บทที่ 49 กระสุนเจาะเกราะ
บทที่ 49 กระสุนเจาะเกราะ
มีดถูกดึงออกมาจากหัวซอมบี้ เย่จงหมิงอุทานเบาๆ กระโดดหลบเลือดสีดำที่กระเด็นออกมา
มันใช้เวลาน้อยกว่าหนึ่งวันที่เลือดในร่างของซอมบี้จะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง มันค่อยๆเปลี่ยนแปลงไปเป็นสายพันธุ์ที่สอง ที่แตกต่างกันมากระหว่างก่อนและหลังจากกลายมาเป็นซอมบี้
เพื่อเตรียมการฆ่าจระเข้เต่าลิง เย่จงหมิงตระเวนไปรอบๆเขตก่อสร้างเกือบสองชั่วโมง
เขาฆ่าซอมบี้ที่อยู่รอบๆเขตก่อสร้างและห่างออกไปในระยะ 100 เมตรอย่างต่อเนื่อง เพื่อกวาดล้างพื้นที่บริเวณนั้นให้หมดจด
ภายใต้สถานการณ์ปกติ ผู้วิวัฒนาการระดับ 1 ดาวมีโอกาสน้อยมากที่จะยอมเผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดที่มีวิวัฒนาการระดับ 2 ถ้าไม่ใช่เพราะเย่จงหมิง มีอาชีพรองเป็นผู้ช่วย และรู้จุดอ่อน จุดแข็งของสัตว์ประหลาดแล้วล่ะก็ เขาคงเลือกแข็งแกร่งขึ้นตามวิธีปกติ ด้วยการออกล่าซอมบี้ ฆ่ามัน ขุดผลึกวิเศษไปหมุนรูเล็ตเท่านั้น
แต่นี่คือจระเข้เต่าลิง และด้วยมีดเดินป่าระดับสีขาวในมือ เหล่านี้ทำให้เย่จงหมิงมั่นใจ
เย่จงหมิงเป็นคนที่กลับมาเกิดใหม่อีกครั้ง มีประสบการณ์มากมายในการล่า เขาจึงไม่เข้าท้าทายกับสัตว์ประหลาดวิวัฒนาการระดับ 2 ทันที แต่เขาต้องการเพิ่มจุดแข็งให้กับตัวเองก่อน
นอกจากนั้น เขายังต้องการป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุให้ได้สูงสุดก่อน
อุบัติเหตุร้ายแรงที่สุดในช่วงแรกๆของวันโลกาวินาศ ก็คือซอมบี้ ที่อาจจะปรากฏตัวขึ้นเมื่อไรก็ได้ เขาต้องทำให้แน่ใจว่า ขณะที่เขากำลังต่อสู้อยู่จะไม่มีอมนุษย์กินคนเหล่านี้เข้ามายุ่ง
นอกจากนี้ เขายังต้องการผลึกวิเศษเพื่อมาฟื้นฟูพลังวิญญาณของตัวเอง ส่วนจะเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพคุ้มค่ากับราคาหรือไม่นั้น นั่นเป็นสิ่งที่เขาไม่อาจควบคุมได้
เมื่อกลับมาที่เขตก่อสร้างอีกครั้ง เย่จงหมิงมีผลึกวิเศษระดับ 1 มากกว่าร้อยชิ้นในมือ ด้วยความช่วยเหลือจากตี้หวงหวัน ทำให้เขามีประสิทธิภาพในการล่าซอมบี้สูงขึ้น
ผลึกวิเศษบางส่วนถูกเก็บสำรองไว้ ส่วนที่เหลือเย่จงหมิงใช้ทักษะของสร้อยคอสีเขียวมรกต---ทักษะการแลกเปลี่ยนสมาธิขั้นต้น แลกเปลี่ยนพลังวิญญาณมากกว่า 10 แต้ม บวกกับการฟื้นตัวตามธรรมชาติและทักษะการฟื้นตัวแบบเรื่อยๆของสร้อยคอสีเขียวมรกต ตอนนี้พลังวิญญาณของเขาฟื้นตัวแล้ว อีกเพียงเล็กน้อยก็จะถึง 100
เย่จงหมิงซ่อนตัวอยู่ในมุมที่เงียบสงบแห่งหนึ่ง เขานำกรงเล็บกิ้งก่าลิ้นเลือดที่ได้มาจากการใช้ทักษะปรับแต่งรวบรวมที่ใช้พลังวิญญาณไม่มากก่อนหน้านี้ออกมา (กรงเล็บได้มาจากกิ้งก่า 2 ตัว ตัวละ 20 ชิ้น ตัวแรกใช้ทักษะ อีกตัวให้โม่เย่เป็นคนเก็บรวมรวม)
