ตอนที่ 125-126
ตอนที่ 125 : มวลประชาไหลหลั่ง
อย่างไรแล้วหลังอยู่ด้วยกันมานานขนาดนี้ ลั่วฉวนย่อมทราบนิสัยของระบบเป็นอย่างดี
ขณะเดียวกัน เสียงที่อ่อนลงจึงดังตอบกลับ
“ระบบย่อมรอบรู้ไม่สิ้นสุด วิธีการทำอาหารย่อมทราบ” เสียงระบบดังตอบกลับมา
หากรับฟังให้ดี จะพบว่ามีร่องรอยความภาคภูมิในน้ำเสียงไม่ใช่น้อย
“ระบบแนะนำทำอาหารเสมือนจริงถูกบรรจุเข้าเครื่องเล่นเสมือนจริง กรุณาตรวจสอบ”
คำกล่าวจบ ระบบจึงเงียบหายไป
“เรื่องราวพื้นฐานให้เรียนรู้จากเครื่องเล่น” ลั่วฉวนชี้นิ้วไปยังเครื่องเล่นเสมือนจริง
เหยาซือหยานประหลาดใจไม่น้อย เดิมนางคิดว่ามันสำหรับใช้เล่นหอคอยแห่งการทดสอบอย่างเดียว ไม่คิดว่าจะใช้งานอย่างอื่นได้ด้วย
ถัดจากนั้น เหยาซือหยานจึงสวมใส่หมวกด้วยความสงสัยใคร่รู้
มีสองภาพปรากฏที่หน้าจอแสดงผล
เหยาซือหยานขณะนี้เข้ามาอยู่ในห้องสีขาวที่แสงสาดส่องเข้าใส่ตรงหน้า
ทรงกลมหนึ่งที่ลอยอยู่คือหอคอยน้อย เป็นหอคอยแห่งการทดสอบ
อีกหนึ่งทรงกลมคือเครื่องครัว ซึ่งน่าจะเป็นระบบสอนทำอาหาร
เหยาซือหยานจึงเลือกบอลแสงที่สอง ความรู้สึกอันคุ้นเคยนี้เสมือนหอคอยแห่งการทดสอบ ทว่าภาพฉากนั้นเป็นห้องครัวที่ทันสมัย...
พบเห็นเหยาซือหยานปรากฏบนหน้าจอเรียบร้อย ลั่วฉวนค่อยพยักหน้ารับอย่างพึงพอใจ
ถัดจากนั้น ลั่วฉวนจึงเลือกที่นั่งพร้อมเข้าสู่หอคอยแห่งการทดสอบโหมดท้าทาย
ค่ำคืนนี้จึงผ่านไปอย่างเงียบงัน
เช้าตรู่วันถัดมา
ทันทีที่ลั่วฉวนตื่นขึ้น จมูกก็พลันได้กลิ่นหอม
“อรุณสวัสดิ์เถ้าแก่” เหยาซือหยานเอนกายออกมาจากครัวพร้อมกล่าวทักทายลั่วฉวน
“อรุณสวัสดิ์” ลั่วฉวนพยักหน้ารับ ถัดจากนั้นจึงไปล้างหน้าและลงสู่ชั้นล่าง
เวลาเดียวกันนี้มันก็ทำเขาสงสัย ว่าเหยาซือหยานกำลังทำอาหารอะไรอยู่
ด้วยความที่ให้ระบบสอนการทำครัวแก่นางเมื่อคืน ลั่วฉวนจึงคาดหวังว่าระบบจะสอนอาหารของโลกเดิมมาบ้าง
แน่นอนว่าวัตถุดิบย่อมไม่ใช่ธรรมดา เพราะที่โลกนี้มีพลังวิญญาณคงอยู่
ไม่เกินเลยนักหากจะกล่าวว่าเป็นอาหารอีกระดับหนึ่ง
และระบบย่อมต้องนำเสนอของดีมาให้
ลั่วฉวนเดินไปเปิดประตูร้าน พบเห็นภายนอกพลันต้องนิ่งไปวูบหนึ่ง
ขณะนี้มีคนไม่ใช่น้อยยืนรอคอยอยู่ เป็นกลุ่มคนหนุ่มสาวกว่าสิบคนยืนเรียงรายตรงหน้าร้าน
มู่หรงไห่เถิงยืนนำหน้ากลุ่มคน
พบเห็นลั่วฉวนเปิดประตูร้าน นางจึงเผยยิ้มอ่อน “อรุณสวัสดิ์เถ้าแก่”
ลั่วฉวนจึงพยักหน้ารับพร้อมเปิดประตูร้านให้
“เถ้าแก่ไม่ออกไปทานมื้อเช้าก่อนหรือ?” กู่หยุนซีอดไม่ได้ที่จะถามออก
ด้วยมาเยือนวันนี้ เพื่อไม่ให้เกิดเรื่องเช่นเมื่อวาน นางจึงรีบตื่นแต่เช้าเพื่อทานมื้อเช้าจนเรียบร้อยก่อนมาแล้ว
ลั่วฉวนจึงตอบกลับ “วันนี้ซือหยานทำอาหาร ดังนั้นไม่ต้องออกไปซื้อ”
ด้วยเหตุผลใดไม่ทราบ กู่หยุนซีและเจียงเหวิ่นฉางต่างมองหน้ากันเอง ทั้งสองเผยราวกับทราบความคิดกันและกัน...
