บทที่ 14 กระโดด
บทที่ 14 กระโดด
“แก็ก!”
ระหว่างเดินทางเย่จงหมิงเปลี่ยนมาใช้ปืนพกไทป 54 ที่ได้มาจาก รูเล็ต และทำการเติมกระสุนทดแทนที่ใช้ไปแล้วทั้ง 5 นัด
มันเป็นนิสัยของอาชีพมือปืนที่พัฒนาขึ้นตลอดช่วงหลายปีของวันโลกาวินาศในชีวิตก่อนของเขา
หญิงสาวผมยาวที่วิ่งตามหลังมาหน้าซีดเผือด เพราะกลิ่นเลือดของกิ่งต้นหลิวกลายพันธุ์ในอ้อมแขน มันกระตุ้นเส้นประสาทที่เปราะบางของเธอ
ซากศพสองร่างที่กลายเป็นปุ๋ยให้กับต้นหลิวกลายพันธุ์ ถูกรากของมันดูดเข้าไปหล่อเลี้ยงลำต้น ดังนั้นตอนนี้มันยังคงมีเลือดเนื้ออยู่ในกิ่งของต้นหลิว
หลังจากกลายพันธุ์ ต้นหลิวมีความยืดหยุ่นและแข็งแรง ใบของมันคมราวกับมีด ใบของต้นหลิวในอ้อมแขนบาดผิวละเอียดอ่อนของเธอ แต่เธอไม่กล้าพูดออกมา เพราะเธอกลัวว่าผู้ชายตรงหน้าจะทอดทิ้งเธอไป ถ้าเป็นเช่นนั้นเธอจะกลายเป็นอาหารของซอมบี้ และไม่มีความเป็นไปได้อื่นอีก
เย่จงหมิงที่นำหน้าอยู่ วิ่งผ่านโรงอาหารไปที่ถนน เข้าไปยังพื้นที่ติดตั้งอุปกรณ์ออกกำลังกายกลางแจ้ง และกำจัดซอมบี้ในพื้นที่นั้นได้อย่างง่ายดาย
นี่เป็นเพราะการตัดสินใจที่ถูกต้องจากประสบการณ์ที่สั่งสมมาเป็นเวลายาวนาน บวกกับความสามารถในการมองเห็นและการได้ยินที่ยอดเยี่ยมของผู้วิวัฒนาการระดับ 1 ดาว หากเปลี่ยนเป็นคนอื่นคงถูกล้อมกรอบโดยเหล่าซอมบี้ที่ได้ยินเสียงไปแล้ว
พวกเขาซ่อนตัวอยู่ที่มุมมืดของอาคาร เย่จงหมิงกำหนดทิศทางที่กุญแจลับตกลงมาจากท้องฟ้า แต่เป็นเพราะแสงถูกตึกอาคารสูงบดบัง ทำให้เย่จงหมิงไม่สามารถกำหนดจุดตกที่แน่นอนได้
เขารู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย ที่เป็นแบบนั้นเป็นเพราะกุญแจลับไม่ใช่ซอมบี้ ถึงแม้มันจะไม่มีภัยคุกคามต่อมนุษย์ แต่หากใครเอามันไปได้ก่อน ไม่ว่ายังไงเขาคงรู้สึกไม่สบายใจอยู่ดี
จู่ๆ ก็มีเสียงดังขึ้นรบกวนสมาธิของเย่จงหมิง เขาพบว่าที่ชั้นสี่ของอาคารฝั่งตรงข้าม มีใครบางคนกำลังไต่เชือกที่ทำจากผ้าม่านผูกติดกันลงมา แต่ความยาวของเชือกสั้นเกินไป มันหย่อนลงมาเกือบจะถึงชั้นสองอยู่แล้ว ดังนั้นคนเหล่านั้นเลยใช้วิธีกระโดดลงไปที่ชั้นสองแทน
มันน่าดีใจในตอนแรก ที่ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี แต่เมื่อนักศึกษาบนเชือกผ้าม่านคนที่สองที่อยู่ใกล้กับชั้นสองพร้อมที่จะกระโดดลงไป หน้าต่างบนชั้นสองก็แตกออกพร้อมๆกับแขนแห้งเหี่ยวสีดำของซอมบี้หลายแขนยื่นออกมา ทำให้นักศึกษาคนนั้นไม่พร้อมที่จะกระโดดอีกต่อไป และเริ่มร้องตะโกนโวยวายอย่างไม่รู้ตัว
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเสียงของเขาเป็นเหมือนโคมไฟประภาคารในความมืดให้กับเหล่าซอมบี้ที่มีความสามารถในการรับรู้กลิ่นและเสียงเป็นอย่างดี พื้นที่นั้นจึงถูกล้อมกรอบไปด้วยเหล่าซอมบี้ เสียงคำรามต่ำๆ อันเป็นเอกลักษณ์ของพวกมันดังระงมไปทั่ว
ในความมืดที่มีแสงเพียงเล็กน้อย ดวงตาสีแดงของซอมบี้ และเสียงคำรามของความตายสร้างความกดดันมหาศาล ทำให้นักศึกษาที่เคยมีระเบียบวินัยเริ่มหลบหนีกันอย่างจ้าละหวั่น บางคนต้องการกลับขึ้นไปบนชั้นสี่ บางคนก็ต้องการรีบลงจากชั้นสี่ พวกเขาจึงพากันแออัดกันอยู่ตรงหน้าต่าง
นักศึกษาบนเชือกผ้าม่านพากันสับสน บ้างก็กระโดดลงมาตรงๆ แต่เกือบทั้งหมดของนักศึกษาเหล่านั้นอยู่ระหว่างชั้นสามหรือไม่ก็ชั้นสี่ ด้วยความสูงขนาดนี้เมื่อตกลงบนพื้นคอนกรีตที่อยู่ด้านล่าง แม้จะไม่ตาย แต่ก็กระดูกหัก เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดดังระงม แสดงให้เห็นว่าสถานการณ์ของพวกเขาเกือบจะเลวร้ายถึงที่สุดแล้ว
ผู้ที่ถึงพื้นก่อนใช้พลังงานและความพยายามทั้งหมด วิ่งมาทางทิศที่เย่จงหมิงอยู่
น้องสาวพวกนายสิ!
เย่จงหมิงกัดฟันด่า เขาไม่เข้าใจ ทุกอย่างควรเป็นไปได้ด้วยดีหลังจากการเกิดใหม่ แต่ทำไมสถานการณ์แบบนี้มันถึงได้เกิดขึ้นกับเขาตลอดเวลา หญิงสาวผมยาวก็เป็นแบบนี้ ตอนนี้พวกนักศึกษาก็มาเป็นแบบนี้อีก หลังจากเกิดใหม่มีกากบาทสีแดงที่มองไม่เห็นอยู่บนหัวของเขาหรือไงนะ? ไม่งั้นทำไมทุกคนถึงได้มุ่งมาที่ตน?
เขาค่อนข้างแน่ใจว่าเป้าหมายของนักศึกษาเหล่านั้นคือตนเอง
เพราะหลายคนเริ่มโบกไม้โบกมือร้องตะโกนมาทางทิศที่พวกเขาซ่อนตัวอยู่ ทั้งร้องให้ช่วย หรือไม่ก็ร้องให้ช่วยทำอะไรสักอย่าง
สัญชาตญาณของเย่จงหมิงสั่งให้เขาจากไป เขาไม่มีความรู้สึกอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ คนเหล่านี้ไม่ใช่ทั้งญาติสนิทหรือมิตรสหาย ซึ่งต่อให้เป็นเพื่อนจริงๆ ในสถานการณ์ที่สับสนวุ่นวายแบบนี้ เขาก็พร้อมจะหันหลังให้
แต่พอเขามองไปที่หน้าต่างที่นักศึกษาเหล่านั้นหนีออกมา มันสอดคล้องกับมุมที่แสงตก นั่นทำให้เขาเปลี่ยนความคิดทันที
คนพวกนี้ อยู่ตรงหน้าต่างมาตลอด ต้องมีใครสักคนมองเห็นสถานที่ๆ กุญแจลับตก!
“รอผมที่นี่”
เย่จงหมิงสั่งหญิงสาวผมยาว เปลี่ยนมาถือมีดแล้วเข้าไปทักทาย
เมื่อเห็นเย่จงหมิงเดินเข้ามาหา นักศึกษา 6-7 คนดูมีความสุข แต่เมื่อพบว่าเขามาเพียงคนเดียว ความหวังบนใบหน้าก็เปลี่ยนเป็นว่างเปล่าและเจ็บปวด มีแม้แต่ร่องรอยของการตำหนิ
ทำไมถึงได้มาเพียงคนเดียว? ! แค่คนเดียวทำอะไรได้! ?
“ไปที่มุมอาคาร!”
เย่จงหมิงไม่ได้มองนักศึกษาเหล่านั้น เขาเดินผ่านพวกนั้นไปโดยทิ้งคำพูดเอาไว้ แล้วเข้าไปทักทายเหล่าซอมบี้
หากจะให้พูด การค่อยๆ เพิ่มขึ้นของเหล่าซอมบี้ไม่มีภัยคุกคามใดๆ ต่อเย่จงหมิง ที่เขากลัวจริงๆ ก็คือ การที่ซอมบี้จำนวนมากเข้ามารวมตัวกันในเวลาเดียวกันต่างหาก
แม้ว่ามีดเดินป่าของเย่จงหมิงจะได้รับความเสียหายจากการต่อสู้หลายๆ ครั้งที่ผ่านมา แต่การต่อสู้เหล่านั้นก็ทำให้เขาใช้งานมันได้คล่องมือมากยิ่งขึ้น แม้จะรู้สึกว่ามันเบาขึ้นเล็กน้อย หลังจากที่วิวัฒนา การไปสู่ระดับ 1 ดาวแล้วก็ตาม
พวกซอมบี้พบว่ามีใครบางคนกำลังวิ่งตรงมาหา พวกมันเริ่มแสดงท่าทางตื่นเต้นและกระสับกระส่าย แต่สิ่งที่ทักทายพวกมันกลับเป็นประกายมีดแห่งความตาย
สมรรถภาพทางร่างกายของเย่จงหมิงสูงกว่าของคนธรรมดาถึง 6 เท่า เขาจึงเคลื่อนไหวร่างกายได้ว่องไวราวกับเหินบิน รวดเร็วจนซอมบี้ที่อยู่ใกล้ที่สุด ยังไม่อาจสัมผัสได้แม้แต่ชายเสื้อของเขา เขามีทั้งพลังมหาศาลและการใช้มีดที่แม่นยำ ซอมบี้ทุกตัวถูกสังหารด้วยมีด พวกมันมีความตายเป็นที่สิ้นสุดแต่แตกต่างกันที่วิธีตายเท่านั้น บ้างถูกแทงทะลุเป้าตา บ้างก็ถูกตัดหัวขาดกระเด็น บ้างก็ถูกแทงทะลุขมับ…
เมื่อเหล่านักศึกษาวิ่งไปยังตำแหน่งที่เย่จงหมิงบอก พวกเขาก็พบกับหญิงสาวผมยาวที่คุ้นหน้า แล้วพวกเขาก็หันกลับไปมอง มันไม่ใช่ เพราะความกังวลต่อสวัสดิภาพของชายคนนั้น แต่เป็นการตรวจดูระยะทางของอันตรายที่จะมาถึงพวกเขาต่างหาก
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้พวกเขาต้องประหลาดใจ ชายที่ควรจะถูกซอมบี้กิน ไม่เพียงจะไม่เสียชีวิต แต่ยังสามารถสังหารสัตว์ประหลาดที่น่ากลัวที่สุดในโลกได้อย่างง่ายดายราวกับฆ่าไก่ ฆ่าสุนัข ภายในระยะเวลาสั้นๆ มีซอมบี้นับสิบตัวถูกสังหารบนเส้นทางที่เขาผ่านไป!
“เป็นไปได้ไง! ?”
นักศึกษาที่วิ่งหนีจนเหงื่อโชกพึมพำ เขาไม่อยากเชื่อในฉากที่เห็น
แม้ว่าวันสิ้นโลกจะผ่านไปเพียงไม่กี่ชั่วโมง แต่สำหรับคนส่วนใหญ่แล้ว มันเป็นชั่วโมงที่ยาวนานเหมือนเป็นศตวรรษ พวกเขาเป็นพยานที่ได้เห็นกระบวนการที่มนุษย์ตกลงมาจากจุดสูงสุดของโลก และด้วยความสามารถในการปรับตัวอันเป็นเอกลักษณ์ของมนุษย์ ทำให้พวกเขาตระหนักถึงความจริงที่ว่า – ตนเอง ได้กลายมาเป็นอาหาร และสัตว์ประหลาดเหล่านั้นก็คือผู้ล่า
แต่ตอนนี้ สิ่งที่เพิ่งรับรู้ก็ถูกพลิกคว่ำ มันเป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขาที่จะยอมรับ
แน่นอนว่า เรื่องยากที่จะยอมรับนั้นก็คือ เรื่องที่คนที่พลิกคว่ำการรับรู้นี้เป็นคนอื่นที่ไม่ใช่ตนเอง
เย่จงหมิงแทงทะลุ และตัดผ่ากะโหลกของเหล่าซอมบี้ แล้วทิ้งซากศพไว้ จากนั้นเมื่อเขาพบว่าซอมบี้ตัวที่อยู่ใกล้เขามากที่สุดอยู่ห่างออกไปกว่า 10 เมตร เขาก็เริ่มวิ่งถอยหลังออกมาทันที และเอาเวลาไปขุดผลึกวิเศษจากหน้าผากซอมบี้ที่เขาฆ่าตายในระหว่างทางออกมา
จากนั้นก็รีบวิ่งกลับไปหาคนเหล่านั้น พร้อมกับรีบถามออกมาว่า “ตอนที่แสงบนท้องฟ้าตกลงมา มีใครเห็นบ้างว่ามันตกลงตรงไหน?”