ตอนที่แล้วบทที่ 34 จะให้กินไอ้นี่เหรอ?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 36 กลับไปยังอาคารโรงเรียนฝึกทหาร

บทที่ 35 จะรับเธอไว้เป็นลูกทีมดีไหมนะ?


บทที่ 35 จะรับเธอไว้เป็นลูกทีมดีไหมนะ?

ทันใดนั้นก็มีเงาดำผ่านหน้าต่างลงไป และมีเสียงทึบๆ ดังมาจากทางด้านล่าง ฟังดูเหมือนเสียงถุงน้ำที่หล่นแตกกระจายบนพื้น

เย่จงหมิงไม่ต้องมองก็รู้ว่า มีใครบางคนกระโดดตึกฆ่าตัวตาย เพราะสูญเสียเหตุผลที่จะมีชีวิตอยู่ เป็นบางคนที่คิดอะไรไม่ออก ได้แต่กระโดดตึกฆ่าตัวตายด้วยความสิ้นหวัง

บางทีมันอาจจะเป็นความขี้ขลาด แต่สำหรับคนที่เคยผ่านวันโลกาวินาศมาก่อนจะรู้ว่า บางครั้งมันก็เป็นทางเลือกที่ถูกต้อง

โม่เย่ที่ตั้งใจจะตอบคำถามหน้าเปลี่ยนสี เธอรีบไปที่หน้าต่างมองลงไปด้านล่าง ร่างมนุษย์รูปร่างบิดเบี้ยวนอนแน่นิ่งอยู่ตรงนั้น หลายสิบเมตรไม่ไกลจากตรงนั้น มีซอมบี้หลายตัวกำลังเดินเข้ามาอย่างช้าๆ

“บางครั้งความตายก็คือการปลดปล่อย บางทีคุณอาจจะต้องใช้หรือไม่ก็ต้องชินกับมัน” เย่จงหมิง กล่าวขณะที่หลับตาลงเล็กน้อย

โม่เย่กัดฟัน ในดวงตามีแววแห่งความเศร้า มองดูศพของคนที่เลือกฆ่าตัวตายโดนกัดกิน ร่องรอยสุดท้ายของความหวังว่าโลกจะกลับคืนมาเหมือนดั่งเดิมถูกทำลายลงสิ้น

“คำถามข้อแรก คุณเป็นคนบอกเองว่าซอมบี้ไวต่อกลิ่นและการได้ยิน นั่นคือเหตุผลที่เราต้องรีบออกจากสนามเทนนิส” โม่เย่เอนกายพิงหน้าต่างอย่างอ่อนแรง มองดูเย่จงหมิงอย่างไม่พอใจต่อทัศนคติที่ไม่แยแสของเขา แต่หลังจากสงบสติอารมณ์ลง เธอก็เริ่มตอบคำถาม

“คำถามที่สอง กิ้งก่าพวกนั้นควรจะเป็นสัตว์เลี้ยงของใครบางคน หรือไม่ก็หลบหนีออกมาจากสวนสัตว์ ไม่เช่นนั้นพวกมันจะมาอยู่ในเมืองได้อย่างไร”

โม่เย่คิดและตอบคำถามต่อไป “คำถามข้อสาม ฉันคิดว่าเขาควรจะไปในที่ๆ เขาคิดว่าปลอดภัย และฉันไม่อยากจะพูดถึงเขาอีก สำหรับคำถามข้อสี่ ฉันยอมรับว่าคุณเป็นคนดี แต่ทักษะการต่อสู้ของคุณก็ไม่อาจเป็นคู่ต่อสู้ของฉันได้ สำหรับ … ตี้หวงหวัน ฉันคิดว่าความแข็ง แกร่งของมันด้อยกว่ากิ้งก่าพวกนั้นมาก ส่วนฉันมีมีดเดินป่าของคุณอยู่ในมือ ไม่อาจบอกได้ว่า ใครจะสามารถมาคุกคามฉันได้”

เธอตอบคำถามที่คิดว่าถูกต้อง สีหน้ากลับมามีความมั่นใจในความแข็งแกร่งของตนเองอีกครั้ง

เย่จงหมิงยิ้มหยันและยกนิ้วขึ้น “มีเพียงคำถามแรกเท่านั้นที่คุณตอบได้ดีมาก ส่วนข้อที่เหลือผิดหมด”

