ตอนที่ 181 กำแพงความแตกต่าง
ตอนที่ 181 กำแพงความแตกต่าง
‘ไม่ได้การ...คงต้องเรียก Nimdaมาพูดคุยกันเสียหน่อยแล้ว ว่าเหตุใดถึงไม่จริงจังต่อการทำหน้าที่ของสายลับ!!’
สายลับ Nimda ไม่ตั้งใจอย่างนั้นเหรอ? ไม่ทุ่มเทอย่างนั่นเหรอ? ตลอดสามวันที่ผ่านมาชายคนนี้แทบจะคุยกับสมาชิกใหม่ในกิลด์และจำชื่อพวกเขาได้หมดทุกคนอยู่แล้ว รวมถึงตอนนี้ชายสายลับผู้นี้ก็แทบจะไม่ได้หยุดพักต่อการสืบเรื่องราวให้กับกิลด์ต้นสังกัดเลยสักนิด
เขาทั้งเหนื่อย ทั้งอ่อนล้า ไม่ว่าจากการฝึกที่หนักหน่วงหรือการต้องแอบหลบซ่อนๆเพื่อทำหน้าที่ของสายลับ...ถึงกระนั้นในๆทุกวันที่เหนื่อยอ่อน ก็ยังมีคนที่ค่อยดูแลร่างกายและหัวใจเขาอยู่ไม่ห่างเลยก็คือ...!
“ท่านผู้กล้า Nimda มานี้เร็วเข้า…ข้าได้เก็บขนมปังก้อนใหญ่นี้ไว้เพื่อท่านเป็นพิเศษเลยเชียวนะ ท่านรีบกินเสียเถอะจะได้มีแรงกลับไปฝึกซ้อม”
หญิงสาวยิ้มอย่างสดใสก่อนจะโบกมือลาเพื่อเป็นกำลังใจให้กับ Nimda ที่กำลังกินขนมปังสุดพิเศษด้วยสีหน้าเอร็ดอร่อย
หญิงสาวที่ว่านี้ไม่ใช่ผู้เล่นหญิงสาวอย่างที่หลายคนเข้าใจ แต่ดันกลับเป็น NPC AI อย่าง‘คาราเมล!!’ ต่างหากที่ช่วยดูแลชายสายลับผู้นี้
ใช่แล้ว...เจสเปอร์รู้อยู่แล้วว่า Nimda คือสายลับแฝงตัวที่ ไอเดน(Blood Commander) จงใจส่งเข้ามาเพื่อสืบเรื่องราวกิลด์ Rising Sun ของเขานั่นเอง ซึ่งตามหลักความเป็นจริง Nimdaได้ถูกคัดออกจากโปรแกรมคำนวนสถิติที่เจสเปอร์เป็นคนเขียนขึ้นเหมือนเช่นผู้เล่นสายลับของกิลด์อื่นๆตั้งแต่แรกแล้วและการที่ Nimda ได้เข้ามายืนอยู่ภายในกิลด์ Rising Sun ถึงทุกวันนี้ได้ก็เป็นเพราะ เจสเปอร์เป็นคนออกหน้าอนุญาตด้วยตัวเขาเองยังไงล่ะ!!
“เจส…แน่ใจหรอว่านายจะเลี้ยงสายลับคนนี้เอาไว้กับกิลด์เราจริงๆ??!!”
“ถึงฉันจะเคยได้ยินสำนวนที่กล่าวว่า ‘จงเก็บมิตรไว้ข้างกายแต่จงเก็บศัตรูไว้ใกล้ยิ่งกว่า’ มาบ้างก็จริง แต่ก็ไม่คิดว่านายจะเก็บไว้ใกล้ขนาดนี้...หากใกล้อีกนิดสงสัยได้เอามาเลี้ยงจริงแล้วล่ะ”
อามมี่และโบม่อนที่กำลังแอบมองดูผู้เล่นสายลับ Nimda อยู่ข้างๆเจสเปอร์ก็อดไม่ได้ที่จะถามถึงเหตุผลว่าทำไม เจสเปอร์ถึงเลือกที่จะเก็บสายลับของศัตรูที่แข็งแกร่งที่สุดอย่างกิลด์ Blood Commander เอาไว้กับตัว ทั้งๆที่สายลับคนอื่นถูกกำจัดทิ้งไปทั้งหมด
“ก็ไม่ได้มีเหตุผลอะไรพิเศษมากหรอกก็แค่...ฉันต้องการสื่อสารไปและปั่นหัวไอเดนบ้างก็เท่านั้นเอง”
โดยปกติแล้วเจสเปอร์มักจะอธิบายแผนการต่างๆของเขาให้กับเพื่อนสมาชิกคนอื่นค่อนข้างเคลียร์หากทุกคนสงสัย แต่ทว่าครั้งนี้เขากับเลือกที่จะปิดบั้งอะไรหลายอย่างเอาไว้ คล้ายกับว่ามันยังไม่ถึงเวลาที่พวกเพื่อนๆจะต้องรู้
ก่อนที่ในวันต่อมา เจสเปอร์ก็เลือกที่จะพาเหล่าสมาชิก Rising Sun ทั้งหมดไปยังจุดเก็บเลเวลที่อยู่ทางเหนือของเมืองอัลคาเดีย ซึ่งเป็นที่อยู่ของหมาป่าไดร์วูลฟ์และหมีภูเขาเลเวล 40 ที่ครั้งหนึ่งพวกเขาเคยใช้จุดเก็บเลเวลตรงนี้ในการเพิ่มค่าประสบการณ์ในช่วงเวลาอวยพรของอาณาจักรกรีนเวต้า
แน่นอนว่ามอนสเตอร์ในจุดเก็บเลเวลจุดนี้มีระดับที่สูงเกินกว่าค่าเลเวลเฉลี่ยของสมาชิกกิลด์เขาอยู่มากพอสมควร ซึ่งผู้เล่นที่เล่นเกม The Era Onlineมานานจะรู้ว่าการที่เก็บเลเวลกับมอนสเตอร์เลเวลที่สูงมากกว่าตัวเองมากเกินไปจะมีแต่ผลเสียมากกว่าผลดี แต่แล้วเหตุใดเจสเปอร์ถึงเลือกที่จะพาทุกคนมายังสถานที่แห่งนี้กันล่ะ เพื่อเก็บเลเวลอันนั้นมันแน่นอนอยู่แล้ว...หรือว่าเจสเปอร์อยากให้ผู้เล่นสมาชิกของเขาได้กินเอ็นหัวใจของหมีภูเขาระดับมินิบอส?
อืม!!จะว่าอย่างนั้นก็ไม่ผิดเพราะไอเท็มเอ็นหัวใจของหมีภูเขาก็ถือเป็นไอเท็มหายากชิ้นหนึ่งที่มีค่าเหมาะแก่การล่าเก็บเอาไว้อยู่แล้วเพราะช่วยทั้งเพิ่งพลังกายและต่อต้านธาตุน้ำอย่างถาวรแต่ก็ไม่ใช่จุดประสงค์หลักที่เจสเปอร์ตั้งใจพาเหล่าสมาชิกหน้าใหม่มาในวันนี้ โดยจุดประสงค์หลักที่เจสเปอร์ตั้งใจพาทุกคนมาก็คือให้พวกเขาได้รู้จักการต่อสู้กับระดับบอสแผนที่ที่อาศัยอยู่บริเวณนี้นั่นเอง
ซึ่งบอสตัวที่ว่านี้ก็คือศัตรูตัวฉกาจที่เคยทำให้อามมี่ผู้เล่นอันดับหนึ่งของอาณาจักรในเวลานี้เสียท่ามาแล้วอย่าง บอสแมงมุมแม่ม่ายดำ!!
“มันไม่โหดเกินไปหน่อยเหรอกับสมาชิกใหม่แบบนี้??!!”
ไม่ใช่แค่อามมี่ โบม่อนและทวิสเต็ดเท่านั้นที่ตกใจกับสิ่งที่หัวหน้าของพวกเขากำลังจะทำต่อจากนี้ เพราะเหล่าสมาชิกหลักอย่าง ปับปี้ ร็อคสตาร์และคาซิอุสเองก็มีปฏิกิริยาที่ว่านี้ไม่ต่างกัน
“โหดสิ...โหดมากด้วยและอาจมีคนต้องตายกับสิ่งที่ฉันกำลังจะทำต่อจากนี้ แต่ฉันอยากให้เข้าใจ ฉันจำเป็นต้องเร่งเรื่องที่เป็นปัญหาของกิลด์เราในตอนนี้ให้แสดงออกมาเพื่อที่จะแก้ไขมันให้ได้เร็วที่สุดก่อนที่พวกเราทั้งหมดจะเปิดเผยตัวตนต่อสาธารณชน”
เจสเปอร์แสดงสีหน้าออกมาอย่างจริงจัง ซึ่งปัญหาที่ว่าอาจมีเขาเพียงคนเดียวก็ได้ที่เห็นมัน?
แต่ปัญหาอะไรกันละที่เจสเปอร์มองเห็น...แต่คนอื่นยังไม่แม้กระทั่งได้รับรู้ ทั้งหมดนี้จะแสดงออกมาในการเก็บตัวต่อจากนี้!!
‘ผู้พิทักษ์ถือโล่ให้มั่นคงกว่านี้จำเอาไว้พวกนายคือปราการด่านแรกที่ต้องปกป้องเพื่อนร่วมทีมจากอันตราย...หมาป่าไดร์วูลฟ์มักโจมตีเป็นกลุ่มเพราะฉะนั้นมองภาพรวมให้กว้างด้วย!’
โบม่อนลงไปควบคุมการเก็บเลเวลของสมาชิกใหม่ในครั้งนี้ด้วยตัวเอง รายละเอียดยิบย่อย ถูกนักกวีจี้เน้นย้ำลงไปอย่างละเอียดเสมือนว่ากำลังสอนเด็กทารกให้หัดเดิน นับว่าเป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่สำหรับโบม่อนอยู่ไม่น้อยแหมือนกัน เพราะด้วยระดับฝีมือท่าทางการต่อสู้ของสมาชิกใหม่ทั้งหมด ล้วนแตกต่างจากสมาชิกแกนหลักที่เขาคุ้นชินมานาน ชนิดที่เรียกว่าห่างไกลจนน่าตกใจ
‘สมาชิกใหม่เหล่านี้ ทำไมถึงยืนตำแหน่งในจุดนั้นแล้วท่าทางการรับมือนี้มันอะไรกัน เมื่อกี้ฉันก็พูดไปแล้วไม่ใช่เหรอว่าให้มองภาพรวม ฉันพลาดอะไรไปตรงไหน?’
‘ผู้ควบคุมธาตุทำไมถึงใช้สกิลออกมาแบบนั้น...ถ้าเป็นเจสเปอร์มาแทน หมอนั่นจะต้องเลือกที่จะเก็บสกิลเอาไว้ในตอนท้ายอย่างแน่นอน!’
‘ช้า! เกะกะ! อ่อนแอ! ปวกเปียก!’
โบม่อน อามมี่และทวิสเต็ด กำลังประสบปัญหาในการสั่งการเหมือนๆกันหมด ยิ่งไม่ต้องไปมองถึงปับปี้ ร็อคสตาร์และคาซิอุส ที่ตอนนี้ได้กลับคืนฉายาเก่าอย่าง ‘เก่งแต่พูด’
ทางด้านของสมาชิกใหม่เองก็เช่นเดียวกัน พวกเขารู้สึกว่าตัวเอง เหมือนถูกมัดแข่งมัดขาจำขยับตัวไม่ได้ ไม่ว่าจะโจมตีหรือจะถอย ทุกอย่างดูเก๋กังๆไปเสียหมด บวกกับเพื่อนร่วมทีมที่อยู่ด้านข้างนี้อะไรกัน มีเลเวลเพียง 22 ยังจะกล้ามายืนข้างหน้าอีกแล้วยังงี้จะมาช่วยฉันได้ยังไง? เครื่องป้องกัน โล่ อาวุธ ถามจริงพวกนายจะใช้ไม้จิ้มฟันกับกระดาษ ไปไล่แทงคนหรือยังไง??!!
ความคิดในเชิงตั้งคำถามและสงสัย ไม่เชื่อใจซึ่งกันและกัน จากบรรดาสมาชิกทั้งหมดไม่ว่าจะแกนนำ สมาชิกหลักหรือสมาชิกใหม่ ล้วนประดั่งเข้ามาไม่หยุดหย่อน มันคือสิ่งที่เรียกว่า ‘กำแพงความแตกต่าง’ และนี้ก็คือปัญหาที่เจสเปอร์มองเห็นนั่นเอง
จากประสบการณ์การเป็นผู้นำมาอย่างยาวนาน เขามองปราดเดียวก็รู้แล้วว่าปัญหานี้จะลุกลามขึ้นไม่ช้าก็เร็ว เจสเปอร์เลยใช้โอกาสนี้ในการเร่งปัญหาให้เกิดเร็วยิ่งขึ้นเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักถึงข้อผิดพลาด
“พอก่อน!! Rising Sun ทุกคนกลับมารวมตัวกันที่ค่าย”
เป็นประโยคสั้นๆที่เจสเปอร์พิมพ์ลงในช่องสนทนากิลด์...ก่อนที่อีกไม่กี่นาที สมาชิกทุกคนจะกลับมารวมตัวกันที่แคมป์ด้วยอารมณ์คุกรุ่นหัวเสียอย่างเห็นได้ชัด
“เป็นยังไงบ้างสำหรับการออกมาเก็บเลเวลอย่างเป็นทางการในวันแรก...ดูจากสีหน้าของทุกคนคงจะมีความสุขกันมากเลยใช่ไหม??!!” เจสเปอร์ที่สวมหน้ากากปิดบังใบหน้าของเขาเอาไว้ได้พูดขึ้นกลางที่ประชุมในเชิงหยอกล้อ ก่อนที่จะมองไปรอบๆเพื่อมองดูความอัดอันของแต่ละคนที่แสดงออกมา “เอาล่ะๆ...พวกเรามาเล่นเกมอะไรสนุกๆเพื่อผ่อนคลายความเครียดกันหน่อยดีไหม? ของรางวัลเอาเป็น Silvered Set สัก 20 ชุดก็แล้วกัน”
‘Silvered Set 20 ชุด !!’
ทุกคนต่างจ้องมองไปยังหัวหน้ากิลด์ของพวกเขาที่สวมหน้ากากปิดบังใบหน้าด้วยความตื่นเต้น สองตาของแต่ละคนแทบถลนออกมาจากเบ้า พร้อมกับจ้องมองไปยังไอเท็มชุดเซ็ตที่เจสเปอร์นำมาโชว์อย่างไม่เชื่อในสายตาตัวเอง ถึงแม้ของรางวัลตรงหน้าจะไม่ได้เป็นไอเท็มที่หายากอะไร แต่ราคาของมันก็จัดว่าสูงเกินกว่าที่ผู้เล่นอิสระอย่างพวกเขาจะหาซื้อมาครอบครองได้
“ไหนๆที่ตรงนี้ก็มีแค่เฉพาะพวกเรา งั้นเรามาเล่นเกมวิ่งแข่งกันไหม...จุดเริ่มต้นอยู่ตรงนี้ส่วนเส้นชัยเอาเป็นชายป่าลึกที่อยู่ห่างออกไป 3 กิโลก็แล้วกัน!!”
