บทที่ 184
เสียงร้องโหยหวนดังออกมาไม่หยุด คนหลายสิบคนนอนดิ้นทุรนทุรายอยู่บนพื้น เลือดสีแดงสาดกระเซ็น ทังมู่และบุตรชายยืนจ้องมองอย่างไม่วางตา ความหวาดกลัวเริ่มเกาะกุมหัวใจของทั้งสอง เป็นทังมู่ส่ายศีรษะไปมาเพื่อไล่ความหวาดกลัว เสียงสะบัดมือดังแว่ว วงอักขระศักดิ์สิทธิ์สีแดงปรากฏบนพื้น สองลมหายใจเถาวัลย์สีแดงพุ่งออกมาเข้าหาเด็กหนุ่มด้านหน้า ดาบสีดำในมือถูกใช้กวัดแกว่ง เปรี้ยง ทันทีที่ดาบเข้าปะทะกับเถาวัลย์สีแดง เถาวัลย์สีแดงถูกทำลายลงอย่างรวดเร็ว ทังมู่ถึงกับตื่นตกใจดวงตาเบิกโพลง บุตรชายกัดฟันแน่นสะบัดมือขวากำชับดาบในมือเข้าต้านรับ
เนี่ยฟงแสยะยิ้มฟาดฟันดาบสีดำในมือ เคร้ง เพียงการปะทะแค่ครั้งเดียว ดาบถึงกับหักกระเด็นลงพื้น คมดาบสีดำวาดผ่านใบดาบที่ต้านรับและหน้าอก เลือดสีแดงพุ่งกระฉูด บุตรชายของทังมู่กัดฟันแน่นคิดถีบเท้าถอยออกมา เนี่ยฟงตวัดดาบอีกครั้ง คมดาบสีดำวาดผ่านลำคอ ศีรษะกระเด็นลงพื้น เสียงกรีดร้องดังออกมาจากทังมู่ หันไปจ้องมองร่างบุตรชายที่ไร้ศีรษะ ดวงตาสีแดงก่ำความกลัวจางหาย ความแค้นได้เข้ามาแทนทีวงอักขระศักดิ์สิทธิ์สีแดงนับสิบวงปรากฏขึ้นบนพื้น เปรี้ยงเสียงซัดฝ่ามือลงพื้น เถาวัลย์สีแดงนับสิบเส้นพุ่งออกมาเข้าหาเนี่ยฟง
ดาบสีดำถูกซัดออกไป เถาวัลย์สีแดงพุ่งรัดดาบสีดำเอาไว้ เนี่ยฟงแสยะยิ้มเกราะสายฟ้าสองอันปรากฏที่ด้านหลังทังมู่ เถาวัลย์สีฟ้าพุ่งรัดตัวทังมู่จากด้านหลัง ไม่ถึงครึ่งลมหายใจเถาวัลย์สีแดงก็ถูกทำลายลงเพราะไร้ซึ่งพลังปราณ ดาบสีดำพุ่งทะยานไปตามมือที่สะบัดไปมาจ้วงแทงเข้าไปยังหน้าอกทะลุออกไปทางด้านหลัง เนี่ยฟงสะบัดมืออีกครั้งมีดสีดำพุ่งทะยานกลับมา คนของทังมู่ที่อยู่ในบริเวณถึงกับตัวสั่นสะท้าน ชายผู้เป็นหัวหน้าตกตายลงไปแล้ว หลายคนติดหลบหนีแต่ก็ไม่สามารถทำได้เพราะติดที่โดมม่านพลัง
เสียงอาวุธถูกโยนลงพื้นหลายคนนั่งคุกเข่าลงกับพื้นก้มหน้านิ่ง เสี่ยวจูเองหลังจากเข้าช่วยเหลือเหล่าผู้อาวุโสและเจ้าสำนักคชสารธรณี ทันทีที่พิษถูกจัดการการปะทะก็จบลงไปแล้ว เนี่ยฟงยืนนิ่งหาได้ทำสิ่งใดเป็นหยางเวยเดินปลดแหวนออกจากมือซากศพทีละคน เสียงตะโกนสั่งการดังลั่นมาจากเจ้าสำนักคชสารธรณี
“จับกุมตัวให้หมด”
ผู้อาวุโสที่พอกำลังเริ่มฟื้นตัว เข้าจับกุมคนของทังมู่ทั้งหมด ในขณะเดียวกันท้องฟ้าอยู่ๆก็เริ่มมืดครึ้ม เสียงฟ้าร้องคำรามดังสนั่น
“ไอ้หนู ระวังชายแก่ที่เจ้าสังหาร”
สิ้นเสียงกล่าวของลุ่ยกง เนี่ยฟงรีบหันไปมองซากศพของทังมู่ เห็นหยางเวยกำลังปลดแหวนออกจากนิ้วมือ
“หยางเวยรีบออกมา ตาแก่ทังมู่เป็นปีศาจ”
แต่ไม่ทันที่หยางเวยจะถอยออกมา มือซ้ายของทังมู่คว้าจับแขนซ้ายหยางเวยเอาไว้ หยางเวยหาได้ตื่นตกใจสะบัดมือขวามีดอันแปลกประหลาดปรากฏในมือ ฉับ คมมีดวาดผ่านมือซ้ายของทังมู่ เลือดสีน้ำตาลเข้มพุ่งออกมาจากรอยแผล มือซ้ายหลุดติดแขนซ้ายของหยางเวยเสียงโยนมือซ้ายลงพื้น รีบถีบเท้าถอยออกมา ปราณสีดำพุ่งพวยออกมารักษาบาดแผล หลายคนต่างกำชับอาวุธในมือแน่น เนี่ยฟงแสยะยิ้มก้าวเดินเข้าหาอย่างช้าๆ เกราะสายฟ้าแปดอันหมุนวนรอบกาย ประกายสายฟ้าพุ่งออกมาจากดาบสีดำอย่างเห็นได้ชัด หยางเวยส่ายศีรษะไปมาพุ่งถอยออกมาหาเสี่ยวจู
“แม่นางเสี่ยวจูท่านรีบกางม่านพลังป้องกันทีหาดไม่อยากให้ที่นี่เกิดความเสียหาย”
เสี่ยวจูเองหาได้ตอบสิ่งใดเพียงแค่พยักหน้าตอบรับ สะบัดมือขวาวงอักขระศักดิ์สิทธิ์สีเขียวปรากฏออกมา ไม่นานก็กลายเป็นม่านพลังขนาดใหญ่ หยางเวยเมื่อเห็นม่านพลังเสร็จสิ้นก็รับเอ่ยวาจาออกมา
“รบกวนพวกท่านทั้งหลายมาหลบหลังม่านพลังนี้ด้วยขอรับ”
มีหลายคนด้วยกันพุ่งเข้ามาหลบหลังม่านหลังแต่ก็มีบางคนที่ยังอยู่ด้านนอก เสียงร้องคำรามของทังมู่ดังลั่นออกมา พร้อมกับกลิ่นอายของปีศาจฟุ้งกระจาย ปราณสีดำค่อยๆจางหาย ร่างกายสูงใหญ่ยิ่งกว่าเดิมผิวหนังที่เคยเหี่ยวย่นกับเต่งตึง ผิวสีแดงก่ำเส้นเลือดบวมปูด ดวงตาสีแดงจ้องมองเนี่ยฟงอย่างไม่วางตา
“เหอะ เป็นถึงมนุษย์เหตุใดท่านถึงคิดรับใช้พวกปีศาจบัดซบพวกนั้น”
เมื่อกล่าวสิ้นเสียงเนี่ยฟงก็พุ่งทะยานเข้าหาทังมู่อย่างรวดเร็ว กรงเล็บในมือทั้งสองถูกจ้วงแทงเข้าหาเกราะสายฟ้าหมุนวนรอบกายเข้าต้านรับ เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง เนี่ยฟงถีบเท้าเหยียบเกราะสายฟ้าเป็นฐาน ฟาดฟันดาบในมือ ปราณดาบสีฟ้าพุ่งเข้าหาทังมู่ในระยะประชิด ทังมู่ยกแขนทั้งสองขึ้นต้านรับ ท่อนแขนทั้งสองขาดกระเด็นร่วงลงพื้น เลือดสีเขียวพุ่งกระฉูด ทังมู่ถีบเท้าคิดถอยออกมาปราณสีดำพุ่งพวยออกมารักษาบาดแผล เนี่ยฟงยกยิ้มพุ่งทะยานเข้าหาอีกครั้ง แต่ทว่ากลับถูกบางอย่างจับตรึงที่ขาเอาไว้เมื่อก้มลงมองเห็นเป็นแขนที่ขาดทั้งสองจับตรึง
เปรี้ยง ทันทีที่เงยหน้าขึ้นมามองก็ถูกเท้าขวาเตะเข้ามา ถึงแม้จะมีเกราะสายฟ้าต้านรับ แต่เพราะร่างกายที่สูงใหญ่เนี่ยฟงกระเด็นออกไปทางซ้าย เสียงหัวเราะของทังมู่ดังลั่นออกมาด้วยความชอบใจจ้องมองชายหนุ่มด้านหน้านอนแน่นิ่งไม่ไหวติง เหล่าผู้อาวุโสต่างๆจ้องมองเนี่ยฟงอย่างไม่วางตาพร้อมกับเหงื่อเย็นไหลผ่านหลังด้วยความหวาดกลัว เสียงฝีเท้าขนาดใหญ่เดินย่ำเข้าหา เท้าขวาถูกยกขึ้นหมายเหยียบชายหนุ่มที่นอนอยู่ ความเจ็บปวดส่งผ่านขึ้นสมองขาขวาขาดกระเด็นดาบสีดำหมุนวนรอบกายทังมู่ คำดาบวาดผ่านผิวสีแดงก่ำ เลือดสีเขียวพุ่งกระฉูดออกจากบาดแผล
เสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดดังลั่นออกมาพร้อมกับปราณสีดำพุ่งพวย ดาบสีดำพุ่งกลับมาหาเนี่ยฟงอีกครั้งเกราะสายฟ้าพุ่งออกไปหมุนวนรอบตัวทังมู่ เถาวัลย์สีฟ้าพุ่งรัดตัวอย่างรวดเร็ว ปราณสีดำพุ่งพวยออกมาถูกประกายสายฟ้าเผาทำลายจนหมดสิ้น เนี่ยฟงโคจรลมปราณไปที่ดาบอีกครั้ง ฟาดฟันออกมาโดยทักษะฝ่าธรณี
เปรี้ยง ปราณดาบสีฟ้าพุ่งผ่านร่างของทังมู่ ปะทะกับพื้นดินด้านหลังเสียงดังสนั่น พื้นดินเป็นหลุมลึกมองเห็นได้ชัด วงอักขระศักดิ์สิทธิ์สีฟ้าปรากฏที่พื้น ไม่ถึงเจ็ดลมหายใจเนี่ยฟงปักดาบลงพื้นประกายสายฟ้าพุ่งออกมาจากวงอักขระศักดิ์สิทธิ์ ตูม เผาทำลายซากศพของทังมู่อย่างรวดเร็วไม่นานก็กลายเป็นขี้เถาลอยไปตามอากาศ เนี่ยฟงเดินกับมารวมกลุ่มกับหยางเวยและเสี่ยวจู ที่ตอนนี้สลายม่านพลังสีเขียวแล้ว
“ข้าต้องขอขอบใจเจ้าอีกครั้งพ่อหนุ่มเนี่ยฟง”
เสียงเอ่ยขอบคุณดังมาจากเจ้าสำนักคชสารธรณี เนี่ยฟงทำได้เพียงก้มศีรษะตอบรับพร้อมกับกล่าววาจาตอบ
“ไม่เป็นไรขอรับท่านเจ้าสำนัก หากมีสิ่งใดที่ข้าทั้งสามพอช่วยได้ก็จะช่วยขอรับ”
“ข้ามีข่าวดีแจ้งต่อเจ้า ปู่ของเจ้ายังคงสบายดีตอนนี้พักอยู่ที่สำนักอักขระเต่าดำ เจ้าคิดจะเดินทางไปที่นั่นหรือไม่”
“ต้องขอบคุณท่านมากขอรับที่แจ้งข่าว พวกข้ายังคงไม่คิดไปยังที่แห่งนั้นขอรับจนกว่าจะแน่ใจว่าที่นี่ปลอดภัย”
“เจ้าคิดจะทำอย่างไรต่อไป”
“รวบรวมกำลังคนบุกยึดพื้นที่คืนขอรับ”
“เหอะ ไอ้หนู เจ้าเพียงแค่สังหารปีศาจไม่กี่ตัวอย่าคิดใหญ่เกินตัว”
เนี่ยฟงยกยิ้มหันไปมองผู้อาวุโสท่านหนึ่งพร้อมกับกล่าววาจาตอบ
“แน่นอนขอรับหาว่าตัวข้าเองและเพื่อนอีกสองคนคงทำไม่ได้ แต่หากเป็นกลุ่มคนที่มีความสามารถนับร้อย นับพันคนไม่แน่ขอรับ หรือท่านคิดจะอยู่แต่ในสถานที่แห่งนี้ เพื่อรอเวลาให้พวกปีศาจบุกเข้ามาเข้าเดียวกับผู้อาวุโสทังมู่”
ผู้อาวุโสท่านนั้นหาได้กล่าวสิ่งใดกำหมัดทั้งสองแน่นเดินถอยหลังออกไป เจ้าสำนักคชสารธรณียกยิ้มเอ่ยวาจาออกมา
" เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ข้าจะทำจดหมายแนะนำให้พวกเจ้ากลับไปที่เมืองหลวง ไปที่สำนักพยัคฆ์ขาว เจ้าสามารถคัดเลือกคนที่เจ้าต้องการได้ เจ้าสามารถตั้งทีมกลุ่มคนที่เจ้าต้องการได้ เช่นนี้ดีหรือไม่ ”
“ต้องขอบคุณท่านเจ้าสำนักมากขอรับ”
เจ้าสำนักคชสารธรณีเพียงแต่ยกยิ้มให้เนี่ยฟงหันไปสั่งการกับผู้อาวุโสอีกสองคนด้านหลัง ไม่นานผู้อาวุโสทั้งสองก็เดินเข้าไปในค่าย
“เอาละข้าจัดการให้คนส่งข่าวเรียบร้อยแล้ว ส่วนจดหมายข้าจะให้คนนำมาให้พวกเจ้าวันพรุ่งนี้ก็แล้วกัน เวลานี้พวกเจ้ากลับไปพักผ่อนเถอะ ส่วนเรื่องที่เหลือข้าจะให้คนจัดการ”