเร้นที่อยู่ระหว่างเรียวขาทั้งสองข้างเพราะทันทีที่ขยับเธอก็รู้สึกราวกับเนื้อในส่วนนั้นถูกเฉือนซ้ำๆ—มันเจ็บแสบไปหมด
ผู้ชายที่อยู่ข้างกายยังคงหลับสนิท เขานอนคว่ำโดยหันใบหน้าเข้าหาตัวเธอ ภายใต้แสงสลัวๆ เธอจึงมองเห็นเพียงภาพของแผ่นหลังที่เลือนรางเท่านั้น
ทุกอย่างเงียบเชียบมีเพียงจังหวะการหายใจเข้าอย่างสม่ำเสมอเท่านั้นที่บ่งบอกว่าชายผู้นี้ยังคงหลับสนิท ซึ่งถ้าไม่ใช่เพราะหลินเฉี่ยนอยู่ใกล้มากและถ้าหากไม่ตั้งใจฟังให้ดีเธอคงไม่ได้เสียงลมหายใจของเขา
— ตาแก่ไร้ยางอายที่แสนน่ารังเกียจนี่เป็นปู่ของเธอได้แล้วแต่ก็ยังจะทำกับเธอได้ลงคอ มันจะต้องเสียใจที่ทำกับเธอแบบนี้!—
หลินเฉี่ยนค่อยๆพลิกผ้าห่มออกอย่างระมัดระวังแล้วกวาดขาลงมานั่งขอบเตียงช้าๆ ก่อนจะก้มลงเก็บเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายอยู่ตามพื้นแล้วรีบใส่มันให้เร็วที่สุด เธอไม่สนใจแล้วว่าเสื้อผ้าของเธอจะมีสภาพยังไงเพราะตอนนี้เธอต้องหนีไปให้พ้นจากตาแก่บ้ากามนี่ก่อนที่เขาจะตื่นให้ได้
ใช่! ต้องหนี!
แต่!...ทันทีที่เธอใช้เท้าเหยียบพื้นและยันร่างลุกขึ้นยืน ขาของเธอก็อ่อนแรงลงจนทำให้ร่างบางล้มลงไปกองที่พื้น
ตุบ!
ดูเหมือนมือของเธอจะปัดโดนอะไรบางอย่างให้ตกลงมาด้วย มันเป็นกางเกงของผู้ชายที่ยังคงมีเข็มขัดหนังร้อยอยู่ หัวเข็มขัดนั้นทำจากโลหะทอง ทันทีที่มันตกกระทบพื้นจึงมีเสียงดังเกิดขึ้น
ตาแก่ที่อยู่บนเตียงถูกปลุกให้ตื่นด้วยเสียงเมื่อครู่ ภายใต้ความมืดสลัว ตาคู่งามมองเห็นเขาค่อยๆ ใช้มือดันร่างใหญ่โตลุกขึ้นนั่ง
หลินเฉี่ยนรีบคว้ากางเกง มือขวาของเธอจับที่หัวเข็มขัด ขณะที่มือซ้ายจับกางเกงไว้แน่น ก่อนที่จะใช้แรงทั้งหมดที่มีคูณด้วยความเกลียดชังที่เกิดขึ้นภายในใจออกแรงฟาดมันไปที่ศีรษะของคนบนเตียงอย่างแรง
“อ๊าก” ชายคนนั้นร้องเสียงดังลั่น ก่อนที่จะทรุดตัวลงไปด้วยความเจ็บปวด—เขาหลับไปอีกครั้ง
เธอมีเวลาคิดไม่มากนัก หลินเฉี่ยนโยนกางเกงทิ้งไปพร้อมกับรีบวิ่งออกไปจากห้องด้วยความทุลักทุเล
—หนี ต้องหนีให้ได้!—
…...
เวลานี้เป็นช่วงสายของวันแล้ว หลี่ปู้เหยียนกดกริ่งเพื่อเรียกเจ้าของห้อง ทว่ากลับไม่มีเสียงตอบรับกลับมา เขาจึงถือวิสาสะใช้คีย์การ์ดเปิดประตูเข้าไปด้านในโดยไม่รอคนจากอีกด้านเปิดให้
หลังจากที่เข้ามาในห้องภาพตรงหน้าก็ทำให้หลี่ปู้เหยียนเกิดอาการตกตะลึง “หัวหน้าครับ! หัวหน้าเป็นอะไรครับ?”
“ชิ!” กู้เฉิงเซียวขมวดคิ้วเข้าหากันแน่นด้วยความเจ็บปวดและมึนงง เขารู้สึกตัวตื่นขึ้น หัวของเขาปวดตุบๆ และรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างครอบอยู่บนหัวของเขา
หลี่ปู้เหยียนตกใจจนแทบจะร้องออกมา “โชคดีจริงๆที่หัวหน้าฟื้น หัวหน้าไม่เป็นอะไรใช่ไหมครับ? บอกผมได้รึเปล่าว่ามันเกิดอะไรขึ้น?”
