บทที่ 44 การต่อสู้ของพวกผู้หญิง
บทที่ 44 การต่อสู้ของพวกผู้หญิง
“ฉันก็กลัว และรู้สึกไม่ดีเหมือนคุณ”
“แต่คุณ…”
“ทำไมฉันไม่พูดออกมาน่ะเหรอ?” เหลียงชูหยินหันหน้ามามองผูซิ่วหยิง
“ใช่ คุณ ไม่ยอมพูดอะไรเลย ฉันถึงได้คิดว่าคุณไม่สนใจ” บางทีอาจเป็นเพราะคำพูดของเหลียงชูหยินที่ทำให้ผูซิ่วหยิงเห็นด้วย และรู้สึกใกล้ชิดกับเหลียงชูหยินยิ่งขึ้น
เน็ตไอดอลสาวยิ้มเย็นชา : “ก็ฉันไม่ได้สนใจจริงๆนะสิ”
“ฉันจะทำทุกอย่างที่เย่จงหมิงบอกให้ทำ ฉันจะไม่ถามเหตุผล ฉันไม่สนใจว่าฉันจะต้องการทำมันหรือไม่”
“คุณไม่คิดแย้งอะไรสักหน่อยเหรอ?” อาจารย์ผูไม่เข้าใจ “ทุกคนมีสิทธิของตนเอง ทุกคนมีอิสระที่จะเลือก พวกเราสามารถพูดว่า ‘ไม่’ ได้”
เหลียงชูหยินหัวเราะและส่ายหน้า “อาจารย์ผู ฉันคิดว่าคุณไม่เหมาะกับโลกในตอนนี้เลย ดูเหมือนว่าคุณไม่คิดแม้แต่จะทำความรู้จักกับมัน”
แล้วเน็ตไอดอลสาวก็ชี้มือไปทางซอมบี้ที่อยู่ไกลๆ กับซากศพที่เกลื่อนกลาดไปทั้งพื้น “เห็นนั่นไหม คุณคิดว่าโลกตอนนี้เป็นยังไง?”
“ไม่ต้องตอบ เพราะคุณก็รู้อยู่แก่ใจดีว่าค่ำคืนที่ผ่านมาโลกได้เปลี่ยนไปแล้ว คุณคิดว่ามาตรฐานความคิดก่อนหน้านี้เหมาะกับโลกในตอนนี้งั้นเหรอ?”
“ไม่ว่าฉันจะชอบมันหรือไม่ แต่โลกเปลี่ยนไปแล้ว ถ้าฉันไม่เปลี่ยน ฉันจะกลายเป็นสัตว์ประหลาดพวกนั้น ถ้าฉันไม่เปลี่ยน บางทีฉันอาจเป็นหนึ่งในซากที่ถูกรถบรรทุกหนักบดขยี้!”
ผูซิ่วหยิงเงยหน้าขึ้นมองพร้อมกับถอนหายใจ “คุณพูดถูก แต่คุณไม่สามารถทำทุกสิ่งที่เด็กหนุ่มดุร้ายคนนั้นบอกได้”
“ทำไมจะไม่ได้ล่ะ?” เหลียงชูหยินมองไปข้างหน้า ในใจก็นึกคำนวณหาเวลาเหมาะๆที่จะเข้าไปปฏิบัติภารกิจ “ไม่เพียงแต่การขุดผลึกวิเศษจากซากซอมบี้ ถึงมันจะสกปรกที่สุด ฉันก็จะทำ ถ้าเขาบอกให้ฉันทำอย่างอื่น ฉันก็ไม่ลังเล แค่เพียงเขากระดิกนิ้ว ฉันก็ยินดีจะฉีกกางเกงในถ่างขาให้เขาทันที”
“คุณ คุณ คุณ ทำไมถึงได้ไม่มีหลักการอะไรเลยแบบนี้!” อาจารย์ผูยังไม่ได้แต่งงาน เธอมีภาพลักษณ์ของอาจารย์สาวผู้บริสุทธิ์ พอได้ยินเหลียงชูหยินพูดตรงๆออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคำแบบนั้น เธอถึงกับหน้าแดงพูดพึมพำราวกับกระซิบ : “เรื่องแบบนี้ มันต้องแต่งงานกันก่อน มันขึ้นอยู่กับความรู้สึกที่มีต่อกัน”
“หลักการ? ความรู้สึก?” เน็ตไอดอลสาวส่งเสียงฮัมในลำคอ “นั่นมันไร้สาระ แม้ว่าโลกจะไม่เปลี่ยนแปลง คุณคิดว่าการทำเรื่องแบบนั้นจำเป็นต้องแต่งงานกันด้วยงั้นเหรอ? ไม่ใช่ว่าโรงแรมมีคนเปิดห้องเต็มอยู่ทุกวันเหรอ? หลักการ? หลักการที่พูดมันก็แค่การวางเงินค่าสินสอด ลงบนโต๊ะก่อนเอากันไม่ใช่เหรอ? ! ความรู้สึก? ไอ้นั่นมันเป็นแค่วิธีที่คู่รักหลายคู่ใช้ในการแยกทางกันต่างหาก หรือคุณว่าไม่ใช่? ถ้าเรื่องแบบนี้มีหลักการที่ต้องพูดเกี่ยวกับความรู้สึกจริงๆ แล้วล่ะก็ มันจะมีครวญครางดังมาจากในรถ BMWได้ไง? ความรู้สึกมันก็เหมือนพวกชอบทำหน้าเศร้าต่อหน้าลับหลังแอบไปยิ้มจนหน้ากระเพื่อมแค่นั้นแหล่ะ!”
“แม้แต่ตอนที่โลกยังไม่ได้อยู่ในความสับสนวุ่นวาย หากต้องการมีชีวิตที่ดีขึ้น มีวัตถุที่ดีขึ้น ก็ต้องมีเงินก่อน เพื่อเงิน ผู้หญิงสามารถมอบครั้งแรกขึ้นเตียงเอากับคนที่ไม่ได้รักให้กำเนิดลูกชายลูกสาวให้เขา เพื่อเงินผู้หญิงสามารถขายเนื้อหนังมังสาอ่อนเยาว์โดยยอมเสี่ยงต่อการถูกถ่ายภาพอัพโหลดลงอินเตอร์เน็ต เพื่อเงินผู้หญิงสามารถยอมเป็นมือที่สามทำลายครอบครัวของคนอื่น! แต่ตอนนี้โลกอยู่ในความวุ่นวาย ทำไมผู้หญิงเราจะไม่สามารถอยู่กับคนที่ดีและแข็งแกร่งพอที่จะป้องกันชีวิตและทำให้รอดชีวิตได้ล่ะ?”
“อย่างน้อยที่ฉันกำลังพูด มันหมายถึงชีวิต! ฉันคิดว่ามันมีเกียรติกว่าคนที่พูดถึงเรื่องเงิน!”
เหลียงชูหยินจบบทสนทนาระหว่างพวกเธอ และขยับมีดสั้นในมือ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงต่ำๆ ว่า “ไปเถอะ ถึงเวลาที่พวกเราต้องไปทำ งานกันแล้ว ฉันไม่ต้องการถูกเย่จงหมิงรังเกียจ เพราะแค่ทำเรื่องเล็กๆน้อยๆเท่านี้ ยังไม่สามารถทำให้ดีได้”
ร่างผอมบางวิ่งออกไปโดยไม่ได้หันกลับมามอง ผูซิ่วหยิงไม่รู้ว่าตอนนี้ตนเองกำลังรู้สึกอย่างไร เธอแค่วิ่งตามไป และรู้สึกว่าบางอย่างที่อยู่ในจิตใจมากว่า 20 ปีกำลังแตกออก
………
เย่จงหมิงวางแผนให้ตนเองกับโม่เย่ขับรถบรรทุกหนักบดขยี้ซอมบี้ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แล้วให้เหลียงชูหยินกับผูซิ่วหยิงคอยตามเก็บผลึกวิเศษ เขาต้องการผลึกวิเศษจำนวนมากไปหมุนรูเล็ตในซุปเปอร์มาร์เก็ต
แผนนี้ดูเหมือนง่าย แต่มันยากต่อการทำและอันตรายอย่างยิ่ง
เย่จงหมิงกับโม่เย่ที่อยู่ในรถบรรทุกหนักดูเหมือนจะปลอดภัย หากไม่เผชิญหน้ากับซอมบี้ที่มีวิวัฒนาการ แต่เมื่อใดก็ตามที่รถบรรทุกหนักเริ่มเกิดการขัดข้องเนื่องจากการชนแล้วล่ะก็ พวกเขาจะถูกล้อมโดยฝูงซอมบี้ ในกรณีนี้สำหรับพวกเขาที่ยังไม่มีภูมิคุ้มกันไวรัสซอมบี้ การตกอยู่ในดงของพวกมันโดยทั่วไปแล้ว มันเทียบได้กับความตาย
สำหรับเหลียงชูหยินกับผูซิ่วหยิงนั้น แม้ว่างานของพวกเธอจะเป็นเพียงการขุดผลึกวิเศษจากซากของซอมบี้ แต่รถบรรทุกหนักดึงดูดซอมบี้ทั้งหมดไปแล้วแน่หรือ? มันยากที่พูดแบบนั้นได้ ไม่มีใครสามารถรับประกันได้ว่าจะไม่มีปลาที่หลุดรอดแห และหญิงสาวทั้งคู่ก็ไม่ใช่ผู้วิวัฒนาการ ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านทักษะการต่อสู้เหมือนโม่เย่ หากพบกับซอมบี้ ชีวิตของพวกเธอก็เกือบจะแขวนอยู่บนเส้นด้าย
มันเป็นแผนที่ไม่สมบูรณ์แบบ และไม่ถูกต้องตามตำรา แต่มันคือวิธีที่เย่จงหมิงเคยใช้ในชีวิตก่อน เขาจึงไม่ได้รู้สึกอะไร
นอกจากนี้ ความเสี่ยงสูงย่อมหมายถึงผลตอบแทนสูง และเขาคิดว่ามันคุ้มค่าที่จะเสี่ยง
โม่เย่ขับรถวนอยู่บริเวณพื้นที่อาคารเรียนอยู่ถึงสองรอบ เย่จงหมิงขับรถตามหลังชนปะทะฝูงซอมบี้อย่างบ้าคลั่ง ช่วงเวลาเหล่านั้นมีอันตรายเกิดขึ้นหลายครั้ง ที่อันตรายที่สุดคือ รถบรรทุกหนักของโม่เย่ถูกฝูงซอมบี้ล้อมกรอบและต้องหยุดลง จนเย่จงหมิงต้องขับรถขึ้นมาจัดการพวกมันออกไปกว่าครึ่ง โม่เย่จึงสามารถขับรถบรรทุกหนักต่อไปได้
จากที่ไกลๆทางด้านหลัง เย่จงหมิงเห็นเหลียงชูหยินกับผูซิ่วหยิงเริ่มทำการเก็บเกี่ยวผลึกวิเศษกันแล้ว เขารู้ว่าถ้ารถบรรทุกหนักยังคงส่งเสียงดังลั่นแบบนี้ บางทีแม้แต่ซอมบี้ในพื้นที่หอพักนักศึกษาก็อาจถูกดึงดูดออกมาด้วย ถ้าเป็นแบบนั้นมันจะไม่ใช่แค่อันตราย แต่เป็นปัญหาถึงชีวิต
เย่จงหมิงได้โอกาสหยิบปืนออกมา เปิดหน้าต่างและยิงออกไปนอกรถ
โม่เย่ที่อยู่ด้านหน้าพอได้ยินเสียงปืนก็รู้ว่าได้เวลาแล้ว เธอเริ่มเร่งเครื่องและกดแตรรถบรรทุกหนักอย่างต่อเนื่อง เสียงแตรลั่นดังไปกว่าครึ่งมหาวิทยาลัย ซอมบี้ที่ล้อมรอบอยู่ก็ยิ่งบ้าคลั่งมากขึ้น
เย่จงหมิงหายใจทางปากถี่ขึ้นเล็กน้อย เขาต้องการสมาธิในการควบคุมรถบรรทุกหนัก เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดขึ้น รถบรรทุกหนักที่ซ่อมแซมมาใหม่ได้รับการปะทะชนอยู่หลายครั้ง จนเริ่มเร่งเครื่องไม่ขึ้นและบังคับยากขึ้น มันคงทนได้อีกไม่นาน
โม่เย่ขับรถชนโครมไปที่กำแพงมหาวิทยาลัยฝั่งตรงข้ามตรงด้านหน้าซุปเปอร์มาร์เก็ต และวิ่งตรงไปยังถนนฝั่งตรงข้ามอย่างรวดเร็ว แล้วรถก็สูญเสียการควบคุม รถแกว่งไปมา 2-3 ครั้ง จากนั้นก็พุ่งชนเข้าไปในบ้านที่อยู่ริมถนน แล้วดับสนิทติดอยู่ในนั้น
ซอมบี้วิ่งผ่านช่องที่กำแพงออกไปเป็นจำนวนมาก มากกว่าหลายพันตัว
เย่จงหมิงเห็นได้เวลาเหมาะ เขาขับรถฝ่าผ่านช่องที่กำแพงพุ่งชนฝูงซอมบี้ที่อยู่ด้านหน้า แล้วไปเบรคหยุดกึกอยู่ข้างๆรถของโม่เย่
เขาเอาไม้ที่เตรียมไว้ยันกับแป้นเบรคเท้าโดยไม่ดับเครื่องยนต์ เย่จงหมิงเปิดประตูฝั่งตรงข้ามแล้วกระโดดลงไป วิ่งอ้อมไปยังรถบรรทุกหนักคันข้างๆ เนื่องจากหน้าต่างเต็มไปด้วยเศษเนื้อและเลือด ทำให้เขาไม่สามารถมองเห็นข้างในรถได้ชัดเจน ดังนั้นเขาจึงต้องใช้มีดทุบไปที่กระจกจนแตก จากนั้นก็เอื้อมมือไปเปิดประตูจากทางด้านใน แล้วเข้าไปประคองศีรษะที่เต็มไปด้วยเลือดที่ฟุบอยู่บนพวงมาลัยของโม่เย่ขึ้น และอุ้มเธอวิ่งออกมา
ไม่กี่วินาทีต่อมา รถบรรทุกหนักทั้งสองคันก็ท่วมไปด้วยซอมบี้
เย่จงหมิงพาโม่เย่มาซ่อนตัวอยู่หลังป้ายหยุดรถประจำทางโดยใช้รถยนตร์สองคันที่อยู่ตรงนั้นเป็นที่กำบัง เย่จงหมิงตรวจบาดแผลของโม่เย่ แล้วก็โล่งใจเมื่อพบว่าเธอเพียงแค่หัวแตกเท่านั้น เมื่อใช้น้ำเช็ดหน้าให้เธอ ตำรวจหญิงก็ได้สติขึ้นมา
“พอมีแรงไหม?”
“ไม่มีปัญหา”
หลังจากบทสนทนาที่เรียบง่ายระหว่างคนทั้งคู่ พวกเขาเริ่มเคลื่อนที่อ้อมเป็นวงกว้างหลีกเลี่ยงซอมบี้ที่พากันกรูออกมาจากช่องที่กำแพง กลับเข้าไปในมหาวิทยาลัยอีกครั้ง
เมื่อพวกเขาพบเหลียงชูหยินกับผูซิ่วหยิง มันก็ผ่านไปกว่าครึ่งชั่วโมง
แล้วภาพที่เห็นก็ทำให้คนทั้งคู่ถึงกับงง พวกเขาเห็นเหลียงชูหยินกำลังตบตีอยู่กับเด็กสาวสองคนจนผมกระเจิง เสื้อผ้ายุ่งเหยิง แม้แต่ผูซิ่วหยิงก็อยู่ในสภาพเดียวกัน เธอกำลังใช้กรงเล็บข่วนไปที่ใบหน้าของเด็กหนุ่ม หมดสิ้นภาพลักษณ์ที่แสนสุภาพ!