ครั้งแรกเย่จงหมิงพยายามรวมกรงเล็บเข้ากับมีด เพื่อดูว่าจะสามารถใช้เวทย์มนตร์แนบกรงเล็บลงไปได้หรือไม่ ผลที่ได้คือการถูกปฏิเสธไม่หยุด เพราะคุณสมบัติความทนทานของมีดถึงขีดจำกัดแล้ว
เขาลองใหม่อีกครั้งกับโล่โลหะ แต่ดูเหมือนว่าคุณสมบัติของมันจะไม่สอดคล้องกับโล่โลหะ
สุดท้าย เย่จงหมิงก็นำกระสุนปืนออกมา
กระสุนเหล่านี้ เป็นสิ่งที่โม่เย่ให้เขาไว้ก่อนที่เธอจะจากไป เพื่อให้เย่จงหมิงเอาไว้ใช้กับปืนใหม่
แม้ปืนใหม่จะทำงานได้ดี แต่มันสร้างขึ้นจากปืนธรรมดา 2 กระบอกด้วยทักษะเสริมสร้างรวมเป็นหนึ่ง ดังนั้นมันจึงเป็นแค่อาวุธสีเทาเท่านั้น พลังของมันไม่มากไปกว่าอาวุธร้อนปกติบนโลก และตอนนี้เขาก็ไม่มีอาวุธอื่นที่จะสามารถใช้ทักษะเสริมสร้างรวมเป็นหนึ่งกับมันได้ ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเสริมพลังโจมตีให้กับปืนของตน
นั่นคือทั้งหมดที่ทำให้เขาต้องลองทำกับกระสุนปืน
โชคดีที่ทักษะการใช้เวทย์มนตร์ของอาชีพช่างฝีมือผู้มีเกียรติ สามารถใช้ได้กับวัตถุอย่างกระสุนปืน
แต่เย่จงหมิงไม่ได้ใช้เวทย์มนตร์กับกระสุนปืนทันที เขาครุ่นคิดอยู่สักพัก จากนั้นก็ใช้ทักษะเสริมสร้างรวมเป็นหนึ่งกับกรงเล็บของกิ้งก่าลิ้นเลือดจำนวน 20 ชิ้น จนมันเหลือเพียง 4 ชิ้น ทุกชิ้นแสดงคุณสมบัติของวัสดุสีเทา โดยเปล่งรัศมีสีเทาออกมา
จากนั้นก็นำกรงเล็บสีเทา 1 ชิ้นมาวางไว้ใกล้ๆกระสุนปืน 1 นัด เย่จงหมิงเริ่มใช้ทักษะเวทย์มนตร์ กรงเล็บละลายไหลเป็นแสงเข้าไปรวมกับกระสุนปืน แล้วกระสุนปืนคริสตัลก็ปรากฏขึ้นบนฝ่ามือของเขา
กระสุนนี้ไม่ได้ดูเหมือนโลหะเลย แต่มันเป็นเหมือนงานฝีมือที่ทำมาจากคริสตัล
“พลังการเจาะ +4”
คุณสมบัติของมันปรากฏขึ้นในใจของเย่จงหมิง มันคือประ โยชน์ของอาชีพช่างฝีมือ ที่สามารถใช้ดูข้อมูลรายละเอียดต่างๆได้ แม้จะเป็นอุปกรณ์ที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ ก็สามารถทราบถึงรายละเอียดของข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับอุปกรณ์นั้นได้
นี่เป็นการสรุปจากประสบการณ์ที่เย่จงหมิงค่อยๆทำความคุ้นเคยกับอาชีพรองนี้ และประสบการณ์นี้ก็ไม่ได้มีคำอธิบายไว้ในม้วนหนังแกะ
เย่จงหมิงใช้ทักษะเวทย์มนตร์แนบกรงเล็บกับกระสุนนัดนั้นอีกครั้ง คุณสมบัติที่แสดงคราวนี้คือ “พลังการเจาะ +6”
เมื่อเห็นค่าตัวเลขนี้ เย่จงหมิงก็เข้าใจในที่สุดว่ามันสามารถใช้เวทย์มนตร์เพิ่มลงในวัสดุชนิดเดียวกันได้ โดยคุณสมบัติของมันจะเพิ่มขึ้น แต่การใช้เวทย์มนตร์ซ้อนทับกันเรื่อยๆนี้ จะทำให้ค่าคุณสมบัติแต่ละครั้งที่ได้ลดลงเรื่อยๆเช่นกัน เช่นเดียวกับกระสุนนี้ เมื่อเขาใช้กรงเล็บกับกระสุนนัดนี้เป็นครั้งที่สอง พลังการเจาะของมันเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น (ครั้งแรก +4 รวมกับครั้งที่สอง +2 เป็น +6)