เมื่อได้ยินเขาพูดเช่นนั้น ความไม่มั่นใจของโม่เย่ก็กลับคืนมาอีกหน เธอกอดอกห่อไหล่แล้วพูดขึ้นว่า “ถ้างั้น ฉันผิดตรงไหน”

“คำถามแรก นอกเหนือจากที่คุณพูด คุณไม่ได้คิดถึงสิ่งมีชีวิตอย่างอื่น ซอมบี้ไม่ใช่พวกเดียวที่ถูกดึงดูดมาโดยเสียงปืน”

โม่เย่งง “คุณหมายถึง… มนุษย์เหรอ?”

เย่จงหมิงพยักหน้าและชี้มือออกไปนอกหน้าต่าง “คืนนี้แสงจันทร์สว่างสดใส ยืนอยู่ตรงนี้ก็สามารถมองเห็นมหาวิทยาลัย ถ้าโชคดีก็อาจพบอะไรบางอย่าง”

โม่เย่ไม่เชื่อในเรื่องลางร้าย เธอมองออกไปนอกหน้าต่าง จากแสงจันทร์เธอมองเห็นซอมบี้หลายตัวกำลังรวมตัวกันอยู่รอบๆ สนามเทนนิส เห็นได้ชัดว่าพวกมันถูกดึงดูดมาโดยเสียงปืน เธอเฝ้าดูต่อไปแต่ไม่พบอะไรเลย พอกำลังจะหันหน้ามายิ้มเยาะชายคนนั้นก็พบว่ามีบางอย่างอยู่ข้างๆสนามเทนนิส มีร่างหลายร่างกำลังเคลื่อนไหวอยู่ พวกเขาเคลื่อนย้ายอย่างรวดเร็ว และรู้วิธีหลีกเลี่ยงจากซอมบี้ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาคือผู้รอดชีวิต

มีผู้รอดชีวิตจริงๆ? โม่เย่มีสีหน้ามีความสุข ความจริงทีมของเธอเป็นทีมที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นอันดับหนึ่งในการฝึก พวกเธอได้รับการปลูกฝังแนวคิดเรื่องการบริการสังคม และในสถานการณ์ปัจจุบันยิ่งมีคนมารวมตัวกันมากก็จะยิ่งปลอดภัย

มันไม่มีอะไรผิดถ้าเป็นยุคแห่งสันติภาพ ความคิดเรื่องการรวมตัวกันนั้นเป็นเรื่องที่ถูกต้องมาก

แต่ตอนนี้มันคือวันโลกาวินาศ บางครั้งมนุษย์เหมือนๆกัน อันตรายมากกว่าซอมบี้

เย่จงหมิงจำพวกคนติดอาวุธที่เก็บผลึกวิเศษในอาคารเรียนได้ คนพวกนั้นเห็นได้ชัดว่าคิดจะทำร้ายเขา ถ้าหากพวกมันได้ยินเสียงปืนก็คงต้องตามเสียงปืนมาแน่ๆ

“อย่าได้ดีใจไปเลย ถ้าคุณอยู่ที่นั่นตอนนี้ คุณอาจถูกพวกมันฆ่าไปแล้วก็ได้” คำพูดเย็นชาของเย่จงหมิงได้สยบความกระตือรือร้นของโม่เย่ลง เธอพยายามจะโต้แย้ง แต่ก็นึกถึงการทรยศของอดีตเพื่อนขึ้นได้ จึงได้แต่จิกริมฝีปากไม่พูดไม่จา

พอเห็นโม่เย่ไม่โต้ตอบ เย่จงหมิงก็พูดต่อไป “คำถามที่สอง กิ้งก่ากลายพันธุ์พวกนั้นไม่ได้มาจากสวนสัตว์หรือเป็นสัตว์เลี้ยงตามบ้าน พวกมันเป็นสัตว์ในห้องปฏิบัติการของมหาวิทยาลัย”

“คุณรู้ได้ไง?”

