ตอนที่แล้วบทที่ 3 หญิงสาวในชุดนอน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 5 หมุนรูเล็ตครั้งที่ 1

บทที่ 4 ผู้แข็งแกร่งระดับ 9 ดาวในอนาคต


บทที่ 4 ผู้แข็งแกร่งระดับ 9 ดาวในอนาคต

“นั่งไม่เปลี่ยนชื่อ ยืนไม่เปลี่ยนแซ่ ฉันชื่อมู่ซินเฟย!”

หญิงสาวในชุดนอนขบฟันพูดอย่างเหี้ยมเกรียม

เย่จงหมิงมองดูหญิงสาวรูปร่างหน้าตาสวยมาก ระดับเก้าคะแนนด้วยแววตาสับสน

หากผู้หญิงคนนี้มีชื่อนี้จริงๆ เย่จงหมิงก็รู้จักเธอ

แน่นอนว่าไม่มีใครรู้จักเย่จงหมิง

ผู้หญิงเจ้าของชื่อนี้ มีชื่อเสียงดังก้องในวันโลกาวินาศก่อนที่เย่จงหมิงจะมาเกิดใหม่ นักฆ่ากุหลาบงาม! ผู้แข็งแกร่งระดับ 9 ดาว ผู้เป็นที่รู้จักทั่วโลก! นักฆ่ากุหลาบงามกับเย่จงหมิงอาศัยอยู่ในเมืองเดียวกัน ดังนั้นเขาจึงให้ความสนใจเธอเป็นพิเศษ และได้รู้ถึงความสำเร็จมากมายของผู้หญิงคนนี้ นั่นยิ่งทำให้เย่จงหมิงจับจ้องเธอเป็นพิเศษ

ตลอดช่วง 10 ปีนั้น ผู้แข็งแกร่งระดับ 9 ดาว เป็นผู้มีสถานะสูงส่ง เป็นหนึ่งในกลุ่มมนุษย์ที่ทรงพลังมากที่สุด! ก่อนเกิดใหม่เย่จงหมิง มีพลังอยู่ที่ระดับ 6 ซึ่งเรียกได้ว่าค่อนข้างดี แต่เมื่อเทียบกับคนอื่นๆแล้ว

เขาไม่ได้มีคุณสมบัติพอที่จะทำให้คนมาสนใจ

แต่ใครจะคิดว่าหลังจากเกิดใหม่ คนแรกที่เขาได้พบจะเป็นนักฆ่ากุหลาบงามที่ยังไม่มีพลัง!

ทันใดนั้น ความคิดแรกที่แวบเข้ามาในหัวของเย่จงหมิงก็คือก่อนที่ผู้หญิงคนนี้จะแข็งแกร่งขึ้น เขาจะใช้ประโยชน์หญิงสาวที่จะกลายเป็นผู้แข็งแกร่งในอนาคตคนนี้อย่างไรดี?

ใช้ประโยชน์จากผู้แข็งแกร่งระดับ 9 ดาวในอนาคต มันเป็นความคิดที่ช่างบ้าและน่าสนใจเสียจริงๆ!

แต่แล้วเย่จงหมิงก็ขว้างความคิดนี้ทิ้งไป

เพราะผู้แข็งแกร่งระดับ 9 ดาวในอนาคตตอนนี้ ไม่รู้ว่าไปหยิบมีดปอกผลไม้มาตั้งแต่เมื่อไหร่ และกำลังเอามันชี้ใส่หน้าเย่จงหมิง ใบหน้าน่ารักปั้นสีหน้าแกล้งทำเป็นโหดร้ายเป็นท่าทางที่แสดงความหมายว่า อย่าเข้ามานะ ไม่งั้นฉันแทงจริงๆด้วย!

เย่จงหมิงยิ้มขมขื่น นี่ความคิดในใจของเขามันแสดงออกมาชัดขนาดนั้นเลยหรือ? สามารถบอกได้เลยว่า ผู้หญิงคนนี้ความรู้สึกรับรู้ไวเป็นบ้า

“ใจเย็นๆ ผมไม่คิดจะทำอะไรคุณหรอก นี่ คุณหิวไหม? อยากกินอะไรสักหน่อยไหม?”

ช่วงสิบปีของวันโลกาวินาศในชีวิตก่อน ทำให้เย่จงหมิงคุ้นเคยกับการใช้ผลประโยชน์เป็นเกณฑ์ในการตัดสินใจเรื่องปัญหาต่างๆ มันเป็นแรงกระตุ้นให้เขาสร้างทางเลือกเพื่อพลังอันยิ่งใหญ่ แต่สิ่งที่เขาต้องการจริงๆก็คือ มีความสัมพันธ์ในทางที่ดีกับผู้หญิงคนนี้

ตอนแรกเย่จงหมิงตั้งทางเลือกไว้สามทาง ทางแรกฆ่ามู่ซินเฟยทิ้ง

ซึ่งฟังดูง่ายมากที่จะพิชิตผู้แข็งแกร่ง 9 ดาวในอนาคต ตอบสนองความต้องการและเพลิดเพลินกับความสุขอันผิดปกติ จากนั้นก็ฆ่าทิ้ง แต่เห็นได้ชัดว่าทางเลือกนี้ไม่มีประโยชน์อะไรกับเย่จงหมิง นอกเหนือจากการทำให้อนาคตขาดผู้แข็งแกร่งชั้นนำ และการสนองความต้องการในการสืบพันธุ์ของเพศชายก็ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของเย่จงหมิงเลย

ทางเลือกที่สอง ขับไล่มู่ซินเฟยออกไป สิ่งดีสำหรับทางเลือกนี้ก็คือ เย่จงหมิงจะได้ครอบครองรูเล็ตวันโลกาวินาศอันนี้แต่เพียงผู้เดียว เนื่องจากรูเล็ต อันนี้ปรากฏขึ้นที่บ้านของมู่ซินเฟย เธออาจเริ่มต้นสู่เส้นทางของผู้แข็งแกร่งได้ด้วยรูเล็ตอันนี้ หากเย่จงหมิงยึดที่นี่ได้ บางทีมันอาจเป็นวิธีที่ทำให้เขาสามารถแทนที่เธอ กลายเป็นเหมือนที่มู่ซินเฟยเคยเป็นเมื่อชีวิตก่อน ผู้แข็งแกร่งระดับ 9 ดาว

แต่เขาก็รู้ว่า ถึงไม่มีรูเล็ตอันนี้ ด้วยประสบการณ์กับความทรงจำของชีวิตที่ผ่านมา รูเล็ตอันนี้ไม่มีความสำคัญอะไรกับเขามากนัก ตรงกันข้าม วิธีนี้อาจทำให้ผู้แข็งแกร่งระดับ 9 ดาวหายไปอย่างสมบูรณ์ อีกทั้งมู่ซินเฟยก็ไม่มีความขัดแย้งในเรื่องผลประโยชน์ใดๆกับเขา การทำให้เธอสูญเสียความแข็งแกร่งระดับ 9 ดาวไป เห็นได้ชัดว่ามันไม่มีอะไรดีต่อเขาเลย

นอกจากนี้ จากสถานการณ์ปัจจุบัน อย่ามองว่ามู่ซินเฟยมีอาวุธติดมือ เย่จงหมิงมีวิธียี่สิบกว่าวิธีที่จะทำให้เธอทิ้งมีด แล้วมันจะต่างอะไรกับการยึดครองรูเล็ตอันนี้ไว้แต่เพียงผู้เดียวกันล่ะ?

ทางเลือกสุดท้ายก็คือ มีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้หญิงคนนี้ ชีวิตในวันโลกาวินาศครั้งนี้ เขาต้องหาพันธมิตรให้ได้อย่างน้อย 3 คน แม้จะไม่ใช่พันธมิตรที่แข็งแกร่ง แต่ในช่วงเวลาสำคัญ บางทีมันอาจเป็นประโยชน์ต่อตัวเขาก็ได้

โดยเฉพาะผู้หญิงที่มีแนวโน้มจะเป็นผู้แข็งแกร่งระดับ 9 ดาวในอนาคตคนนี้

ดังนั้นเย่จงหมิงจึงตัดสินใจเลือกทางเลือกที่สาม

สำหรับเย่จงหมิง ไม่ว่าจะเป็นปีแห่งสันติภาพหรือเสียงระฆังวันสิ้นโลก เขาไม่เคยเก่งในเรื่องการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้หญิง หลังจากคิดอยู่ตั้งครึ่งค่อนวัน (นานมาก) ประโยคแรกที่ใช้ก็คือการพูดเรื่องอาหาร แถมยังพูดด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างแข็งกระด้างอีกด้วย

มู่ซินเฟยมองมาด้วยสายตาที่คมเฉียบ ชายคนนี้มีเสน่ห์แบบแปลกๆ จู่ๆเธอก็หัวเราะออกมา แล้วค่อยๆวางมีดลง จากนั้นก็พูดว่า “ไม่ต้อง แค่บอกฉันมาว่ามันเกิดอะไรขึ้นก็พอ”

เย่จงหมิงเบี่ยงหน้าเล็กน้อยแอบยิ้มกับตัวเอง แค่เห็นหญิงสาวถือมีดปอกผลไม้ไว้ในมือ ใจของเขาก็บอกว่า ช่างสมกับชื่อนักฆ่ากุหลาบงาม ผู้แข็งแกร่งระดับ 9 ดาว เสียจริงๆ การแสดงออกในปัจจุบันเด่นล้ำเหนือกว่าผู้หญิงคนไหนๆ

“นี่คือรูเล็ตวันโลกาวินาศ มันขับเคลื่อนได้ด้วยผลึกวิเศษแล้วจะได้บางสิ่งบางอย่างที่มีคุณค่ามาเป็นรางวัล”

ตั้งแต่เขาได้ตัดสินใจที่จะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้หญิงคนนี้ แม้ว่าจะไม่ได้เป็นเพื่อนหรือเป็นศัตรู แต่เย่จงหมิงก็ไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไรให้มากนัก

หากสามารถมีเพื่อนที่แข็งแกร่งในช่วงแรกๆของวันโลกาวินาศ มันก็จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง

“สำหรับข้างนอกนั่น” เย่จงหมิงเดินกลับมายังห้องโถง ดึงมีดเดินป่าออกมา แล้วเดินไปที่ประตูที่เปิดอยู่ ฟังเสียงกรีดร้องระงมที่เริ่มเกิดขึ้นในชุมชน จากนั้นก็พูดเรียบๆว่า “นี่คือวันสิ้นโลก”

ใบหน้าของมู่ซินเฟยค้างแข็ง แล้วก็มีร่องรอยของการผ่อนคลาย นั่นไม่ใช่สิ่งที่คนปกติควรเป็นหลังจากได้ยินคำว่าวันสิ้นโลก แม้ว่าเย่จงหมิงจะคอยระวังหญิงสาวที่อยู่ด้านหลัง แต่สายตากลับไม่ได้จับอยู่ที่ใบหน้าของเธอ ดังนั้นเขาจึงไม่เห็น

เย่จงหมิงมองออกไป ไม่ไกลจากบานประตูที่ล้มอยู่ มีร่างของยามรักษาความปลอดภัยสามคนที่เคยไล่ล่าเขา

เห็นได้ชัดว่า ทั้งสามไม่ได้โชคดี พวกเขาเริ่มกลายร่างแล้ว

เปลี่ยนจากคนกลายเป็นซอมบี้ที่น่ากลัว

ผิวอ่อนนุ่มและอบอุ่นแต่เดิมกลายเป็นสีเทา สุดท้ายก็กลายเป็นสีเทาเข้ม และเต็มไปด้วยเส้นเลือดสีดำราวกับไส้เดือน ดวงตาเปลี่ยนเป็นสีแดงเลือด ฟันในปากเปลี่ยนเป็นแหลมคม มีน้ำลายสีดำเน่าเหม็นไหลยืดออกมา เล็บสีดำคมกริบโผล่ออกมาจากนิ้วมือทั้งสองข้าง ผมร่วงจนเบาบาง สูญเสียความสามารถในการใช้ภาษาและการแสดงอารมณ์ กลายเป็นสัตว์ประหลาดที่ต้องการเพียงเนื้อและเลือดเท่านั้น

สำหรับคนปกติที่ไม่เคยเห็นซอมบี้ในชีวิตจริง ครั้งแรกที่เห็น มันจะดูเหมือนสัตว์ประหลาดที่คลานออกมาจากหลุมฝังศพ ส่วนใหญ่จะกลัวจนแข้งขาอ่อนและคิดอะไรไม่ออก มีมนุษย์ปกติอย่างน้อยหลายร้อยล้านชีวิต ที่กลายเป็นอาหารของซอมบี้ในวันสิ้นโลก ทุกส่วนของซอมบี้มีไวรัสร้ายแรง เพียงแค่รอยกัดหรือรอยข่วน ก็จะทำให้ติดเชื้อได้ จากนั้นคนเหล่านั้นก็จะกลายเป็นซอมบี้เช่นเดียวกับพวกมัน เพราะเหตุนี้จำนวนคนตายจึงเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า

อาจกล่าวได้ว่า หลังวันสิ้นโลกคือความสูญเสียอันยิ่งใหญ่ที่สุดของมนุษยชาติ แต่นี่เป็นเพียงคลื่นแรกของการเปลี่ยนแปลงเท่านั้น

ต่อจากนั้นก็คือคลื่นของพืชและสัตว์กลายพันธุ์ ถัดไปก็เป็นสัตว์ประหลาด แต่การสูญเสียที่เกิดขึ้นกับมนุษย์ ไม่มีครั้งไหนที่เทียบได้กับคลื่นของซอมบี้

“ซอม…บี้?”

ต้องขอบคุณภาพยนตร์ซอมบี้ที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลกมาตลอดหลายทศวรรษ ใครที่เคยดูแม้แต่บางส่วนของภาพยนตร์เหล่านี้ก็จะสามารถระบุตัวมันได้ทันที มู่ซินเฟยก็เช่นเดียวกัน

บางทีอาจไม่กี่ปีหลังจากนี้ที่เธอจะกลายเป็นผู้แข็งแกร่งระดับ 9 ดาว ผู้สามารถสังหารผู้คนได้อย่างป่าเถื่อน สามารถล่าสัตว์ประหลาดระดับสูง กลายเป็นนักรบที่ห้าวหาญและอันตราย แต่ตอนนี้ เธอเป็นเพียงหญิงสาวในชุดนอนที่มีอารมณ์เยือกเย็นกว่าผู้หญิงปกติเท่านั้น แต่ถึงกระนั้น พอได้เห็นสัตว์ประหลาดที่น่ากลัวเหล่านี้ มู่ซินเฟยก็ถึงกับก้าวถอยหลังไปสองก้าวอย่างควบคุมไม่อยู่ ใบหน้าซีดเผือด

“ใช่แล้ว ซอมบี้”

เย่จงหมิงชำเลืองมองและทวนคำนั้นอีกครั้ง แต่การแสดงออกของเขานั้นไม่ใช่ความกลัว แต่เป็นความตื่นเต้น

นั่นเป็นเพราะเขาได้เห็นแผ่นกลมเล็กๆ (ชิป) สีเทาปรากฏอยู่บนหน้าผากของซอมบี้

ผลึกวิเศษระดับ 1!

แทบจะไม่ต้องคิด เย่จงหมิงวิ่งตรงไปข้างหน้า แม้ว่าร่างกายใน ปัจจุบันจะเทียบไม่ได้กับร่างกายของผู้วิวัฒนาการระดับ 6 ดาวในชีวิตก่อน แต่การจัดการกับซอมบี้ที่เพิ่งกลายพันธุ์ แค่ใช้ทักษะที่มีอยู่ในใจก็เพียงพอแล้ว

พอซอมบี้ทั้งสามเห็นเย่จงหมิงวิ่งตรงเข้ามา วินาทีนั้นดวงตาแดงก่ำของพวกมันก็จับจ้องมาที่เขา มือหนึ่งจับมีดเดินป่าอีกมือดันบนสันมีด เสียงดังฉั๊วะ ใบมีดฝังลงบนก้านคอของซอมบี้ตัวที่อยู่ด้านหน้า ใบมีดกว้างสามนิ้วตัดผ่านลำคอตรงกระดูกส่วนคอที่เปราะบางของซอมบี้ ขณะที่ร่างกายขยับเล็กน้อย หลบกรงเล็บของซอมบี้ตัวอื่น เบี่ยงตัวไปด้านข้าง แล้วเอื้อมมือไปกระชากหัวของซอมบี้ที่ถูกตัดคอ เสียงดังกึก หัวร่วงจากคอไปกระแทกหลัง มีเพียงชั้นผิวหนังบางๆเท่านั้นที่ทำให้มันยังอยู่ติดร่าง

เลือดสีดำไหลทะลักออกมาจากลำคอที่ถูกตัด แต่เย่จงหมิงกระชากมีด ก้มหัวหลบ แล้วพุ่งเข้าใส่ซอมบี้ตัวที่อยู่ใกล้ที่สุด พลิกมือพุ่งมีดไปที่หัวตรงจุดที่อ่อนนุ่มที่สุดของขากรรไกร สังหารมันภายในไม่กี่วินาที

ส่วนซอมบี้ยามรักษาความปลอดภัยที่เหลือถูกซัดจนถอยหลังไป แต่เห็นได้ชัดว่ามันไม่รู้สึกเจ็บปวด ตรงกันข้ามกลับกระตุ้นให้มันดุร้ายยิ่งขึ้น มันส่งเสียงคำรามที่ไม่ใช่เสียงของมนุษย์ออกมา และวิ่งตรงเข้าใส่เย่จงหมิง แต่ก็ถูกต้อนรับด้วยประกายมีด พอเย่จงหมิงดึงมีดออก ร่างกายของมันก็หมุนเป็นครึ่งวงกลมจากแรงเฉื่อย หัวถูกตัดครึ่งตรงส่วนดั้งจมูก กะโหลกศีรษะถูกเปิดออกอย่างโหดเหี้ยม ส่วนผสมสีขาวกับแดงคล้ำล้นทะลักออกมาทันที

ตุ๊บ~ ร่างของซอมบี้ตัวแรกเพิ่งร่วงลงพื้น

เย่จงหมิงใช้เวลาไม่ถึงสี่วินาที ในการจัดการซอมบี้ทั้งสามตัว

มู่ซินเฟยจ้องมองอย่างตกตะลึงอยู่ในห้องโถง วินาทีต่อมาเธอก็ปิดปากแล้วรีบวิ่งไปที่ห้องน้ำ

สำหรับคนที่ไม่เคยมีประสบการณ์แบบนี้มาก่อน จู่ๆได้เห็นการต่อสู้นองเลือด การมีปฏิกิริยาเช่นนี้นับเป็นเรื่องปกติ

เย่จงหมิงแอบถอนหายใจค่อนข้างไม่พอใจกับชุดการเคลื่อนไหวของตัวเอง

ถ้าเป็นชีวิตก่อน ในสถานการณ์แบบเดียวกัน แค่สองวินาทีก็เพียงพอแล้ว แต่นี่ใช้เวลาไปถึงสี่วินาที ร่างกายนี้ยังอ่อนแอเกินไป

เขากวาดสายตาสแกนไปรอบๆ อย่างเป็นปกติวิสัย เมื่อไม่พบอันตรายใดๆ เย่จงหมิงก็ขุดผลึกวิเศษกลางหน้าผากของซอมบี้ทั้งสามตัวออกมา จากนั้นก็เช็ดทำความสะอาดมีดเดินป่าด้วยเสื้อผ้าของยามรักษาความปลอดภัย

การได้สัมผัสมันอีกครั้ง ทำให้เย่จงหมิงรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย ในชีวิตก่อนเขาซ่อนตัวอยู่นาน และใช้เวลานานในการปรับตัวให้เข้ากับวันโลกาวินาศ ดังนั้นกว่าเขาจะได้สัมผัสกับผลึกวิเศษระดับ 1 สีเทา ก็เป็นเวลาหลายเดือนหลังจากวันสิ้นโลก มันทำให้เขาพลาดเวลาปะทุของการเก็บเกี่ยวผลึกวิเศษระดับ 1 ไปและซอมบี้ส่วนหนึ่งก็ได้มีวิวัฒนาการยกระดับขึ้นไปเสียแล้ว มันจึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะค้นหาซอมบี้ธรรมดาเพียงลำพัง และสถานที่ๆพวกมันรวมตัวกันอยู่ ก็ไม่ใช่สถานที่ๆคนทั่วไปจะเข้าไปล่าได้ ดังนั้นมันจึงขึ้นอยู่กับโชคที่จะได้รับผลึกวิเศษระดับ 1

นั่นเป็นเหตุผลหนึ่งที่เขาไม่ได้แข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็วในชีวิตก่อน

เขาใส่ผลึกวิเศษทั้งสามชิ้นลงในกระเป๋า และไม่ได้สนใจมู่ซินเฟยที่เข้าไปอาเจียนอยู่ในห้องน้ำ แต่แล้วเขาก็ต้องรีบวิ่งกลับไปเพราะมีเสียงกรีดร้องดังขึ้น

เพราะนั่นหมายถึงว่ามีซอมบี้ เมื่อมีซอมบี้ ก็มีผลึกวิเศษ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด