บทที่ 9 เนื้อนุ่มๆ
บทที่ 9 เนื้อนุ่มๆ
ตอนนี้เย่จงหมิงกำลังต่อสู้อย่างหนัก เขาวิ่งออกมาจากห้องใต้ดินพร้อมกับมีดเดินป่า โดยมีแมลงกลายพันธุ์ตัวอื่นๆ ไล่ล่าติดตามมา แต่สิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์เหล่านี้ไม่สามารถคุกคามเขาได้อีกต่อไป และพวกมันก็ไม่สามารถต้านทานประกายมีดในมือเขาได้ สองนาทีต่อมา แมลงกลายพันธุ์ขนาดใหญ่ที่บุกรุกเข้ามาในวิลล่าก็ถูกกำจัดทิ้งจนเกลี้ยง
มู่ซินเฟยที่เดินออกมาจากห้องใต้ดินอย่างระมัดระวัง พบว่ามีซากแมลงกลายพันธุ์กระจัดกระจายอยู่บนพรมสะอาดเอี่ยมและราคาแพงของวิลล่า พร้อมด้วยสีเขียวเข้มของของเหลวที่มีกลิ่นเหม็นแรงมาก
ภายในช่องท้องของเธอปั่นป่วน แล้วสายตาของมู่ซินเฟยก็กลับมาตกอยู่บนร่างของเย่จงหมิง
ชายคนนั้นร่างกายเปรอะเปื้อนเล็กน้อย เลือดแมลงสีเขียวสาดอยู่บนเสื้อผ้าของเขา มีแม้กระทั่งเศษเนื้อและเศษขาติดอยู่
แต่นั่นไม่ได้ทำให้มู่ซินเฟยรู้สึกรังเกียจ ตรงกันข้าม เธอกับรู้สึกว่าชายคนนี้มีเสน่ห์
มันเป็นลักษณะของการมองโลก มันเป็นชนิดของความภาคภูมิใจที่ได้เสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น!
ชายคนนี้ทรงพลังขนาดนี้เชียวหรือ?
ช่างแตกต่างจากผู้ชายทันสมัยในเมืองผู้อ่อนแอที่ได้รับความนิยมกันมากขนาดนี้เชียวหรือ?
มู่ซินเฟยได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้นตึกตัก ร่างการรู้สึกเร่าร้อนแบบแปลกๆ
เย่จงหมิงสูดลมหายใจลึก แม้ว่าแมลงเหล่านี้จะเกิดการเปลี่ยนแปลง แต่ร่างกายของมันยังไม่แข็งพอที่จะรับการฟันแทงจากมีด แต่ถึงกระนั้นการต่อสู้กับพวกมันนับสิบตัว ยังต้องใช้ความพยายามอย่างมาก โชคดีที่ร่างกายได้รับการวิวัฒนาการแล้ว จึงพอจะรับมือไหว
เขาเดินไปที่หน้าต่างและมองออกไปข้างนอก นอกจากเงาร่างเล็กๆ ที่อยู่ห่างไกล ก็มีเพียงเสียงกรีดร้องและเสียงคำรามที่ดังมาจากอาคารเจ็ดชั้นเท่านั้น เห็นได้ชัดว่าการระเบิดได้เปิดเผยตัวผู้รอดชีวิต และตอนนี้พวกเขากำลังถูกโจมตีโดยเหล่าซอมบี้
แต่ที่สำคัญที่สุดคือ รอบๆ วิลล่า ไม่มีร่องรอยของสิ่งมีชีวิตอื่นๆ อีก นั่นทำให้เย่จงหมิงรู้สึกโล่งใจอย่างมาก
พืชและสัตว์กลายพันธุ์จะกลายเป็นสิ่งมีชีวิตด้านบนของห่วงโซ่อาหารในอนาคต แม้แต่บางส่วนของบุคคลที่ทรงพลังมากที่สุดของมนุษย์ที่แข็งแกร่งที่สุดยังไม่อาจเทียบได้ ในชีวิตก่อน แม้แต่ผู้แข็งแกร่งระดับ 9 ดาว เมื่อเจอกับสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ที่มีวิวัฒนาการระดับสูงก็ยังต้องถอย
แน่นอนว่าทุกอย่างต้องมองแยกกัน ในโลกก่อนที่เย่จงหมิงจะเกิดใหม่ เวลานั้นแม้ว่ามนุษย์จะได้รับบาดเจ็บหนักจากการกลายพันธุ์ของพืชและสัตว์ แต่ในทำนองเดียวกัน พวกมันก็ถูกโจมตีโดยสัตว์ประหลาดขนาดใหญ่ที่ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตบนโลก อาจกล่าวได้ว่า สัตว์ประหลาดเหล่านั้นก็เป็นเหมือนกับพืชและสัตว์กลายพันธุ์ ต่อหน้าการโจมตีทางอากาศของสัตว์ประหลาดขนาดยักษ์ มนุษย์ที่สามารถฆ่ามันได้มีเพียงเศษเสี้ยวเท่านั้น
เมื่อเห็นเย่จงหมิงมีท่าทีว่าอยากจะออกไปข้างนอก มู่ซินเฟยก็รู้สึกเป็นกังวลเล็กน้อย เธอรู้สึกปลอดภัยเมื่อได้อยู่กับชายคนนี้ ถ้าหากเขาทิ้งเธอไว้ที่นี่คนเดียว เธอไม่มีวันเห็นด้วยเป็นอันขาด
“คุณกำลังจะทำอะไร?”
เย่จงหมิงไม่ได้หันกลับมามอง เขาพูดพลางมองออกไปไกลๆ “จะออกไปดูหน่อย คุณก็รออยู่ที่นี่ดีๆ”
“ฉันจะไปกับคุณ!”
มู่ซินเฟยรีบวิ่งสองสามก้าวไปคว้ามุมเสื้อของเย่จงหมิง ด้วยกลัวว่าเขาจะจากไปอย่างกะทันหัน ท่าทางราวกับลูกสาวคนสุดท้องของผู้แข็งแกร่งระดับ 9 ดาวในอนาคต ทำให้เย่จงหมิงค่อนข้างอึดอัด เขามักจะนำมู่ซินเฟยไปรวมกับบทบาทของนักฆ่ากุหลาบงามในชีวิตก่อนอย่างไม่รู้ตัว
“นี่เป็นเวลากลางคืน ความเสี่ยงยิ่งมีมากขึ้น มันง่ายที่จะเกิดอุบัติเหตุถ้าคุณตามผมไป คุณอยู่ที่นี่ช่วยทำบางสิ่งให้ผมดีกว่า”
มู่ซินเฟยกระพริบตาปริบๆ แล้วถามว่า “จะให้ทำอะไร?”
“ดูนี่ให้ดีๆ”
เย่จงหมิงก้มลงไปที่พื้น หยิบซากแมลงกลายพันธุ์ขึ้นมา เลาะเปลือกด้านหลังของมันออกอย่างคล่องแคล่ว เปิดช่องเข้าไปในร่างของมัน ในตำแหน่งตรงกลางส่วนที่เชื่อมต่อกับหัว แล้วดึงเนื้อนุ่มๆ สีแดง ขนาดเท่านิ้วมือของผู้หญิงออกมา
“คุณอยู่ที่นี่ ตัดเอาเนื้อของแมลงกลายพันธุ์เหล่านี้ออกมา โรยเกลือ จากนั้นก็เอาไปอบในเตาอบ”
ห๊ะ?
มู่ซินเฟยแสดงสีหน้าดูไม่จืด ปล่อยให้เธอเล่นกับแมลงน่ากลัวเหล่านี้เนี่ยนะ? แล้ว… แล้วยังต้องเอาไปย่างเกลืออีก? นี่… นี่มันฟังดูเหมือนทำอาหารเลยนะ? น่าขยะแขยงจริงๆ
เมื่อเผชิญสีหน้าตั้งคำถามของมู่ซินเฟย เย่จงหมิงพยักหน้ายืนยัน “มันเป็นอาหาร ก็ต้องปรุงมันเช่นเดียวกับการปรุงอาหาร”
พูดจบ เย่จงหมิงก็รวบรวมซากแมลงกลายพันธุ์ในห้องโถง ส่งไปยังห้องใต้ดิน แล้วย้ายเตาอบเข้าไปข้างใน จากนั้นก็ยัดหญิงสาวเข้าไปด้วยโดยไม่สนใจว่ามู่ซินเฟยจะเห็นด้วยหรือไม่
แมลงกลายพันธุ์เหล่านี้มีวิวัฒนาการน้อยเกินไป พวกมันยังไม่มีผลึกวิเศษ แต่ร่างกายที่เกิดการเปลี่ยนแปลงของพวกมัน ทำให้ชิ้นเนื้อส่วนนั้นของพวกมันกลายเป็นส่วนที่ดีที่สุด การกินส่วนสำคัญนี้ลงไป จะเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับร่างกาย และถ้าได้กินเป็นประจำก็จะเพิ่มประโยชน์ให้กับร่างกายได้มากยิ่งขึ้น
ก่อนการเกิดใหม่ การเกษตรล่มสลาย ยกเว้นผักและผลไม้ป่าบางชนิดที่ยังกินได้แล้ว เนื้อของสัตว์กลายพันธุ์กลายมาเป็นอาหารหลัก การกินพวกมันไม่ใช่เพียงเพื่ออิ่มท้อง แต่ยังสามารถเพิ่มความแข็งแรงให้กับร่างกาย
แต่แมลงเหล่านี้เพิ่งเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง ส่วนสำคัญในชิ้นเนื้อจึงช่วยอะไรไม่ได้มากนัก
“รีบทำให้เร็ว ก่อนไฟฟ้าจะดับ ถ้าคุณทำเสร็จ ตอนผมกลับมา ผมจะให้ยาวิวัฒนาการระดับ 1 ดาวฉบับปรับปรุงกับคุณ 1 ขวด แต่ถ้าไม่ทำล่ะก็… หึๆ”
แล้วเขาก็มองไปยังส่วนโค้งส่วนเว้าบนเรือนร่างของมู่ซินเฟย แสดงสีหน้าราวกับจะบอกว่า ฉันเป็นคนเลว
มู่ซินเฟยประนีประนอมทันที นาทีต่อมา เธอก็เห็นประตูโลหะทางเข้าสู่ห้องใต้ดินที่ถูกกรดของแมลงกลายพันธุ์กัดกร่อนเป็นรูขนาดใหญ่ ถูกปิดผนึกไว้ด้วยโต๊ะไม้
“ระวังอย่าสัมผัสถูกถุงสีเขียวข้างๆ เนื้อนุ่มๆ นั่น มันเป็นสารกัดกร่อน”
เสียงของเย่จงหมิงดังเข้ามาในห้องใต้ดิน สีหน้าตึงเครียดเพราะเริ่มรู้สึกไม่สบายใจของมู่ซินเฟยก็ผ่อนคลายลง
ในชุมชน นอกจากบ้านแบบวิลล่าแล้ว ยังมีอาคารเจ็ดชั้นเกือบสามสิบหลัง มีผู้คนอาศัยอยู่ประมาณ 6-7 พันคน ขณะที่วันสิ้นโลกเกิดขึ้น หลายคนยังไม่กลับมาจากที่ทำงาน แต่อย่างน้อยๆ ก็มีคนกว่าพันคนที่ยังอยู่ในชุมชน และหนึ่งในสามของคนเหล่านั้นได้เกิดการเปลี่ยนแปลง กลายเป็นซอมบี้ 3-4 ร้อยตัว
พวกมันเป็นซอมบี้ระดับ 1 ที่เพิ่งกลายพันธุ์ และเป็นแหล่งที่มาหลักของผลึกวิเศษระดับ 1 สำหรับคนอื่นๆ อาจยังไม่รู้ว่าแผ่นกลมเล็กๆ สีเทานั้นใช้งานอย่างไร แต่พวกมันเป็นสินทรัพย์ที่หาง่ายสำหรับเย่จงหมิง
ตอนนี้เขาเป็นผู้วิวัฒนาการระดับ 1 ดาว ร่างกายแข็งแรงกว่ามนุษย์ธรรมดา 6 เท่า เมื่อรวมกับประสบการณ์และทักษะการต่อสู้จากชีวิตที่ผ่านมา การสังหารซอมบี้ธรรมดาเหล่านี้เป็นเรื่องง่ายดายมาก ดังนั้นเขาไม่อาจตัดใจทิ้งผลึกวิเศษเหล่านี้ได้ลง
แม้ว่ากลางคืนจะอันตรายกว่ากลางวัน แต่ถึงกระนั้นเย่จงหมิง ก็ยังตัดสินใจออกล่า
ซอมบี้ระดับ 1 เหล่านี้จะเป็นเหยื่อของเขา หลังจากนี้อีกสองวัน บางส่วนของซอมบี้เหล่านี้จะเริ่มพัฒนา พวกมันจะแข็งแกร่งและอันตรายขึ้น ถึงตอนนั้น ไม่ใช่เย่จงหมิงบอกว่าฆ่าแล้วจะฆ่าได้
ค่ำคืนนำพาอันตรายที่ไม่รู้จัก แต่ก็เป็นโอกาสของเย่จงหมิงที่พวกมันจะไม่สังเกตเห็น เขาเคลื่อนกายภายใต้เงาของพุ่มไม้และประติมากรรมตกแต่ง เข้าไปใกล้อาคารเจ็ดชั้น เงียบเชียบเหมือนตอนที่เขากำจัดพวกมันตรงหน้าวิลล่าเมื่อตอนเย็น ไม่มีอันตรายระหว่างทาง จนกระทั่งถึงอาคารเจ็ดชั้น เขาก็เจอซอมบี้ตัวแรก
มันเป็นชายวัยกลางคนในชุดนอน เสื้อผ้าสีฟ้าขาวถูกย้อมไปด้วยเลือด มีรูขนาดใหญ่บนช่องท้องด้านซ้าย ลำไส้ทะลักออกมา ห้อยต่องแต่งอยู่ที่ต้นขา มันเดินช้าๆ กลับไปกลับมา ดูแปลกๆ และน่ากลัว
ฉากแบบนี้เย่จงหมิงเห็นมานับครั้งไม่ถ้วนในอดีต ก่อนที่ซอมบี้จะทันได้รู้ตัว ประกายมีดก็แทงทะลุหลังหัวเข้าไประเบิดสมองของมัน
เขาขุดผลึกวิเศษกลางหน้าผากของมันออกอย่างชำนาญ ก่อนที่จะก้าวต่อไป เย่จงหมิงก็ได้ยินเสียงกรีดร้องดังมาจากทางด้านหลัง
**ปฏิมากรรมกับประติมากรรม ประติมากรรมเป็นคำในภาษาสันสกฤต ส่วนปฏิมากรรมเป็นคำในภาษาบาลี ปัจจุบันใช้คำว่า ประติมากรรม ส่วนคำว่า ปฏิมากรรม ใช้เฉพาะ พระพุทธรูป หรือ รูปเคารพทางศาสนา **
