ตอนที่ 109-110
ตอนที่ 109 : สังหรณ์ของจี้อู๋ฮุย
ที่ร้านต้นตำรับ จี้อู๋ฮุยกำลังอยู่ในหอคอยแห่งการทดสอบโหมดท้าทายที่ชั้นหนึ่งพร้อมคิ้วขมวด
“เหตุใดจึงรับรู้ถึงลางร้ายขึ้นอย่างกะทันหัน?”
กระนั้นอึดใจถัดมา อสูรหมาป่าสีม่วงก็เข้าโจมตีเสียก่อน
จี้อู๋ฮุยไม่กล้าประมาทจึงโยนความรู้สึกเมื่อครู่ทิ้งไป
ขณะนี้ตัวเขาไม่อาจมีขอบเขตพลังเกินหลอมกายระดับสูงสุด เผชิญหน้ากับสองอสูรหมาป่าสีม่วงที่พลังทัดเทียมกัน สมาธิไม่อาจวอกแวก!
ปู้ฉืออี กู่หยุนซี และเจียงเหวิ่นฉางต่างไปเล่นในโหมดอารีน่า
การแข่งขันสลับกันแพ้และชนะ
หากกล่าวตามตรง ทั้งกู่หยุนซีและเจียงเหวิ่นฉางต้องประหลาดใจไม่ใช่น้อย
เป็นที่ทราบกันว่าคนทั้งสองศึกษาอยู่ที่สถาบันวิญญาณเมฆาถึงสามปีแล้ว ทว่าปู้ฉืออีนั้นไม่ใช่
แต่ผลลัพธ์ที่ได้ คือศึกระหว่างทั้งสองฝ่ายสลับกันแพ้และชนะ
ทั้งนี้ อายุของปู้ฉืออียังไม่ได้แตกต่างจากพวกนางสักเท่าใดนัก
เพียงเพราะเรื่องนี้มันก็มากพอให้พวกนางตื่นตกใจต่อพรสวรรค์ของปู้ฉืออีแล้ว!
ส่วนทางด้านเจียงเฉิงจวินและปู้หลี่เกื๋อนั้น...
หลังจากที่เล่นโหมดอารีน่ากันหลายครั้ง คนทั้งสองจึงค่อยกลับไปเล่นโหมดท้าทาย
แม้เล่นมาแล้วหลายวัน กระนั้นก็ยังไม่อาจผ่านโหมดปกติของชั้นที่หนึ่งไปได้
เช่นนั้นจึงเกิดความล้มเหลว ฟื้นคืนชีพ และล้มเหลวเช่นนี้วนไปอย่างต่อเนื่อง
แน่นอนว่ากระบวนการเหล่านี้ก็ยังช่วยเพิ่มพูนกำลังให้ได้อย่างมั่นคง
ขณะนี้เองที่ร่างของเจียงเฉิงจวินสั่นไหวเล็กน้อยพร้อมออร่าพลุ่งพล่าน
เจียงเฉิงจวินถึงกับก้าวหน้าสู่ขอบเขตโชคชะตาระดับที่สามได้แล้ว!
มันราวกับสายน้ำที่ไหลไปอย่างไร้ซึ่งสิ่งใดขัดขวาง!
หากเป็นการฝึกฝนโดยปกติ เจียงเฉิงจวินคิดก้าวหน้าก็ต้องใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งเดือน
แต่ด้วยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในร้านของลั่วฉวนที่เพิ่มพูนความเร็วการฝึกฝน และยังมีหอคอยแห่งการทดสอบ ดังนั้นความเร็วการฝึกฝนจึงเท่าทวีพุ่งทะยาน!
แน่นอนว่าเจียงเฉิงจวินที่อยู่ในหอคอยแห่งการทดสอบไม่ทราบเรื่องตนเองก้าวหน้าขึ้นแล้ว
ลั่วฉวนและเหยาซือหยานตระหนักทราบได้ถึงความผันแปรจากร่างเจียงเฉิงจวิน กระนั้นก็ไม่ได้ใส่ใจแต่อย่างใด
ก็เพียงขอบเขตโชคชะตาระดับที่สามก้าวหน้า มีค่าอะไรให้แปลกใจ?
……
“ระยะเวลาเล่นเกมของวันนี้ถึงขีดจำกัด! เกมจะบังคับปิดตัว!”
ที่หอคอยแห่งการทดสอบ ผู้เล่นจะแทบไม่ทราบว่าเวลาผ่านไปนานเพียงใดแล้ว
เมื่อจี้อู๋ฮุยรับรู้ถึงข้อความแจ้งที่ปรากฏต่อหน้า เขาเกิดความสับสนและไม่ทราบว่าเรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อ
แต่เพียงอึดใจ ภาพตรงหน้ากลับดับวูบก่อนจะกลับมายังพื้นที่เริ่มต้น
จี้อู๋ฮุยถอดหมวกออก สีหน้ายังดูประหลาดใจ
เขาเกือบจะผ่านโหมดง่ายของชั้นที่สองอยู่แล้ว!
