บทที่ 39 อาหารและของเล่น
บทที่ 39 อาหารและของเล่น
กระสุนเจาะกระจกหน้าต่าง ทะลุออกไปในท้องฟ้าที่มืดมิด เสียงดังก้องสะท้อนไปทั่ว
หลังจากกระสุนถูกยิงออกไป ในมหาวิทยาลัยก็เกิดช่วงเวลาแห่งความเงียบอันแปลกประหลาดขึ้น
แล้วเสียงกรีดร้องอันเป็นเอกลักษณ์ของซอมบี้ก็เริ่มดังขึ้น!
ที่นี่ห่างจากซุปเปอร์มาร์เก็ตเพียงไม่กี่ร้อยเมตร และตรงนั้นมีซอมบี้หลายพันตัวรวมกันอยู่
ถึงแม้ว่าพวกมันจะยังไม่วิวัฒนาการสำหรับการเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว แต่ด้วยระยะทางแค่นี้ เพียงไม่ถึงหนึ่งนาทีพวกมันก็มาถึงแล้ว หรือพูดอีกนัยหนึ่งก็คือคนที่อยู่ในนี้มีเวลาเหลือเพื่อใช้หลบหนีไม่ถึงหนึ่งนาที!
ไม่ต้องพูดถึงนักศึกษาที่ยิงปืนไม่เป็น ต่อให้เป็นกองทัพ หากต้องเผชิญหน้ากับซอมบี้หลายพันตัว ก็ได้แต่ต้องรีบถอยเท่านั้น
ซอมบี้ทั่วไปที่ดูเหมือนอ่อนแอเหล่านี้ หากพวกมันรวมตัวกันอยู่เป็นจำนวนมาก แม้แต่ในชีวิตก่อนที่เย่จงหมิงเป็นผู้วิวัฒนาการระดับ 6 ดาวก็ยังต้องหลีกเลี่ยง
“ไอ้ระยำ!”
หวู่เกอคำรามลั่นด้วยความโกรธ ยกปืนขึ้นมาหมายจะยิงใส่เย่จงหมิง แต่เย่จงหมิงได้ดึงตัวโม่เย่หลบเข้าไปในห้องที่อยู่ข้างๆ ก่อนแล้วหลังจากนั้นก็มีเสียงทุบกระจกดังขึ้น คนสองคนกับสุนัขหนึ่งตัวก็กระโดดออกไปทางหน้าต่าง
การจากไปของเย่จงหมิงกับโม่เย่ ทำให้การหลบหนีของผู้รอดชีวิตบนชั้นสองของอาคารโรงเรียนฝึกทหารเปิดฉากขึ้นอย่างสมบูรณ์
มันเป็นเวลาเกือบสิบชั่วโมงตั้งแต่วันสิ้นโลก คนเหล่านี้พบเห็นฉากซอมบี้กินคนมามากจนเกินพอ ตอนนี้เสียงคำรามของซอมบี้ใกล้เข้ามาแล้ว ความรู้สึกของการอยู่ในกรงขังแห่งความตายทำให้พวกเขาไม่สนใจคนอื่น
คนส่วนใหญ่พากันวิ่งไปที่บันไดอย่างไม่รู้ตัว ทุกคนรู้ว่าหากต้องการหนีจากความตาย ก็ต้องออกไปจากอาคารนี้ให้ได้ก่อนที่พวกซอมบี้จะมา
ไม่ว่าทางเดินจะกว้างขนาดไหน หากมีผู้คนจำนวนมากพากันวิ่งไปที่บันไดย่อมเกิดความแออัดขึ้นเป็นธรรมดา หวู่เกอกับลูกสมุนอีกหลายคนก็ติดอยู่ตรงนั้น คนเหล่านี้ต้องการเพลิดเพลินไปกับโชคลาภและสิทธิพิเศษจึงต้องการที่จะออกไปก่อน แต่ตอนนี้ความกลัวซอมบี้อยู่เหนือ กว่าความกลัวพวกเขา ทำให้ต่างคนต่างก็ไม่ยินยอม เอ้อเผิงและลูกสมุนคนอื่นๆ เตะนักศึกษาที่ขวางทาง แต่ก็ถูกนักศึกษาคนอื่นผลักออกไป มีอีกคนที่สู้กลับ นักศึกษาที่ดูเชื่องๆเมื่อครู่ กัดเข้าที่แขนของเอ้อเผิง และมองเขาด้วยดวงตาแดงก่ำ สายตานั้นสื่อให้เห็นอย่างชัดเจนว่า--- อย่าขวางทางกู ไม่งั้นก็มาตายด้วยกัน
หวู่เกอ เอ้อเผิง และลูกสมุนคนอื่นๆพากันตกตะลึง พวกเขาตระหนักได้ว่า หากพวกเขายังทำเหมือนก่อนหน้านี้ พวกนักศึกษาที่กำลังรีบวิ่งหนีเหล่านี้คงหันกลับมากินพวกเขาแน่ๆ
บันไดแคบเกินไป คนก็เยอะเกินไป ทำให้ขยับไปได้ไม่มาก ดังนั้นมันจึงเต็มไปด้วยเสียงกรีดร้องและเสียงตะโกนก้องด้วยความโกรธ
หวู่เกอพยายามผลักคนข้างหน้า แต่มันก็ไม่ขยับเลย เขาเป็นกังวลเพราะรู้ว่าเขาจะออกไปไม่ได้หากยังชักช้าอยู่
“เอ้อเผิง กงจื่อ อาคุน! ตามข้ามา!”
ทั้งสามคนที่ถูกบีบจนเหงื่อตก ได้ยินเสียงตะโกนของลูกพี่ ก็รีบตามหวู่เกอย้อนกลับไปในทิศตรงข้ามทันที
ความต้านทานในทิศทางนี้ลดลงอย่างเห็นได้ชัด จนกระทั่งสามารถหลุดออกไปจากตรงนั้นได้
“กระโดด!”
หวู่เกอกับลูกสมุนใช้ปืนที่ถือทุบกระจกหน้าต่าง แม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถจัดการกับเศษกระจกที่เหลือได้หมดก็ตาม พวกเขาก็ขึ้นไปบนขอบหน้าต่างแล้วกระโดดลงไป
หวู่เกอกับลูกสมุนเลือกจะกระโดดออกมาจากตึกมากกว่าการใช้บันได เพราะอย่างน้อยมันก็เร็วกว่ามาก ส่วนชายจมูกโต พอเห็นเย่จงหมิงยิงปืน เขาก็รีบถอยหนีออกไปทางห้องที่เขาเข้ามา
สำหรับเหลียงชูหยิน ดูเหมือนผู้หญิงคนนี้จะมีประสบการณ์มากในการหลบหนี พอเห็นสถานการณ์วุ่นวาย เธอก็เดินตรงไปที่หน้าต่างแล้วกระโดดลงไป โดยไม่คิดแม้แต่จะวิ่งไปที่บันได ซึ่งทำให้เธอสามารถหลบหนีออกจากอาคารโรงเรียนฝึกทหารไปได้อย่างรวดเร็ว ส่วนทิศทางการหลบหนีนั้นชัดเจนมาก… มันคือทิศทางที่มีเย่จงหมิงอยู่
พอคนอื่นๆเห็นเหลียงชูหยินกับพวกของหวู่เกอกระโดดหนีออกไปทางหน้าต่าง เหล่าอาจารย์และนักศึกษาที่แออัดกันอยู่ตรงบันได ก็พากันเบียดไปที่หน้าต่างแล้วกระโดดตามกันออกไป ด้วยความสูงประมาณ 3 เมตร มันไม่เป็นอุปสรรคอะไรมากมาย กับเหล่าหนุ่มสาวที่มีอายุประมาณ 20 ปี
ตอนนี้ซอมบี้บางส่วนที่อยู่ใกล้ที่สุด อยู่ตรงด้านล่างของอาคารโรงเรียนฝึกทหาร นักศึกษาโชคร้ายคนหนึ่งที่กระโดดลงมาจากหน้าต่างหลังกระแทกพื้นจึงถูกซอมบี้ที่อยู่ตรงนั้นจับกิน ครึ่งหนึ่งของใบหน้าถูกกัดออกพร้อมกับเสียงกรีดร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด เขาพยายามลุกขึ้นยืนและพยายามหนี แต่ก็ถูกจับข้อเท้า และถูกกัดนิ้วเท้าจนขาด
การฆ่าได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว บางส่วนของคนที่ออกมาทางบันไดเริ่มหลุดออกมาได้ คนเหล่านี้เป็นผู้ชายที่แข็งแรง แต่เพียงไม่กี่วินาทีที่ออกมา พวกเขาก็เจอเข้ากับซอมบี้ 2 ตัว สัตว์ประหลาดทั้งสองตัวปิดกั้นทางออกไปกว่าครึ่ง นักศึกษาคนหนึ่งต้องการเสี่ยงวิ่งผ่านพวกมันไป แต่แค่ก้าวออกไปเพียงหนึ่งก้าว ก็รู้สึกว่ามีคนผลักตนเองจากทางด้านหลัง จนเซเข้าไปในอ้อมแขนของซอมบี้
สำหรับอาหารปรุงสำเร็จที่ส่งตรงถึงบ้าน ซอมบี้ไม่มีอะไรต้องสุภาพ มันกัดลงบนไหล่ของชายโชคร้าย เลือดอุ่นๆกับเนื้อนุ่มๆ ถูกกลืนลงท้องของมัน รสชาติโอชาที่ได้ลิ้มรสทำให้ซอมบี้คำรามลั่นด้วยความตื่นเต้น
ซอมบี้อีกตัวถูกดึงดูดด้วยกลิ่นคาวเลือด มันกระโดดเข้าใส่หลังของชายโชคร้าย และเริ่มกัดกินท่ามกลางเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดของเด็กหนุ่ม เขาหันไปมองและเห็นเพื่อนที่ดีที่สุดของตนเองกำลังหนีออกไปจากทางเดินโดยทิ้งเขาเอาไว้เบื้องหลัง เพื่อสร้างโอกาสในการหลบหนี เขาโดนเพื่อนสนิททรยศ
ก่อนตายเขาตะโกนสาปแช่งอย่างร้ายกาจต่อร่างที่กำลังหนีออกไปไกลขึ้นเรื่อยๆ
ปัง!
เสียงปืนอีกนัดดังขึ้น ทำให้หลายคนถึงกับตัวสั่น
เสียงนั้นดังมาจากเด็กหนุ่มที่เพิ่งวิ่งออกมาจากอาคาร พอเห็นซอมบี้เขาก็เหนี่ยวไก แล้วเสียงของหญิงสาวที่อยู่ข้างๆ เขาก็เริ่มค่อยลงเรื่อยๆ พร้อมกับเลือดแดงฉานที่ไหลออกมาจากหลัง
จากภาพที่เห็นมันไม่ใช่การยิงซอมบี้ แต่เป็นการยิงนักศึกษาหญิงที่อยู่ตรงหน้าของเขา!
ฝูงชนยิ่งสับสนมากขึ้นเพราะเสียงปืน อาจารย์และนักศึกษาที่เคยวิ่งหนีมาในทิศทางเดียวกัน เริ่มแตกกระจายเพราะการยิงนี้
เสียงกรีดร้องและร้องไห้ดังขึ้นตลอดเวลาอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับเสียงกู่ร้องด้วยความตื่นเต้นของซอมบี้ ทุกเสียงหมายถึงการหายไปของหนึ่งชีวิต
“ตามฉันมา ตามฉันมา อย่าแตกกัน!”
อาจารย์ผูเหงื่อแตกพลั่ก เธอพยายามตะโกนด้วยเสียงที่ดังมาก แต่ในเวลานี้มันก็เบาเกินกว่าที่เหล่านักศึกษาจะได้ยินเธอ ครึ่งหนึ่งของเส้นผมเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อจนแนบติดหน้าผากและข้างแก้ม ดวงตาเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง
หลายใบหน้าที่คุ้นเคยล้มลงต่อหน้าต่อตา ดิ้นรน คร่ำครวญ กรีดร้อง ไปจนกว่าจะสูญเสียเงาแห่งชีวิต ทุกที่เต็มไปด้วยหมอกควันแห่งความตาย แต่เธอก็ไม่สามารถทำอะไรได้เลย
จนกระทั่งมีเงาของใครบางคนกระทบถูกเธอ อาจารย์ผูมองผ่านอย่างเลื่อนลอย ใบหน้านั้นคุ้นๆ ดูเหมือนจะเป็นคนที่ถูกเรียกว่าเจ้าหน้าที่โม่ตอนที่อยู่ภายในอาคาร
“ตามฉันมา!”
เสียงนั้นปลุกสติของอาจารย์ผูให้ตื่นขึ้นได้เพียงเล็กน้อย รู้ตัวอีกทีเธอก็ถูกเจ้าหน้าที่โม่ลากตัวมาซ่อนอยู่ตรงมุมๆหนึ่ง และตรงนั้นยังมีคนซ่อนตัวอยู่อีก 2 คน
“เป็นคุณเอง? !”
หลังจากถูกลากมาซ่อนตัวอยู่หลังม้านั่ง อาจารย์ผูก็รับรู้ถึงเย่จงหมิง หลังจากที่จ้องมองเขา เธอก็กรีดร้องขึ้นด้วยความโกรธ
“ทั้งหมดเป็นเพราะคุณ! ไอ้คนสารเลว พวกเขาต้องตายก็เพราะคุณ!”
หลังจากที่หนีออกมา เย่จงหมิงก็ดึงตัวโม่เย่มาซ่อนตัวอยู่ตรงหลังม้าหินที่อยู่ไม่ไกล โม่เย่ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงได้มาซ่อนตัวอยู่ใกล้ๆแบบนี้
แล้วเธอก็มองเห็นหวู่เกอกับลูกสมุนและชายจมูกโตหลบหนีไปได้ จากนั้นก็เห็นเหลียงชูหยินกำลังวิ่งตรงมาทางพวกเธอ พอได้พบกับพวกเธอ เหลียงชูหยินก็มีสีหน้าดีใจมาก เธอได้เห็นนักศึกษาที่วิ่งหนีกันอย่างกระจัดกระจาย เห็นพวกเขาวิ่งหนีและถูกฆ่า เห็นพวกเขาถูกเพื่อนทรยศและทรยศเพื่อน นั่นทำให้ความคิดที่จะออกไปช่วยของเธอลดน้อยลง
จนกระทั่งเธอเห็นอาจารย์ผู้หญิงกำลังร้องตะโกนอย่างไร้ประโยชน์ ไม่เพียงแต่จะไม่มีใครฟังเธอ เสียงของเธอยังดึงดูดซอมบี้จำนวนมากให้เข้ามาหา โม่เย่เห็นแบบนั้นก็อดรนทนไม่ได้ต้องวิ่งออกไปดึงตัวอาจารย์หญิงคนนั้นมา แต่ใครจะคิดว่าเธอเกิดจะบ้าขึ้นมาตอนนี้
เย่จงหมิงมีวิธีรับมือกับผู้หญิงที่อ่อนแอ เขาเอื้อมมือออกไปคว้าคอของอาจารย์ผูทันที
“เพราะผม คุณถึงยังมีชีวิตอยู่! คุณคิดว่าเพื่อนร่วมงานกับนักเรียนขี้ขลาดของคุณสามารถช่วยคุณได้งั้นเหรอ? ถ้าไม่มีผม ป่านนี้คุณคงกลายเป็นของเล่นของพวกอันธพาลไปแล้ว ถึงตอนนั้นการฆ่าตัวตายคงเป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดของคุณ หรือไม่พอพวกมันไม่สามารถหาอาหารได้ คุณก็คงได้กลายเป็นอาหารเย็นของพวกมัน!”
เย่จงหมิงผลักอาจารย์ผูไปกระแทกกับม้านั่งหิน แม้จะไม่ได้ออกแรงอะไร แต่ก็เพียงพอจะทำให้เธอหมดเรี่ยวแรงไปได้หลายวินาที
“แน่นอนว่าเพราะความสวยของคุณ พวกมันคงใช้เวลาเล่นกับคุณให้นานที่สุด และขอแสดงความยินดีที่คุณคงจะกลายเป็นอาหาร เป็นคนสุดท้าย”
“โกหก!” อาจารย์ผูพยายามจะเข้าไปตบหน้าเย่จงหมิง แต่ก็ถูกเหลียงชูหยินผลักกระเด็นไปกระแทกม้าหินอีกครั้ง เธอยังต้องการจะสู้ต่อ แต่ก็ถูกโม่เย่กดตัวไว้
“เขาพูดถูก คุณได้เจอเพื่อนร่วมงานกับนักศึกษาของคุณหรือเปล่าล่ะ? ไม่ใช่ว่าพวกเขาทิ้งคุณไปแล้วเหรอ”
โม่เย่มองดูอาจารย์ผูด้วยความเศร้าเล็กน้อย “คุณเป็นคนฉลาดถึงสามารถเป็นอาจารย์สอนในมหาวิทยาลัยได้ คุณควรคิดดูให้ดีๆ และทำทุกอย่างให้กระจ่างแก่ใจ”
อาจารย์ผูตะลึงงัน ทุกฉากที่เกิดขึ้นปรากฏขึ้นในใจ… คนเหล่านั้นไม่ได้ยินเสียงที่เธอตะโกนบอกแน่หรือ … พวกเขากำลังมาหาเธอ แต่แล้วก็รีบหนีไปอย่างรวดเร็ว พวกเขา…
ยิ่งคิดอาจารย์ผูก็ยิ่งหน้าซีด ในที่สุดเธอก็เข้าใจ ผู้ที่เธอพยายามช่วย ไม่ใช่ไม่ได้ยิน แต่พวกเขามีการตัดสินใจที่แตกต่างออกไป ---- นั่นคือเสียงตะโกน จะเป็นตัวเรียกซอมบี้ทั้งหมดมา เปิดโอกาสให้พวกเขาได้หลบหนี
พวกเขาทอดทิ้งเธอ
ในที่สุดอาจารย์ผูก็ทนไม่ไหวต้องร้องไห้ออกมา
“หุบปาก!” เย่จงหมิงตะคอกใส่และมองดูสถานที่หนึ่งอย่างตั้งใจ
“ผมจะไปที่นั่น พวกคุณตัดสินใจเอาเองว่าจะติดตามไปหรือไม่” พูดจบเย่จงหมิงก็ก้มตัวลงและออกวิ่ง ผู้หญิงทั้งสามคนมองไปทางทิศที่เขาชี้