Guild Master ตอนที่ 39 ตัวคนเดียว
ตอนที่ 39
ตัวคนเดียว
“ไม้.....เราไปทำอะไรให้งั้นเหรอ”เมฆถามออกมาด้วยหน้าตาใสซื่อเป็นอย่างมาก ตอนนี้ทั้งสองคนทำท่าเหมือนไม่รู้เรื่องเลยว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมไม้ถึงเข้ามาหาเรื่องได้แบบนี้
“นี่พวกแก”ไม้มองไลฟ์สดของไอช่าด้วยท่าทีตกใจ ตอนนี้ไม้กลายเป็นคนร้ายอย่างสมบูรณ์เลย เพราะนอกจากจะไม่ตอบรับคำเชิญของไอช่าแล้วยังเดินเข้ามาโจมตีคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆไอช่าอีกต่างหาก ซึ่งหากไม้ได้ดูไลฟ์ตั้งแต่แรกจะพบว่าไอช่าแนะนำตัวเมฆว่าเป็นเพื่อนสนิทคนหนึ่งของเธอที่มาร่วมเล่นเกมด้วยกัน นั่นเท่ากับไม้พึ่งเข้าไปทำร้ายเพื่อนของไอช่านั่นเอง และหากถามว่าไอช่าตอนนี้คือใคร ก็ต้องบอกว่าเธอเป็นไอดอลสาวที่มีคนติดตามเป็นจำนวนมาก แค่การไลฟ์เมื่อครู่ก็มีคนดูหลักแสนคนแล้ว ผลกระทบที่จะตามมาหลังจากนี้แม้แต่ไม้ก็ไม่สามารถบอกได้ว่าจะเป็นอย่างไร
“หัวหน้า แบบนี้ไม่ดีนะครับ งานประมูลของพวกเรากำลังจะเริ่มแล้วถ้ามีข่าวเสีย ๆหาย ๆออกไปละก็....”ลูกน้องของไม้เข้ามาห้ามเอาไว้ก่อนจะพยายามพาไม้ออกมาจากพวกเมฆเสียที ขืนยังทำท่าจะโจมตีพวกเมฆต่อก็มีแต่ผลเสียทั้งนั้น
“ไม่ใช่....นี่เป็นแค่เรื่องเข้าใจผิดเท่านั้นเอง”พอไม้ได้สติก็รีบเปลี่ยนท่าทีอย่างรวดเร็ว ดาบที่กำลังจะฟันลงไปใส่เมฆก็เก็บเข้ากระเป๋าไปตั้งแต่เมื่อไรไม่ทราบ แต่ก่อนที่ไม้จะพูดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเข้าใจผิดออกมาไลฟ์ของไอช่าก็ดับไปเสียก่อน...
“น่าเสียดายนะ แกคงแก้ตัวไม่ทันแล้วล่ะ”เมฆหัวเราะออกมาก่อนจะลุกขึ้นยืนด้วยท่าทีสบาย ๆไม่ได้มีอาการบาดเจ็บอะไรเลย
“อ๊ะ แต่ตอนนี้ยังกินข้าวด้วยกันทันนะคะ อาหารของพวกเรายังไม่มาเสิร์ฟเลย”ไอช่าเปลี่ยนใบหน้าจากจะร้องไห้กลับมาเป็นสดใสร่าเริงอีกครั้งอย่างกับเรื่องโกหก ท่าทีเสียใจก่อนหน้านี้ของไอช่าราวกับไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลย
“ในเมื่อแก้ตัวไม่ทันแล้ว ก็ทำให้มันจริงไปเลยแล้วกัน”ไม้เอาดาบออกมาจากกระเป๋าอีกครั้งก่อนจะเดินเข้ามาหาเมฆกับไอช่าด้วยท่าทีโมโหสุดขีดชนิดที่ว่าพร้อมระเบิดได้ทุกเมื่อ
เปรี้ยง!!!
ไม้ยังไม่ทันได้โจมตีอีกรอบ อยู่ ๆก็มีธนูลูกหนึ่งพุ่งเข้ามาตรงหน้าไม้อย่างจังก่อนจะระเบิดออกจนไม้ต้องกระโดดถอยออกไป แต่ถึงจะหลบออกมาแล้วก็ยังเสียหายไม่น้อยอยู่ดี
“ใครวะ”ไม้มองผ่านควันระเบิดขึ้นไปมองบนหลังคาร้านอาหารด้วยท่าทีตกใจ ตอนนี้ตัวของไม้ติดโทษตัวแดงเพราะเป็นฝ่ายเข้าไปโจมตีเมฆก่อนทำให้ไม่ว่าใครก็สามารถโจมตีไม้ได้โดยไม่ติดโทษอะไรเพียงแต่ผู้ที่โจมตีไม้จากบนหลังคาร้านนั้นกลับเป็นผู้เล่นติดโทษตัวแดงเหมือนกันเสียอย่างนั้น
“น่าเกลียดจริง ๆ กิลด์อัศวินนภาถึงกับยกพวกมารังแกผู้เล่นใหม่กันแล้วเหรอ”เสียงของชายคนหนึ่งดังขึ้นขณะเดินเข้ามาขวางระหว่างไม้กับพวกเมฆเอาไว้ แม้จะได้ชื่อว่าจอมดาบอันดับ 1 แต่เลเวลแค่ 20 ไม่มีทางเอาชนะคนเลเวลเกือบร้อยและร้อยกว่าหลายคนได้หรอก
“เอก.....”ไม้มองชายตรงหน้าด้วยท่าทีไม่พอใจ เอก เป็นหนึ่งในคนรู้จักของเมฆ การที่เองจะมาช่วยเหลือเมฆย่อมไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างไร เพียงแต่การที่เอกมาที่นี่ก็หมายความว่าปาร์ตี้ของเอกก็มาที่นี่เช่นกัน
“คนเยอะดีนี่ กิลด์อัศวินนภาอยากมีปัญหากับพวกเราขนาดนั้นเลยเหรอ”ชายอีกคนหนึ่งในกลุ่มของเอกพูดเดินเข้าไปหาไม้ด้วยท่าทีหาเรื่อง หมอนี่คือ กล้า ผู้เล่นอาชีพผู้ใช้หมัดระดับต้น ๆของไทย เพียงแต่ไม่ใช่แค่กล้าเท่านั้นที่เป็นผู้เล่นระดับต้น ๆ ปาร์ตี้ของเอกต่างเป็นผู้เล่นระดับต้น ๆที่มีเลเวลเกือบ 170 กันทั้งนั้น ต่อให้ตอนนี้ไม้เอาคนทั้งหมดของตนเองเข้าไปรุมโจมตีก็ไม่แน่ว่าจะชนะหรือเปล่าเลย
“พวกแกจะทำอวดเบ่งได้แค่ตอนนี้ล่ะ”ไม้กัดฟันแน่นด้วยท่าทีเจ็บใจ ปาร์ตี้ของเอกเป็นปาร์ตี้ที่เก็บเลเวลได้ไวมาก แต่เพราะไม่ได้สังกัดกิลด์ไหนทำให้สมาชิกของพวกเอกมีน้อยเสมอ ในตอนแรกอาจจะใช้เลเวลที่ห่างหรือไอเทมที่เหนือกว่าช่วยในการสู้กับกองทัพขนาดใหญ่ได้ แต่หลังจากเข้าสู่ช่วงกลางของแต่ละเกม เลเวลก็จะขั้นช้ามากทำให้คนอื่น ๆที่ตามมาเริ่มลดระยะห่างลงทุกที ไม่นานพวกเอกก็ไม่สามารถสู้กับคนจำนวนมากที่มีเลเวลห่างกันนิดหน่อยไม่ไหว แม้จะไม่มีใครไปหาเรื่องเอกเพราะถึงอย่างไรก็เป็นคนกว้างขวาง แต่ถึงตอนนั้นคนที่เกรงใจเองก็จะน้อยลงแน่ ๆ
“คราวนี้ไม่ใช่แบบนั้นหรอก”เอกยิ้มออกมาด้วยท่าทีสบายใจ ที่เอกแพ้พวกกิลด์ใหญ่เพราะเรื่องจำนวนเท่านั้น เพียงแต่คราวนี้เอกไม่คิดว่ามันจะเป็นเหมือนครั้งก่อน ๆหรอก
“คราวนี้พวกเรามีท่าน.....”