เมื่อคืนหลังจากที่ดื่มเสร็จแล้ว หลี่ปู้เหยี่ยนก็พาหัวหน้าของเขากลับมาที่ห้อง แต่ในตอนนั้นดูเหมือนหัวหน้าจะสร่างเมาแล้วแถมยังสั่งให้เขากลับไปพักผ่อนด้วย ถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้หลี่ปู้เหยี่ยนคงจะส่งกู้เฉิงเซียวให้เข้าไปถึงในห้องด้วยตัวเองตั้งแต่แรกและไม่ปล่อยให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
หลี่ปู้เหยียนพยุงตัวผู้เป็นนายของเขาให้ลุกขึ้นนั่งอย่างช้าๆ กู้เฉิงเซียวหันไปเห็นรอยเลือดที่ติดอยู่บนปลอกหมอนจึงทำให้รู้ว่าหัวของตนจะต้องมีเลือดออก เขาใช้มือแตะไปที่ท้ายทอยก่อนจะรู้สึกถึงความเจ็บปวดรุนแรง
หลังจากหันไปมองกางเกงของตัวเองในมือของหลี่ปู้เหยียน สีหน้าของกู้เฉิงเซียวก็เคร่งเครียดขึ้น...ใครมันบังอาจเอากางเกงมาครอบบนหัวเขา?
หลี่ปู้เหยียนสำรวจดูหัวเข็มขัดที่ติดอยู่กับกางเกงก่อนจะเห็นว่ามีรอยเลือดเปื้อนอยู่บนนั้น “นี่หัวหน้าเอาเข็มขัดตีหัวตัวเองเหรอครับ?”
“ฉันไม่ได้โง่ขนาดนั้น!” กู้เฉิงเซียวต่อว่าพร้อมกับมองลูกน้องของเขาตาเขียว หลังพูดจบเขาก็ใช้สายตากวาดดูโดยรอบก่อนจะพบว่าบนผ้าปูที่นอนสีขาวบริสุทธิ์ก็มีคราบสีแดงเปื้อนเป็นดวงอยู่ด้วย!
ทันทีที่ตระหนักได้ว่าจะต้องมีคนลงมือทำร้ายเจ้านายของเขาแน่ๆ หลี่ปู้เหยียนก็รีบพูดขึ้น “หัวหน้าเดี๋ยวผมรีบโทรตามรถพยาบาลแล้วก็เรียกตำรวจมานะครับ!”
……..
ไม่นานนักกู้เฉิงเซียวก็ถูกพามาส่งที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เขาเข้าพักในห้องวีไอพีที่ดีที่สุด ร่างกายสูงเด่นและสง่างามดูภูมิฐานยืนอยู่ตรงหน้าต่าง คิ้วดกดำได้รูปขมวดน้อยๆ ดวงตาดำสนิทจ้องมองไปข้างหน้าอย่างครุ่นคิด ถึงแม้จะมีท่าทางนิ่งขรึมและท่าทีที่ดูสงบ แต่ถ้าหากสังเกตดีๆจะพบว่าภายในตาทั้งสองข้างกลับเจือไว้ด้วยแววแห่งความดื้อด้านและแฝงความจริงใจเปิดเผยน้อยๆอยู่
ความสูงเกือบร้อยเก้าสิบเซนติเมตรทำให้ดูโดดเด่นในสายตาของคนอื่นๆ
เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนเขาจดจำได้เป็นอย่างดี ไวน์แดงแค่เล็กน้อยพวกนั้นไม่มีทางทำให้เขาเมาปลิ้นจนเลอะเลือนหรือจำอะไรไม่ได้แน่นอน เขากำลังถอดเสื้อผ้าเพื่อเตรียมตัวอาบน้ำ ทันใดนั้นสายตาเขาก็เหลือบไปเห็นชายหนุ่มร่างเล็กในชุดขาวที่นอนอยู่บนเตียง แม้จะปิดไฟมืดแต่ด้วยแสงจันทร์อ่อนๆที่สาดส่องเข้ามาในห้องทำให้เขามองเห็นร่างของคนบนเตียงได้ คนคนนั้นหลับสนิทโดยไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าเขาเข้ามาในห้อง—‘หน็อย~ หลับสบายเลยนะ นี่มันจะมากเกินไปแล้ว!’
วินาทีแรกที่ได้เห็น กู้เฉิงเซียวรู้สึกโกรธมากเพราะแม้แต่แม่ของเขาเองก็ยังไม่เคยได้แตะต้องเตียงของเขา แต่คนคนนี้เป็นใครถึงได้ขึ้นมานอนอยู่บนเตียงเขาได้? อีกอย่างเป็นเพราะเขาไม่เคยใกล้ชิดกับผู้หญิงคนไหนมาก่อน คนอื่นๆจึงเอาเรื่องของเขาไปพูดต่อๆกันว่าเป็นเพราะเข้ากรมฝึกทหารจึงทำให้เขากลายเป็นพวกชายรักชาย ซึ่งลึกๆแล้ว เรื่องนี้เขาเองก็อดสงสัยตัวเองไม่ได้ว่า —มันเป็นอย่างที่คนพวกนั้นพูดกันจริงรึเปล่า—
หลังจากคิดแบบนั้นเขาก็ปลดกระดุมเสื้อคนตรงหน้าในทันทีเพื่อพิสูจน์รสนิยมทางเพศของตัวเอง
แต่...เดี๋ยวก่อนนะ...อะไรนุ่มๆ?