เย่จงหมิงไม่ต้องการเสี่ยงทดลองต่อ ด้วยเหตุนี้เขาจึงใช้ทักษะเวทย์มนตร์แนบกรงเล็บสีเทาที่เหลืออีก 2 ชิ้น ลงในกระสุน 1 นัดต่อ 1 ชิ้น ดังนั้นตอนนี้เขาจึงมีกระสุนปืนที่ทรงอานุภาพอยู่ 3 นัดด้วยกัน และหนึ่งในนั้นมีพลังในการเจาะอยู่ถึง 6 แต้ม!
คุณสมบัติด้านการเจาะนี้เป็นสิ่งที่เย่จงหมิงต้องการ พลังในการเจาะอธิบายถึงความสามารถในการเจาะเกราะป้องกัน ดังนั้นมันจึงเหมาะสำหรับที่จะใช้กับจระเข้เต่าลิง
กระสุนทั้ง 3 นัดถูกยัดลงไปในลูกโม่ (ปืนใหม่เป็นปืนแบบลูกโม่ที่เกิดจากการใช้ทักษะเสริมสร้างรวมเป็นหนึ่งระหว่างปืนที่ได้จากรูเล็ตแบบแม็กกาซีนกับปืนพกแบบลูกโม่ของตำรวจ) เย่จงหมิงลุกขึ้นยืน สูดลมหายใจเฮือกใหญ่ แล้วออกมาจากที่ซ่อน
รังของจระเข้เต่าลิงถูกสร้างอยู่ในถังใส่ปูน ขนาด14ลูกบาศก์เมตรบนรถบรรทุกคอนกรีต บางทีอุปกรณ์ถังใส่ปูนบนโลกชนิดนี้คงจะทำให้มันรู้สึกสดชื่น
จระเข้เต่าลิงไม่ชอบกลางวัน มันจึงหลบเข้าไปนอนในถังใส่ปูน
มันกินผู้รอดชีวิตและซอมบี้บริเวณเขตก่อสร้างลงไปจนอิ่ม จึงต้องการนอนพักเพื่อย่อยอาหารให้กลายเป็นพลังงาน เพราะสิ่งนี้จะทำให้มันวิวัฒนาการได้เร็วขึ้น
แต่พอเย่จงหมิงเข้ามาในระยะ 20 เมตร จระเข้เต่าลิงที่หลับอยู่ก็ลืมตาขึ้นทันที รูจมูกใหญ่ขนาดยัดนิ้วหัวแม่มือเข้าไปได้สองนิ้วสูดอากาศค้นหากลิ่น ความโกรธปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่เต็มไปด้วยขนสีดำของมัน
ร่างสูงกว่าสองเมตรกระโดดออกมาจากรถ กระแทกลงบนพื้นด้วยเสียงดังกระหึ่ม ดวงตาปูดโปนขนาดใหญ่ จ้องเขม็งมายังเย่จงหมิงที่อยู่ไม่ไกล
สัตว์ประหลาดมีความไวต่อกลิ่นของมนุษย์ จึงมีน้อยคนที่สามารถเข้าโจมตีสัตว์ประหลาดที่มีระดับวิวัฒนาการเท่ากับตน
เย่จงหมิงมองกระดองและหางที่เต็มไปด้วยเกล็ดสีน้ำเงินของมัน ด้วยทีท่าท้าทาย
สัตว์ประหลาดมีวิวัฒนาการมากกว่าสิ่งมีชีวิตบนโลก แต่ความฉลาดของพวกมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับระดับวิวัฒนาการ ระดับสติปัญญาของพวกมันขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ไม่ใช่ระดับ ดังเช่นจระเข้เต่าลิงระดับ 2 ตัวนี้ สายพันธุ์ของพวกมันไม่ได้มีระดับสติปัญญาเทียบเท่ากับมนุษย์และยังห่างไกลจากสิ่งมีชีวิตอื่นๆบนโลก
ดังนั้นแม้มันจะไม่เข้าใจทีท่าท้าทายของเย่จงหมิง แต่มันก็รับรู้ได้ถึงความหมาย และสิ่งที่ทำให้มันโกรธมากยิ่งขึ้นก็คือ มันกำลังถูกล่อด้วยผ้าแดง!