ถัดจากนั้น คนกว่าสิบจึงไหลหลั่งเข้าสู่ภายในร้านต้นตำรับ
ภายในร้านไม่ได้แออัดแต่อย่างใด เพราะระบบมีการใช้ค่ายอาคมห้วงมิติเอาไว้
กลุ่มศิษย์เหล่านี้ที่มาเยือนร้านครั้งแรก แต่ละคนล้วนอุทานกันออกมา
“โห มีแต่เครื่องแก้วสีสันเต็มไปหมด หนึ่งชิ้นจะมีค่ากี่หมื่นผลึกวิญญาณกัน?!”
“ไม่เคยเห็นที่ไหนในโลกตกแต่งเช่นนี้มาก่อน แล้วเหมือนว่าในร้านจะกว้างกว่าข้างนอกด้วย? ต้องเป็นค่ายอาคมห้วงมิติแน่!”
“ไม่นึกเลยว่าจะถึงกับร้านวิเศษเช่นนี้อยู่!”
“อาจารย์ไห่เถิงไม่ได้หลอกพวกเราจริงด้วย...”
เวลาเดียวกันนี้ เหล่าศิษย์ยังต้องหันมองไปทางลั่วฉวนครั้งแล้วครั้งเล่า
พวกเขายังไม่ทราบเรื่องเถ้าแก่ผู้ลึกลับของร้านต้นตำรับแห่งนี้สักเท่าใดนัก
กระนั้นศิษย์เหล่านี้ก็มีความรู้มากพอ ที่จะคาดเดาได้ว่าตัวตนของลั่วฉวนย่อมไม่ใช่ธรรมดา!
ตอนที่ 126 : ร้านที่วิเศษ
“เอ้า เอ้า เงียบเสียงกันหน่อย”
มู่หรงไห่เถิงโบกมือเป็นการให้สัญญาณว่าควรสงบลงได้แล้ว
นางเผยยิ้มก่อนจะกล่าว “เรื่องร้านต้นตำรับ เป็นอาจารย์ไปมาเมื่อวานนี้ เรื่องนี้คงได้รู้จากคนอื่นแล้ว”
กลุ่มศิษย์พยักหน้ารับ
มู่หรงไห่เถิงกล่าวต่อ “อาจารย์รู้ว่าศิษย์ส่วนใหญ่ที่นี่มากันเป็นครั้งแรก บางเรื่องอาจจะยังไม่เชื่อ แต่ให้หยุนซีช่วยแนะนำพาชมร้านก็แล้วกัน”
“รับทราบ” กู่หยุนซีพยักหน้ารับพร้อมหันไปกล่าวกับสหายร่วมชั้นเรียน “สินค้าในร้านของเถ้าแก่จะวางไว้บนชั้น ส่วนรายละเอียดสินค้าจะมีบอกไว้ที่ด้านล่าง”
กลุ่มคนพยักหน้ารับ จากนั้นจึงเดินไปยังชั้นวางก่อนจะพิจารณาสินค้า
“อันที่จริงแล้วของในร้านเถ้าแก่ไม่เพียงแต่สรรพคุณดีเยี่ยม แต่รสชาติเองก็ดีไม่แพ้กัน” ฉานหยางเผยยิ้ม
“น่าเสียดายที่สินค้าหนึ่งอย่างซื้อหาได้คนละหนึ่งชิ้นต่อวัน” ซูเทียนเฉวียนกล่าวขึ้น
“หือ? มีกฎอย่างนั้นด้วย?” กลุ่มศิษย์เผยสีหน้างงงัน
ร้านที่มีกฎเข้มงวดต่อการซื้อหาของลูกค้าถึงกับมีอยู่ด้วย
“กฎอื่นอ่านได้ตรงนั้น” เซียวเฉิงกล่าวคำพร้อมชี้ไปยังผนังด้านหลังกลุ่มคน
กลุ่มคนจึงหันมองตาม ที่พบเห็นคือกระดานสีขาวซึ่งมีอักขระเขียนไว้
“กฎมากมายนัก...” สตรีผู้หนึ่งเผยมุมปากกระตุกอดไม่ได้จนกล่าวคำออก
“หากไม่มีกฎ ก็เกรงว่าร้านเถ้าแก่คงขายของหมดในพริบตา อย่างนั้นลูกค้ามาทีหลังจะซื้ออะไร?” คนอื่นให้ความเห็นที่ต่างกันออกไป
คนอื่นจำนวนหนึ่งก็พยักหน้าเห็นพ้องด้วย
เพราะนั่นคือความเป็นจริง
“เถ้าแก่ ขอซื้อโคล่ากับแท่งเครื่องเทศ!”