ในเวลานั้นเองเขาก็รู้สึกราวกับถูกไฟช็อต ร่างทั้งร่างแข็งทื่อไป
เพราะทันทีที่เขาขยับตัวเข้าไปใกล้ เขาก็เห็นอย่างชัดเจนว่าคนที่นอนอยู่ตรงหน้าเป็น ‘สาวน้อย’ วัยกระเตาะที่มีกลิ่นกายหอมบริสุทธิ์ นี่ทำให้เขารู้สึกราวกับฝันไปเลยจริงๆ
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่ดื่มไปก่อนหน้านี้หรือเป็นเพราะต้องการจะพิสูจน์เพศของตัวเองกันแน่ที่ทำให้ความโกรธของเขาแปรเปลี่ยนไปเป็นอารมณ์ลึกซึ้งจนหมดสิ้น เขาค่อยๆขยับตัวเข้าไปใกล้ร่างบางนั้นอย่างช้าๆ….
เมื่อคิดถึงเรื่องในคืนนั้นกู้เฉิงเชี่ยนก็ขมวดคิ้วเข้าหากันแน่นขึ้น สีหน้าที่เรียบเฉยของเขาเริ่มแสดงความโกรธออกมา ‘ทำไมการควบคุมอารมณ์ของเขามันถึงได้แย่ขนาดนี้วะเนี่ย?!’
หลังจากเกิดเรื่องขึ้นก็ใช่ว่าเขาจะไม่รู้สึกอะไร หญิงสาวคนนั้นบริสุทธิ์ผุดผ่องแถมยังดูมีท่าทีตอบรับการรุกล้ำของเขาเป็นอย่างดี ความหวานล้ำและการตอบสนองอย่างไร้เดียงสา—ช่างเป็นอะไรที่ถูกปากถูกใจเขาเสียเหลือเกิน
ทันใดนั้นเสียงฝีเท้าก็ดังขึ้นและช่วยเรียกสติของกู้เฉิงเซียวให้กลับมาอีกครั้ง หลี่ปู้เหยียนเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับเอกสารรายงานฉบับหนึ่งก่อนที่จะพูดด้วยความดีใจ “หัวหน้าครับ ท้ายทอยของหัวหน้ามีแค่แผลด้านนอกไม่ได้มีผลกระทบอะไร ส่วนร่างกายก็ปกติดีไม่มีการบาดเจ็บส่วนอื่น”
กู้เฉิงเซียวพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “นายคิดมากไปเอง ฉันบอกนายแต่แรกแล้วว่าฉันไม่ได้เป็นอะไร”
หลี่ปู้เหยียนเสมองไปทางอื่นแล้วพูดงึมงำในลำคอ “ก็เรื่องของหัวหน้าเป็นเรื่องใหญ่จะให้นิ่งเฉยแล้วคิดว่าเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆได้ยังไงกันล่ะ? โชคดีนะที่ตรวจอย่างละเอียด ไม่งั้นก็คงไม่รู้แน่ๆว่าในเลือดของท่านมีสารสกัดใบวิลโลว์(柳叶春)ผสมอยู่ด้วย”
“ใบวิลโลว์?”
“ใช่ครับ มันคือ...เอ่อ...ยาเสพติดชนิดนึงครับ”
“ไม่ต้องอธิบาย ฉันรู้ว่ามันคืออะไร!” สีหน้าของกู้เฉิงเหยียนแปรเปลี่ยนไป...ใครกันนะที่คิดจะจัดการกับเขา? ทันใดนั้นเขาก็เปลี่ยนบทสนทนาทันที “คนที่ฉันให้ไปหา หาเจอรึยัง?”
หลี่ปู้เหยียนตอบ “หาเจอแล้วครับ เราเจอจากดีเอ็นเอในหยดเลือดที่อยู่บนผ้าปูที่นอน นี่ครับข้อมูลของคนคนนั้น”
กู้เฉิงเซียวรับเอกสารมาก่อนที่จะรีบเปิดอ่านอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นดวงตาของเขาก็เบิกกว้างขึ้น “นายแน่ใจนะว่าเป็นเธอ?”
“แน่ใจสิครับ” กู้เฉิงเซียวตอบอย่างงุนงง เขาพยายามอย่างมากที่จะไม่ขมวดคิ้วหรือกลอกตามองบน ‘โถ่หัวหน้า! ได้กันขนาดนั้น ไม่รู้เลยเหรอครับเนี่ยว่าเป็นเธอรึเปล่า!?’
.
.
.
* นิยายเรื่องนี้เป็นลิขสิทธิ์ของ Novel Kingdom (หจก.โนเวล คิงด้อม) *
**ไม่อนุญาตให้ดัดแปลง แก้ไขหรือเผยแพร่ก่อนได้รับอนุญาต หากฝ่าฝืนทาง หจก. จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด**
ติดตามตอนอื่น ๆ ได้ที่ : novelrealm