‘วิ่งแข่ง 5 กิโล!เพื่อชิง ชุดSilvered Set ฮ่าฮ่า...หวานหมู’
สมาชิกแต่ละคนต่างลูบปากของตัวเองราวกับได้ลาภลอย ระยะทาง 5กิโล หากว่าเป็นในโลกจริงคงไม่ใครก็ต้องมีเหงื่อออกกันบ้าง แต่สำหรับเกม The Era Online ไม่ต่างอะไรกับเล่นวิ่งไล่จับอยู่ในสนามเด็กเล่น
ทว่ากับกิลด์ Rising Sun ไม่มีอะไรที่ได้มาโดยง่ายอยู่แล้ว เพราะหัวหน้ากิลด์ของพวกเขาดันอนุญาตให้สมาชิกติดอันดับและสมาชิกหลักแต่ละคนเข้าร่วมแข่งขันกับพวกเขาด้วยนี้สิ แม้แต่ละคนจะหวั่นเกรงต่อกลุ่มคนเหล่านี้แต่เพื่อของรางวัลที่ล่อตาล่อใจ...เอาวะ!เป็นไงเป็นกันเพื่อชุด Silvered Set
ซึ่งกติกาการวิ่งแข่งในครั้งนี้ไม่มีอะไรมากไปกว่าการเอาตัวเองไปให้ถึงเส้นชัยก่อนคนอื่นเท่านั้นเอง ส่วนอุปสรรคขวากหนามเห็นที่จะมีแต่ฝูงมอนสเตอร์อย่างหมาป่าไดร์วูลฟ์และหมีภูเขาเลเวล 40 ที่น่าเป็นกังวลสำหรับพวกเขาที่มีเลเวลห่างกับมอนสเตอร์ค่อนข้างมาก แต่เพื่อความเสมอภาคมีหรือที่เจสเปอร์จะใจร้ายต่อลูกกิลด์ของเขาขนาดนี้ แน่นอนว่าต้องมีกฏพิเศษเพื่อช่วยเหลือพวกเขาเสียหน่อย
เมื่อทุกคนได้มารวมตัวกันยังจุดออกตัว เจสเปอร์ก็ประกาศกฏพิเศษที่เขาคิดขึ้นให้สมาชิกที่ลงทำการแข่งขันทุกคนได้รับทราบ
“เอาล่ะทุกคนฟังให้ดี กฎต่อไปนี้ขอให้ทุกคนปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ห้ามมีคนโกงการแข่งขันนี้โดยเด็ดขาด ทุกคนคงทราบดีว่าถ้าทำผิดกฏขึ้นมาผลลัพธ์ของมันจะเป็นยังไงใช่ไหม? ดี...ถ้าไม่มีใครสงสัยอะไรอีกก็มาฟังกฏพิเศษข้อแรกกัน ข้อแรกขอให้ผู้เล่นชายทุกคนก้าวเท้าออกมาจุดออกตัว 5 ก้าว”
‘ฉึบ.ฉึบ.ฉึบ.ฉึบ.ฉึบ...!’
แม้จะมีคนสับสนกับกฎที่หัวหน้ากิลด์เพิ่งประกาศออกไปอยู่ไม่น้อย แต่ผู้เล่นชายทุกคนต่างก็ทำตามเงื่อนไขกันอย่างพร้อมเพรียงโดยไม่มีใครอิดออด พวกเขาต่างยิ้มหัวเราะมองดูผู้เล่นหญิงที่อยู่ด้านหลังอย่างชอบใจ ที่พวกเขาได้ออกตัวนำ แต่แล้วคำสั่งต่อไปก็พลันบีบหัวใจของแต่ละคนจนสุดแรง
“ผู้เล่นที่มีเพศสภาพเป็นเพศทางเลือกถอยหลังจากจุดออกตัว 10ก้าว!!”
‘ถอยหลัง 10 ก้าว!นี้มันเกินไปแล้ว หัวหน้ากิลด์เป็นพวกเหยียดเพศอย่างนั้นเหรอ? ไหนเคยบอกพวกเราว่าทุกคนเท่าเทียมกันไง’
“ย้ำอีกครั้ง ให้ทุกคนปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด...ผู้เล่นที่มีเพศสภาพเป็นเพศทางเลือกถอยหลัง 10ก้าว” เจสเปอร์ยังคงย้ำคำสั่งเดิมลงไปด้วยเสียงอันหนักแน่นแถมยังไม่ปรายตามองกลุ่มคนกลุ่มนี้เลยสักนิด...นี้มันฝืนบังคับจิตใจกันมากเกินไปแล้ว
ไม่ใช่แค่กฎนี้กฎเดียวเท่านั้นที่เจสเปอร์ กระทำการหักหาญน้ำใจใครต่อหลายคน ไม่ว่าจะเป็นทั้งเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มแกนนำหรือเอื้อประโยชน์ให้กับผู้เล่นที่มีฐานะที่ดีกว่าคนอื่นๆ ยกตัวอย่างเช่น ผู้เล่นที่มีเงินติดตัวรวมทั้งสิ้น เกิน 50 เหรียญทองได้ก้าวเดิน 10 ก้าว หรือผู้เล่นแกนนำหรือสมาชิกหลักเดิม สามารถใช้คัมภีร์เพิ่มความเร็วในการแข่งได้เป็นต้น
ซึ่งกว่าจะจบกฎพิเศษที่เพิ่มเข้ามา ผู้เล่นบางคนก็นำหน้าพวกเขาไปไกลจนแทบลับสายตา ไม่ว่าจะเป็นอามมี่ โบม่อน ทวิสเต็ดหรือสมาชิกหลักที่ตามหลังอยู่ไม่ห่าง นี้มันยังเรียกว่าการแข่งขันได้อีกอย่างนั้นเหรอ...ถ้าคุณจะเอื้อประโยชน์ให้กับสมาชิกเดิมของคุณก็มอบรางวัลให้กันไปเลยสิจะมาจัดการแข่งขันบ้าบอนี้ไปทำไมกัน?
‘พวกเขาแพ้ตั้งแต่ยังไม่แข่งเลยด้วยซ้ำ’ ผู้เล่นบางคนล้ำหน้าไปไกลกับอีกจำพวกยังไม่สามารถที่จะเริ่มต้นได้จากจุดออกตัวเดียวกับคนอื่นเลย
‘นี้สินะความไม่ยุติธรรม Rising Sun ที่มองว่าดีในตอนแรกก็ไม่ต่างอะไรกับกิลด์อื่นๆที่ทำกับพวกเขา เล่นพรรคเล่นพวก เอื้อประโยชน์ให้แต่กับคนเก่าของตัวเองแล้วอย่างนี้พวกคุณจะรับผู้เล่นใหม่กันอีกทำไม??!!’
“เป็นอะไรกัน...ไม่สู้กันแล้วเหรอ หรือว่าชอบความพ่ายแพ้ถ้าชอบก็จงแพ้ต่อไป แต่ถ้าไม่.พอใจก็จงทำให้ฉันเห็น...ทำให้ฉันเชื่อในพวกคุณ ทำให้ฉันต้องละอายกับสิ่งที่ทำลงไปเอาผลงานที่พวกคุณทำได้มาตบหน้าฉัน...ตบให้เต็มแรง ตบให้สุดกำลัง แล้วเส้นชัยจะเป็นรางวัลของคุณ” พูดจบเจสเปอร์ก็เตรียมให้สัญญาณออกตัว ก่อนที่จะเริ่มต้นการแข่งขันวิ่งแข่งครั้งที่ 1
ไม่รู้ว่าเป็นเมื่อไหร่เหมือนกันที่หยดน้ำตาเม็ดเล็กๆไหลลงอาบแก้มของพวกเธอและพวกเขา...เหล่าผู้เล่นที่ถูกกฏพิเศษเข้าเล่นงานจนได้แต่ยืนจ้องมองแผ่นหลังของคนอื่นจากจุดเริ่มต้นของตัวเองอย่างเงียบๆ
หัวแถวต่างยิ้ม หัวเราะ ร่าเริงอย่างเป็นสุข พร้อมกับชัยชนะอยู่แค่เอื้อง
แถวกลางๆ แม้จะยิ้มได้อยู่บ้าง แต่ก็เหมือนมีอะไรมาดึงไว้ มันเป็นความรู้สึกที่สับสนระหว่างกลาง อย่างบอกไม่ถูกผิดกับผู้เล่นแถวหลังที่นิ่งเงียบไปเสียสนิท บางคนหัวเราะ บางคนยิ้ม บางคนร้องไห้
หัวเราะให้กับโชคชะตาที่ไม่เท่าเทียม ยิ้มให้กับความผิดหวังที่ต้องพบเจอ ร้องไห้ให้กับความน่าละอายของตัวเอง...‘ปัง’!!
...โปรดติดตามตอนต่อไป...
เข้าไปร่วมพูดคุยกับไรท์หรือสมาชิกนักอ่านคนอื่นๆได้ที่แฟนเพจตามลิงค์ด้านล่างเลยนะครับ
www.facebook.com/writelazy