บทที่ 32 พลังวิญญาณ
บทที่ 32 พลังวิญญาณ
แม้แต่ร่างกายของสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ระดับสอง ก็ไม่อาจหยุดคมมีดเดินป่าสีขาวได้
ปลายมีดจมลึกเข้าไปในลำคอของกิ้งก่ายักษ์ เย่จงหมิงบิดคว้านอย่างแรงเปิดปากแผลให้ขยายใหญ่ขึ้น เลือดจำนวนมากพุ่งกระฉูดออกมา ทำให้อากาศคละคลุ้งไปด้วยกลิ่นคาวเลือด
เมื่อครู่นี้ ตี้หวงหวันได้ลอบเข้าไปกัดหางกิ้งก่ายักษ์จากทางด้านหลัง ขัดจังหวะการเคลื่อนไหวของกิ้งก่ายักษ์ เปิดโอกาสให้เย่จงหมิงแทงมีดเข้าที่ลำคอของมัน
เจ้าสุนัขตัวใหญ่รู้วิธีที่จะร่วมมือกับเย่จงหมิงอย่างชาญฉลาด
เย่จงหมิงดึงมีดกลับ ออกห่างจากกิ้งก่ายักษ์ที่กำลังจะตาย
สิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์มีความอึดทนดื้อด้านมาก แม้ส่วนสำคัญตรงลำคอจะถูกตัดขาดก็ไม่ตายทันที แต่กลับเป็นการเพิ่มความโกรธให้กับมัน มันพยายามหันหัวไปกัดตี้หวงหวันที่กำลังกัดหางมันอยู่
แต่ตี้หวงหวันเจ้าเล่ห์มากกว่า มันกัดหางกิ้งก่ายักษ์แล้วเล่นซ่อนหากับเจ้าของหาง กิ้งก่ายักษ์หันไปทางซ้าย มันก็วิ่งไปทางขวา พอกิ้งก่ายักษ์หันไปทางขวา มันก็วิ่งไปทางซ้าย กิ้งก่ายักษ์แกว่งไปมาสองรอบ สระเลือดใต้ตัวมันก็กลายเป็นทะเลสาปเล็กๆ มันเริ่มหมดแรง หลังจากส่งเสียงร้องคร่ำครวญอยู่สักครู่ ตัวของมันก็สั่นแล้วล้มลงกับพื้นแน่นิ่งไม่ขยับและในที่สุดก็หมดลมหายใจ
เย่จงหมิงเดินเข้ามาดู แล้วแทงมีดเข้าใส่ตาของมันเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง จากนั้นก็ลงมือขุดผลึกวิเศษสีขาวออกมา
ในชีวิตก่อน สิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์แบบกิ้งก่ายักษ์มีชื่อเรียกว่า กิ้งก่าลิ้นเลือด มันมีผิวหนังหนาและขรุขระ เคลื่อนไหวรวดเร็วว่องไว โดยเฉพาะลิ้นยาวๆ ที่อยู่ในปาก เพียงพอจะจู่โจมศัตรูที่อยู่ไกลออกไปหลายเมตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตุ่มบนลิ้นแหลมคมราวกับหนาม เพียงสัมผัสถูกเบาๆ ก็สามารถขูดเอาเลือดเนื้อออกมาได้แล้ว ด้วยเหตุนี้ทำให้มันถูกเรียกว่า กิ้งก่าลิ้นเลือด
กิ้งก่าลิ้นเลือดมีจุดอ่อนอยู่ตรงใต้กรามกับช่องท้องส่วนล่าง ผู้รอดชีวิตที่มีประสบการณ์เท่านั้นที่จะสามารถระบุตำแหน่งและเข้าโจมตีจุดอ่อนเหล่านี้ได้อย่างถูกต้องแม่นยำ
และในชีวิตก่อน เย่จงหมิงเองก็เป็นนักล่าที่เก่งกาจเช่นกัน
หลังจากขุดผลึกวิเศษออกมาแล้ว เย่จงหมิงก็ไม่ทิ้งร่างของมันให้เสียเปล่า อันดับแรกเขาตัดกรงเล็บคมๆ ออกจากตีนทั้งสี่ของมัน จากนั้นก็เป็นลิ้นยาวที่มีชื่อเสียงของมัน ของเหล่านี้เป็นวัสดุชั้นยอด ส่วนลิ้นก็เป็นอาหารชั้นดี กินแล้วสามารถเสริมสร้างสมรรถภาพทางร่างกายให้กับมนุษย์
ในขณะที่เก็บรวบรวมของเหล่านั้น ทักษะปรับแต่งรวบรวมของช่างฝีมือผู้มีเกียรติก็ถูกใช้โดยอัตโนมัติ เย่จงหมิงได้รับคะแนนสะสมเพิ่มขึ้นมา 5 คะแนนอย่างต่อเนื่อง
เย่จงหมิงตะลึงเล็กน้อย ดูเหมือนว่าทักษะปรับแต่งรวบรวมจะเป็นทักษะแฝง เพียงแค่รวบรวมวัสดุที่ต้องการ คะแนนสะสมก็จะเพิ่มขึ้นโดยไม่ต้องเปิดใช้งานด้วยตัวเอง
เย่จงหมิงพบว่าวัสดุที่รวบรวมจะถูกจัดการโดยตรงด้วยทักษะปรับแต่งรวบรวม อย่างเช่น กรงเล็บ 20 ชิ้นที่ได้จากตีนทั้ง4 ของกิ้งก่ายักษ์กับลิ้นยาวๆ ของมัน เมื่อถูกทักษะนี้จัดการ มันไม่มีเลือดติดมาเลยแม้แต่น้อย มันแห้งสนิทไม่มีแม้แต่กลิ่นคาวเลือด สามารถใช้เวทย์มนต์กำกับหรือหลอมสร้างได้โดยตรง
เป็นที่ทราบกันเป็นอย่างดีมานานแล้วว่าช่างฝีมือเป็นอาชีพที่ได้รับการยกย่องเป็นอย่างสูง และสถานการณ์ในตอนนี้ก็ยังสามารถทำให้เย่จงหมิงนึกชื่นชมได้อีก
แม้การเลื่อนขั้นของอาชีพนี้จะเป็นเรื่องยาก แต่มันก็แข็งแกร่งมากจริงๆ!
อย่างไรก็ตามมีข้อเสียอย่างหนึ่งที่เย่จงหมิงค้นพบ ไม่ว่าทักษะใดๆ ที่ใช้ไป มันต้องใช้พลังวิญญาณ
ในวันโลกาวินาศ การได้รับอาชีพนั้นจะเริ่มต้นด้วยรูปแบบของการเปิดพลังวิญญาณ และการใช้ทักษะอาชีพก็ต้องใช้พลังวิญญาณ เมื่อพลังวิญญาณหมดลงทักษะอาชีพจะไม่สามารถใช้งานได้อีก
การเพิ่มพลังวิญญาณมีอยู่ 3 วิธี วิธีที่ 1 รอให้ฟื้นตัวเองตามธรรมชาติ ส่วนจะเร็วหรือช้านั้นขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล ผู้มีวิวัฒนาการในระดับสูงจะฟื้นตัวได้เร็ว หรือมีทักษะพิเศษบางอย่างที่ทำให้สามารถฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
วิธีที่ 2 คือการใช้ยาฟื้นฟูสมรรถภาพพิเศษสีฟ้าที่ได้จากรูเล็ต
เพราะว่ามันมีสีฟ้า ผู้รอดชีวิตจึงเรียกมันว่า ยาขวดฟ้า เมื่อใช้ยาขวดฟ้าก็จะสามารถทำให้รู้สึกดีขึ้น ยาขวดฟ้านี้มีอยู่หลายประเภท บ้างก็ใช้เร่งความเร็วในการฟื้นตัวของร่างกายตามธรรมชาติ บ้างก็ใช้ฟื้นฟูพลังวิญญาณได้ในทันที อย่างแรกที่ใช้เร่งความเร็วในการฟื้นตัวเรียกว่า ยาขวดฟ้าเล็ก อย่างหลังที่มีผลทันทีเรียกว่า ยาขวดฟ้าใหญ่ ผลของยาแต่ละประเภทขึ้นอยู่กับระดับคะแนนเอฟเฟกต์ของมัน
สำหรับวิธีที่ใช้ฟื้นฟูพลังวิญญาณวิธีที่ 3 ก็คือ หาผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารหรือยา ปรุงอาหารหรือยาสำหรับฟื้นฟูพลังวิญญาณให้ แล้วใช้มันฟื้นฟูพลังวิญญาณ ผลที่ได้จะแตกต่างกันไปตามวัสดุที่ใช้ปรุง
แม้การฟื้นฟูพลังวิญญาณจะเป็นเรื่องสำคัญ แต่ที่สำคัญกว่านั้นก็คือปริมาณของพลังวิญญาณ
มีหลายวิธีที่จะเพิ่มปริมาณของพลังวิญญาณ วิธีที่เร็วที่สุดคือการได้รับอาชีพใหม่ เมื่อได้รับอาชีพใหม่พลังวิญญาณในตัวก็จะเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย เพราะพลังวิญญาณทั้งหมดในตัวของคนหนึ่งคนจะไม่มีการแบ่งแยกเป็นอาชีพไม่ว่าทักษะอาชีพที่ใช้จะเป็นอะไรก็ตาม พลังวิญญาณที่มีทั้งหมดจะถูกใช้งาน พูดอีกอย่างก็คือ ยิ่งมีอาชีพมาก ก็ยิ่งมีพลังวิญญาณมาก ทำให้สามารถใช้งานทักษะอาชีพได้บ่อยขึ้น และไม่ว่าทักษะอาชีพที่ใช้จะเป็นอะไร ก็จะใช้พลังวิญญาณได้ไม่เกินไปจากปริมาณทั้งหมดที่มี
อย่างไรก็ตามอาชีพวันโลกาวินาศไม่ง่ายที่จะได้รับมา ทุกคนต่างรู้จักทางลัดนี้ แต่มีไม่กี่คนที่สามารถใช้มันเพิ่มปริมาณพลังวิญญาณ ดังนั้นผู้คนจึงหาทางเลือกอื่น เช่น การเพิ่มระดับวิวัฒนาการ เมื่อระดับวิวัฒนาการเพิ่มขึ้นปริมาณพลังวิญญาณก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย, การใช้อาหารหรือยาบางชนิด ก็มีผลเช่นกัน หรือใช้วิธีการเลื่อนขั้นอาชีพ ซึ่งวิธีนี้จะสามารถเพิ่มปริมาณพลังวิญญาณได้ด้วยเหมือนกัน
ตอนนี้เย่จงหมิงมีอาชีพอยู่ 2 อาชีพ บวกกับระดับวิวัฒนาการและระดับอาชีพ ทำให้มีปริมาณพลังวิญญาณอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ในคืนนี้เขาได้ใช้ทักษะเสริมสร้างรวมเป็นหนึ่งและทักษะการใช้เวทย์มนต์ไปกับมีดเดินป่าของเขา บวกกับการเสริมสร้างไม้เบสบอล มาตอนนี้ก็ใช้ทักษะการปรับแต่งรวบรวม ทำให้เขารู้สึกว่าพลังวิญญาณกำลังจะหมดลง
ในชีวิตก่อนเขาก็มีอยู่ 2 อาชีพเช่นกัน ได้แก่มือปืนกับนักดาบ
อย่างไรก็ตามพลังวิญญาณที่ได้มาจากทั้งสองอาชีพนั้น ก็เพียงพอให้เขาต่อสู้อย่างดุเดือดได้นานนับชั่วโมง แต่ในชีวิตนี้เพียงใช้ทักษะอาชีพไม่กี่อย่างพลังวิญญาณของเขาก็แทบจะหมดลงเสียแล้ว
ดูเหมือนว่ามีหลายสิ่งหลายอย่างของอาชีพในชีวิตนี้ที่เขายังไม่รู้ และคงต้องค่อยๆ ศึกษามันต่อไปในภายหลัง
หลังจากเก็บสิ่งที่รวบรวมได้จากกิ้งก่ายักษ์ เย่จงหมิงก็รีบวิ่งตามโม่เย่ไป เพราะตำรวจหญิงกำลังเผชิญหน้ากับกิ้งก่ายักษ์ถึงสองตัว หากเธอไม่ระวังก็อาจถึงตายได้
ส่วนอีกด้าน แน่นอนว่าโม่เย่กำลังตกอยู่ในอันตราย
ในห้องอาบน้ำก่อนหน้านี้ เธอยังสามารถเอาหลังพิงกำแพงต่อสู้กับกิ้งก่าลิ้นเลือดได้สักพัก แต่ตอนนี้เพื่อสร้างโอกาสให้เย่จงหมิง เธอต้องล่อพวกมันมายังสนามฝึกซ้อม
แต่สนามฝึกซ้อมเป็นพื้นที่เปิด ไม่มีสิ่งใดให้พึ่งพา เธอจึงถูกล้อมกรอบโดยกิ้งก่ายักษ์สองตัว และตกอยู่ในสถานการณ์ที่เสี่ยงต่ออัน ตรายเป็นอย่างมาก แต่เพราะไม้เบสบอลแปลกประหลาดที่ถืออยู่ บวกกับทักษะการต่อสู้ที่ได้ฝึกฝนมาตั้งแต่เด็ก ทำให้เธอสามารถต่อสู้กับการโจมตีของกิ้งก่าลิ้นเลือดได้ทุกๆครั้ง ไม่งั้นเธอคงถูกพวกมันแยกเป็นชิ้นๆไปนานแล้ว และเป็นไปไม่ได้ที่โม่เย่จะสามารถใช้ไม้เบสบอลล้มกิ้งก่ายักษ์ที่มีวิวัฒนาการระดับ 2 ลงได้
ทันทีที่เย่จงหมิงมาถึง เขาก็รีบดึงดูดความสนใจของกิ้งก่ายักษ์ทันที กิ้งก่ายักษ์จึงเปลี่ยนเป้าหมายวิ่งเข้าใส่เย่จงหมิงแทน