“เอก...ปากมากเกินไปแล้ว”เอกยังไม่ทันพูดอะไรออกมา อยู่ ๆเมฆก็ด่าเข้าให้เสียก่อน ปกติเอกเป็นผู้เล่นระดับแนวหน้าที่มีแต่คนเกรงใจ คนที่กล้าด่าเขาต่อหน้าแบบนี้มีไม่มาก แต่สำหรับเมฆแล้วนอกจากเอกจะไม่โกรธยังรู้สึกผิดอีกต่างหาก
“ขอโทษครับ....ผมได้ใจไปหน่อย”เอกตอบพลางก้มหัวลงด้วยท่าทีสำนึกผิด
“ไม่เป็นไร..แล้วฝั่งนั้นจะเอาไง แลกกันเลยไหม”เมฆตอบรับเอกด้วยท่าทีไม่ถือสา ก่อนจะหันไปมองทางไม้ที่กำลังทำท่าทีลังเลว่าจะเอาอย่างไรต่อ
“ฝากเอาไว้ก่อนเถอะ”ไม้กัดฟันแน่นด้วยท่าทีเจ็บใจ แม้จะเสียเงินไปหลายล้านแต่นั่นไม่ใช่ทั้งหมดของกิลด์ หากมีเรื่องกับเอกปาร์ตี้ระดับสูงต้องไม่พอใจแน่ ๆ สำหรับกิลด์อัศวินนภาที่หากินด้วยการจัดประมูลไอเทมราคาสูงและมีจำนวนน้อยในตลาด และไอเทมเหล่านั้นต่างก็มาจากปาร์ตี้ระดับสูงกันเป็นส่วนมาก ไม่ว่าจะอย่างไรไม้ก็ต้องรักษาธุรกิจของตนเองเอาไว้ก่อนอยู่ดี
“น่าเสียดายนะ นี่เป็นโอกาสครั้งสุดท้ายแล้ว”เมฆยิ้มออกมาก่อนจะเก็บดาบเข้าฝักไปด้วยท่าทียิ้มแย้ม หลังจากนี้กิลด์อัศวินนภาจะไม่สามารถใช้กิลด์เพียงกิลด์เดียวสร้างความเดือดร้อนให้พวกเมฆได้อีกแล้ว
“พี่กวี เรียบร้อยแล้วค่ะ ฝั่งพี่เป็นยังไงบ้าง”หลังจากไม้เดินออกไป ไอช่าก็ติดต่อไปหากวีทันที เพียงแต่ภายในระบบสื่อสารเสียงทางฝั่งของกวีที่ดังเข้ามานั้นมีเพียงเสียงเหมือนฝนเท่านั้น
“งั้นเหรอ..ดีมาก....” ตูม!! เสียงของกวียังไม่ทันจบก็มีเสียงระเบิดดังแทรกเข้ามาเสียก่อน แต่เสียงระเบิดในเกมมันก็ออกจะเป็นเรื่องปกตินะ
“ดูเหมือนทางนี้จะเป็นศึกยืดเยื้อซะแล้ว คงต้องรออัพพักใหญ่ ๆพี่ถึงจะกลับไปได้”กวีตอบกลับมาพร้อมเสียงห่าฝนและเสียงระเบิดเป็นระยะ ๆ ท่าทางกวีจะเจอศึกหนักจริง ๆ
“พอดีเลย เจ กับ มายด์ ส่งข้อความมาบอกว่าจะกลับมาช้าหน่อย งั้นพวกเราจะหาอะไรทำรอในเมืองแล้วกัน”เมฆบอกเรื่องข้อความของเจกับมายด์ให้กวีฟังเพราะไม่มั่นใจว่ากวีมีเวลาเปิดจดหมายดูหรือเปล่า
“เข้าใจแล้ว ส่วนนาตาลี ไปที่งานประมูลแล้วจัดการเรื่องที่บอกซะ”กวีสั่งออกมาพร้อม ๆกับเสียงการต่อสู้ ตำสั่งของนาตาลีกวีส่งข้อความไปบอกเป็นการส่วนตัวแล้ว แม้คนอื่น ๆจะไม่รู้ว่ากวีสั่งอะไรแต่ก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่กวีจะสั่งงานแยกไปให้ใครสักคนอย่างลับ ๆ
“ทราบแล้วค่ะท่าน ดิฉันฝากข้อมูลของเวทมนตร์แรงโน้มถ่วงเอาไว้ให้ที่ท่านเมฆแล้วนะคะ”นาตาลีตอบรับด้วยท่าทีดีใจ แค่ได้ยินเสียงของกวีปาร์ตี้ของเก่งก็มองหน้ากันด้วยท่าทีตื่นเต้นแล้ว แทบจะนับวันรอที่กวีจะสร้างกิลด์ใหม่ขึ้นมาอีกครั้งแทบไม่ไหว แถมตัวนาตาลีที่มีเวทแรงโน้มถ่วงเพียงคนเดียวของเกมก็ยังมอบความลับของเวทแรงโน้มถ่วงให้กวีโดยไม่ต้องร้องขอเสียด้วยซ้ำ ทั้ง ๆที่เวทแรงโน้มถ่วงเป็นเวทมนตร์หายากที่ต้องทำเงื่อนไขบางอย่างให้ผ่านแล้วเข้าไปทำเควสเพื่อรับมาเท่านั้น ไม่ต้องหาคนมาป้องกันพื้นที่เหมือนกิลด์อัศวินนภาก็ป้องกันคนอื่นเอาไปใช้ได้อยู่แล้วแท้ ๆ
“ขอบใจมาก เอาไว้จะหาอะไรมาตอบแทนนะ”กวียิ้มออกมาด้วยท่าทีพึงพอใจ
“คุณกวี....อสรพิษทะเลลึกมันมีท่าทีแปลก ๆนะคะ”ระหว่างกำลังขอบคุณนาตาลีอยู่นั้น อยู่ ๆฝั่งของกวีก็มีเสียงของแก้วดังลอดเข้ามาเสียอย่างนั้น เล่นเอาคนทางฝั่งของไอช่ากะพริบตาปริบ ๆด้วยท่าทีตกใจ
“พี่กวี ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครคะ เล่ามาให้น้องฟังเดี๋ยวนี้เลยนะ”ไอช่าได้สติเป็นคนแรกก็รีบโวยวายทันที ไม่นึกเลยว่ากวีจะแอบไปสู้กับผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้ แถมเสียงนั่นยังไม่ใช่เสียงของมีนอีกต่างหาก แม้จะคุ้น ๆเหมือนเคยได้ยินเสียงนี้มาก่อนไอช่าก็ยังนึกไม่ออกว่ามันเป็นเสียงของใคร แต่ถึงจะถามไปแบบนั้นกวีก็ปิดระบบสื่อสารไปก่อนทำเอาไอช่าไม่ได้รับคำตอบอะไรเลย
“แปลกนะเนี่ย ท่านกวีมีเรื่องผู้หญิงด้วยงั้นเหรอ”เอกยิ้มเจื่อน ๆออกมาพลางหันหน้าไปมองทางอื่นเหมือนกำลังรู้สึกแปลก ๆอยู่ ปกติกวีไม่ค่อยสนใจเรื่องผู้หญิงเท่าไร ไม่นึกว่าจะไปเที่ยวเล่นกับผู้หญิงแบบนี้
“ยัยนั่นต้องเข้ามาหลอกพี่กวีแน่ ๆเลย ไอช่าจะจัดการเอง”ไอช่าทำท่าขึงขังจริงจังเสียยิ่งกว่าตอนใส่ความไม้เสียอีกทำเอาพวกนาตาลีได้แต่ยิ้มเจื่อน ๆออกมาอย่างช่วยไม่ได้ ยังไงนี่มันก็ 5 ปีแล้วกวีจะเปลี่ยนนิสัยไปนิดหน่อยก็ไม่ใช่เรื่องแปลกนี่นา
.
.
“................”อีกฝั่งหนึ่งทางด้านของ มีน หลังจากออกไปพักผ่อนทานอาหารจนเสร็จ พอกลับมาก็พบว่ากวีฝากข้อความมาบอกว่ามีธุระ เธอเลยกะจะรอพวกเมฆเพื่อออกไปฆ่ามอนสเตอร์รอกวีกลับมา แต่ไม่นานเมฆกับไอช่าก็ส่งข้อความมาว่ามีธุระต้องไปทำเช่นกันทำให้มีนเหลือแต่รอเจและมายด์เท่านั้น แต่ยังไม่ทันได้เริ่มรอทั้งสองคนก็ส่งข้อความว่าจะกลับมาช้าหน่อยเข้ามาเสียอย่างนั้นทำเอามีนเกิดอาการว่างขึ้นมาเสียเฉย ๆ
“ทำอะไรดีล่ะ”มีนถามออกมาลอย ๆก่อนจะมองไปรอบ ๆ จะออกไปฆ่ามอนสเตอร์ก็ได้หรอก แต่ถ้าไปไกลเกินไปจะกลับมาตอนพวกกวีเสร็จธุระแล้วไม่ทัน งั้นก็ต้องหาอะไรทำในเมืองนี่ล่ะ