ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 2 รูเล็ตวันโลกาวินาศ ระดับที่ 1

บทที่ 1 หวนคืน, สิบปีแห่งความฝัน


บทที่ 1 หวนคืน, สิบปีแห่งความฝัน

(ทำความเข้าใจก่อนอ่าน วันสิ้นโลก=วันที่เกิดภัยพิบัติ, วันโลกาวินาศ = ช่วงเวลานับตั้งแต่เกิดภัยพิบัติเป็นต้นไป)

“อ๊า!”

ชั่วขณะที่หนวดเย็นเยียบราวกับน้ำแข็ง ทั้งแข็งและคมกริบราวกับเหล็กกล้าของผู้ซุ่มโจมตีแทงทะลุร่าง เสียงร้องโหยหวนก็แผดออกจากปากอย่างไม่อาจยั้ง

ระหว่างความมืดสลัว เริ่มจากสัมผัสอันนุ่มนวลอ่อนโยน หลังจากการระเบิดของความสุขอันยิ่งใหญ่ที่สุด

เสียงหอบหายใจอันคุ้นเคยดังอยู่ข้างๆหู แขนคู่งามราวรากบัวโอบแน่นอยู่รอบคอ กลิ่นหอมของเหงื่อไหลรินเข้ามาในจมูก

เย่จงหมิงเริ่มปรับโฟกัสสายตา แล้วใบหน้างดงามที่เขาเคยรู้จักก็ปรากฏต่อสายตา

เธอ?

ไม่ใช่ว่าเธอตายไปตั้งนานแล้ว?

เพราะต้องการยืนยันบางอย่าง เย่จงหมิงจึงผละออกจากร่างอันคุ้นเคยนี้ แต่ผู้หญิงคนนั้นก็โอบรัดร่างของเขาไว้ด้วยแขนขาของเธอ

“ไม่นะ อย่าเพิ่งไป รอสักครู่”

เสียงอ่อนเบาเหนื่อยหอบ และระโหยโรยแรงดังขึ้น

เย่จงหมิงหยุดการเคลื่อนไหวอย่างงุนงง และหันมองไปรอบๆ ทันใดนั้นเขาก็เข้าใจ

แก้วน้ำลายการ์ตูน นาฬิกาอิเล็กทรอนิกส์เรืองแสง กางเกงในลูกไม้ที่แขวนอยู่บนโคมไฟบนโต๊ะ ซองใส่ถุงยางอนามัยที่ถูกฉีกทิ้งอยู่บนพื้น และสัมผัสอันคุ้นเคยของอ้อมแขนเรียบเนียนของหญิงสาว เช่นเดียวกับจังหวะที่คุ้นเคยในสถานที่ ๆ ร่างกายทั้งสองเชื่อมติดกัน ทั้งหมดนำเย่จงหมิงมาสู่ฉากที่เคยพบพานมาก่อน

ช่วงบ่ายของวันที่ 10 กันยายน ปี 2020

หนึ่งชั่วโมงก่อนภัยพิบัติครั้งใหญ่จะเกิดขึ้น

มันควรเป็นเวลาทำภารกิจ? ถูกโจมตีโดยพวกแมลง และถูกล้อมกรอบจนอย่างยากจะหลบหนี จากนั้นก็ถูกลอบซุ่มโจมตีโดยหนวด ซึ่งยื่นออกมาจากพื้นดินแทงทะลุร่าง มันควรเป็นเหตุการณ์ที่มีอันตรายร้ายแรงถึงชีวิต

แต่ตอนนี้… ความทรงจำในส่วนลึกของการร่วมรักยามกลางวัน ทุกอย่างดูเหมือนจะกลับไปสู่เมื่อสิบปีก่อน ช่วงบ่ายที่สวยงามครั้งสุดท้ายก่อนเกิดภัยพิบัติ

ด้วยความเยือกเย็นอันเป็นปกติวิสัยของเย่จงหมิง ทำให้คิดได้อย่างรวดเร็วโดยใช้เวลาเพียง 10 วินาที แล้วเขาก็แน่ใจ มันไม่ใช่แค่ดูเหมือนเมื่อสิบปีก่อน แต่เป็นสิบปีก่อนจริงๆ!

เขาดูเวลาบนนาฬิกาปลุก มันคือวันที่ 10 กันยายน ปี 2020 เวลา 15.35 น. ช่วงเวลา 1 ชั่วโมง 5 นาที ก่อนจะถึงเวลาที่ยากจะลืมเลือน

วันที่ 10 กันยายน ปี 2020 เวลา 16.40 น. สิ่งน่ากลัวกำลังจะเกิดขึ้น หลังจากนั้นทั้งโลกก็ถูกฝังอยู่ภายใต้วันโลกาวินาศอันเยือกเย็น

เย่จงหมิงตะลึงงัน มีเพียงความคิดเดียวภายในใจ – สำหรับตัวเขา นี่เป็นสิ่งที่สวรรค์ประทานให้ หรือเป็นการลงทัณฑ์อีกครั้ง?

เย่จงหมิงที่กำลังนอนทับอยู่บนร่างเปลือยเปล่าของหญิงสาว ค่อยๆ ยกมือขึ้นมองดู มันทั้งขาวสะอาดและอ่อนนุ่ม เห็นเส้นลายมือได้ชัดเจน ซึ่งค่อนข้างจะแตกต่างจากอีก 10 ปีต่อมา มันเป็นมือที่ใช้จับปากกา พลิกหน้าหนังสือ และกดปุ่มคีย์บอร์ด อีก 10 ปีต่อมามือคู่นี้จะ หยาบกระด้างเต็มไปด้วยริ้วรอยของบาดแผลและแผลเป็นที่ถูกทิ้งเบื้องหลังจากการต่อสู้นับครั้งไม่ถ้วน

กลับมามีชีวิตอีกครั้ง? เย่จงหมิงค่อนข้างงุนงง ไม่ใช่ว่าทุกคนจะรู้สึกโชคดีที่ได้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง เช่นเดียวกับความรู้สึกของ เย่จงหมิง ในตอนนี้ หลังจากสิบปีแห่งฝันร้าย เขาต้องกลับมาผจญกับมันอีกครั้ง มันยากที่จะบอกว่าโชคดี

หลังจากสิบปีแห่งการสังหารนองเลือดไร้ซึ่งความรู้สึกอบอุ่นและความหวัง เย่จงหมิงยิ้มอย่างขมขื่น เขาไม่รู้จริงๆว่า เขาจะสามารถยืนหยัดต่อสู้กับชีวิตที่สิ้นหวังนี้ได้อีกครั้งหรือไม่?

สำหรับหญิงสาวที่กำลังกอดรัดตัวเขาไว้ราวกับปลาหมึกยักษ์คนนี้ เย่จงหมิงไม่ได้รู้สึกอบอุ่นใจเหมือนเมื่อ “สิบปีก่อน” อีกแล้ว มีแต่เพียงความรู้สึกต่อต้าน เพราะการกลับมามีชีวิตอีกครั้ง ทำให้เขารู้ว่าในนาทีถัดจากนี้ไป แฟนของเขาคนนี้ เธอกำลังจะบอกเลิก

ไป๋ซือซือแฟนสาวของเย่จงหมิง เป็นคนที่มักแวะเวียนมาที่ห้องเช่าของเขาบ่อยที่สุด ทั้งคู่เริ่มมีความรักกันตั้งแต่เมื่อ 2 ปีก่อน จริงสินะ เกือบสองปีแล้ว

สำหรับเย่จงหมิงที่สูญเสียทั้งพ่อและแม่ ทำให้เขาให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับความสัมพันธ์ครั้งนี้ ซึ่งก็ไม่ต่างไปจากความรู้สึกของคนปกติทั่วไป ไม่ว่าคนๆนั้นจะเป็นคนดีหรือไม่ก็ตาม พวกเขาก็มักจะให้ค่ากับความรักครั้งแรกเป็นพิเศษ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงวัตถุแห่งความรักที่งดงามดั่งเช่น ไป๋ซือซือ

และเมื่อความรักไม่สามารถดำเนินต่อไปได้ บาดแผลก็จะลึกมากเป็นพิเศษเช่นกัน

ในชีวิตก่อน ตอนแรกเย่จงหมิงเกลียดเธอมาก เพราะเขาคิดว่าเธอทรยศ แต่ในชีวิตนี้เขาไม่ได้รู้สึกเกลียดเธออีกแล้ว บางทีความรักของเธออาจเป็นแค่ความเห็นใจและความสงสาร อย่างไรก็ตามเขาก็รู้ว่า แม้กระทั่งเมื่อวานนี้ ไป๋ซือซือยังคงสัญญาว่าจะอยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกันจนถึงตอนนี้ อย่างน้อยๆก็ทางร่างกายที่เธอยังซื่อสัตย์ต่อเขาอยู่

“จริงๆนะ ผมซาบซึ้งมาก ที่คุณดูแลผมในช่วงสองปีที่ผ่านมา แต่ผมประมาทไปเองที่หลายต่อหลายครั้งไม่ได้ดูแลความรู้สึกของคุณเลย ผมต้องขอโทษด้วย” เย่จงหมิงผละจากร่างที่ค่อนข้างสมบูรณ์แบบของไป๋ซือซือ และเริ่มใช้ความคิดอย่างรวดเร็ว

หลังจากแฟนหนุ่มผละจากไปอย่างกะทันหัน ไป๋ซือซือรู้สึกว่างเปล่าอย่างยากจะต้านทาน ความรู้สึกนี้เจือไว้ด้วยความรู้สึกผิดอย่างแรงกล้า การร่วมรักที่เริ่มต้นอย่างบ้าคลั่งคือการชดเชย แต่ทว่าความรู้สึกผิดที่มีอยู่ในใจก็ไม่ได้ดีขึ้นเลย

“ขอบคุณมากครับ ที่นักศึกษาดีเด่นอย่างคุณหนีเรียนมาเพื่อร่วมรักกับผม ถึงมันจะเป็นสิ่งที่คล้ายกับการให้ทานและอาจเป็นเพียงสิ่งเล็กน้อยเพื่อสนองต่อความรู้สึกผิดที่คุณกำลังจะจากไป แต่สำหรับผมมันไม่จำเป็นเลย”

“จงหมิง คุณ....”

เย่จงหมิงโบกมือขัดจังหวะการพูดของไป๋ซือซือ เขาเดินมาที่หน้าต่างด้วยร่างเปลือยเปล่า มองไปยังสนามกีฬากลางแจ้งของมหาวิทยาลัย คู่รักที่มีชีวิตชีวาคู่หนึ่ง ฝ่ายชายเพิ่งเลิกเล่นฟุตบอล ยืนอยู่ข้างๆ ฝ่ายหญิงที่สวมชุดสีขาว ซึ่งในมือถือขวดน้ำและกระดาษทิชชู ทั้งคู่กำลังมองคนรักของตนด้วยสายตาอ่อนโยน

“คุณเคยบอกว่า ความรักเป็นเพียงส่วนหนึ่งของชีวิต แต่ไม่ใช่ทั้งหมด ผมเห็นด้วยและหวังว่าคุณจะจดจำมันไว้ บางที…ทุกอย่างอาจโอเค แต่ถ้าหากโลกนี้เกิดการเปลี่ยนแปลงและเต็มไปด้วยอันตราย ชีวิตมนุษย์กลายเป็นสิ่งเล็กๆ เช่นเดียวกับเมล็ดผักกาด ผมหวังว่าคุณจะเลิกรัก เพราะความรักนั้น น่าจะ…ไม่ได้สวยงามและซื่อสัตย์อย่างที่คุณคิด”

“คุณหมายถึงอะไร?” จู่ๆ ไป๋ซือซือก็ไม่เข้าใจในตัว ใครบางคนที่อยู่ร่วมกันมาถึงสองปี คำพูดของเขาหมายถึงอะไร คำอุปมา?

“มาถึงขั้นนี้แล้วผมไม่ปฏิเสธว่าฉินจวินเป็นคนที่ดีมากคนหนึ่ง และอาจเป็นทั้งคนรักและสามีที่ดี แต่เขา....” เย่จงหมิงไม่รู้ว่าจะพูดยังไงต่อดี จะบอกเธอด้วยความเห็นใจว่า ในช่วงเวลาวิกฤติฉินจวินจะทิ้งเธอไป? หรือจะให้บอกเธอว่าเธอจะถูกเอาตัวไปแลกกับเศษขนมปังไม่กี่ชิ้น? หรือจะให้บอกว่าขณะที่ถูกพวกคนชั่วโจมตีเขาจะผลักเธอให้เป็นเหยื่อล่อเพื่อซื้อเวลาให้ตัวเอง? เธอจะเชื่อเหรอ? นี่เป็นสิ่งที่เขาเห็นหลังจากผ่านครึ่งปีของภัยพิบัติไปแล้ว ซึ่งตอนนี้มันยังไม่เกิดขึ้น หากพูดไปมันก็คงจะเป็นแค่เรื่องตลกเท่านั้น

เย่จงหมิงก้มหน้าครุ่นคิด ไป๋ซือซือตกใจมากเธอรู้ว่าเย่จงหมิง อาจได้ยินข่าวลือเรื่องเธอกับฉินจวิน แต่ไม่คิดว่าเพียงแค่คืนเดียว เย่จงหมิงดูเหมือนจะรู้เรื่องหมดทุกอย่าง เธอเคยเก็บมันไว้เป็นความลับ หรือว่า เขา… เขารู้เรื่องมานานแล้ว?

เมื่อคิดได้แบบนั้นไป๋ซือซือก็ถึงกับหน้าซีด ดูเหมือนว่าความลับจะถูกเปิดเผยเสียแล้ว

แต่ความจริงตอนนี้ ความลับของเธอยังไม่ถูกค้นพบ

“คุณ… คุณรู้… คุณรู้จักเขา?”

เย่จงหมิงพยักหน้า “ทุกคืนดอกกุหลาบแดง 99 ดอกที่ไม่ระบุนามผู้ส่ง จะถูกส่งไปที่ล็อบบี้หอพักของคุณ หัวใจที่สร้างจากเทียน 1,000 เล่มในคืนวันเกิด ข้อความสั้นๆจากความห่วงใยอย่างน้อยวันละครั้ง ตั๋วคอนเสิรต์ บัตรสมาชิกสโมสร บัตรสมาชิกร้านกาแฟ วีดีโอการบรรยายของศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยอ๊อกฟอร์ด อา… แม้ว่าจะเป็นผู้ชายเหมือนกัน ผมก็ต้องยอมรับว่า ฉินจวินไม่เพียงแต่จะหล่อเหลา อีกทั้งยังมีพื้นฐานทางครอบครัวที่เหนือกว่า และยังโรแมนติกกว่าผม เขารู้ว่าอะไรคือสิ่งที่คุณต้องการ ไม่สงสัยเลยว่าทำไมคุณถึงได้เปลี่ยนใจ เมื่อเทียบกับเขาแล้ว เรื่องจิตใจของผู้หญิง ผมไม่รู้อะไรเลย”

นอกหน้าต่างมีเสียงดังมาจากทางมหาวิทยาลัย มันควรเป็นเสียงกริ่งบอกเวลาพัก เขาหันกลับไปมองด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจเจือด้วยร่องรอยแห่งความกลัว ไป๋ซือซือรู้สึกละอายใจที่มีความรู้สึกสดชื่นยินดี เพราะสีหน้าที่ดูคุ้นเคยนั้น มันดูเหมือนสีหน้าตอนที่เขาเข้าสู่ร่างกายของเธอเป็นครั้งแรก

“สุดท้าย ไม่ว่าคุณจะคิดยังไง ผมก็ขอเตือนคุณว่า สำหรับฉินจวิน คุณต้องระวังให้ดี เพราะเขาเป็นผู้ชายที่สามารถแบ่งปันความสุขได้แต่ไม่ใช่กับความทุกข์ หากว่ามีสิ่งที่ส่งผลกระทบต่อผลประโยชน์ของเขา เขาจะสามารถทิ้งได้ทุกอย่าง รวมถึงความรัก นั่นรวมถึงตัวคุณด้วย”

พูดจบ เย่จงหมิงก็เดินมาตบไหล่ของไป๋ซือซือ ซึ่งกำลังอยู่ในสภาวะงงงัน ภาพของทั้งคู่แวบผ่านเข้ามาในใจ เริ่มต้นจากกอดรัดอย่างง่ายๆ แล้วเปลี่ยนมาเป็นภาพร่างเปลือยพัวพัน จากนั้นก็เป็นลมหายใจหอบเหนื่อย หยาดเหงื่อ และความสุขสม แล้วหายไปอย่างไร้ร่อยรอย

ที่สุดแล้วเขาต้องยอมแพ้ ไป๋ซือซือต้องเลือกทางของตัวเอง เขาจะไม่ยอมเปลี่ยนแปลงมันเพราะสิบปีแห่งฝันร้าย เนื่องจากเย่จงหมิงไม่รู้ว่าเขาจะอยู่ต่อได้อีกนานแค่ไหน เขามีคุณสมบัติอะไรที่จะไปดูแลคนอื่น? ยิ่งไปกว่านั้น ตัวตนอันเหี้ยมโหดที่ถูกพัฒนาขึ้นในช่วง 10 ปีแห่งวันโลกาวินาศ และผลกระทบของบัตเตอร์ฟายเอฟเฟกต์จากการเกิดใหม่ ทุกอย่างอาจเกิดการเปลี่ยนแปลง ฉินจวินอาจใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับไป๋ซือซือได้ด้วยดี

