บทที่ 9 เป้าหมาย
การพูดคุยของเขาและจอมเวทย์คามิลล่านั้นใช้เวานานกว่าที่ซูยี่คิด
จอมเวทย์คามิลล่าได้ถามคำถามมากมายเกี่ยวกับรูปแบบเวทมนตร์ที่อยู่ภายในพัดลมเวทมนตร์ ดังนั้นเพื่อสร้างความประทับใจให้กับจอมเวทย์คามิลล่าเล็กๆน้อยๆเขาจึงตอบทุกคำถามอย่างเต็มที่
แต่คำถามส่วนใหญ่ของจอมเวทย์คามิลล่าไม่ได้เกี่ยวกับรูปแบบเวทมนต์เลย เพราะท้ายที่สุดแล้วรูปแบบเวทย์ลมหมุนก็เป็นเพียงรูปแบบเวทย์ลมระดับต่ำ ไม่ว่าซูยี่จะแก้ไขมันยังไงมันก็เป็นไปไม่ได้ที่ตัวตนระดับจอมเวทย์อย่างคามิลล่าจะให้ความสนใจ
เพราะแบบนั้นคำถามส่วนใหญ่ของเขาจึงเป็นเรื่องของการออกแบบพัดลมเวทมนตร์
เมื่อพูดถึงการออกแบบแล้วส่วนใหญ่มันเป็นความรู้ทางวิศวกรรมเครื่องกล
กล่าวได้ว่าความรู้นี้ไม่เคยปรากฏในทวีปไซน์วาก่อน ซูยี่จึงมีปัญหาเล็กน้อยในการอธิบายให้กับจอมเวทย์คามิลล่าเข้าใจ บางครั้งเขาก็ต้องอธิบายตั้งแต่พื้นฐานของพื้นฐานเลยด้วยซ้ำ
แต่เพราะแบบนี้เมื่อซูยี่ตอบคำถามของจอมเวทย์คามิลล่าเสร็จเขาก็ได้รับคำชื่นชมจากจอมเวทย์คามิลล่าว่าซูยี่เป็นคนที่น่าทึ่ง
“อา..ฉันเคยคิดว่าเธอคิดค้นพัดลมเวทมนตร์ได้โดยบังเอิญ แต่ฉันไม่คิดเลยว่ามันจะเต็มไปด้วยความรู้มากมายขนาดนี้ ยิ่งไปกว่านั้นการที่เธอปรับแต่งรูแบบเวทมนตร์ให้เข้ากับโครงสร้างของมันก็ทำให้ฉันเห็นแล้วว่าเธอมีความรู้ทางเวทมนตร์ไม่น้อยเลย” พูดเสร็จจอมเวทย์คามมิลล่าก็มองไปทางซูยี่ด้วยดวงตาเป็นประกายระยิระยับ “ซูยี่เธอมีความสามารถจริงๆ เอาแบบนี้มั้ย เธอสนใจจะมาเป็นผู้ช่วยส่วนตัวของฉันในการวิจัยเวทมนตร์หรือไม่”
ซูยี่ตกตะลึง
ผู้ช่วยงานวิจัยของจอมเวทย์คามิลล่า? ตามความรู้ทั่วไปนี่หมายความว่าจอมเวทย์คามิลล่าต้องการรับซูยี่มาเป็นเด็กฝึกงาน
ถ้าเป็นนักเวทย์คนอื่นๆ แน่นอนว่าพวกเขาจะเต็มไปด้วยความสุขที่เปี่ยมล้นและตอบรับโดยไม่ลังเล
คามิลล่าคือจอมเวทย์ระดับสามดาวอันดับต้นๆแม้แต่ในทวีปไซน์ การได้มาเป็นเด็กฝึกงานของเขานั้นคือความไฝ่ฝันของนักเวทย์รุ่นใหม่หลายๆคน
หากนักเวทย์ในหอคอยเวทมนตร์รู้เรื่องนี้พวกของจะต้องตายเพราะอิฉฉาซูยี่อย่างแน่นอน
แต่ซูยี่กลับครุ่นคิดไม่ตอบรับในทันทีและบอกว่าขอคิดดูอีกหน่อย
จอมเวทย์คามิลล่ารู้สึกประหลาดใจและมีความรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย แต่เขาก็ไม่ได้บ้งคับซูยี่ เขาทำเพียงแค่โบกมือให้เขาออกไปได้
เมื่อเขาก้าวออกมาจากชั้นบนสุดทันใดนั้นครื่นความร้อนก็สาดซัดเข้ามาจนทำให้ซูยี่เหงือแตกพลั่กแต่ในขณะเดียวกันมันก็ทำให้เขารู้สึกสงบลง
กลายเป็นเด็กฝึกงานของจอมเวทย์คามิลล่า?
หากเป็นเมื่อสองไม่สิ เมื่อเดือนที่แล้วเขาอาจจะตอบรับอย่างไม่ลังเล แต่ตอนนี้เขาไม่รู้สึกสนใจกับโอกาสที่ได้รับเลย
“ทำไมฉันถึงไม่รู้สึกสนใจมันเลย?” ซูยี่พึมพำกับตัวเองพลางขมวดคิ้ว
หลังจากครุ่นคิดอย่างวุ่นวายในใจอยู่สองสามตลบทะนใดนั้นวัตถุบางอย่างก็ปรากฏขึ้นในใจของเขา มันคือพัดลมเวทมนตร์
ถูกต้องมันคือพัดลมเวทมนตร์
เวทมนตร์ของโลกนี้กับวิศวะกรรมเครื่องกลของโลกก่อนมันหลอมรวมเข้าด้วยกันหลังจากซูยี่สนใจที่จะสร้างมันขึ้นมา ในระหว่างที่เขากำลังศึกษาเรื่องนี้มันมักจะทำให้เขาคิดว่าตัวเองกำลังอยู่ในห้องทดลองที่่โลกเดิม
ซูยี่ไม่รู้สึกอะไรในตอนนั้น แต่เมื่อเขาคิดถึงเรื่องนี้มันทำให้เขารู้ว่าลึกๆแล้วในร่างกายของเขายังมีจิตวิญญานของวิศวะกรรมเครื่องกลอยู่อย่างสมบูรณ์
ใช่แล้วเขาชอบเครื่องจักรมาตั้งแต่เด็ก ในโลกก่อนเขาได้หลอมรวมตัวเองเข้ากับวิศวะกรรมเคื่องกลอย่างสมบูรณ์
แม้ว่าหลังจากที่มาโลกแห่งเวทมนตร์เขาจะต้องทิ้งงานที่รักและเรียนเวทมนตร์อย่างไม่มีทางเลือก แต่ว่าหัวใจของเขามันไม่เคยเปลี่ยนไป
และตอนนี้เขาได้สัมผัสกับความสุขที่ได้ค้นคว้าเครื่องจักรผ่านพัดลมเวทมนตร์ แล้วเขาจะหยุดอยู่แค่นี้ได้อย่างไร?
“ใช้แล้ว ฉันจะค้นคว้าเครื่องจักรในโลกแห่งเวทมนตร์นี่ละ! ฉันจะรวมเวทมนตร์กับจักกลเข้าด้วยกัน ไม่เพียงแต่พัดลมเท่านั้น ฉันจะสร้างเรือดำน้ำแล้วก็เครื่องบิน ฉันจะต้องสร้างระบบอุตสาหกรรมขึ้นมาในทวีปนี้ สร้างอาณาจักรอุตสาหกรรมเวทมนตร์!!!”
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ซูยี่ก็รู้สึกเหมือนว่าจิตใจของเขามันเต็มไปด้วยพลังและร่างกายของเขาก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้น
เขาเข้าใจ. นี่เป็นเพราะหลังจากเสียเวลาสามปีในโลกนี้ด้วยความงุนงงในที่สุดเขาก็ได้ยืนยันเป้าหมายของเขา. นี่เป็นเพราะหลังจากเสียเวลาสามปีในโลกนี้ด้วยความงุนงงในที่สุดเขาก็ได้ยืนยันเป้าหมายของเขา
เป้าหมายของเขาถือได้ว่าเกินเอื้อมและไม่น่าเป็นจะไปได้ แต่ก็ยังเป็นเป้าหมายที่เขามุ่งมั่น แต่ก็ยังเป็นเป้าหมายที่เขามุ่งมั่น
!
หากมันยาก เขาก็แค่เอาชนะมัน เขาก็แค่เอาชนะมัน
ฝีเท้าของซูยี่เร็วขึ้นเมื่อเขากลับไปที่ห้องทดลอง สิ่งที่ต้อนรับเขาคือสายตาที่เต็มไปด้วยความอิจฉาริษยาและความสงสัย สิ่งที่ต้อนรับเขาคือสายตาที่เต็มไปด้วยความอิจฉาริษยาและความสงสัย
เพื่อนร่วมงานของเขาไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเด็กใหม่ที่เข้ามาทำงานในหอคอยเวทมนตร์เพียงไม่ถึงสองเดือนจู่ๆก็ถูกเรียกตัวโดยจอมเวทคามิลล่า เป็นที่รู้กันว่าคนเหล่านี้แทบไม่เคยได่้เจอจอมเวทย์คามิลล่าและไม่จำเป็นต้องพูดถึงว่าพวกเขาจะถูกเรียกตัวไป
ซุยี่ไม่สนใจสายตาแปลก ๆ ที่เพื่อนร่วมงานกำลังมองมา ตอนนี้เขามีเป้าหมายแล้วตอนนี้เขาไม่ได้สนใจอะไรอีกแล้ว รอยยิ้มจางๆปรากฏบนใบหน้าขณะที่เดินกลับไปยังที่ของเขา ตอนนี้เขามีเป้าหมายแล้วตอนนี้เขาไม่ได้สนใจอะไรอีกแล้ว รอยยิ้มจางๆปรากฏบนใบหน้าขณะที่เดินกลับไปยังที่ของเขา
แม้ว่าเขาจะไม่ได้คิดที่จะเป็นเด็กฝึกงานของจอมเวทย์คามิลล่า แต่ซูยี่ก็ไม่ได้ต้องการที่จะออกจากหอคอยเวทมนตร์ แต่ซูยี่ก็ไม่ได้ต้องการที่จะออกจากหอคอยเวทมนตร์
ถ้าเขาต้องการทำบางสิ่งในเมืองบันต้ากับบางสิ่งที่เกี่ยวข้องกับเวทมนตร์เขาต้องรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับจอมเวทย์คามิลล่า ซุยี่ไม่โง่พอที่จะตัดความสัมพันธ์นี้ด้วยตัวเอง
###
ห่างออกไปสามไมล์(4,827.8เมตร)ทางตะวันตกของเมืองบันต้ามีคฤหาสน์เล็ก ๆ แห่งหนึ่งซึ่งมีพื้นที่น้อยกว่าหนึ่งหมื่นตารางเมตร
แม้ว่าคฤหาสน์นี้จะไม่ได้ใหญ่โต แต่ก็มีชื่อเสียงมากในเมืองบันต้าเพราะเป็นสถาบันเวทมนตร์แห่งเดียวในเมืองบันต้า สถาบันเวทมนตร์บารอนริกโต้
ในฐานะที่เป็นโรงเรียนเวทมนตร์แห่งเดียวในเมืองบันต้าสถาบันเวทมนตร์บารอนริคโต้ได้รวบรวมเด็ก ๆ ทุกคนที่มีพรสวรรค์ทางเวทมนตร์ในเมืองบันต้าและรอบเมืองบันต้ามาไว้ที่นี่
สำหรับเด็กเหล่านี้ที่ต้องการเป็นคนที่ทรงพลังการเรียนที่นี่เป็นสิ่งที่สำคัญมาก มากจนถึงจุดที่ไม่ยอมกินไม่ยอมนอนเลยทีเดียว
ตามหลักสูตรนอกเหนือจากการเรียนความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับเวทมนตร์ในแต่ละวันแล้วนักเรียนที่นี่ยังต้องเรียนความรู้บางอย่างเกี่ยวกับรูปแบบเวทมนตร์ด้วย
ในคาบเรียนรูปแบบเวทมนตร์ในวันนี้อาจารย์ประจำชั้นปีสองก็นำบางสิ่งที่ทำให้นักเรียนทั้งหมดรู้สึกสงสัยออกมา มันคือก่อนเหล็กที่มีหน้าตาน่าเกลียด
“นั่นคงไม่ใช่พัดลมเวทมนตร์ใช่มั้ย!” นักเรียนตาแหลมจำมันได้ในทันที
พัดลมเวทมนตร์เป็นผลิตภัณฑ์ยอดนิยมในเมืองบันต้าในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา มันมีราคาไม่แพงและมีการบริโภคที่ต่ำดังนั้นทุกคนจึงรู้สึกยินดีกับสิ่งที่ทำให้พวกเขาคลายร้อน
นักเรียนส่วนใหญ่ของสถาบันเวทมนตร์บารอนริกโต้มีภูมิหลังทางครอบครัวที่ดี มีหลายครอบครัวที่ซื้อพัดลมเวทมนตร์ทันทีที่วางขาย จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่พวกเขาะจดจำมันได้ทันที
“แต่มันมีอะไรเกี่ยวกับพัดลมกัน ทำไมอาจารย์ถึงเอามันออกมา”
“นักเรียนการบรรยายหลักของวันนี้จะศึกษาเรื่องพัดลมเวทมนตร์พูดให้ถูกก็คือ รูปแบบเวทมนตร์ที่อยู่ภายในพัดลมเวทมนตร์” อาจารย์รีบพูดขึ้นมาในทันที
“เชอะมันเป็นของเล่นที่สามัญชนใช้ไม่ใช่เหรอ? มีคุณค่าอะไรในการศึกษาเรื่องนี้? อาจารย์แน่ใจนะว่าไม่ได้หยิบมาผิด”
คนที่พูดคือเด็กหนุ่มร่างท้วมอายุประมาณสิบหกสิบเจ็ดปี
เด็กคนนี้มีชื่อว่าโอริน เซตาเมน เป็นลูกชายคนที่สองของวิสเคานท์เซตาเมนของเมืองบันต้า เขาเป็นคนที่มีภูมิหลังดีที่สุดในชั้นประถมศึกษาปีที่สอง ว่ากันว่าทุกห้องในบ้านของเขามีรูปแบบเวทย์น้ำแข็งขนาดใหญ่ดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติที่เขาจะไม่เห็นพัดลมเวทมนตร์อยู่ในสายตา
เมื่อได้ยินคำพูดของโอรินใบหน้าของอาจารย์ก็จมลง เขาพูดอย่างเคร่งครัดว่า“โอรินเธอสามารถดูถูกพัดลมเวทมนตร์ได้ แต่ในฐานะนักเวทย์เธอไม่สามารถดูถูก รูปแบบเวทมนตร์ที่อยู่ภายในพัดลมเวทมนตร์ได้ ฉันสามารถบอกเธฮได้เลยว่ารูปแบบเวทมนตร์ทีอยู่ในพัดลมเวทมนตร์นั้นยอดเยี่ยมมากมันเป็นสิ่งที่นักเวทย์ธรรมดาไม่สามารถสร้างันขึ้นมาได้ จากที่ฉันวิเคราะมาคนที่สร้างรูปแบบเวทมนตร์นี้ขุ้นมาจะต้องเป็นจอมเวทย์อย่างแน่นอน!”
"ห๊า?"
“มันเป็นไปไม่ได้ใช่ไหม? จอมเวทย์?”
“ใช่ทำไมจอมเวทย์ถึงต้องมาทำอะไรแบบนี้”
“เมืองบันต้าของเรามีเพียงคามิลล่าที่เป็นจอมเวทย์เพียงคนเดียวใช่ไหม? เขาไม่ชอบนักเวทย์ที่ทำงานร่วมกับพ่อค้าไม่ใช่เหรอ?”
“บางทีเขาอาจเปลี่ยนมุมมองของเขา?”
… ...
หลังจากพูดคุยกันสักพักนักเรียนก็เริ่มเข้าใจความคิดของอาจารย์
แม้ว่ารูปแบบเวทมนตร์ที่อยู่ภายในจะไม่ได้ถูกสร้างขึ้นโดยจอมเวทย์แต่ระดับของเวทมนตร์ที่อยู่ในรูปแบบเวทมนตร์นี้ก็เกินจินตนาการของพวกเขาไปมาก
เนื่องจากเป็นเช่นนี้จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่อาจารย์จะต้องการให้พวกเขาศึกษา
เมื่ออาจารย์ถอดชิ้นส่วนพัดลมเวทมนตร์และเปิดเผยรูปแบบเวทมนตร์ให้นักเรียนเห็นนักเรียนพวกนั้นก็รู้สึกตกใจมากยิ่งขึ้น
ในฐานะนักเรียนชั้นปีที่ 2 ของสถาบันเวทมนตร์บารอนริกโต้ พวกเขาไม่ใช่นักเรียนใหม่ที่ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเวทมนตร์ พวกเขาสามารถเห็นระดับเวทมนตร์ที่น่าอัศจรรย์ที่มีอยู่ในรูปแบบเวทมนตร์นี้ได้
แม้ว่านักเรียนหลายคนจะสามารถบอกได้ว่าสิ่งนี้ควรจะเป็นตัวแปรของรูปแบบเวทย์ลมหมุนแต่กลับไม่มีนักเรียนแม้แต่คนเดียวที่สามารถทำความเข้าใจทุกส่วนของรูปแบบนี้ได้
มีนักเรียนหลายคนที่ไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่ารูปแบบเวทมนตร์นี้เปิดใช้งานและทำงานอย่างไรดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องพูดถึงว่าพวกเขาจะเข้าใจว่าพัดลมเวทมนตร์นี้สามารถทำงานร่วมกับรูปแบบเวทมนตร์ได้อย่างไร
เป็นที่รู้กันว่ามีอัจฉริยะเวทมนตร์มากมายในชั้นปีที่สอง พวกเขายังได้รับการยกย่องให้เป็นชั้นเรียนที่มีความสามารถมากที่สุดในสถาบันเวทมนตร์บารอนริกโต้!
ยิ่งชายหนุ่มและหญิงสาวที่ภาคภูมิใจเหล่านี้ศึกษารูปแบบเวทมนตร์นี้มากเท่าไหร่พวกเขาก็ยิ่งพบว่ารูปแบบเวทมนตร์นี้ลึกซึ้งมากขึ้นเท่านั้น พวกเขาเต็มไปด้วยความชื่นชมอย่างหาที่เปรียบไม่ได้สำหรับนักเวทย์ที่สร้างรูปแบบเวทมนตร์นี้ขึ้นมา
เพียงแต่พวกเขาไม่รู้ว่าคนที่พวกเขากำลังชื่นชมนั้นอยู่ไม่ใกลจากพวกเขาเท่าใดนัก
ในสำนักงานบริหารนักเรียนของสถาบันเวทมนตร์บารอนริกโต้ผู้อำนวยการเชียเรอร์กำลังมองไปที่แขกที่ไม่คาดคิดพร้อมกับขมวดคิ้ว จากสัญลักษณ์บนเสื้อคลุมสีดำที่เขาสวมอยู่เขาสามารถยืนยันได้ว่าเขาเป็นคนของคามิลล่า
“เจ้าหนุ่มเธอมาที่นี่ทำไม? หรือว่าจอมเวทย์คามิลล่าส่งเธอมาที่นี่?”
“ไม่ใช่ นี่ไม่เกี่ยวข้องกับจอมเวทย์คามิลล่า นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของผม” ซูยี่ส่ายหัวด้วยรอยยิ้ม
“เรื่องส่วนตัว? มันคืออะไร?”
“นี่ไม่ใช่ปัญหาอะไร ที่ผมมาในวันนี้เป็นเพราะผมต้องการจ้างนักเรียน”
การแสดงออกของเชียเรอร์จมดิ่งลง“พวกเราเป็นโรงเรียนเวทมนตร์ไม่ใช่โรงเรียนทหารรับจ้าง! เธอมาผิดที่แล้ว!”
ซูยี่ไม่แปลกใจเขา่พูดด้วยรอยยิ้มจาง ๆ “ถ้าอย่างนั้นผู้อำนวยการเชียเรอร์ถ้าผมบอกว่างานนี้ไม่เพียง แต่จะจ่ายเงินให้นักเรียนและยังช่วยให้พวกเขายกระดับเวทมนตร์ด้วยล่ะ”
เชียเรอร์ตะลึง“นี่คุณคิดจะล้อเล่นกันรึไง? จะไปมีงานดีๆแบบนี้ได้อย่างไร”
“มีแน่นอน”ซูยี่มีรอยยิ้มที่สดใส“ถ้าคุณไม่รังเกียจผมจะค่อยๆอธิบายเรื่องนี้ให้คุณ… ..”