“ที่หางของพวกมันมีแผ่นป้ายหมายเลขขนาดเท่าเล็บมืออยู่”

โม่เย่ช็อค เธอต่อสู้กับกิ้งก่ากลายพันธุ์มาตั้งหลายครั้ง แต่ไม่เคยพบรายละเอียดเหล่านี้เลย ถ้าที่เย่จงหมิงพูดเป็นความจริง ความสามารถในการสังเกตของเขาก็ผิดปกติมากๆ

“สำหรับคนที่ทรยศคุณ เขาไม่ได้กลับเข้าไปในมหาวิทยาลัย และไม่เคยจากไปไหน เขายังคงแอบซ่อนตัวอยู่ในท่อระบายอากาศ ตอนที่พวกเราออกมา เขาก็ลอบตามมาด้วย จนกระทั่งพวกเราพบกับซอมบี้ตัวแรก”

“อะไรนะ? !” โม่เย่อุทาน เธอไม่อยากเชื่อว่ามีคนลอบตามมาโดยที่เธอไม่รู้ตัว

เย่จงหมิงพูดเสียงเย็น “เพื่อนของคุณไม่ใช่คนธรรมดา เขาฉลาดและเก่งกาจมาก มีทักษะการต่อสู้ดีไม่น้อยไปกว่าคุณเลย แต่…ทักษะที่เขามีเป็นทักษะที่ใช้ฆ่าคน”

สำหรับกลิ่นอายของนักฆ่า เย่จงหมิงมีความรู้สึกที่อ่อนไหวต่อมันเป็นพิเศษ สิ่งนี้ไม่ใช่พรสวรรค์ แต่เป็นประสบการณ์ ใครก็ตามที่รอดชีวิตในวันโลกาวินาศมาได้มากกว่า 1 ปี สำหรับการแยกแยะกลิ่นอายของนักฆ่าจะเป็นเรื่องที่ง่ายดายมาก ประสบการณ์นี้เป็นเกณฑ์ตัดสินถึงอันตรายในวันโลกาวินาศ

ความสามารถในการติดตามโม่เย่ที่ผ่านการฝึกมาอย่างเข้มงวดโดยไม่ถูกพบ เพียงพอจะแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของชายจมูกโต แต่เขาไม่อาจปิดบังผู้มีวิวัฒนาการระดับ 1 ดาวได้ ตั้งแต่ครั้งแรกที่เย่จงหมิงพบชายคนนั้น เขาก็รู้ว่าไม่ธรรมดา และเป็นอันตรายยิ่งกว่าโม่เย่ ถึงแม้ว่ากลิ่นอายนักฆ่าจะไม่มีความหมายอะไรในวันโลกาวินาศ แต่ในวันเวลาแห่งความสงบสุขแล้ว มันมีความหมายอย่างมาก เพราะนั่นหมายถึงว่ามีมากกว่าหนึ่งชีวิตที่สูญเสียไปด้วยน้ำมือของชายคนนั้น

จากตัวตนที่เปิดเผยให้เห็น สันนิษฐานได้ว่าเขาอาจเป็นสายลับ หรือทหารหน่วยรบพิเศษสำหรับปฏิบัติภารกิจที่เสี่ยงอันตรายมาก หรืออาจเป็นมือสังหารที่น่ากลัว

แต่พฤติกรรมและอารมณ์ที่แสดงออกของชายจมูกโต บอกได้ว่าเขาไม่ได้เป็นคนในองค์กรเหล่านั้น ดังนั้นเย่จงหมิงจึงมั่นใจว่า เขาเป็นเพียงคนร้ายที่เคยกระทำความผิดในอาชญากรรมร้ายแรง!

มีเพียงผู้หญิงโง่ๆ อย่างโม่เย่ที่รับรู้เพียงความยุติธรรมและความรับผิดชอบต่อสังคมเท่านั้นที่เชื่อชายคนนั้น เธอจึงถูกหลอกโดยคนประเภทนี้จนเกือบเอาชีวิตไม่รอด

เย่จงหมิงโบกมือเรียกสติของโม่เย่ที่กำลังตกใจ ดึงดูดความสนใจและชี้มือไปที่ขา พอโม่เย่ก้มไปมอง บนหน้าผากก็ถึงกับเหงื่อซึม ในมือของเย่จงหมิง มีปืนสีดำๆ กำลังเล็งมาที่เธอ ดูเหมือนว่าตั้งแต่เข้ามา ภายในบ้าน ปืนในมือของเขาชี้มาทางเธอตลอด หากเย่จงหมิงเห็นว่าเธอมีอะไรตุกติกเป็นอันตรายแม้แต่เพียงนิดเดียว เธอคิดว่าเธอคงถูกปืนแปลกๆ ในมือของเขายิงใส่สองนัดซ้อนแล้วเป็นแน่