เย่จงหมิงสวมเสื้อผ้าอย่างรวดเร็ว การใช้ช่วงเวลาพูดคุยอย่างง่ายๆกับไป๋ซือซือ แค่นี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับเขาที่จะยอมรับสิ่งต่างๆมาก มาย สิบปีของชีวิตที่อยู่ระหว่างความเป็นความตายทำให้ง่ายต่อการรักษาสภาพอารมณ์ การได้รับสิ่งมหัศจรรย์อย่างการมีชีวิตอีกครั้ง ทำให้ต้องเลือก ระหว่างการปลิดชีวิตตัวเองเพื่อหลีกหนีจากวันโลกาวินาศอันน่ากลัว กับการมีชีวิตต่อไป ดังนั้นเรื่องราวในอดีตจึงถูกปัดทิ้งไปจากสมองอย่างรวดเร็ว

ตอนนี้เมื่อได้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง ก็ต้องมีชีวิตอยู่อย่างดีให้ได้

เขาเปิดลิ้นชัก ซึ่งมีบัญชีธนาคารที่ได้รับชดเชยจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ของพ่อแม่เก็บอยู่ มันเป็นสิ่งที่พ่อแม่ของเขาทิ้งไว้ให้เย่จงหมิงเก็บไว้ไม่ได้ใช้เลยตลอดมา เขายืนกรานที่จะหาเงินเลี้ยงดูตัวเอง โดยถือ ว่าเงินเหล่านี้ เป็นของดูต่างหน้าพ่อแม่ แต่ตอนนี้มันต่างไป เพราะเขารู้ว่าถ้าวิญญาณบนสวรรค์ของพ่อแม่ได้รับรู้ ก็จะเห็นด้วยกับการเปลี่ยนเงินเหล่านี้ให้เป็นทุนรอนเพื่อการดำรงชีวิตหลังจากนี้

“นั่นคุณกำลังจะไปไหน?”

ไป๋ซือซือดึงผ้าปูเตียงมาปกปิดร่างกาย และมีสีหน้ากลัวๆ เมื่อเห็นเย่จงหมิงมีท่าทางที่ดูเหมือนกำลังจะจากไป

เธอรู้ว่าเธอชอบชายคนนี้ แต่ก่อนจะสำเร็จการศึกษา ชายคนนี้สูญเสียทั้งพ่อและแม่เขาไม่มีทางไปและมองไม่เห็นอนาคต นี่คือเหตุผลที่เธอเลือกจะจากไป แต่เรื่องราวกลับอยู่เหนือการควบคุมของเธอ และกลายเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ดูเหมือนไป๋ซือซือจะคิดว่าแม้จะแยกทางกันแล้ว แต่ผู้ชายคนนี้ควรยังเป็นของเธอ อย่างน้อยก็ในช่วงสั้นๆ

หลังจากแต่งตัวเสร็จ เย่จงหมิงก็ดูเวลาอีกครั้ง 15.50 น. เหลืออีก 50 นาทีก่อนภัยพิบัติจะมาถึง เมื่อคิดถึงสิ่งที่ต้องทำ เห็นได้ชัดว่ามีเวลาไม่เพียงพอ เขาพึมพำเบาๆ อยู่สักครู่ เย่จงหมิงตัดสินใจทำสิ่งสำคัญที่สุดทันที เขาพูดกับไป๋ซือซือตรงๆ ด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย

“ผมจะออกไปทำธุระ ก่อนที่ผมจะกลับมา คุณควรรีบกลับไปหาฉินจวิน เพราะตอนนี้คุณได้ตัดสินใจแล้ว และขอให้คุณแน่ใจในการตัดสินใจของคุณ” เย่จงหมิงขมวดคิ้วเล็กน้อย ขณะที่จะเดินจากไป พลางก็คิดไปว่ายังไงก็เป็นผู้หญิงที่นอนคุยกันมาถึงสองปี จึงอดไม่ได้ที่จะออกปากเตือน “จะให้ดีก็รีบไปซะ กลับไปอยู่กับฉินจวินจะปลอดภัยกว่า ถ้าเกิดอะไรขึ้น อย่างน้อยที่นั่นก็เป็นสถานที่แรกที่รัฐบาลจะพิจารณาให้ความช่วยเหลือ ตรงนั้น บางที… คุณอาจสามารถมีชีวิตที่ดีกว่า”

พูดจบ เย่จงหมิงก็ใส่รองเท้าและเดินออกไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งไป๋ซือซือให้ยังคงนั่งงงอยู่บนเตียง

เย่จงหมิงต้องทำสองสิ่งอย่างเร่งด่วนที่สุด หนึ่งซื้อยาที่จำเป็น สอง ซื้อเครื่องมือสำหรับต่อสู้

(เนื่องจากพระเอกเป็นนักศึกษาสรรพนามแทนตัวยามปกติจึงเป็นแบบสุภาพ)

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด