บทที่ 42 มู่ซินเฟยหายไป
บทที่ 42 มู่ซินเฟยหายไป
รถกระบะที่เช่ามาจากร้านเช่ารถ พลิกคว่ำ ด้านหนึ่งพังยับ ดูราวกับถูกชนด้วยรถถัง
ประตูที่ถูกของเหลวของแมลงกลายพันธุ์กัดกร่อนจนเป็นรูใหญ่เมื่อคืน ตอนนี้ไม่ได้อยู่ตรงนั้นอีกแล้ว มันกลายเป็นช่องขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยเศษอิฐ เศษหิน และเศษไม้
แม้แต่เย่จงหมิงที่มีชีวิตในช่วงเวลาแห่งวันโลกาวินาศมาถึง 10 ปี ยังไม่สามารถบอกได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น
“พวกคุณรอตรงนี้”
เย่จงหมิงกระซิบสั่งพวกสาวๆ แล้วเข้าไปในบ้านอย่างเงียบๆ
เพิ่งมาถึงหน้าประตู เขาก็ได้กลิ่นแปลกๆ มันเป็นกลิ่นเหม็นแปลกๆที่ไม่เด่นชัดนัก เขามองไปที่พื้นรอบๆ และพบกับร่องรอยแปลกๆ
ประตูวิลล่าดูเหมือนโดนระเบิดจนพัง
วัตถุระเบิด? เย่จงหมิงปฏิเสธความคิดนี้ทันที
ถ้ามีการระเบิดเกิดขึ้นที่นี่จริงๆ มหาวิทยาลัยก็ไม่ได้อยู่ไกลจากที่นี่ทำไมถึงไม่ได้ยินเสียง? วัตถุระเบิดจะไม่เงียบแบบนี้ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้ยินเสียงระเบิด และเป็นไปไม่ได้ที่จะมีปัจเจกบุคคลถือครองวัตถุระเบิด มีแต่กองทัพเท่านั้นที่มีไว้ครอบครอง แต่กองทัพจะจู่โจมบ้านคนธรรมดาๆทำไม? มันไม่มีเหตุผล ถึงแม้ที่นี่จะมีรูเล็ต ก็แค่เข้าไปข้างในก็ได้นี่ ทำไมต้องระเบิดประตูจนพังยับแบบนี้?
ถ้าไม่ใช่วัตถุระเบิด แล้วมันเป็นอะไร?
เมื่อเข้าไปในวิลล่า ห้องโถงที่ดูงดงามดูเหมือนจะถูกปล้น มันถูกค้นจนยุ่งเหยิงไปหมด เย่จงหมิงพยายามฟังเสียงสิ่งผิดปกติ แต่ก็ไม่พบอะไร เขาจึงเดินเข้าไปในครัวอย่างระมัดระวัง
รูเล็ตยังคงอยู่ที่เดิม เพราะเป็นไปไม่ได้ที่จะทำลายมัน ต่อให้เมืองทั้งเมืองถูกทำลาย มันก็ยังตั้งอยู่ได้อย่างมั่นคง
ประตูห้องใต้ดินหายไป เป็นอีกครั้งที่เห็นร่องรอยของระเบิดแปลกๆ ด้านใน มู่ซินเฟยผู้แข็งแกร่งระดับ 9 ดาวในอนาคตหายไปแล้ว
เย่จงหมิงมองไปรอบๆห้องใต้ดิน แล้วพบจุดที่น่าสงสัย 2 จุด จุดแรกคือ เนื้อนุ่มๆของแมลงกลายพันธุ์ที่เขานำมาให้มู่ซินเฟยปรุงก่อนจะจากไป มันถูกปรุงสุกและจัดอยู่บนจานอย่างเรียบร้อย เห็นได้ชัดว่าเธอกำลังรอให้เขากลับมา แต่เธอกลับหายไปราวกับมีเหตุบางอย่างเกิดขึ้น จุดที่ 2 มันคือประตูเซฟที่ถูกเปิดออก และด้านในนั้นว่างเปล่า
เย่จงหมิงตรวจดูรอบๆอีกสักพัก แต่ก็ไม่พบอะไรเลย เขาไม่สามารถบอกได้ว่าตอนนี้ตนเองกำลังรู้สึกยังไงกันแน่ ที่ไม่รู้ว่าผู้แข็งแกร่งระดับ 9 ดาวในอนาคตหายไปไหน?
หรือว่าเป็นเพราะรูปร่างหน้าตาของเธอทำให้โชคชะตาของเธอเปลี่ยนไป หรือว่าเธอเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับบางอย่างที่เธอไม่อาจเข้าแทรกแซงได้?
เย่จงหมิงเก็บยาที่เขาทิ้งเอาไว้ แล้วออกมาจากวิลล่า หญิงสาวทั้งสามคนมองเขาด้วยความสงสัย แต่เขาไม่อยากอธิบายจึงได้แต่ส่ายหน้า “ไปกันเถอะ ไปยังสถานที่ ที่อยู่ถัดไป”
สถานที่ ที่อยู่ถัดไป ย่อมต้องไม่ใช่มหาวิทยาลัยที่เพิ่งจากมา แต่เป็นจุดจอดรถบรรทุกหนัก
มันเป็นยานพาหนะที่น่าเชื่อถือที่สุดในวันโลกาวินาศ นอกเหนือจากรางวัลที่ได้จากรูเล็ต รถบรรทุกหนักนับว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุด
มันไม่เพียงแต่จะถูกปกคลุมด้วยแผ่นเหล็กที่แข็งแกร่ง แต่มันยังทรงพลังมาก และยังสามารถปรับให้เข้ากับสภาพภูมิประเทศที่เลวร้ายได้เป็นอย่างดี แม้ว่ามันจะดูแลรักษาได้ไม่ง่ายเหมือนรถยนต์หรือออฟโรด แต่มันก็เป็นรถที่สมบูรณ์แบบสำหรับวันโลกาวินาศ
จุดจอดรถบรรทุกหนักเงียบมาก แต่ไม่มีรอยเลือดอยู่รอบๆ บริเวณนั้น นั่นทำให้พวกผู้หญิงรู้สึกดีขึ้น
ที่จุดจอดรถ มีรถบรรทุกหนักจอดอยู่แค่ 3 คัน ส่วนอื่นๆว่างเปล่า เขาคิดว่ารถพวกนั้นคงถูกนำออกไปวิ่งหมดแล้ว
เย่จงหมิงเดินสำรวจไปรอบๆ แล้วพบว่า ภายในห้องยามกับภายในหอพัก มีซอมบี้อยู่ 7-8 ตัว เขาไม่ได้จัดการพวกมันด้วยตัวเอง แต่เรียกให้หญิงสาวทั้งสามไปทำแทน
“คุณจะให้ฉันเนี่ยนะไปฆ่ามัน?”
ผูซิ่วหยิง ส่ายหน้าอย่างแรง เธอหน้าซีดไม่เต็มใจที่จะออกไป
เย่จงหมิงมองผู้หญิงอีกสองคนที่เหลือ แล้วถามว่า “พวกคุณว่าไง?”
“ฉันไป!”
คนที่พูดขึ้นเป็นคนแรกคือ เหลียงชูหยิน
“ไม่ว่าฉันจะต้องการหรือไม่ แต่สุดท้ายฉันก็ต้องเผชิญหน้ากับมันไม่ใช่เหรอ?”
คำพูดนี้ทำให้เย่จงหมิงต้องมองเธอใหม่อีกครั้ง เขาไม่คาดคิดว่าเน็ตไอดอลอย่างเธอจะมีคิดแบบนี้ได้
“ถูกต้อง ถ้าคุณไม่สามารถแม้แต่จะเผชิญหน้ากับซอมบี้ หากพบกับสัตว์ประหลาดที่แข็งแกร่งและน่ากลัวกว่านี้ในอนาคต คงได้แต่กลายเป็นอาหารของพวกมันเท่านั้น”
พอเหลียงชูหยินได้ยินที่เย่จงหมิงพูด เธอก็ลุกขึ้นแล้วเดินไปที่ซอมบี้ 2 ตัวที่อยู่ตรงประตู
มันเป็นกระบวนการที่อันตราย มีอยู่หลายครั้งที่ซอมบี้เกือบจะจับเหลียงชูหยินได้ แต่ในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดเย่จงหมิงก็ลงมือ เขาตัดแขนขาของซอมบี้ แล้วส่งให้เหลียงชูหยินจัดการต่อ
มันเป็นครั้งแรกที่หญิงสาวผิวเนียนขาวราวกับหิมะ ที่มักถูกเรียกว่า คนงาม ได้ลงมือสังหารซอมบี้ 2 ตัว ทั้งๆ ที่มีใบหน้าซีดเผือดปราศจากสีเลือด แต่เธอก็ได้รับการชื่นชมจากเย่จงหมิง
เย่จงหมิงไม่ใช่คนใจบุญ เขาไม่มีวันพาผู้หญิงที่ไม่มีประโยชน์ต่อแผนการของเขาไปด้วยแน่ๆ
แต่การกระทำของเหลียงชูหยิน ทำให้เขาชื่นชม
แต่ละคนมีพฤติกรรมที่แตกต่างกันในการเผชิญหน้ากับวิกฤติ บางคนกลัวจนตัวแข็ง บางคนก็ถึงกับหัวใจวายตายทันที และบางคนก็ลุกขึ้นสู้ ค้นหาวิธีที่จะอยู่รอด
คนที่เป็นแบบหลัง แม้ว่าจะอ่อนแอ แต่ความกล้าหาญของพวกเขาก็น่าชื่นชม เพราะพวกเขามีบางอย่างที่น่าตื่นเต้น สิ่งนั้นเรียกว่า ความหวัง
และความหวังก็เป็นแรงจูงใจทางจิตวิญญาณเพียงอย่างเดียวให้กับมนุษย์ ทำให้สามารถมีชีวิตอยู่ได้ในวันโลกาวินาศ
“เจ้าหน้าที่โม่ ตาคุณแล้ว” เย่จงหมิงส่งมีดเดินป่าในมือให้กับโม่เย่ “อย่าทำให้ผมผิดหวัง”
โม่เย่กัดฟันกรอด วิ่งเข้าไปในหอพักที่มีซอมบี้อยู่ 5-6 ตัว
เย่จงหมิงไม่ได้ตามเข้าไปด้วย ไม่ใช่เพราะเขาลำเอียงไปทางเหลียงชูหยินแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะความต้องการของเขาสำหรับผู้หญิงสองคนนี้ไม่เหมือนกัน
สำหรับเหลียงชูหยิน แม้ว่าความพยายามของเธอจะได้รับความชื่นชมจากเย่จงหมิง แต่ท้ายที่สุดศักยภาพของเธอในอนาคตก็ยังอยู่ห่างไกลจากการยอมรับ
สำหรับโม่เย่นั้นแตกต่างกัน ผู้หญิงคนนี้มีพรสวรรค์และมีสมรรถภาพทางร่างกายที่ทำให้เย่จงหมิงอิจฉา ถ้าทำได้ เย่จงหมิงต้องการให้เธอเป็นหนึ่งในสมาชิกของทีม แต่ถ้าหากผู้หญิงที่ได้เรียนรู้วิชากังฟูที่ทรงประสิทธิภาพแล้วสุดท้ายกลับไม่สามารถจัดการกับซอมบี้ธรรมดาๆ ไม่กี่ตัวด้วยอาวุธสีขาวได้แล้วล่ะก็ เย่จงหมิงก็จะหยุดความคิดที่จะลงทุนในตัวเธอ
แน่นอนว่า ถ้าโม่เย่ไม่สามารถจัดการกับซอมบี้เหล่านั้นได้ เธอก็คงถูกพวกมันกิน มันจึงไม่สำคัญว่าเขาจะลงทุนกับเธอหรือไม่
หลังจากเกิดเสียงดัง โม่เย่ก็เดินออกมาข้างนอก ราวกับว่าไม่เคยมีการต่อสู้และการฆ่าเกิดขึ้นมาก่อน
เธอเดินมาตรงหน้าเย่จงหมิงแล้วแบมือออก ในมือของเธอมีผลึกวิเศษระดับ 1 อยู่ 6 ชิ้น
“ยินดีด้วย คุณจะได้รับ ‘พลัง’ สำหรับตัวคุณเองแล้ว” เย่จงหมิงยิ้มและปรบมือให้กับโม่เย่ เขาเก็บผลึกวิเศษ แล้วขึ้นไปบนรถบรรทุกหนัก
สำหรับอาจารย์ผูซิ่วหยิง ไม่เพียงเย่จงหมิง แม้แต่เหลียงชูหยินกับโม่เย่ก็ยังแสดงความเย็นชาให้เห็นอยู่บ้างเล็กน้อย
“พวกคุณไปพักผ่อนกันก่อนเถอะ พวกเราจะเริ่มออกเดินทางกันในอีกครึ่งชั่วโมง”
เย่จงหมิงต้องการดูแลซ่อมแซมรถบรรทุกหนักให้เรียบร้อยก่อน จึงได้ออกคำสั่งแรกของวันนี้
“พวกเราจะไปไหนกัน?” เหลียงชูหยินถาม
“ไปทำให้แข็งแกร่งขึ้น!” น้ำเสียงของเย่จงหมิงเต็มไปด้วยความหมายของการฆ่า