ถูกต้อง จระเข้เต่าลิงเห็นผ้าแดงแล้วทำให้โกรธง่ายขึ้น ข้อสรุปนี้ได้มาจากชีวิตที่สูญเสียไปในเขตก่อสร้าง ตอนที่กวาดล้างซอมบี้รอบๆเขตก่อสร้าง เย่จงหมิงได้พบเงื่อนงำนี้
อูวา!
จระเข้เต่าลิงร้องข่ม แล้วยืดตัวตรง จากนั้นก็วิ่งตึงๆพุ่งเข้าชนเย่จงหมิง วิธีการโจมตีของมันคล้ายกับมนุษย์มาก
แต่เย่จงหมิงรู้ดีว่าสัตว์ประหลาดชนิดนี้มีความสามารถในการโจมตีได้เหนือกว่ามนุษย์ มันมีพลังมหาศาล ไม่ว่าจะเป็นมือหรือตีนล้วนมีกรงเล็บแหลมคมที่สามารถฉีกร่างของผู้วิวัฒนาการระดับ 3 ได้กระจุย มันมีเกราะป้องกันที่ดี ไม่มีจุดอ่อนตรงส่วนท้องเหมือนกับมนุษย์ ร่างกายของมันมีเกล็ดปกคลุมมิด
จระเข้เต่าลิงรวดเร็วมาก พริบตาเดียวก็มาอยู่ตรงหน้าเย่จง หมิงแล้ว อุ้งมือของมันกวาดผ่านอากาศคว้ามาที่หัวของเขา หากบังเอิญพลาดโดนเข้า คงถึงขั้นหนังหัวถลกเป็นแน่
เย่จงหมิงรีบยัดผ้าสีแดงเก็บไว้ที่เอว ลดการยั่วยุทางสายตาของสัตว์ประหลาด พร้อมกับกระโดดหลบอย่างคล่องแคล่ว แล้วลั่นกระสุนออกไป
เสียงดังปัง ร่างของจระเข้เต่าลิงสั่น ดูเหมือนมันจะแปลกใจกับการถูกจู่โจมอย่างฉับพลัน มันก้มลงมองท้องของตัวเอง แล้วพบว่าเกล็ดหลายชิ้นตรงส่วนนั้นแตกเป็นรูและมีเลือดไหลออกมา
สัตว์ประหลาดร้องคำรามขึ้นอีกครั้ง คราวนี้ไม่ว่าใครก็สามารถได้ยินเสียงอันเกรี้ยวกราดที่แฝงอยู่ในเสียงคำรามนี้ได้อย่างชัดเจน
มันถูกมนุษย์ต้อยต่ำตรงหน้าทำร้าย!จระเข้เต่าลิงอยู่ในสถานะเดือดดาลสุดขีด หนึ่งในทักษะการโจมตีของจระเข้เต่าลิง --- กรงเล็บวายุทมิฬ ถูกใช้ฟาดเข้าใส่เย่จงหมิงอย่างรวดเร็ว
อุ้งมือทั้งคู่รวดเร็วจนเกือบมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า อากาศเหมือนโดนฉีกขาด หากโดนทักษะนี้เข้า ร่างกายจะถูกหั่นเป็นชิ้นๆทันที
แต่ดูเหมือนเย่จงหมิงจะเดาทางได้ มีดเดินป่าในมือตวัดไปมาต้านรับ เสียงเคร๊งๆ จากการบล็อกการโจมตีอย่างรุนแรงดังขึ้นถี่ยิบ
แรงสั่นสะเทือนจากมีดลามไปทั้งแขน เย่จงหมิงเกือบถือมีดไว้ไม่อยู่ ด้วยช่องว่างของระดับวิวัฒนาการ ทำให้เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะสามารถต่อสู้กับจระเข้เต่าลิง เพียงไม่นานแขนของเขาก็ชาไปหมดจากพลังโจมตีมหาศาลนี้
