บทที่ 25 กลุ่มคนแปลกๆ 4 คน
บทที่ 25 กลุ่มคนแปลกๆ 4 คน
มีเพียงเส้นทางเดียวจากสนามทิศเหนือไปยังสนามเทนนิส ซึ่งเย่จงหมิงได้จัดการซอมบี้บริเวณนี้ไปหมดแล้ว
เขาจึงมาถึงประตูสนามเทนนิสได้อย่างราบรื่น เย่จงหมิงมองสำรวจไปรอบๆ บางทีอาจเป็นเพราะที่นี่มีคนอยู่น้อยมากตอนที่วันสิ้นโลกได้เริ่มต้นขึ้น อย่างน้อยเมื่อดูจากภายนอกแล้ว ที่นี่ไม่แตกต่างไปจากยามปกติเลย
จริงๆ แล้ว เย่จงหมิงค่อนข้างกังวล เขากลัวว่า กุญแจลับจะไม่ได้อยู่ที่นี่ ในชีวิตก่อนเขาซ่อนตัวอยู่ในห้องเช่าไม่ไกลจากที่นี่นัก แต่ก็ไม่เห็นแสงผิดปกติใดๆ
ตอนใต้ของเมืองมีเสียงยิงปืนถี่ยิบ เย่จงหมิงที่กำลังจะเข้าไปในสนามเทนนิสหยุดชะงัก เขาหันมองดูท้องฟ้าไกลๆ ที่กลายเป็นสีแดงเล็กน้อย ที่นั่นควรจะเป็นกองบัญชาการตำรวจติดอาวุธ (หน่วยสวาท /S.W.A.T ) ดูเหมือนว่ากองกำลังติดอาวุธในเมืองกำลังมีการต่อต้าน
ประกายตาของเย่จงหมิงมืดลงเล็กน้อย เขารู้ว่า กองกำลังติดอาวุธของประเทศยังคงเป็นกองกำลังที่สำคัญที่สุดในโลก แต่พวกเขาก็ไม่สามารถจะเปลี่ยนแปลงอะไรได้อีกแล้ว มันเป็นเพียงความช่วยเหลือในพื้นที่เล็กๆ เท่านั้น และการกำจัดศัตรูของมนุษย์ในครั้งนี้ก็เป็นเพียงความพยายามที่สำคัญไม่กี่ครั้งในช่วงต้นของวันโลกาวินาศเท่านั้น และไม่สามารถทำอะไรเพิ่มมากไปกว่านี้ได้อีก
มันเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะศัตรูของมนุษย์มีพลังมากเกินไป ในชีวิตก่อนมนุษย์กลายเป็นฝ่ายตั้งรับเรื่อยไปตลอดสิบปีของวันโลกาวินาศ
หลังจากกล่าวคำในใจว่า ขอให้พวกคุณโชคดี เย่จงหมิงก็ก้าวเข้าไปในสนามเทนนิส
ไฟฟ้าดับทั้งเมือง ทำให้ภายในสนามเทนนิสมืดมาก ถ้าเย่จงหมิงไม่ได้เป็นผู้วิวัฒนาการแล้วล่ะก็ มันก็อาจจะเป็นปัญหา ขณะที่เดินผ่านห้องโถง เย่จงหมิงก็เจอกับซอมบี้สองตัว ซึ่งน่าจะเป็นพนักงานของที่นี่ นอกจากนี้แล้วก็ไม่พบอันตรายอื่นอีก
สนามเทนนิสแบ่งออกเป็นชั้นบนกับชั้นล่าง ชั้นล่างเป็นสนามแข่ง ซึ่งมีเพียงสนามเดียวเท่านั้น มันแวดล้อมไปด้วยที่นั่งของผู้ชมจำนวนมาก ตลอดจนมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัยมาก โดยมากที่นี่มักจะเป็นเจ้าภาพในการแข่งขันเทนนิสระดับเมือง ส่วนชั้นบนเป็นสนามฝึกซ้อม ซึ่งเป็นสนามขนาดมาตรฐานที่ไม่มีที่นั่งผู้ชม
แม้ว่าชั้นล่างจะกว้างมาก แต่ยังสามารถมองเห็นสุดขอบห้องได้แทบจะทันที ทุกอย่างที่นี่ดูโอเค ไม่พบอะไรที่ผิดปกติ
ใจของเย่จงหมิงดิ่งลง ชั้นล่างไม่พบอะไรเลย ความหวังหายไปแล้วครึ่งหนึ่ง เขารีบขึ้นไปชั้นบนทันที เพื่อลดอาการซึมเศร้าที่เกิดขึ้นเล็กน้อยนั้น
ชั้นบนแบ่งออกเป็นสามส่วน ส่วนแรกและส่วนที่สองเป็นพื้นที่อาบน้ำ กับพื้นที่พักผ่อน ส่วนที่สามเป็นโซนสนามฝึกซ้อม เขาเริ่มต้นตรวจค้นในโซนสนามฝึกซ้อมก่อนโดยเดินวนทวนเข็มนาฬิกา แต่มันก็ทำให้เขาผิดหวังมากยิ่งขึ้น หรือว่ากุญแจลับไม่ได้อยู่ที่นี่จริงๆ? หรือว่าอาจารย์กับนักศึกษาเหล่านั้นพูดโกหก?
หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ตรวจสอบพื้นที่โซนสนามฝึกซ้อมเสร็จ และไม่พบอะไรเลย
หรือว่ามันจะอยู่ในส่วนพื้นที่พักผ่อนเล็กๆนั่น?
เย่จงหมิงเดินเข้าไปพร้อมกับความหวังสุดท้าย เพิ่งจะมาถึงหน้าประตู เขาก็ต้องรีบหลบไปที่ผนังกั้นห้องทันที เพราะได้ยินเสียงที่ดังมาจากภายในนั้น
“เฝ้าดูกันมาตั้งนานแล้วนะ พวกเราจะทำไงกันดี? อย่ามัวแต่พูดกันอยู่เลย”
น้ำเสียงนั้นมีความกังวล มันเป็นเสียง… บ่นของใครบางคน
ไม่กี่วินาทีต่อมา ก็มีอีกเสียงพูดขึ้น “จะทำไง? นายเป็นคนที่บอกเองว่าจะทำอะไร ตอนนี้พอมีคนตาย นายกลับมาถามพวกเราว่าจะทำยังไงงั้นเรอะ?”
เห็นได้ชัดว่าคนๆ นั้นไม่พอใจคนที่พูดคนแรก แล้วมันเกี่ยวอะไรกับคนตาย?
เย่จงหมิงตั้งใจฟังต่อไปโดยไม่ขยับ
“ใครจะไปรู้ว่ามันจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น? ไอ้หมาตัวนั้นมันกัดคนตาย! หลินลี่ฉันเตือนนายแล้วนะ ว่าอย่ามาพูดกับฉันแบบนั้นอีก คนตายเป็นพี่น้องของฉัน ไม่ใช่ของนาย แล้วก็ไม่ต้องมาทำเป็นขึ้นเสียงกับฉันด้วย”
“เอาล่ะ ทุกคนพูดให้น้อยลงหน่อย มาคิดหาทางออกกันดีกว่า พวกเราต้องร่วมมือกันเพื่อฆ่าไอ้หมาบ้าตัวนั้น หรือไม่ก็รีบออกไปจากที่นี่?” เสียงที่สามดังขึ้น มันเป็นเสียงขึ้นจมูกที่ฟังดูอึดอัด
“พวกเราฟังที่คุณตำรวจคนนี้พูดเถอะ” หลินลี่พึมพำ
เย่จงหมิงค่อยๆ เคลื่อนเข้าไปใกล้อย่างเงียบๆ ในห้องนั่งเล่นมีคนสี่คนยืนอยู่ ผู้ชาย 3 ผู้หญิง 1 ผู้ชายสามคนคือคนที่คุยกันก่อนหน้านี้ – ส่วนผู้หญิงกำลังยืนฟังอยู่เงียบๆ จากสิ่งที่ได้ยิน ผู้หญิงคนนี้คงเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ
โทรศัพท์มือถือของหลายคนกำลังเปิดอยู่ แสงสว่างจากไฟฉายโทรศัพท์มือถือทำให้ทั้งห้องสว่างราวกับกลางวัน มันช่วยให้เย่จงหมิงเห็นสิ่งต่างๆได้ง่ายขึ้นมากและฉากที่เห็นก็ทำให้หัวใจของเย่จงหมิงเต้นรัว
ภายในห้องอาบน้ำด้านหน้าของคนเหล่านั้น มีคลื่นพลังงานที่ไม่ชัดเจนไหลออกมา! ผ่านช่องว่างที่ประตูมีแสงประหลาดลอดออกมาให้เห็น แม้ทั้งห้องจะสว่างไปด้วยแสงจากไฟฉายโทรศัพท์มือถือ แต่ก็ยังสามารถเห็นแสงนั้นได้อย่างง่ายดาย!
นี่เป็นคลื่นพลังที่เย่จงหมิงไม่คุ้นเคย และนั่นก็เป็นเหตุผลที่ทำให้เขาเดาว่ามันอาจเป็นคลื่นพลังของกุญแจลับ
ในชีวิตก่อน แม้เขาจะเคยเห็นอะไรมามาก แต่ก็ไม่เคยเห็นพื้นที่ลับ
เพียงแต่ไอ้หมาบ้าที่คนเหล่านี้พูด มันหมายถึงอะไร? มันกัดคนถึงตายเลยหรือ?
“ทุกอย่างคืนนี้มันดูแปลกๆ รวมถึงสิ่งนั้นด้วย ความคิดของฉันก็คือ เข้าไปฆ่ามัน!”
ตำรวจหญิงดึงปืนพกออกมาจากด้านหลัง แม้ว่าเธอจะเป็นแค่ตำรวจหญิง แต่เธอก็สามารถพกปืน
“เข้าไปฆ่ามัน? คุณตำรวจ คุณคิดผิดแล้ว คุณคิดว่าข้างในนั้นเป็นแค่หมาบ้างั้นเหรอ?”
ชายชื่อหลินลี่ร้องลั่น พร้อมกับก้าวถอยหลังสองสามก้าว เห็นได้ชัดว่าเขาไม่อยากเข้าไป
“ไม่ต้องห่วง ฉันไม่ได้ต้องการให้คุณนำไป ฉันจะเข้าไปฆ่าหมาบ้าตัวนั้นเอง ที่โดนโจมตีก่อนหน้านี้ เป็นเพราะฉันยังไม่ได้เตรียมตัว แต่ครั้งนี้ฉันเตรียมตัวพร้อมแล้ว มันก็น่าจะโอเคนะ”
ตำรวจหญิงขมวดคิ้ว น้ำเสียงไม่ค่อยแน่ใจนัก เห็นได้ชัดว่าเธอไม่มั่นใจ
คืนนี้ทุกอย่างแปลกไปหมด มันเต็มไปด้วยสัตว์ประหลาดกินคน แถมยังมีสุนัขบ้ามาซ่อนตัวอยู่ที่นี่อีก
“งั้นก็ลุยกันเถอะ” คนที่พูดออกมาคนแรกเป็นคนที่มีอายุน้อยที่สุด เขามีอายุประมาณ 23-24 ปี คนที่เหลือพอได้ยินก็ค่อยกล้าขึ้นเล็กน้อย
“รอเดี๋ยว”
เย่จงหมิงเดินออกมาจากที่ซ่อนร้องเรียกพวกเขา
ล้อเล่นน่า จะปล่อยให้พวกนายไปเอากุญแจลับของฉันได้ไง? นี่เป็นของที่ฉันยุ่งวุ่นวายกับมันมาเกือบทั้งคืนเชียวนะ?
พื้นที่ลับมีความสำคัญกว่าอาชีพ เย่จงหมิงไม่มีเหตุผลที่จะพลาดจากมัน
“ใคร?”
ตำรวจหญิงมีปฏิกิริยาตอบรับอย่างรวดเร็ว เธอหันขวับมาทางเย่จงหมิงก่อนที่เขาจะทันพูดจบเสียอีก พร้อมกับหันปืนจ่อมาทางเขาด้วยมืออันมั่นคง สายตาของเธอจ้องเขม็งมาทางเย่จงหมิง จนทำให้ผู้คนรู้สึกถึงอันตราย บอกได้เลยว่า ตำรวจหญิงคนนี้ได้รับการฝึกมาอย่างดี และเป็นผู้เชี่ยวชาญในการใช้ปืน!
เย่จงหมิงประหลาดใจในความสามารถของตำรวจหญิงคนนี้ เขายกมือขึ้น ส่งสัญญาณให้เห็นว่าตนเองไม่ได้มีเจตนาร้าย
“ชื่ออะไร? มาที่นี่ทำไม? บัตรประชาชนล่ะ?”
ตำรวจหญิงหรี่ตา ถามด้วยเสียงเย็น พร้อมกับแตะนิ้วเบาๆ ไปบนไกปืน เธอพร้อมจะยิงทันที ถ้าเย่จงหมิงแสดงท่าทางผิดปกติ
วันนี้โลกเปลี่ยนไปอย่างมาก ทุกที่เต็มไปด้วยอันตราย ทำให้ตำรวจหญิงยิ่งต้องระวังตัว ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่เย่จงหมิงถือมีดเดินป่าเปื้อนเลือดอยู่ด้วย นั่นยิ่งแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นบุคคลที่อันตรายมาก
เย่จงหมิงเบะปาก เวลาอย่างนี้เนี่ยนะ? มาเรียกหาบัตรประชาชน มันคงมีประโยชน์หรอก
อย่างไรก็ตามตอนนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของวันโลกาวินาศ ยังมีคนจำนวนมากที่ยังติดนิสัยในวันเวลาของสันติภาพอยู่ นี่เป็นสิ่งที่พอเข้าใจได้
“ผมไม่ได้มีเจตนาร้าย ผมมาที่นี่เพื่อหลบภัย พอได้ยินสิ่งที่พวกคุณพูด ก็เลยสนใจสิ่งที่เกิดขึ้นในนี้” เย่จงหมิงพูดช้าๆ “แล้วผมพอได้เรียนกังฟูมานิดหน่อย ทำไมพวกคุณไม่ปล่อยให้ผมนำไปล่ะ? ส่วนคุณตำรวจก็ตามมาข้างหลัง จะได้มีเวลาจัดการกับอะไรก็ตามที่จะเกิดขึ้น ฟังดูแล้วเป็นไงบ้าง?”