บทที่ 13 ปัญหาของการผลิตจำนวนมาก(อ่านฟรี 30-10-2020)
ซูยี่สำลักอาหารเต็มปาก
“แค่กๆ วะ..ว่ายังไงนะ”
“ไปที่บ้านของนาย”สเตลล่ารู้สึกแปลก ๆ เล็กน้อย แต่เมื่อเห็นการแสดงออกที่แปลกประหลาดบนใบหน้าของซูยี่จิตใจของเธอก็เปลี่ยนไปและเข้าใจได้ทันทีว่าเขาหมายถึงอะไร สีแดงจาง ๆ ปกคลุมบนใบหน้าของเธอและเธออดไม่ได้ที่จะส่งหมัดออกไป“นายคิดอะไรอยู่เนี่ย!”
ซูยี่โบกมืออย่างรวดเร็วและตะโกนว่า“พอ พอแล้ว ฉันรู้แล้วเธออยากไปบ้านของฉันเพื่อไปดูเปียโนจำลองใช่ไหม? แต่ฉันไม่เข้าใจเลยทำไมเธอถึงรีบขนาดนี้”
สเตล่าหยุดมือของเธอและลังเลเล็กน้อย เธอถามด้วยน้ำเสียงที่ไม่แน่ใจ“ ซูยี่คือว่า… ..นายขายเปียโนรุ่นนั้นให้ฉันได้ไหม”
“ขายให้เธอ?” ซูยี่มองไปที่สเตลล่าด้วยสายตาที่สับสน“เธอจะเอาไปทำไมกัน?”
“ฉันต้องใช้มัน” สเตลล่าตอบอย่างคลุมเครือ
ซูยี่ไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ในขณะที่เขาส่ายหัว “ฉันขายไม่ได้ สิ่งนั้นสำคัญมากสำหรับฉันฉันขายให้เธอไม่ได้”
ซูยี่ปฏิเสธอย่างตรงไปตรงมา เปียโนรุ่นนั้นเป็นสิ่งประดิษเวทมนตร์ที่เขาสร้างขึ้นในช่วงเวลาที่เขาเรียนอยู่ที่เซนไกเซอร์ และยังเป็นสิ่งประดิษเวทมนตร์ชิ้นแรกที่เขาสร้างขึ้นบนโลกนี้เพราะอย่างนั้นมันถือเป็นความทรงจำของเขา สิ่งนี้มีค่าทางจิตใจและเขาก็ไม่เต็มใจที่จะมอบให้ใคร
“อย่างนั้นเหรอ” สเตลล่ารู้สึกผิดหวังเล็กน้อยก่อนที่จะถามออกมา “แล้ว... นายพอจะสอนฉันได้มั้ย ตอนแรกฉันอยากให้นายเป็นคนสอนฉันทำ เพราะของที่ตัวเองทำขึ้นมามันให้ความรู้สึกดีกว่าซื้อจากคนอื่น”
ซูยี่มองไปที่สเตลล่าด้วยสายตาแปลก ๆ “สเตลล่าฉันอยากจะถามอะไรสักอย่าง เธอคิดจะมอบมันให้ใครบางคนงั้นเหรอ”
“ใช้แล้วฉันอยากมอบมันเป็นของขวัญวันเกิด ในตอนนั้นที่ฉันเห็นโมเดลเปียโนของนายฉันก็รู้สึกว่ามันแปลกดี และการใช้มันก็สามารถใช้เป็นของขวัญวันเกิดได้ นายคิดว่าไง? นายช่วยสอนฉันได้มั้ย นายตกลงสอนฉันนะ ฉันสัญญาว่าฉันจะไม่ปฏิบัติต่อนายอย่างไม่ยุติธรรม ตราบใดที่นายสอนฉันฉันจะบอกให้คุณปู่ทำดีกับนายต่อจากนี้เลย”
ซูยี่ลูบคางของเขา หรือว่าจะใช้โอกาศนี้พัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างเขากับจอมเวทคามิลล่าดี ไม่ต้องพูดถึงความจริงที่ว่าสเตลล่าเองก็สวยเป็นอย่างมากเป็นเรื่องปกติที่เขาจะช่วยเธอ
“ก่อนอื่นฉันขอถามก่อน คนที่เธอให้ของขวัญเป็นผู้ชายหรือเปล่า”
สีแดงจาง ๆ ปรากฏบนใบหน้าของสเตลล่าและเธอก็พูดอย่างโกรธ ๆ ว่า“ทำไมต้องสนใจด้วย!”
ซูยี่หัวเราะเขาคิดว่าเขาเดาถูก
ถึงยังไงสเตลล่าก็มีอายุสิบเก้าปีเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิของชีวิต ไปม่แปลกที่เธอจะสนใจผู้ชาย
“เอาล่ะไม่มีปัญหาในการสอนวิธีทำ แต่ไม่จำเป็นต้องไปที่บ้านของฉัน มันช้าแล้วก็ไม่สะดวกที่เด็กผู้หญิงอย่างเธอจะมาที่บ้านฉัน ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปมาหาฉันที่ห้องแล็บหลังเลิกงานฉันจะสอนเธอที่นั่น”
สเตลล่ามองไปที่ซูยี่้วยความประหลาดใจ “ซูยี่ฉันไม่เคยคิดเลยว่านายจะเป็นสุภาพบุรุษขนาดนี้”
“แค็กๆ… ... ฉันดูเหมือนคนไม่เป็นสุภาพบุรุษเหรอ” ซูยี่มองไปที่สเตลล่าอย่างโกรธ ๆ ขณะที่เขาถามอย่างรวดเร็ว“เอาใช่ แล้วเธอต้องการของขวัญตอนใหน? ฉันได้รู้ว่าต้องสอนเธอด้วยความเร็วขนาดใหน”
“ยังเหลืออีกครึ่งเดือนก็ไม่น่ามีปัญหา”
“ อืมนั่นเป็นที่เวลาเพียงพอแล้ว เทคนิคการประดิษฐ์เปียโนรุ่นนั้นไม่ใช่เรื่องยากเพียงแค่ต้องมีรายละเอียดบางอย่างก็เท่านั้น”
หลังจากทั้งสองตกลงกันแล้วซูยี่ก็จากไปหลังจากกล่าวคำอำลา เขาไม่ได้กลับบ้านเหมือนปกติ แต่เขาไปโรงพยาบาลก่อน
ทาสตัวน้อยที่ถูกพันด้วยผ้าพันแผลหน้าตาไม่ต่างจากมัมมี่ตื่นขึ้นมาจากอาการโคม่า นอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาลสายตาของพวกเขามองไปที่ผ้าพันแผลและมีร่องรอยของความตื่นตระหนกและความกลัวอยู่บนใบหน้า
เมื่อได้ยินซูยี่คุยกับหมอในที่สุดเขาก็ตอบสนอง เขาหันไปมองซูยี่และความอยากรู้อยากเห็นลึก ๆ ก็ปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา
"เธอรู้สึกอย่างไรบ้าง?" เมื่อสังเกตเห็นทาสตัวน้อยมองมาซูยี่จึงหยุดคุยกับหมอและถามเขาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
ทาสตัวน้อยดูเหมือนจะไม่ค่อยเชี่ยวชาญในการพูดคุยกับคนอื่นเขาจึงพยักหน้าหลังจากลังเลเล็กน้อย
ซูยี่เผยรอยยิ้มและไม่กดดันเขา เขาถามหมอสองสามอย่างและหลังจากยืนยันว่าเขาสบายดีแล้วเขาก็พูดกับเจ้าตัวเล็กว่า“ยังดีที่ไม่มีอะไรผิดปกติ อาการบาดเจ็บของเธอยังไม่หายดีดังนั้นให้พักผ่อนสักสองสามวัน ฉันจะกลับมาหาเธอเมื่อเธอดีขึ้น”
ซูยี่หันกายเตรียมจะจากไป ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่ามีแรงดึงที่มุมเสื้อของเขา เมื่อหันกลับไปด้วยท่าทางประหลาดใจเขาพบว่าทาสตัวเล็กเอื้อมมือมาจับเสื้อผ้าของเขาแน่น
ซูยี่มองไปที่ทาสตัวน้อยที่ประหม่าและหวาดกลัวและเข้าใจทันทีว่าเขาต้องการอะไร
“อะไรเหรอ? เธอต้องการคนอยู่เป็นเพื่อนเหรอ ฉันคงทำแบบนั้นไม่ได้หรอกนะตอนนี้ฉันยุ่งมาก คงไม่มีเวลาอยูกับเธอมากนัก สบายใจเถอะฉันซื้อเธอมาแล้วฉันไม่ทิ้งเธอไปหรอก เธอพักรักษาตัวอยู่ที่นี่ หมอบอกว่าอีกไม่กี่วันเธอก็ออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว”
แพทย์ที่อยู่ด้านข้างมองไปที่ซูยี่ด้วยสายตาแปลก ๆ
ซื้อ? นั่นหมายความว่าเพื่อนตัวน้อยบนเตียงเป็นทาส
ซุยี่คนนี้เป็นคนที่แปลกจริงๆแล้วก็เป็นคนดีต่อทาส
ต้องเป็นที่ทราบกันดีว่าโรงพยาบาลแห่งนี้เป็นโรงพยาบาลที่ดีที่สุดของเมืองบันต้าค่าธรรมเนียมไม่ถูกเลย
ทาสตัวน้อยจับเสื้อผ้าของซูยี่ไว้แน่นและความกลัวบนใบหน้าของเขาก็แข็งแกร่งขึ้น มันเหมือนกับว่าเขากลัวว่าซูยี่จะทิ้งเขาไป
เมื่อเห็นอย่างนี้ซูยี่ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ เขาหันไปหาหมอแล้วถามว่า “ผมจะพาเขากลับบ้านตอนนี้เลยจะเป็นอะไรมั้ย เขาจะมีอันตรายหรือเปล่า”
“นี่… ... จริงๆแล้วเขามีแค่อาการบาดเจ็บภายนอกเท่านั้นมันไม่ได้ร้ายแรงเกินไป ตอนนี้ไม่มีปัญหาในการพาเขากลับไปตราบเท่าที่เขากินยาตรงเวลาและทายาทุกๆสามวัน”
“ดีแล้วฉันจะพาเขากลับบ้านก่อน ฉันจะซื้อเตียงนี้ให้เขาด้วย”
หมออดไม่ได้ที่จะมองไปที่ทาสตัวน้อยบนเตียง
การปฏิบัติแบบนี้ไม่ต้องพูดถึงทาสเลย ลูกๆของครอบครัวบางคนก็ยังพบว่ามันยากที่จะได้รับสิ่งที่คล้ายกัน
ทาสคนนี้ถูกพันผ้าพันแผลไวเอย่างสมบูรณ์จนไม่สามารถเครื่อนใหวได้ เขาถูกนำตัวไปที่บ้านของซูยี่ เขาพยายามอย่างหนักเพื่อทำให้เด็กคนนี้สงบลงและหลังจากให้ยาแก่เขาซูยี่ก็เหงื่อท่วม
เมื่อเห็นทาสตัวน้อยนอนหลับหลังจากกินยาของเขาซูยี่ก็ถอนหายใจยาว“เห้อ… .. ฉันบอกพ่อบ้านบรูไนว่าอยากซื้อเขามาดูแล แต่ตอนนี้ฉันเป็นคนดูแลเขา .”
แม้ในขณะนอนหลับทาสตัวน้อยก็มีสีหน้าเจ็บปวดเป็นครั้งคราว จะเห็นได้ว่าชีวิตปกติของเขาลำบากแค่ไหน
เมื่อเห็นใบหน้าเล็ก ๆ นี้ซูยี่ถอนหายใจและส่ายหัว เขาหันไปอาบน้ำก่อนจะมุ่งหน้ากลับไปศึกษารูปแบบเวทมนตร์
หลังจากได้รับความช่วยเหลือจากเวลล่าเรื่องรูปแบบเวทมนตร์แล้วการวิจัยเกี่ยวกับ พัดลมเวทมนตร์รุ่นปรับความเร็วได้ก็เร็วขึ้นมาก สิ่งที่ต้องทำตอนนี้คือการหาโครงสร้างที่เหมาะสมสำหรับรูปแบบเวทมนตร์นี้
ซูยี่ต้องการใช้พัดลมเวทมนตร์รุ่นที่สองนี้เพื่อเพิ่มพลังของพัดลมเวทมนตร์อย่างมาก แต่หลังจากการค้นคว้าเขาพบว่ามีปัญหาสองประการที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
ปัญหาแรกคือวัสดุ
ระบบอุตสาหกรรมของทวีปไซน์ใกล้เคียงกับศูนย์ แม้ว่าจะมีผลิตภัณฑ์เทียมอยู่บ้าง แต่ส่วนใหญ่ก็ใช้วัสดุจากธรรมชาติ แม้ว่าจะมีการแปรรูป แต่ก็เป็นการแปรรูปน้ำมันดิบ วัสดุหลายชนิดยังไม่สามารถเทียบได้กับวัสดุที่ทำขึ้นอย่างประณีตสุดยอดจากโลกเดิมของเขา
ยกตัวอย่างเช่นพัดลมเวทมนตร์ ส่วนหลักของมันคือมอเตอร์ไฟฟ้าอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ซูยี่ใช้รูปแบบเวทย์ลมหมุนเพื่อแทนที่สิ่งนั้น
อย่างไรก็ตามสำหรับรองลื่นตรงกลางที่มีความสำคัญพอ ๆ กับมอเตอร์ไฟฟ้าซูยี่ยังไม่สามารถหาสิ่งทดแทนที่เหมาะสมได้ในขณะนี้
บนโลกพวกเขาสามารถใช้วัสดุโลหะผสมที่มีความหนาแน่นสูงและทนต่อการสึกหรอสูงบนโลกได้ แต่พวกเขาสามารถใช้เหล็กธรรมดาบนทวีปไซน์ได้เท่านั้น
งานฝีมือเหล็กของโลกนี้เทียบไม่ได้กับของโลกเดิมคุณภาพของเหล็กหลอมไม่สูง แม้ว่าจะถูกทำขึ้นมาอย่างดี แต่ก็ไม่ได้เพิ่มคุณภาพให้สูงขึ้นมากนัก
เมื่อซูยี่สร้างพัดลมเวทมนตร์รุ่นแรกเขาไม่สนใจคุณภาพนี้มากนัก
พัดลมไฟฟ้าบนโลกอาจอยู่ได้ประมาณสิบถึงสี่หมื่นชั่วโมง แต่จากการประมาณการปัจจุบันของซูยี่พบว่าพัดลมรุ่นแรกอยู่ได้ไม่เกินสามพันชั่วโมงเท่านั้น
หากพัดลมเวทมนตร์แต่ละตัวถูกใช้งานเป็นเวลาแปดชั่วโมงในช่วงสามเดือนที่ร้อนที่สุดของปีพัดลมเวทมนตร์รุ่นแรกจะอยู่ได้เพียงสี่ปีก่อนที่พวกมันจะพัง
ถ้ามันถูกใช้ทั้งวันเหมือนที่ไฮนซ์กำลังทำอยู่ตอนนี้พัดลมเวทมนตร์สองตัวที่เขามีอยู่ตอนนี้จะถูกทำลายในฤดูร้อนปีหน้า
อาจกล่าวได้ว่าปัญหาเกี่ยวกับวัสดุเป็นปัญหาที่ร้ายแรงที่สุดสำหรับพัดลมเวทมนตร์และเป็นสิ่งที่ซูยี่ไม่สามารถแก้ไขได้เลย
วัสดุเป็นส่วนประกอบพื้นฐานและซับซ้อนที่สุดของระบบอุตสาหกรรมซึ่งจะเกี่ยวข้องกับหลายส่วนของระบบ แม้แต่บนโลกการเพิ่มระดับของวัสดุก็เป็นเรื่องยากมากไม่ต้องพูดถึงทวีปไซน์ที่ไม่มีระบบอุตสาหกรรมเลย
ปัญหาที่สองคือปัญหาเกี่ยวกับกระบวนการผลิต
ไม่มีเครื่องมือมาตรฐานบนทวีปไซน์เหมือนบนโลก เมื่อซูยี่สร้างพัดลมเวทมนตร์รุ่นแรกเขาสามารถหาช่างตีเหล็กในโรงหลอมและให้พวกเขาสร้างบางอย่างตามการออกแบบของเขาได้
อาจกล่าวได้ว่าช่างตีเหล็กเหล่านี้มีเทคนิคที่ดีสำหรับเมืองบันตา แต่ไม่ว่ามือของมนุษย์จะแม่นยำแค่ไหนก็ไม่สามารถเทียบได้กับเครื่องจักรที่แม่นยำของโลก ปลอกครอบด้านนอกของพัดลมเวทมนตร์ที่พวกเขาสร้างขึ้นมีความแตกต่างกันเล็กน้อยในผลงานแต่ละชิ้น
แม้ว่าจะดูเหมือนไม่ใช่ปัญหาใหญ่ แต่ซูยี่ก็รู้ดีว่าหากพวกเขาต้องการเพิ่มผลผลิตของ พัดลมเวทมนตร์พวกเขาจำเป็นต้องก้าวเข้าสู่การผลิตจำนวนมาก นั่นหมายความว่าทุกส่วนของ พัดลมเวทมนตร์จะต้องสมบูรณ์แบบหรืออย่างน้อยก็ต้องถึงระดับที่เป็นชุดเดียวกัน
“เครื่องตัดที่วางเครื่องมือสไลด์แท่นเจาะแท่นเจาะและเครื่องกลึงคว้าน… .. อ้าาาอยากจะบ้าตาย!”
เมื่อนึกถึงปัญหาทั้งหมดที่เขาต้องเผชิญเมื่อต้องการเริ่มการผลิตจำนวนมากซูยี่ก็โอดครวญด้วยความปวดหัว