บทที่ 47 ทีมต้นแบบ
บทที่ 47 ทีมต้นแบบ
ในแง่ปริมาณ ยาวิวัฒนาการระดับ 1 ดาว 3 ขวดแบ่งให้คน 3 คน ย่อมไม่มีอะไรให้ต้องพูดถึง แต่ปัญหาก็คือความแตกต่างระหว่างคนทั้ง 3
สำหรับโม่เย่ เธอเป็นคนที่เหมาะมาก เป็นคนที่เย่จงหมิงต้องการให้เป็นสมาชิกของทีม และก่อนหน้านี้เขาก็ได้ให้สัญญากับเธอไว้ว่าจะให้ยาวิวัฒนาการแก่เธอ
ส่วนเหลียงชูหยิน เย่จงหมิงไม่ค่อยยินดีกับศักยภาพของเธอเท่าไหร่นัก ทั้งหมดมาจากมาตรฐานการตัดสินคนในวันโลกาวินาศว่ามีความแข็งแกร่งเพียงพอหรือไม่ มันเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพที่ใช้ตัดสินคนว่าจะเป็นเช่นใดในอนาคต เหลียงชูหยินมีความสามารถเพียงแค่ใช้ได้เท่านั้น เย่จงหมิงมองออกถึงสภาพร่างกายที่อ่อนแอนุ่มนิ่มของเธอ แม้ว่ามันจะมีเสน่ห์น่าหลงใหล แต่มองไม่เห็นถึง… ศักยภาพของการเป็นคนที่แข็งแกร่ง
ถึงแม้ว่าความแข็งแกร่งขึ้นมากน้อยเพียงใดนั้น จะอยู่กับการลงทุนก็ตาม แต่เมื่อเทียบกับโม่เย่แล้ว เน็ตไอดอลคนนี้อยู่ในระดับที่แตกต่างกัน
อย่างไรก็ตามคนที่ทำให้ปวดหัวยิ่งกว่าคือผูซิ่วหยิง อาจารย์สาวผู้มีความคิดราวกับเป็นเทพธิดาผู้บริสุทธิ์ นี่เป็นข้อห้ามอันใหญ่ยิ่งในวันโลกาวินาศ เพราะมันไม่เพียงแต่จะฆ่าตัวเอง แต่มันจะฆ่าคนรอบข้างด้วย ดังนั้นหากจะมองด้วยสายตาของผู้ชาย เย่จงหมิงเองก็ค่อนข้างชอบผู้หญิงประเภทนี้ แต่หลังจากค้นพบบุคลิกภาพของเธอแล้ว เขาก็คัดอาจารย์ผูออกจากบัญชีเป็นรายชื่อแรกทันที
ตั้งแต่ออกมาจากอาคารโรงเรียนฝึกทหาร อาจารย์คนนี้ก็ติดตามกลุ่มของเขามาโดยตลอด ไม่มีผลงาน ไร้ซึ่งการลงแรง แต่ตอนที่เขาสั่งให้ไปเก็บเกี่ยวผลึกวิเศษ เธอก็พยายามทำอย่างเต็มที่ ยอมแม้กระทั่งลงมือต่อสู้เพื่อปกป้องผลึกวิเศษ สำหรับอาจารย์ที่ใส่ใจต่อภาพลักษณ์ของตัวเองแบบเธอ การทำแบบนั้นมันมีค่ามาก
นั่นคือเหตุผลที่ทำให้เย่จงหมิงค่อนข้างลังเล เขาจะมอบยาวิวัฒนาการอันมีคุณค่ามากนี้ ให้เหลียงชูหยินกับผูซิ่วหยิงดีหรือไม่?
“คุณสามารถทำอะไรได้บ้างอย่างเช่นการต่อสู้หรืออะไรทำนองนั้น”
ถึงแม้ว่าสมรรถภาพทางร่างกายของเหลียงชูหยินจะเทียบไม่ได้กับโม่เย่ มีส่วนโค้งส่วนเว้าน้อยไปสักหน่อย แต่เมื่อพูดถึงความแม่นยำในการบ่งบอกปัญหา และความแน่วแน่ในการตัดสินใจแล้ว ในทั้งสามคนเธอดีที่สุด
เพิ่งฉีดยาภูมิคุ้มกันไวรัสซอมบี้เสร็จ ผู้หญิงคนนี้ก็ตระหนักได้ถึงปัญหาของยาวิวัฒนาการระดับ 1 ดาว ซึ่งมันแสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการตัดสินปัญหาของเธอ ดังนั้นเย่จงหมิงที่ก่อนหน้านี้ปฏิเสธตัวเธอก็จำเป็นต้องวางอคติลง
เย่จงหมิงต้องยอมรับว่าเธอมองปัญหาได้อย่างแม่นยำ จับจังหวะพูดได้ดีมาก และคำพูดของเธอนั้นก็จับใจคนมาก
“การได้รับสิ่งนี้ อาจจะไม่ใช่โชคดี คุณจะต้องเผชิญกับสถาน การณ์ไม่คาดคิดมากมายในอนาคต แต่ละอย่างล้วนเกี่ยวข้องกับความเป็นความตาย ด้วยพลังอันยิ่งใหญ่นี้ ผมจะไม่ปล่อยคุณไปง่ายๆ คุณจะต้องร่วมต่อสู้ไปกับผมเพื่อเป้าหมายของผม บางทีพรุ่งนี้หรือไม่ก็คืนนี้ที่คุณอาจต้องตาย คุณคิดว่าไง?”
นี่เป็นครั้งแรกที่เย่จงหมิงพูดกับเหลียงชูหยินอย่างตรงไปตรงมา
“ฉันรู้และเข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง คุณช่วยชีวิตฉันไว้ ตราบเท่าที่คุณให้โอกาสฉัน ฉันจะยืนเคียงข้างคุณเสมอ แม้ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่งกว่าก็ตาม”
บนใบหน้าของเน็ตไอดอลสาวยังมองเห็นรอยแดงบางส่วนจากการโดนเย่จงหมิงตบเมื่อคืนอยู่ แต่ตอนนี้เธอกำลังให้คำมั่นสัญญาอย่างเคร่งเครียดจริงจังต่อหน้าชายที่ทำร้ายเธอ เย่จงหมิงไม่สามารถหาเหตุที่จะปฏิเสธต่อไปได้อีก
รากฐานไม่ดี ศักยภาพไม่ดี… แต่อย่างน้อยก็มีใจ สามารถลงทุนเพิ่มเติมได้ในภายหลัง
“คุณล่ะ” เย่จงหมิงมองไปยังตำรวจหญิง “ผมสัญญาไว้ว่าจะให้พลังนี้แก่คุณ ตอนนี้คุณสามารถเลือกว่าหลังจากได้รับพลังนี้แล้ว คุณจะอยู่หรือจะไป”
โม่เย่ดูซับซ้อน ก่อนหน้านี้เธอตั้งใจจะไป เธอได้รับการศึกษาและการฝึกอบรมมาหลายปี มีความรู้สึกที่แข็งแกร่งต่อภาระหน้าที่ และเชื่อมั่นต่อประเทศและองค์กร ซึ่งสร้างความจงรักภักดีอันยิ่งใหญ่ให้กับเธอ
อย่างไรก็ตามตั้งแต่เที่ยงคืนที่เธอได้เจอกับผู้ชายคนนี้ ได้ผ่านอันตรายอันน่าตื่นตระหนกในสนามเทนนิส, หนีออกจากอาคารโรงเรียนฝึกทหารและแผนการรถบรรทุกหนัก ทำให้โม่เย่รู้สึกว่าอารมณ์และความรู้สึกของเธอนั้นได้เปลี่ยนไป ลึกๆในใจ เธอต้องการจะอยู่ร่วมกันแบบในตอนนี้ ร่วมกับผู้ชายคนนี้ทักทายกับพลังใหม่และโลก
แต่… ชีวิตที่เคยเป็น เป็นเหมือนเส้นด้ายที่ดึงเธอกลับไป
“คุณบอกฉันได้ไหมว่าคุณมีแผนจะทำอะไรต่อไป?”
โม่เย่ไม่ได้ตอบคำถามของเย่จงหมิงทันที แต่กลับย้อนถามเขาด้วยคำถามนี้
หลังจากคิดอยู่ชั่วครู่ เย่จงหมิงก็ตอบไปว่า “หากไม่มีอุบัติเหตุอะไร เย็นวันนี้ผมจะไปที่เมืองตอนใต้ของทะเลสาบไข่มุก พรุ่งนี้คงอยู่แถวใกล้ๆ อาคารไป๋ซิง”
โม่เย่พยักหน้า “ฉันขอโทษ ฉันอาจจะต้องไป”
แม้ว่าจะเตรียมใจไว้แล้ว แต่เย่จงหมิงก็ยังรู้สึกเสียใจ เป็นเรื่องยากที่จะหาต้นกล้าที่ดีอย่างโม่เย่ มันน่าเสียดายที่เธอต้องจากไป
“แต่ฉันจะกลับมา ฉันแค่มีบางอย่างที่ไม่สบายใจอยากกลับไปดู ถ้าทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี ฉันจะไปสมทบกับพวกคุณที่ทะเลสาบไข่มุกคืนนี้ แต่ถ้ามีอะไรล่าช้า ฉันจะไปหาพวกคุณที่อาคารไป๋ซิงในวันพรุ่งนี้แทน”
มีรอยยิ้มอย่างหมดห่วงเล็กน้อยปรากฏบนใบหน้าของเย่จงหมิง ผู้หญิงคนนี้ไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆ หากเธอไม่คิดถึงทีมก่อนหน้านี้ของเธอแล้วล่ะก็ เย่จงหมิงคงต้องตรวจสอบนิสัยและพฤติกรรมของเธอใหม่อีกครั้ง
หลังจากปัญหาของโม่เย่กับเหลียงชูหยินได้รับการแก้ไขเรียบร้อย สายตาของทุกคนก็หันมามองที่ใบหน้าของผูซิ่วหยิง
ในขณะนี้ อาจารย์สาวสวยผู้กลายมาเป็นชนกลุ่มน้อยรู้สึกค่อนข้างจะขัดเขินและอึดอัดใจ ก่อนหน้านี้เธอได้เข้าต่อสู้กับพวกผู้ชายทำให้แว่นตาของเธอบิดเบี้ยว เสื้อผ้าฉีกขาด ผมเผ้ายุ่งเหยิง ผิวขาวใสกระจ่าง มีร่องรอยขีดข่วนที่เห็นได้อย่างชัดเจน
อาจารย์ผูต้องการยาวิวัฒนาการจริงๆ แม้ว่าเธอค่อนข้างจะตำหนิเกี่ยวกับแนวทางของเย่จงหมิง แต่เธอไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า เธอชื่นชมต่อพลังอันยิ่งใหญ่ของชายคนนี้ ชื่นชมต่อความสงบและความกล้าหาญเมื่อต้องเผชิญกับอันตรายของชายคนนี้
แต่เธอก็รู้ว่าชายคนนี้ไม่ค่อยประทับใจในตัวเธอสักเท่าไหร่ เมื่อมองตาของเขา อาจารย์ผูเข้าใจดีว่า เธอมีโอกาสน้อยมากที่จะได้รับยาตัวนี้
ใช่ เธอได้ช่วยทำบางอย่าง แต่ทุกคนก็สามารถทำมันได้ดีเช่นกัน ดังนั้นเธอจึงไม่ใช่สิ่งจำเป็น
แต่ ถ้าเธอถูกคนเหล่านี้ทิ้ง เธอจะไปที่ไหนได้ ไม่เหมือนตำรวจหญิงที่มีที่ไป ตำรวจหญิงมีองค์กร, มีเพื่อนตำรวจให้กลับไปหา ส่วนเน็ตไอดอลก็ได้ติดตามเย่จงหมิงไม่ต้องจากไปไหน แล้วตัวเธอล่ะ? ญาติทั้งหมดที่มีก็อยู่ที่เมืองอื่น ส่วนโลกภายนอกก็อยู่ในระดับที่อันตรายมาก เธอไม่สามารถเดินทางไปถึงชานเมืองได้แน่ๆ! แล้วเธอจะไปหาใครได้อีก?
การกู้ภัย? ภัยพิบัติเกิดขึ้นกว่า 10 ชั่วโมงแล้ว หากมีความช่วยเหลือก็ควรมาถึงตั้งนานแล้ว
สมองของผูซิ่วหยิงว่างเปล่าขึ้นมาทันที
“ให้ยากับเธอเถอะ จริงๆแล้วเธอเป็นคนดี” เหลียงชูหยินขอร้องให้กับผูซิ่วหยิง สิ่งนี้เกินความคาดหมายของเย่จงหมิงมาก โดยเฉพาะตัวของผูซิ่วหยิงเอง เธอคิดไม่ถึงว่าผู้หญิงที่ไม่เคยเห็นด้วยกับเธอจะทำแบบนี้
“ถ้าพวกเราเป็นหนี้คุณ ฉันจะหาวิธีจ่ายคืนให้ทีหลัง แต่ถ้าพวกเราไม่สนใจเธอ ด้วยนิสัยดีๆแบบเก่าๆของเธอ เธอจะไม่สามารถมีชีวิตรอดได้” แม้แต่โม่เย่ก็ยังช่วยพูดให้ผูซิ่วหยิง
เย่จงหมิงมองดูเหลียงชูหยินกับโม่เย่อย่างลึกซึ้ง แล้วพยักหน้า
“พวกคุณรอผมที่นี่”
แล้วเขาก็เดินไปที่ห้องนั่งเล่นข้างๆ นำสิ่งที่อยู่ในกระเป๋าออกมา เริ่มทำการปรับปรุงยาวิวัฒนาการเหล่านั้นให้เป็นยาวิวัฒนาการระดับ 1 ดาว ฉบับปรับปรุง
“ขอบคุณนะ” ผูซิ่วหยิงกระซิบขอบคุณสองสาว
“ไม่ต้องรีบขอบคุณหรอก ถ้าต่อไปคุณทำให้พวกเราเดือดร้อน ฉันจะฆ่าคุณเอง”
เมื่อได้ยินคำพูดของเหลียงชูหยิน ผูซิ่วหยิงไม่เพียงแต่จะไม่โกรธ แต่ยังขยับไปจับมือของสองสาว เขย่าไปมา
เมื่อเย่จงหมิงกลับมา เขาก็พบว่าความสัมพันธ์ระหว่างสามสาวแตกต่างไปจากเดิมอย่างเห็นได้ชัด แต่นั่นเป็นสิ่งดี และเป็นสิ่งที่เขาต้องการจะเห็น
“หลังจากฉีดเข้าไป มันจะเจ็บปวดนิดหน่อย อดทนเอาหน่อยแล้วกัน”
พูดจบ เขาก็เริ่มฉีดยาวิวัฒนาการระดับ 1 ดาวฉบับปรับปรุงเข้าไปในร่างของสามสาว
……
สร้อยคอสีเขียวมรกตได้หายไปจากจานรูเล็ต หลังจากที่ออกมาจากซุปเปอร์มาร์เก็ต โม่เย่ก็แยกทางไปคนเดียว ส่วนเย่จงหมิงก็พาเหลียงชูหยินกับผูซิ่วหยิงที่ได้กลายเป็นผู้วิวัฒนาการระดับ 1 ดาวแล้วกลับไปที่ห้องเช่าของเขา
“ผมมีบางอย่างต้องไปทำ พวกคุณพักผ่อนอยู่ที่นี่ก่อน หากรู้สึกดีขึ้นแล้ว พวกคุณสามารถออกไปล่าซอมบี้ได้ แต่จำไว้ว่า อย่าเข้าไปยั่วยุกลุ่มซอมบี้ที่มีจำนวนมากเกินไป และหากเจอซอมบี้หรือสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ที่มีผลึกวิเศษสีขาวให้รีบหนีทันที เข้าใจไหม!”
แม้ว่าพวกเธอยังจมอยู่ในความตื่นเต้นที่ได้เป็นผู้วิวัฒนาการ แต่พวกเธอก็ยังพยักหน้ารับฟังคำของเย่จงหมิงอย่างเชื่อฟัง
หลังจากที่ออกมาจากห้อง เย่จงหมิงก็เข้าไปในเมืองอย่างรวดเร็ว โดยมีตี้หวงหวันตามไปติดๆ เขาต้องการไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง เพื่อดูว่าสถานที่แห่งนั้นยังมีสิ่งดีๆ อยู่มากมายเหมือนในชีวิตก่อนหรือไม่
ด้วยระดับวิวัฒนาการของเขา เขาไม่อาจให้ผู้หญิงเหล่านั้นมาเป็นตัวถ่วงได้