“คนสวยต่อจากนี้ไปคุณต้องจำไว้เสมอว่า ไม่มีเวลาไหนที่คุณจะปลอดภัย คุณจะต้องระวังตัวตลอดเวลา” เย่จงหมิงผายมือออกและกล่าวอย่างจริงจังว่า “นอกเสียจากว่าคุณไม่ต้องการจะมีชีวิต”

แสงสลัวๆส่องให้เห็นใบหน้าของโม่เย่ เย่จงหมิงค้นพบในตอนนี้เองว่าเธอเป็นผู้หญิงที่สวยมากคนหนึ่ง

ก่อนหน้านี้ เย่จงหมิงเป็นเพียงนักศึกษายากจนที่โชคดีได้รับความสนใจจากไป๋ซือซือดอกไม้งามแห่งมหาวิทยาลัย และทำให้เขาไม่มีผู้หญิงคนอื่นอยู่ในสายตาอีก

แต่หลังจากที่เกิดใหม่เขาได้พบหญิงงามมากมาย ไม่ว่าจะเป็นหญิงแกร่งในอนาคตอย่างมู่ซินเฟย หรือตังเมติดหนึบอย่างเหลียงชูหยิน หรือผู้หญิงดื้อด้านอย่างอาจารย์ผู ต่างก็ล้วนแต่เป็นผู้หญิงที่สวยมากๆ มู่ซินเฟยรูปร่างงามสง่าสไตล์คุณหนู เหลียงชูหยินงดงามมีเสน่ห์สไตล์เน็ตไอดอล ชนิดที่เรียกว่าแม้ปีศาจได้เห็นครั้งแรกก็ต้องนึกถึงเตียง ส่วนอาจารย์ผูเป็นหญิงงามชาญฉลาด ถ้าเธอสวมแว่นตาและใส่สูทแล้วล่ะก็ มันจะเป็นที่ดึงดูดใจให้ผู้คนรู้สึกอยากลิ้มลอง…

และสำหรับตำรวจหญิงโม่เย่ ที่ตัดผมสั้นดูสะอาดตา ผิวสุข ภาพดีสีข้าวสาลี รูปร่างสัดส่วนสวยงามสมบูรณ์แบบ รูปร่างหน้าตาบวกกับความกล้าหาญ ให้ความรู้สึกกลมกลืนกันอย่างสมบูรณ์แบบของพลังและความงาม

ชั่วเวลาสั้นๆ เพียงข้ามคืน เขาได้เจอความงามที่แตกต่างกัน หัวใจของเย่จงหมิงเต็มไปด้วยระลอกคลื่น แต่เพียงไม่นานใจของเขาก็สงบลง

หญิงสาวเหล่านี้ไม่มีความสัมพันธ์อะไรกับเขา และถ้าจะมีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้น มันก็เป็นเรื่องในอนาคต อย่างน้อยจนถึงตอนนี้ยังไม่ มีใครที่ได้รับความไว้วางใจจากเย่จงหมิง แม้แต่เหลียงชูหยินกับอาจารย์ผู เขาก็ยังรู้สึกเกลียดพวกเธออยู่บ้างเล็กน้อย

เย่จงหมิงคุ้นเคยกับการวัดผู้คนรอบตัวด้วยมาตราฐานของวันโลกาวินาศ ผู้หญิงสองคนที่เขาเกลียดคือภาระ ไม่มีประโยชน์อะไรได้แต่เป็นตัวถ่วงเท่านั้น สำหรับมู่ซินเฟย เธอเป็นผู้แข็งแกร่งระดับ 9 ดาวในอนาคต ส่วนโม่เย่เธอเป็นหญิงสาวที่มีความสามารถ พวกเธอทั้งคู่สามารถช่วยเขาได้

เขามองดูโม่เย่ที่กำลังย่างลิ้นของกิ้งก่าลิ้นเลือดด้วยกองไฟที่ก่อมาจากเก้าอี้ไม้ เย่จงหมิงก็เกิดความคิดที่จะรับเธอเป็นลูกทีมผุดขึ้นมา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด