บทที่ 33 ปืนใหม่!
บทที่ 33 ปืนใหม่!
แรงกดดันของโม่เย่ลดลง ทันทีที่สุนัขตัวใหญ่เข้ามาช่วยเธอ สถานการณ์เสี่ยงตายที่ติดพันอยู่คลี่คลายลงทันที
ด้วยสัญชาตญาณทำให้ความสนใจของเธอย้ายไปที่เย่จงหมิง พอเห็น หัวใจของโม่เย่ก็เต้นระทึก
ชายที่ถือมีดกำลังต่อสู้กับกิ้งก่ายักษ์ตัวที่เอาชนะเธอได้ ได้อย่างทัดเทียม!
แล้วโม่เย่ก็ได้เห็นชายคนนั้นชกกิ้งก่าลิ้นเลือดจนกระอักเลือดได้ภายในหมัดเดียว!
………
เย่จงหมิงยิ้มพลางสะบัดมือด้วยความเจ็บ
ตอนแรกเขาคิดว่า การเป็นเพียงผู้วิวัฒนาการระดับ 1 ดาวนั้นคงเป็นเรื่องยากที่จะทำให้กิ้งก่ากลายพันธุ์ระดับ 2 บาดเจ็บได้โดยไม่ใช้อาวุธระดับปกติ (ทั่วไป) สีขาว เขาใช้ประโยชน์ขณะที่กิ้งก่ายักษ์เปิดช่องว่างระหว่างกำลังลอยตัว ต่อยเข้าไปที่หัวของมัน แต่คาดไม่ถึงว่าเขาจะสามารถชกกิ้งก่ายักษ์กลายพันธุ์ระดับ 2 จนมันกระอักเลือดได้!
ปกติมันไม่ควรจะเป็นแบบนี้!
มีช่องว่างระหว่างระดับวิวัฒนาการที่แตกต่างกัน การท้าทายข้ามขั้นแทบจะเกิดขึ้นไม่ได้เลยในวันโลกาวินาศ แม้ว่าจะเคยมีสถานการณ์พิเศษ อย่างเช่นผู้วิวัฒนาการระดับต่ำที่มีทักษะที่แข็งแกร่ง หรือมีอาชีพแปลกๆ อย่างนักฆ่า หรือพวกที่เดินอยู่ในเส้นทางสายมืดที่สามารถรอโอกาส ข้ามขั้นตอนของการต่อสู้ไปสู่ขั้นตอนของการสังหารเลย หรือผู้ที่รับการฝึกมาจากองค์กรขนาดใหญ่ที่เชี่ยวชาญในการปรับเปลี่ยนวิวัฒ นาการจนมีรากฐานแข็งแกร่ง จึงจะมีโอกาสท้าทายข้ามระดับขั้นได้
นอกเหนือจากนั้น ช่องว่างระหว่างระดับขั้นจะเป็นช่องว่างที่แข็งแกร่งไม่มีทางที่จะผ่านไปได้เลย
เย่จงหมิงวิวัฒนาการได้เพียงครั้งเดียว ดังนั้นพลังของเขาจึงไม่สามารถโจมตีกิ้งก่าลิ้นเลือดระดับ 2 ให้เกิดความเสียหายได้มากนัก!
แต่เขาสามารถชกกิ้งก่ายักษ์จนกระอักเลือดได้จริงๆ!
เย่จงหมิงรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
เขานึกถึงกิ้งก่ายักษ์ระดับ 2 ตัวที่เพิ่งฆ่าไปอีกครั้ง ครั้งนั้นแม้ว่าเขาจะได้รับการช่วยเหลือจากตี้หวงหวันกับมีดเดินป่าระดับทั่วไปสีขาว แต่การฆ่ามันก็ดูผ่อนคลายมากเกินไป
หรือว่ามีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นโดยที่เขาไม่รู้?
แล้วความคิดนั้นก็ถูกปัดออกไป เย่จงหมิงตั้งสติเผชิญหน้ากับศัตรูต่อทันที แต่คำถามนั้นยังคงติดค้างอยู่ในใจของเขา
เห็นได้ชัดว่ากิ้งก่าลิ้นเลือดถูกยั่วยุให้โกรธจากกำปั้นนั้น มันส่งเสียงคำรามลั่นอย่างน่ากลัว จนเย่จงหมิงกับโม่เย่ถึงกับหน้าซีด โม่เย่ที่เป็นคนธรรมดารู้สึกมึนงงจนก้าวถอยหลังไปถึงสองก้าวในทันที และถ้าเธอไม่ได้ก้าวถอยหลังออกมา เธอคงถูกกรงเล็บของมันกระชากลำคอไปแล้ว
เย่จงหมิงหัวใจเย็นวาบ และรู้ว่ากิ้งก่าลิ้นเลือดได้เริ่มพัฒนาทักษะความสามารถที่สอง --- คลื่นเสียงโจมตีซุปเปอร์โซนิค (เร็วเหนือเสียง)
มันเป็นทักษะความสามารถที่ทั้งน่ารังเกียจและน่ากลัว ถ้าทักษะนี้ได้รับการพัฒนาอย่างเต็มที่ จะเพียงพอทำให้เย่จงหมิงกับโม่เย่สูญเสียความสามารถในการเคลื่อนไหวไปได้อย่างน้อยไม่กี่วินาทีและยังสามารถทำให้เกิดอาการบาดเจ็บภายในขึ้นได้
โชคดีที่กิ้งก่ายักษ์เหล่านี้เพิ่งจะวิวัฒนาการขึ้นเป็นระดับที่สอง ทักษะแรกลิ้นเลือดเพิ่งจะเกิดขึ้น ส่วนคลื่นเสียงโจมตีซุปเปอร์โซนิคเพิ่งเริ่มจะก่อตัวเป็นรูปเป็นร่าง จึงยังไม่มีผลกระทบมากนัก
หลังจากส่งเสียงคำราม กิ้งก่ายักษ์ก็พ่นลิ้นสีแดงออกมาจากปาก เย่จงหมิงเห็นเพียงประกายสีแดงเท่านั้นการโจมตีก็มาถึง
ถ้าหากเขาเป็นนักดาบขั้นกลางเหมือนชีวิตก่อน เขามั่นใจว่าเขาสามารถตัดลิ้นของกิ้งก่าลิ้นเลือดนี้ได้ แต่ตอนนี้เขาเห็นเพียงเงาสีแดงเลือนรางจากแสงจันทร์ที่ส่องผ่านหน้าต่างบานใหญ่ที่สูงจากพื้น จรดเพดานของสนามเทนนิสเท่านั้น
เย่จงหมิงทำได้เพียงหลบ แต่การหลบของเขาเป็นการเคลื่อนไหวที่มีความละเอียดอ่อนมาก
เขาขวางมีดไว้ที่อกโดยหันคมมีดออก
มันเป็นประสบการณ์และสัญชาตญาณที่ยังคงเหลืออยู่ในความทรงจำ
กิ้งก่ายักษ์เป็นสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ แม้ว่ามันจะพัฒนาเป็นระดับที่สองแล้วก็ตาม แต่สติปัญญาของมันยังมีไม่ชัดเจน มันใช้ลิ้นโจมตีในแบบเก่าๆ ดังนั้นลิ้นของมันจึงไปกระแทกลงบนคมมีด
กิ้งก่ายักษ์ส่งเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดและกลิ้งตัวไปมาบนพื้น เมื่อมันลุกขึ้นอีกครั้ง ดวงตาของมันก็เขียวปั๊ดและส่งเสียงคำรามอย่างน่ากลัวด้วยความโกรธจัด
อาวุธสีขาวทรงพลังมากพอที่จะเป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ระดับสอง
เมื่อเห็นว่าหัวหน้าได้รับบาดเจ็บ กิ้งก่ายักษ์อีกตัวก็ละทิ้งโม่เย่ มันหันหัวและกระโดดเข้ามาหาเย่จงหมิงด้วยความเร็วที่น่าทึ่ง และเข้าร่วมกับหัวหน้ากิ้งก่ายักษ์ทำการโจมตีเกือบจะทันที ขณะที่โม่เย่กับตี้หวงหวันยังคงอยู่ห่างออกไปเกือบสิบเมตร
สถานการณ์เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง ทำให้เย่จงหมิงไม่ทันตั้งตัว การโจมตีของกิ้งก่ายักษ์มาจากทั้งซ้ายและขวา ปิดมุมหลบ หนีของเขา และสายเกินกว่าที่เขาจะหาวิธีหลบหนีได้ทัน
เย่จงหมิงเป็นผู้เคยอาศัยในวันโลกาวินาศมานับ 10 ปี ในช่วงเวลาเหล่านั้นเขาได้เผชิญหน้ากับความเป็นความตายมานับครั้งไม่ถ้วน เขาบังคับจิตใจตนเองให้สงบ ตัดสินใจเผชิญหน้ากับพวกมันอย่างกล้าหาญ
เขาฟันหัวหน้ากิ้งก่ายักษ์ด้วยมีด มีดเล่มนั้นติดตรึงอยู่บนร่างของมัน แต่เขายังคงก้าวไปข้างหน้า… โดยไม่คิดจะดึงมีดกลับ
แน่นอนว่าหัวหน้ากิ้งก่ายักษ์ก็โจมตีใส่เขาเช่นกัน เขาจึงได้ลิ้มรสลิ้นเลือดของมันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในขณะที่มีลิ้นยาวๆ ของกิ้งก่ายักษ์อีกตัวพุ่งมาจากอีกด้าน ถ้าหากเขายังมีมีดอยู่ไม่เพียงหัวหน้ากิ้งก่ายักษ์จะไม่อาจหนี เจ้าอีกตัวก็คงไม่รอด แต่ตอนนี้เย่จงหมิงหมดโอกาสหลบจากการโจมตีทั้งสองด้าน
แม้ว่าจะมีร่างกายของผู้วิวัฒนาการระดับ 1 ดาว แต่ก็ไม่อาจต้านทานการโจมตีของลิ้นเลือดได้ ดังนั้นผลลัพธ์เดียวของสถานการณ์นี้ก็คือ เย่จงหมิงถูกลิ้นเลือดแทงทะลุร่าง ส่วนกิ้งก่ายักษ์ทั้งสองตัวยังคงสามารถส่งเสียงร้องคำรามและปลอดภัยดี
แม้แต่ผู้ฝึกมาแล้วอย่างดีแบบมืออาชีพอย่างโม่เย่ยังต้องหลับตาอย่างเจ็บปวดใจเมื่อเห็นเย่จงหมิงตัดสินใจทำแบบนั้น เธอรู้ว่าเขาต้องตายแน่แล้ว
ความจริงมันเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงที่กิ้งก่ายักษ์อีกตัวจะวกกลับไปเล่นงานเขาอย่างกะทันหัน
หัวหน้ากิ้งก่ายักษ์สะบัดหาง เปิดเผยร่างที่ซ่อนอยู่ ดวงตาที่เต็มไปด้วยความเลือดเย็นของมันเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน ราวกับกำลังล้อเล่นอยู่กับมนุษย์
กิ้งก่ายักษ์อีกตัวกำลังลอยอยู่กลางอากาศ แต่ลิ้นเลือดของมันนำหน้ามาก่อนแล้ว และอาจพุ่งมาถูกเย่จงหมิงในนาทีถัดไป!
เย่จงหมิงดูเหมือนจะพบกับทางตัน… ในเวลานั้นเองเขาก็ดึงวัตถุสีดำที่เอวออกมา!
ปัง!
ประกายไฟสว่างวาบขึ้นในสนามที่มืดสลัว พร้อมกับเสียงที่ดังก้องไปทั้งสนาม
ลิ้นเลือดยาวเหยียดที่อยู่กลางอากาศขาดกระเด็น
กิ้งก่าลิ้นเลือดร้องโหยหวนตกลงมาล้มกลิ้งกับพื้น ปากใหญ่ที่เต็มไปด้วยฟันอันแหลมคมมีเลือดจำนวนมากทะลักออกมา
ปืน?
โม่เย่งงงันทันที เมื่อเห็นว่าสิ่งที่เย่จงหมิงถืออยู่ในมือนั้น คือปืน
เป็นปืนที่ค่อนข้างแปลก
แม้ว่าในที่มืดๆ แบบนี้ เธอจะมองเห็นรายละเอียดของปืนได้ไม่มากนัก แต่เธอแน่ใจว่ามันไม่ใช่ปืนชนิดใดๆ ที่เธอเคยรู้จัก!
โม่เย่รู้พลังของลิ้นเลือดดี เธอรู้ว่าลิ้นนั้นแข็งแกร่งและทรงพลังขนาดไหน และเข้าใจดีว่าปืนที่สามารถตัดลิ้นนั้นให้ขาดกระเด็นไปได้จะทรงพลังมากเพียงใด!
แต่ปืนนี้ เธอไม่เคยรู้จัก!
มันเป็นปืนที่ถูกดัดแปลงหรือผลิตขึ้นใหม่โดยไม่ได้รับอนุญาต! มันเป็นอาชญากรรม! การมีปืนแบบนี้ไว้ในครอบครองถือเป็นอาชญากรรม!
ในช่วงเวลาแห่งความเป็นความตาย เย่จงหมิงได้เปิดใช้พลังวิญญาณเกินขอบเขตที่ควรจะเป็น เพื่อใช้ทักษะในอาชีพช่างฝีมือผู้มีเกียรติ สร้างปืนประหลาดนี้ขึ้นมาทันที
นี่คือปืนพกลูกโม่ 9 มม. ของตำรวจที่เขายึดมาจากโม่เย่ แล้วใช้ทักษะเสริมสร้างรวมเป็นหนึ่ง รวมกับปืนพกไทป์ 54 แบบแม็กกาซีนที่ได้มาจากรูเล็ต กลายมาเป็นปืนใหม่ที่ค่อนข้างแปลกแต่ทรงพลังยิ่งขึ้น
(ปืนพกไทป์ 54 /โตกาเรฟจีน เป็นปืนพกกึ่งอัตโนมัติ)
(ปืนลูกโม่)
หลังจากที่ยิงออกไป เย่จงหมิงก็ได้รับการยืนยันพลังของปืนใหม่
พลังของมันเทียบได้กับ --- เดสเซิส อีเกิ้ล!
(เดสเซิส อีเกิ้ล)