บทที่ 41 โล่โลหะ
บทที่ 41 โล่โลหะ
สำหรับของเหลวสีชมพูอ่อนในขวดนั้น เย่จงหมิงรู้ว่ามันคืออะไร มันคือยาสร้างภูมิคุ้มกัน หรือจะเรียกอย่างก็คือ ยาภูมิคุ้มกันไวรัสซอมบี้ที่ยังไม่สมบูรณ์
หลังจากใช้ยา คนที่ใช้จะไม่ติดเชื้อไวรัสจากซอมบี้อีก อย่าง ไรก็ตามมันใช้ไม่ได้กับเชื้อไวรัสซอมบี้ที่ได้รับการวิวัฒนาการ หรือถ้าโชคร้ายได้รับเชื้อไวรัสซอมบี้เป็นจำนวนมากในช่วงเวลาสั้นๆก็อาจจะสูญเสียภูมิคุ้มกันนี้ไปได้เช่นกัน
ในรูเล็ตตั้งแต่ระดับ 2 ขึ้นไป ของเหลวสีชมพูทั้งหมด จะเป็นยาสร้างภูมิคุ้มกันที่สมบูรณ์
มันเป็นสิ่งที่ดีมากในช่วงเวลาแรกๆ ของวันโลกาวินาศ แม้กระทั่งในอีกหลายปีต่อมา มันก็ยังเป็นหนึ่งในสิ่งที่จำเป็น
แต่สิ่งที่เย่จงหมิงหมายตาจริงๆ ในรูเล็ตอันนี้มีอยู่ 2 อย่าง นั่นคือ โล่โลหะ กับสร้อยคอสีเขียวมรกต
โดยเฉพาะอย่างยิ่งอย่างหลัง นั่นคือความจริง เพราะรูปสร้อยคอสีเขียวมรกตบนจานรูเล็ต ส่องประกายแสงสีขาวอ่อนๆ
อุปกรณ์ระดับทั่วไปสีขาว?
นี่เป็นระดับเดียวกับมีดเดินป่าไม่ใช่เหรอ?
มีดเดินป่าอาวุธระดับทั่วไปสีขาว สร้างขึ้นโดยอาชีพช่างฝีมือผู้มีเกียรติของเย่จงหมิง ถึงแม้จะไม่อาจกล่าวได้ว่าเขาเป็นคนเดียวที่ครอบครองอาวุธระดับนี้ภายในสิบชั่วโมงนับแต่วันสิ้นโลกได้เริ่มต้น แต่มันก็หาได้ยากมากจริงๆ
อาวุธดังกล่าว เย่จงหมิงใช้พลังวิญญาณไปมากในการสร้างมัน
ตอนนี้มีอุปกรณ์สีขาวอยู่ตรงหน้าเขาโดยไม่คาดคิด
เมื่อเทียบกับสร้อยคอสีเขียวมรกตแล้ว โล่โลหะดูด้อยกว่ามาก จากที่ดูมันน่าจะเป็นระดับสีเทา (ระดับทั่วไป มีสีขาว กับ สีเงิน --สีเทาต่ำกว่าสีขาว)
เขาหยิบผลึกวิเศษทั้งหมดที่มีออกมา บวกกับที่กระจายอยู่บนรูเล็ต เย่จงหมิงตรวจนับ มันน่าจะหมุนรูเล็ตได้แค่ 2 ครั้งเท่านั้น แต่ของที่เขาต้องการในรูเล็ตอันนี้มีอย่างน้อย 4 อย่าง ผลึกวิเศษที่มีอยู่ไม่เพียงพอ ดูเหมือนว่าที่เหลือคงต้องว่ากันภายหลัง
เมื่อใส่พลังงานลงไป ตัวชี้ขนาดใหญ่ก็เริ่มหมุนผ่านพื้นที่ทั้ง 10 หลังจากใช้ทักษะข้อยกเว้นขั้นต้นกำจัดสิ่งที่ไม่ต้องการออกไป 1 อย่าง ตัวชี้ค่อยๆ หยุดหมุนลงที่เชือก
เย่จงหมิงไม่แม้แต่จะกระพริบตา เริ่มหมุนครั้งที่สองต่อทันที
นั่นคือสิ่งที่รูเล็ตเป็น มันคือการเสี่ยงโชค หากโชคดีก็จะได้รับสิ่งที่ดีที่สุดจากรูเล็ต แม้ว่าจะหมุนเพียงครั้งเดียวก็ตาม แต่ถ้าหากโชคไม่ดี ต่อให้หมุนเป็นสิบๆ ครั้ง ก็อาจไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการ
รูเล็ตเริ่มหมุนอีกครั้ง ครู่ต่อมา โล่โลหะก็หล่นออกมาจากกล่อง
สร้อยคอสีเขียวมรกตเป็นรางวัลที่ดีที่สุดบนรูเล็ตอันนี้ รองลงมาคือยาวิวัฒนาการระดับ 1 ดาว กับยาภูมิคุ้มกันไวรัสที่ไม่สมบูรณ์ ต่อจากนั้นก็คือโล่โลหะอันนี้
สามารถได้สิ่งนี้จากการหมุนเพียงสองครั้ง เย่จงหมิงไม่มีอะไรที่จะไม่พอใจ
โล่โลหะสีเทาดำ มันเป็นโล่แขน ใหญ่เกือบเท่าจานกระเบื้อง
ธรรมดา เมื่อมองใกล้ๆ จะเห็นเงาสีเทาบนโล่ ทำให้แน่ใจได้ว่ามันคืออุปกรณ์สีเทาระดับทั่วไป เมื่อฟังจากเสียงเคาะ จากประสบการณ์ของเย่จงหมิง ทำให้เขารู้ว่ามันเป็นเครื่องป้องกันที่ดี อย่างน้อยโล่นี้ ควรจะสามารถใช้ต้านทานการจู่โจมของแขนเหล็กซอมบี้ระดับสอง หรือลิ้นใหญ่ๆ ของกิ้งก่าลิ้นเลือดได้
เย่จงหมิงนำโล่มาใส่ไว้ที่แขนซ้าย จากนั้นก็มองออกไปนอกหน้าต่างผ่านท้องฟ้าที่เริ่มเป็นสีขาว เขาพบว่าความวุ่นวายในมหาวิทยา ลัยได้ลดลงแล้ว ตามสถานที่ต่างๆมีซอมบี้รวมตัวกันกัดกินศพเป็นกลุ่ม เล็กๆ ส่วนที่เหลืออยู่กันกระจัดกระจายค้นหาอาหารอย่างไม่มีจุดหมาย
เขากลับไปยังหน้าต่างบานเล็กที่เข้ามา แล้วโรยเชือกลงไป จากนั้นก็โบกมือส่งสัญญาณให้สามสาวปีนขึ้นมา สำหรับตี้หวงหวัน เขาปล่อยให้มันอยู่ข้างล่างคอยเป็นยาม
ทั้งสามคนค่อยๆ ปีนเชือกขึ้นไปทีละคน โม่เย่เป็นตำรวจ ด้วยความสูงเพียงแค่นี้ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเธอ แต่คนที่ทำให้เย่จงหมิงต้องประหลาดใจคือ เหลียงชูหยิน เธอมีพลังตามแบบของผู้หญิงที่มีร่างกายแข็งแรง แต่ก็ไม่อาจปกปิดเสน่ห์ของเรือนร่าง แม้จะไม่อาจเทียบกับโม่เย่ได้ แต่ก็ปีนเชือกขึ้นมาได้อย่างราบรื่น คนเดียวที่ดูโง่มากก็คืออาจารย์ผู ดูเหมือนว่าเธอคงออกกำลังกายตามปกติ ไม่งั้นคงไม่มีรูปร่างที่สมส่วนแบบๆนี้ แต่กำลังแขนของเธอมีไม่พอ ปีนมาถึงครึ่งทางก็อ่อนแรงเสียแล้ว จนเย่จงหมิงต้องช่วยดึงตัวขึ้นไป
“ค้นหากระเป๋าเป้สะพายหลัง ของที่ใส่ลงเป้ให้เป็นอาหารและน้ำเป็นส่วนใหญ่ พื้นที่ ที่เหลือส่วนน้อยให้เป็นของอื่นที่พวกคุณต้องใช้”
ผ่านมาหนึ่งคืน ผู้รอดชีวิตเริ่มกังวลเรื่องน้ำและอาหาร อีก 2-3 วัน ซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านขายของชำ ร้านขายผักผลไม้ ฯลฯ จะตกเป็นเป้าหมายของผู้รอดชีวิต ผลที่ได้ก็คือ ซอมบี้ส่วนใหญ่จะถูกดึงดูดให้มารวมตัวกันอยู่ตรงนั้น
สถานการณ์นี้ยิ่งทำให้มีการขาดแคลนน้ำและอาหารมากยิ่งขึ้น ดังนั้นเย่จงหมิงจึงต้องมาที่นี่เป็นแห่งแรก เพื่อกักตุนเสบียงอาหารให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
แม้ว่าจะสามารถได้รับของเหล่านี้จากรูเล็ต แต่มันมีจำนวนน้อยมากเกินไป โดยทั่วไปจะได้เพียงขนมปังหนึ่งถุง หรือน้ำหนึ่งขวดเท่านั้น
การปรับตัวให้เข้ากับวันโลกาวินาศที่ทรงประสิทธิภาพของเย่จงหมิง ทำให้โม่เย่กับเหลียงชูหยินเชื่อฟัง และเริ่มค้นหากระเป๋าเป้กับของที่จำเป็นทันที ส่วนอาจารย์ผูยืนดูอยู่สักพัก จึงค่อยเริ่มต้นลงมือทำตาม
ในที่สุดพวกเธอก็เห็นรูเล็ตที่อยู่ตรงชั้น 1
ทั้งสามสาวจ้องมองมันด้วยสายตาซับซ้อน พวกเธอรู้ว่ามันคือรูเล็ต แต่มันเป็นสิ่งที่พวกเธอไม่คาดคิดว่าจะได้เห็น
โม่เย่มองสิ่งที่อยู่บนรูเล็ต แล้วมองไปที่โล่บนแขนซ้ายของเย่จงหมิง และนึกถึงเชือกก่อนหน้านี้ เธอฉลาดพอจะรู้ว่าสิ่งเหล่านี้ได้มาจากรูเล็ต
“พลังที่คุณจะให้ มันคือยาพวกนั้นใช่ไหม?”
โม่เย่คาดเดาและชี้มือไปยังขวดยาสีเขียวอ่อนและสีชมพูอ่อนบนรูเล็ต ส่วนหญิงสาวอีกสองคนก็เดาเช่นนั้น แต่พวกเธอยังต้องการคำตอบยืนยันจากเย่จงหมิง
“ถูกต้อง พลังที่ว่ามาจากยาขวดสีเขียวอ่อน ส่วนขวดสีชมพูอ่อนเป็นยาสร้างภูมิคุ้มกันที่ช่วยให้คนที่ติดเชื้อไวรัสซอมบี้ ไม่กลายเป็นซอมบี้”
ดวงตาของพวกสาวๆเป็นประกายสดใส ซึ่งแตกต่างจากเย่จงหมิง เห็นได้ชัดว่าพวกเธอสนใจในยาสร้างภูมิคุ้มกันมากกว่ายาวิวัฒนาการระดับ 1 ดาวที่ช่วยให้มนุษย์วิวัฒนาการ
ผู้หญิง… เย่จงหมิงลอบส่ายหน้า
“ฆ่าซอมบี้ หมุนรูเล็ต แข็งแกร่งขึ้น…” โม่เย่มองไปที่รูเล็ต พูดพึมพำ “มันรู้สึกยังไงนะ ราวกับ…”
“ราวกับถูกบางอย่างควบคุมอยู่” เย่จงหมิงรูปซิปปิดกระเป๋าเป้สะพายหลังที่อัดของไว้จนแน่น
“ใช่เลย คุณ….”
ดวงตาที่มีความมุ่งมั่นแกร่งกร้าวเหนือกว่าผู้หญิงคนอื่นของโม่เย่ดูงุนงงเล็กน้อยและแฝงเร้นไปด้วยความกลัวในสิ่งที่ไม่รู้จักนี้ แต่เธอก็ยังทำตัวปกติเหมือนกับคนอื่นๆ
สายตาที่เย่จงหมิงมองรูเล็ตดูรุนแรงขึ้น “แล้วข้าจะลากพวกเอ็งออกมาเอง”
ทั้งสี่คนปีนออกจากซุปเปอร์มาร์เก็ตพร้อมกับกระเป๋าเป้ใบใหญ่บนหลัง จากนั้นก็ออกไปนอกมหาวิทยาลัยด้วยการนำทางของเย่จงหมิง ตอนนี้เริ่มสว่างขึ้น ไม่มีความมืดมาปกคลุมทุกอย่างอีกแล้ว ซึ่งทำให้ทั้งสามสาวต้องตกใจกับสิ่งที่เห็น
ทุกแห่งดูเหมือนจะเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือด มีแขนขาขาดๆ หล่นอยู่เกือบทุกที่ ประตูรถยนต์ถูกเปิดทิ้ง กระจกแตกเกลื่อนกลาดไปทั่วทั้งสองฟากถนน บางส่วนมีร่องรอยของไฟไหม้…
“พวกคุณต้องปรับตัว โลกใบนี้… ต่อจากนี้ไปจะเป็นเช่นนี้และแย่ลงเรื่อยๆ”
บรรยากาศเงียบมาก เย่จงหมิงรู้ว่าหญิงสาวทั้งสามคนต่างพากันอาเจียนอยู่นาน เพราะยังอยู่ในช่วงปรับตัว เมื่อย้อนนึกไปในเวลานั้น เขาเองก็เป็นแบบนี้
เขาย้อนกับมาที่ชุมชน ผ่านพื้นที่อาคารเจ็ดชั้นที่อยู่ด้านหน้า ตลอดทางเหลียงชูหยินอ้าปากเหมือนพยายามจะพูดอะไร แต่ก็ไม่ได้พูด เธอมาจากชนบทและได้ซื้อบ้าน (ห้องแบบในคอนโด) ที่นี่เอาไว้ มันเป็นผลของความพยายามทำงานอย่างหนักหลายปีของเธอ ซึ่งมันทำให้เธอรู้สึกดีมากๆ
แต่เธอก็เข้าใจ ว่าตอนนี้บ้านหลังนั้น ไม่มีความหมายอะไรอีกต่อไปแล้ว
เขาพาพวกเธอมาที่วิลล่าของมู่ซินเฟย เย่จงหมิงกวาดสายตาสำรวจ แล้วสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างฉับพลัน และรีบดึงพวกเธอไปซ่อนตัวทันที
มีบางอย่างเข้าไปในวิลล่า!