ขณะที่กำลังนึกผิดหวังกับพลังของกระสุนเจาะเกราะระดับ +4 และเรียกสติกลับมาทันนั่นเอง วินาทีต่อจากนั้น หางใหญ่แข็งแรงก็เกือบกวาดโดนตัวเขา พลังลมจากการกวาดหางสัมผัสถูกผิว ทำให้เย่จงหมิงรู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อย หางใหญ่ของมันพลาดจากร่างของเขากระแทกลงพื้น เกิดเป็นหลุมยาวเกือบครึ่งเมตร มันเป็นพลังที่มนุษย์ไม่อาจเทียบเคียง
ถ้าเป็นสภาวะปกติ หากจระเข้เต่าลิงเห็นมนุษย์สามารถหลีกเลี่ยงทักษะที่ 2 --- การลอบฟาดหางของมันได้ มันก็จะระมัดระวังตัวมากขึ้น
แม้ว่าเย่จงหมิงจะมีประสบการณ์จากชีวิตก่อน แต่ความแข็งแกร่งในตอนนี้เทียบไม่ได้กับในชีวิตที่ผ่านมา ดังนั้นจึงเหลือวิธีจัดการกับมันไม่มากนัก แต่อย่างน้อยก็ยังสามารถหาวิธีรับมือกับจระเข้เต่าลิงที่กำลังเดือดดาลตัวนี้ได้อยู่ เขานำผ้าสีแดงออกมายั่วประสาทมันอีกครั้ง
พอเห็นว่าจระเข้เต่าลิงวิ่งเข้าใส่อีกครั้ง เย่จงหมิงก็ใช้การเคลื่อนไหวที่ไม่น่าเชื่อ ตวัดมีดในมือออกไปเบาๆ แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น แขนของเขาไปปรากฏขึ้นต่อหน้าตรงปากของจระเข้เต่าลิง!
เมื่อเห็นมนุษย์กระทำการอันโง่เขลาแบบนั้น ไม่ว่ามันจะลังเลหรือไม่ก็ตาม มันก็อ้าปากแล้วกัดลงไป
หากมันระวังตัวมากพอ มันก็จะสังเกตเห็นว่าที่แขนซ้ายของเย่จงหมิงมีโล่แขนโลหะสีเทาติดตั้งอยู่ แต่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่โล่อันนั้นถูกย้ายไปไว้ที่แขนขวา ด้านเดียวกับมือที่ถือมีด!
เมื่อเห็นจระเข้เต่าลิงกัดลงมา สีหน้าของเย่จงหมิงก็ปรากฏร่องรอยของความผ่อนคลาย แทนที่จะเป็นตื่นตระหนก!
เขามองเห็นข้อมือของตัวเองสั่น มีดในมือหลุดหมุนติ้วไปในอากาศ ปากของจระเข้เต่าลิงกัดลงบนโล่แขนโลหะสีเทา
แกร๊ก!
เสียงขูดจากแรงเสียดทานของการกัดดังขึ้น จระเข้เต่าลิงกัดลงบนโล่แขนไม่ยอมปล่อย!
แล้วปลายกระบอกปืนก็ถูกยื่นเข้าไปผ่านช่องว่างของปาก จากนั้นลูกกระสุนคริสตัลก็พุ่งออกมา!