ขณะนี้เองที่เหล่าไป่ก็ถอดหมวกออกเช่นเดียวกัน
“เฮ้อ เวลาผ่านไปรวดเร็วนัก ราวกับกระพริบตาก็ผ่านพ้นไปแล้ว” เหล่าไป่ถอนหายใจออก
ได้ยินคำของเหล่าไป่ จี้อู๋ฮุยจึงนึกอะไรขึ้นได้ ความโศกจึงปรากฏในดวงตา
เขาจดจำได้ ว่าหอคอยแห่งการทดสอบมีระยะเวลาจำกัดการเล่นต่อวัน
“รู้สึกอย่างไรกันบ้าง?” ลั่วฉวนก้าวเดินกลับเข้ามาในร้านพร้อมกล่าวถาม
จี้อู๋ฮุยทราบว่าเถ้าแก่กำลังถามไถ่ตนเองอยู่
อย่างไรแล้ว ตัวเขาก็เป็นเพียงผู้เดียวที่เพิ่งมาเยือนร้านต้นตำรับ
จี้อู๋ฮุยจึงพยักหน้ารับ สีหน้างงงันเผยชัดที่ใบหน้า
ด้วยฐานะจักรพรรดิแห่งเทียนชิง จี้อู๋ฮุยไม่ทราบว่านานเพียงใดกันแล้วที่ตนไม่ได้ตื่นตาตื่นใจเช่นนี้
เกมหอคอยแห่งการทดสอบถือเป็นการเปิดโลกใหม่ให้แก่เขาอย่างแท้จริง
ฝึกฝนถึงกับทำโดยวิธีการเช่นนี้ได้!
“รู้สึกเสมือนไปเยือนอีกโลกหนึ่ง ภายในเกมที่ขอบเขตพลังต่ำกว่าปกติ มันทำให้ข้าได้ทราบหลายสิ่งอย่าง” จี้อู๋ฮุยกล่าวด้วยน้ำเสียงลุ่มลึก
ขอบเขตพลังที่สูงส่ง เมื่อเล่นหอคอยแห่งการทดสอบครั้งแรกย่อมได้รับอะไรกลับคืนไปไม่ใช่น้อย
ตอนที่ 110 : ไม่อาจรับ
เมื่อขอบเขตพลังสูงถึงระดับหนึ่ง ผู้ฝึกตนจะพึ่งพาพลังงานวิญญาณจนเกินไป สุดท้ายจึงลืมเลือนแก่นแท้อันเป็นสิ่งสำคัญ
ก็เหมือนดังที่มนุษย์ดึงศักยภาพร่างกายออกมา
มีแต่เมื่อพลังวิญญาณไม่อาจใช้ เมื่อนั้นจึงค่อยตระหนักทราบถึงการคงอยู่ของมัน
“เถ้าแก่ ข้ามีคำถาม” เมื่อคิดไปพักหนึ่ง จี้อู๋ฮุยจึงอดไม่ได้ที่จะกล่าวถามออกมา
ลั่วฉวนตอบรับ “กล่าวมา”
“เถ้าแก่ ข้าคิดซื้อสิ่งที่ทำให้เล่นหอคอยแห่งการทดสอบได้” จี้อู๋ฮุยกัดฟัน เขากล่าวสิ่งที่ติดค้างในใจออกไป
ในความเห็นของเขา หอคอยแห่งการทดสอบนี้วิเศษเกินไป
แต่ด้วยฐานะจักรพรรดิแห่งเทียนชิง จะให้มายังร้านนี้เล่นเกมทุกวี่วันก็ไม่ได้กระมัง?
ดังนั้นความคิดนี้จึงผุดขึ้นมา
“ระบบ มีคนคิดอยากซื้อเครื่องเล่นเสมือนจริง” ลั่วฉวนกล่าวอยู่ภายในใจ
“เขาจ่ายไม่ไหว” ระบบตอบกลับมาอย่างสั้นกระชับ
ลั่วฉวนถึงกับนิ่งงัน
ระบบ เจ้าจะกล่าวตรงไปตรงมาเช่นนี้ไม่ได้!
ลั่วฉวนจึงส่ายศีรษะตอบคำเสียงเบา “เกรงว่าไม่อาจจ่ายได้ไหว”
จี้อู๋ฮุยถอนหายใจ ความผิดหวังปรากฏขึ้นในใจ
อย่างไรแล้วคำตอบของเถ้าแก่ก็เป็นเขาเตรียมใจไว้อยู่แล้ว
ถูกต้องแล้ว อุปกรณ์ที่ราวกับเทพสรรค์สร้างเช่นนี้มีหรือจะจ่ายด้วยผลึกวิญญาณได้?
มันไม่ต่างอะไรกับเหยียดหยามผลงาน!
หลังกล่าวลากับลั่วฉวนเรียบร้อย จี้อู๋ฮุยและเหล่าไป่จึงกลับไปจากร้านต้นตำรับ
ครั้งออกไป ก็ยังไม่ลืมเลือนที่จะซื้อหาสินค้าภายในร้านด้วย
คนทั้งสองจึงซื้อโคล่าและแท่งเครื่องเทศไปคนละหนึ่ง
สำหรับราชวงศ์ การเงินเพียงเท่านี้ไม่ใช่ปัญหา!
และจากนั้นไม่นาน ก็ถึงเวลาที่ปู้หลี่เกื๋อและคณะทั้งสามคนต้องถอนตัว
“ระดับการฝึกฝนเพิ่มขึ้นมาก เหมือนว่าไม่ได้คืบหน้าเช่นนี้มานานแล้ว”
รับรู้ถึงพลังวิญญาณในร่างที่เพิ่มพูน ปู้หลี่เกื๋อจึงเผยความยินดี
ไม่นานก่อนหน้านี้ ตัวเขาเพิ่งก้าวหน้าถึงขอบเขตโชคชะตา ขณะนี้ได้เหยียบย่างสู่ระดับที่สองแล้ว
ความเร็วเช่นนี้ถือว่าน่าทึ่ง!
แน่นอนว่าสาเหตุหลัก ก็เพราะสินค้าในร้านของเถ้าแก่!
ปู้ฉืออีพยักหน้ารับ ระดับการฝึกฝนของนางก็เพิ่มขึ้นไม่ใช่น้อย
แม้ยังห่างจากการเลื่อนระดับ ทว่าก็ไม่ใช่ไกลห่าง
“ข้าถึงกับก้าวหน้าขึ้นแล้ว!”
เจียงเฉิงจวินพลันอุทานร้องออก สีหน้ายามนี้แทบไม่นึกเชื่อตนเอง
เขารู้สึกกระจ่างชัดที่ก้าวหน้าสู่ขอบเขตโชคชะตาระดับที่สาม!
“ล้อกันเล่นหรือ?” ปู้หลี่เกื๋อไม่คิดเชื่อ
การที่ผู้ฝึกตนทั่วไปจะก้าวหน้าได้ เช่นนั้นย่อมเกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ให้พบเห็น
ด้วยไม่ทราบว่ามีการก้าวหน้าอย่างเงียบงันเช่นนี้คงอยู่ ดังนั้นคนทั้งคณะจึงแทบไม่เชื่อสิ่งที่ได้พบเจอ
ที่ปู้หลี่เกื๋อไม่ทราบ คือร้านต้นตำรับแห่งนี้มีระบบรักษาความปลอดภัยติดตั้งเอาไว้
อย่าได้กล่าวถึงขอบเขตโชคชะตาที่ก้าวหน้า แม้เป็นขอบเขตทดสอบเต๋าก็ไม่เกิดคลื่นลมอันใดทั้งสิ้น!
หากคืนก่อนเหล่าไป่ดื่มไวน์หยกที่ภายในร้าน เช่นนั้นคงไม่มีเรื่องเช่นเมื่อคืนก่อนเกิดขึ้น...
“ข้าย่อมไม่หลอกลวง!” เจียงเฉิงจวินกล่าวคำอย่างจริงจัง
เขาไม่ทราบได้อย่างไรว่าตนเองก้าวหน้าขึ้น?
“ก่อนหน้านี้อยู่ในหอคอยแห่งการทดสอบ ดังนั้นจึงไม่ทราบว่าเจียงเฉิงจวินก้าวหน้าขึ้น” เหยาซือหยานกล่าวออกอย่างถูกจังหวะเวลา
คนทั้งสามต้องประหลาดใจไม่น้อยยามได้ทราบ
ถัดจากนั้นจึงกล่าวทักทายลั่วฉวนก่อนจะกลับออกจากร้านกันไป
และถัดจากนั้นไม่นาน ก็ถึงคราวกู่หยุนซีและเจียงเหวิ่นฉางหมดเวลา
ทั้งสองเมื่อกล่าวลาเรียบร้อยจึงเร่งรีบเดินทางกลับโรงเตี๊ยมจันทราเมรัย
“หยุนซี เหวิ่นฉาง ไฉนจึงออกไปตลอดทั้งช่วงกลางวัน?”
รับชมทั้งสองกลับมาถึง มู่หรงไห่เถิงจึงกล่าวถามด้วยความใคร่รู้
นางไม่คิดอยากกล่าวอะไรมากมาย นครจิ่วเหยาเวลานี้มีแต่พยัคฆ์ร้ายมังกรซ่อนเร้นอยู่มากก็ใช่ แต่ตัวตนของศิษย์เหล่านี้ก็สูงศักดิ์จนอดห่วงไม่ได้
เพราะหากเกิดเรื่องราวใดขึ้น นางจะไม่มีทางรับผิดชอบได้ไหว!