บทที่ 8 ผู้วิวัฒนาการระดับ 1 ดาว

บทที่ 8 ผู้วิวัฒนาการระดับ 1 ดาว

เย่จงหมิงเย็นวาบตลอดสันหลัง ในใจรีบเร่งคิดหาวิธีจัดการกับพวกมัน

ด้วยความจริงที่ว่า เขาเป็นคนที่ย้อนมาเกิดใหม่ จึงพรั่งพร้อมไปด้วยประสบการณ์ที่น่าประหลาดใจและทักษะตามธรรมชาติ เมื่อเวลาผ่านไปเขาอาจกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังที่สุด กลายเป็นผู้ครอบครองเมือง หรือแม้แต่กลายเป็นหนึ่งในผู้ปกครองประเทศที่ทรงพลังมากที่สุดในโลก

แต่ตอนนี้ เขาเป็นแค่คนธรรมดา ที่สามารถจัดการกับซากศพเดินได้หลายรูปแบบที่เพิ่งกลายพันธุ์เท่านั้น ยังไม่สามารถจัดการกับเหล่าแมลงกลายพันธุ์นับโหลได้

แมลงกลายพันธุ์เหล่านี้ แม้จะยังไม่ได้พัฒนาความสามารถพิเศษอันน่ากลัว แต่ก็ไม่มีทางที่คนธรรมดาจะสามารถจัดการกับมันได้ ด้วยฟันตะขอเคียวกับขาที่เต็มไปด้วยขนแข็งๆ ที่คมกริบ เพียงสัมผัสถูกเบาๆ ก็สามารถกระชากเนื้อออกเป็นชิ้นๆ ได้แล้ว อีกทั้งในปากของพวกมันมีของเหลวซึ่งมีฤทธิ์กัดกร่อนอย่างรุนแรงไหลออกมา สำหรับร่างกายคนธรรมดา สัมผัสถูกเพียงเล็กน้อยก็เพียงพอจะทำให้อวัยวะส่วนนั้นเน่าเปื่อย ซึ่งหมายความว่า นอกเสียจากผู้วิวัฒนาการมากกว่าระดับ 4 ดาวที่มีความสามารถในการเยียวยาตัวเองแล้ว มันจะทำให้ผู้ที่โดนของเหลวเหล่านั้นต้องพิการไปตลอดชีวิต

ภายในช่วงระยะเวลาสั้นๆที่เย่จงหมิงครุ่นคิด แมลงกลายพันธุ์เหล่านั้นได้เข้ามาเคาะถึงหน้าประตูบ้านแล้ว แต่เป็นเพราะประตูทำมาจากไม้เนื้อแข็ง มันจึงแข็งแรงพอ ดังนั้นบางส่วนของพวกแมลงจึงเข้าโจมตีหน้าต่าง โชคดีที่หน้าต่างของวิลล่าก็แข็งแรงพอเช่นกัน มิฉะนั้นเย่จงหมิงกับมู่ซินเฟยคงโดนเล่นงานไปแล้ว

อย่างไรก็ตาม นั่นเป็นเพียงความปลอดภัยชั่วคราว หลังจากโจมตีอยู่ไม่กี่ครั้ง แมลงกลายพันธุ์เหล่านั้นก็พบว่า พวกมันไม่สามารถเจาะประตูหน้าต่างเข้าไปได้ บางส่วนของแมลงกลายพันธุ์ที่มีวิวัฒนาการดีกว่าตัวอื่น อ้าปากพ่นของเหลวสีเขียวไปที่ประตูและหน้าต่าง ซึ่งคนทั้งคู่มองไม่เห็นสถานการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นตรงประตูไม้ แต่ที่หน้าต่างกระจก มันถูกกัดกร่อนจากของเหลวด้วยอัตราเร็วที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า

“ไป!”

เย่จงหมิงรู้ว่าเขาไม่สามารถอยู่ตรงนี้ได้อีกแล้ว ด้วยสถาน การณ์ตอนนี้ เขาต้องรีบกลายเป็นผู้วิวัฒนาการระดับ 1 ดาวให้ได้โดยเร็วที่สุด นี่เป็นทางรอดเดียวของพวกเขา

เมื่อมู่ซินเฟยเห็นรูขนาดใหญ่ที่กำลังก่อตัวบนกระจกหน้าต่าง เธอยกมือขึ้นปิดปากมองดูอย่างเหลือเชื่อ ยิ่งแมลงกลายพันธุ์เหล่านั้นแสดงความก้าวร้าว ก็ยิ่งทำให้เธอกลัวมากยิ่งขึ้น

“ไปที่ห้องใต้ดิน”

มู่ซินเฟย สมกับเป็นผู้แข็งแกร่งระดับ 9 ดาวในชีวิตก่อน เธอมีคุณภาพทางจิตใจสูงมาก เมื่อถูกลากให้ถอยหลังสองสามก้าวโดยเย่จงหมิง เธอก็หันกลับมาวิ่งเองและบอกสถานที่ให้เย่จงหมิงรู้

เย่จงหมิงดวงตาเป็นประกาย เขาตั้งใจจะพาหญิงสาวไปที่ชั้นสอง แล้วกระโดดหนีออกไปจากวิลล่า เพราะเขาคิดไม่ถึงว่าที่นี่จะมีห้องใต้ดิน

เมื่อเทียบกับการหนี เย่จงหมิงชอบต่อสู้กลับมากกว่า ถ้าหากสามารถฆ่าแมลงกลายพันธุ์เหล่านี้ได้ ก็จะได้รับประโยชน์บางอย่าง

ยาที่ได้รับการปรับปรุงพร้อมแล้ว เขาสามารถเป็นผู้วิวัฒนาการระดับ 1 ดาวได้ทันทีที่ใช้มัน แต่กระบวนการนั้นต้องใช้เวลาประมาณ 5 นาที ซึ่งคงไม่มีเวลาพอ เพราะพวกเขาต้องใช้เวลาเพื่อการหลบหนี แต่หากมีสถานที่ๆ พอจะต้านทานแมลงกลายพันธุ์เหล่านี้ได้ประมาณ 5 นาทีแล้วล่ะก็ ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะต่างไปทันที

ด้วยการนำทางของมู่ซินเฟย คนทั้งคู่วิ่งเข้าไปในครัวอย่างรวด เร็ว ทางเข้าอยู่ในตู้หลังรูเล็ตวันโลกาวินาศ ในนั้นมีประตูโลหะที่นำไปสู่ห้องใต้ดิน!

ทั้งคู่รีบมุดเข้าไปในนั้นด้วยความเร็วสูง เพราะเวลานี้แมลงกลายพันธุ์ที่อยู่ใกล้พวกเขาที่สุด ได้ไล่ล่าเข้ามาถึงในครัวแล้ว

มีไฟอัตโนมัติในห้องใต้ดิน มันสว่างขึ้นทันทีที่พวกเขาเข้าไปด้านใน

มันเป็นห้องขนาด 20-30 ตารางเมตร ด้านหนึ่งเป็นตู้เก็บไวน์ ซึ่งเต็มไปด้วยไวน์ต่างประเทศ ส่วนอีกด้านเป็นถังไม้โอ๊คไม่กี่ใบ ซึ่งควรมีไวน์แดงบรรจุอยู่ แต่ที่โดดเด่นที่สุดก็คือ ตู้เซฟขนาดใหญ่ที่ฝังอยู่ในผนังด้านในสุดของห้อง

เห็นได้ชัดว่า ผู้เป็นเจ้าของไม่ใช่ครอบครัวธรรมดา

แต่ตอนนี้เย่จงหมิงไม่สนใจเรื่องไร้สาระเหล่านั้น แม้ว่ามันจะเต็มไปด้วยเครื่องประดับมีค่าก็ตาม เพราะในวันโลกาวินาศพวกมันเป็นเพียงสิ่งไร้ค่า

เขาหยิบเข็มฉีดยาออกมาจากกระเป๋า สูบยาวิวัฒนาการฉบับปรับปรุงเข้าไป และฉีดเข้าที่เส้นเลือดดำบนท่อนแขน

มันเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดและดูดซึมเร็วที่สุด เร็วกว่าวิธีการดื่มเข้าไปตรงๆ แน่นอนว่าย่อมต้องทนกับความเจ็บปวดที่มากขึ้นด้วยเช่นกัน

มู่ซินเฟยมองกระบวนการทั้งหมด ด้วยสายตาคาดหวังที่มองเห็นได้อย่างชัดเจน

โลกใบนี้เปลี่ยนไปมาก มันทำให้เธอทั้งกลัวและหวาดหวั่น เธอจึงหวังที่จะเห็นด้านที่มีความหวังเป็นอย่างยิ่ง

นอกห้องใต้ดิน แมลงกลายพันธุ์เริ่มเข้าโจมตีประตูโลหะ แม้ประตูนี้จะแข็งแรงเพียงใดก็ตาม แต่ภายใต้กรดรุนแรงของแมลงกลายพันธุ์ มันก็คงอยู่ได้ไม่นาน

หลังจากที่เย่จงหมิงฉีดยาวิวัฒนาการฉบับปรับปรุงเข้าเส้นเสร็จสิ้น คลื่นความเจ็บปวดก็ถาโถมเข้าใส่ร่างกาย มันเจ็บปวดมาก แต่กลับทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน สำหรับเย่จงหมิง นี่เป็นความรู้สึกที่คุ้นเคย ในชีวิตก่อน เขารู้สึกแบบนี้ 6 ครั้ง ร่างกายเจ็บปวดแต่จิตวิญญาณเริงร่า เพราะความเจ็บปวดนี้แสดงให้เห็นถึงการวิวัฒนาการ แสดงถึงพลัง เป็นตัวแทนของการสร้างพันธุกรรมใหม่ของมนุษย์

สิ่งเจือปนในร่างกายถูกขับออกมาพร้อมเหงื่อ ความเจ็บปวดค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ ทุกสัดส่วนของร่างกาย แม้แต่เซลล์ทุกเซลล์มีความสุข ราวกับได้เกิดใหม่

การมองเห็น การได้ยิน แม้แต่การรับรู้กลิ่น ได้รับการปรับปรุงอย่างมาก

และที่สำคัญที่สุด พลังเต็มเปี่ยมเริ่มไหลเวียนไปทั่วร่างกาย ทำให้เย่จงหมิงปรารถนาจะทะยานขึ้นไปบนฟากฟ้า

เขารู้ว่า การวิวัฒนาการสำเร็จแล้ว ตอนนี้คุณภาพทางร่างกายของเขาสูงกว่าคนธรรมดา 5-6 เท่า

แม้จะเป็นยาวิวัฒนาการระดับ 1 ดาว แต่มันก็เป็นยาวิวัฒนาการระดับ 1 ดาวที่ได้รับการปรับปรุงแล้ว!

ปึงปัง!

ประตูโลหะที่ไม่หนามากของห้องใต้ดิน ไม่อาจปิดกั้นแมลงกลายพันธุ์ที่สามารถพ่นน้ำกรดไว้ได้นาน ในขณะที่เย่จงหมิงเสร็จสิ้นกระบวนการวิวัฒนาการ แมลงกลายพันธุ์เหล่านั้นก็วิ่งเข้าสู่ห้องใต้ดิน

สายตาของเย่จงหมิงเคลื่อนย้ายมายังแมลงกลายพันธุ์จำนวนมากกว่าโหล มือจับมีดเดินป่าแน่น เริ่มคิดที่จะทักทายพวกมัน

ประกายมีดสว่างวาบ แมลงกลายพันธุ์ตัวที่นำหน้าถูกแบ่งออกเป็นสองซีก ของเหลวสีเขียวในร่างของมันฉีดกระจายไปโดยรอบ มีดธรรมดาในมือของผู้วิวัฒนาการระดับ 1 ดาว ทรงพลังอย่างไม่น่าเชื่อ

คนที่เอาแต่หลบหนี แต่ตอนนี้หันกลับมาโจมตีพวกมันอย่างรุนแรง ต่อให้แมลงกลายพันธุ์ชาญฉลาดกว่านี้ ก็เริ่มตกใจ

เย่จงหมิงไม่ได้หยุดชะงัก พลังที่เพิ่มขึ้นทำให้เขาต้องการต่อสู้

แม้ว่าแมลงกลายพันธุ์จะวิวัฒนาการจนมีขนาดใหญ่เท่าหนูตัวใหญ่ ทำให้เขามีปัญหาในการฟาดฟันเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อความปรารถนาที่จะต่อสู้ของเขา หลังจากความแข็งแกร่งทางกายภาพเพิ่มขึ้น ทำให้เขามีต้นทุนในการใช้ทักษะได้ง่ายขึ้น

คลื่นเบาๆ สองคลื่นเคลื่อนผ่าน แมลงกลายพันธุ์สองตัวก็ถูกตัดหัว

สำหรับแมลงที่เพิ่งกลายพันธุ์ใหม่ๆ เหล่านี้ แม้ว่าเปลือกบนหลังของพวกมันจะแข็งมากจนมีดธรรมดาไม่อาจสร้างรอยแผลได้ แต่ตอนนี้เย่จงหมิงแข็งแกร่งขึ้น และการทำมุมของมีดยังแม่นยำมาก เขาทำแค่มองหารอยเชื่อมต่อระหว่างเปลือกเท่านั้น ฟังดูเหมือนง่าย แต่มันเป็นประสบการณ์และทักษะที่ได้รับมาจากการต่อสู้ตลอดทศวรรษของวันโลกาวินาศ

หลังจากสหายถูกฆ่าไปสามตัวภายในครั้งเดียว ในที่สุดแมลงกลายพันธุ์เหล่านี้ก็เกิดปฏิกิริยา พวกมันส่งเสียงคำราม ดวงตาส่องประกายสีแดงเลือด พวกมันทั้งหมดวิ่งตรงเข้าใส่เย่จงหมิง หลายตัวกระโดดขึ้นจากพื้นดิน โจมตีใส่ศีรษะของเย่จงหมิงด้วยฟันเลื่อยรูปตะขอเคียวที่ได้รับการวิวัฒนาการจนมองเห็นได้อย่างชัดเจน และยังสามารถมองเห็นเนื้อหนังและเลือดที่ยังคงติดอยู่บนนั้น

ทางด้านมู่ซินเฟย เธอใช้มือปิดปากเฝ้ามองการโจมตีของฝูงแมลงกลายพันธุ์ด้วยความหวาดกลัว เพราะเกรงว่า หากส่งเสียงออกไปแม้เพียงเล็กน้อยจะส่งผลต่อเย่จงหมิง

เมื่อเห็นแมลงกลายพันธุ์กว่าครึ่งเข้าโจมตีทางอากาศ เย่จงหมิงก็ไม่ได้เกรงกลัวแถมยังรู้สึกยินดีอีกด้วย มีดถูกส่งออกไปอีกครั้งหลังจากเกิดประกายวาบขึ้น แมลงกลายพันธุ์ในอากาศเหล่านั้น ก็ถูกตัดออกเป็นสองซีก แล้วร่วงหล่นลงมาตาย

แล้วร่างกายของเย่จงหมิงก็เริ่มขยับ วิ่งสลับซ้ายขวาเข้าไปในฝูงแมลง เขาเตะเข้าไปขาของพวกมันอย่างต่อเนื่อง ด้วยพลังและความ เร็วที่มากกว่ามนุษย์ธรรมดาเกือบ 6 เท่า สำหรับแมลงกลายพันธุ์ตัวที่ถูกเตะแล้วยังไม่ตาย ของเหลวในร่างของพวกมันกระฉูดออกมา ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนสูญเสียความสามารถในการต่อสู้ไป

ในชั่วพริบตาเดียว แมลงกลายพันธุ์ 20 กว่าตัวที่วิ่งเข้ามาในห้องใต้ดิน ก็ถูกเย่จงหมิงสังหารสิ้น!