“เถ้าแก่ ขอทุกอย่างในร้านเลย!”
“เถ้าแก่...”
เสียงจากเหล่าศิษย์ดังทางลั่วฉวนพร้อมเดินไปจ่ายค่าสินค้าที่นำออกจากชั้นไม่ขาด
ลั่วฉวนจึงเก็บผลึกวิญญาณอย่างคล่องแคล่วด้วยอารมณ์ดี
พิจารณาจากตอนนี้ ทำภารกิจหลักให้สำเร็จในห้าสิบวันไม่น่าใช่เรื่องยากแล้ว
จ่ายผลึกวิญญาณกันเรียบร้อย บางคนกระทั่งเปิดโคล่าดื่มที่ในร้าน
ฮ่า!
เสียงดังจากปากกลุ่มคน
“มีฟองอากาศแตกในปากด้วย!”
“ยอดไปเลย!”
เสียงอุทานดังต่อเนื่อง
“จุ๊ จุ๊ จุ๊” ฮานหยางหันมองทางกลุ่มคนพร้อมเผยสีหน้าเหยียดหยัน
เป็นเขาไม่ทราบว่าตนเองเมื่อวานก็เป็นเช่นนี้
“แท่งเครื่องเทศนี่ก็ดีไม่น้อย!”
“ใช่แล้ว! ไม่เพียงแต่อร่อย พลังวิญญาณยังเพิ่มขึ้นระดับหนึ่งด้วย!”
หลายคนเริ่มฉีกห่อแท่งเครื่องเทศกัดกินพร้อมอุทานกันคนแล้วคนเล่า
“แท่งเครื่องเทศไม่เพียงแต่อร่อย ทว่ายังช่วยเพิ่มกำลังให้ชั่วครู่ชั่วคราว กระทั่งมีผลลัพธ์ทางอ้อมช่วยให้ก้าวหน้าได้ง่ายขึ้นด้วย!”
เจียงเหวิ่นฉางเองก็ฉีกห่อแท่งเครื่องเทศนำใส่เข้าปาก เสียงของนางกล่าวออกในสภาพยังมีของเคี้ยวในปาก
ได้รับฟังเช่นนี้ กลุ่มศิษย์จึงหันมองไปทางลั่วฉวนเพื่อต้องการยืนยัน
ว่ามันถึงกับมีสรรพคุณที่ไม่ได้บอกเอาไว้เป็นลายลักษณ์อักษรจริงหรือไม่
ลั่วฉวนพยักหน้ารับให้
เขาเคยกล่าวเช่นนั้นจริง
“นี่ แท่งเครื่องเทศนี้ไม่เล็กเกินไปหรือ? กัดไม่กี่คำก็หมดแล้ว!”
“นี่ไม่พอ! พี่ชายไฉนจึงยังไม่กินกันเล่า สนใจขายให้ข้าแทนไหม?”
“ไม่ขาย เป็นข้าคิดเก็บกลับไปกินที่โรงเตี๊ยม!”
“ให้ห้าร้อยผลึกวิญญาณเลย ขายให้เถอะ...”
ลั่วฉวนที่ได้ยินบทสนทนา ภายในใจพลันต้องหวั่นไหวเล็กน้อย
ราคาของที่ขายในร้านไม่แพง จะเกิดอะไรขึ้นหากมีคนอื่นนำไปขายในราคาที่สูงกว่า?