บทที่ 60 ออกเดินทางต่อ
บทที่ 60 ออกเดินทางต่อ
ฝ่ามือซ้ายและหมัดขวาเกิดการปะทะกัน พลังต่อสู้ของพวกเขาทั้งสองส่งผลให้เกิดการระเบิดขึ้น คลื่นพลังที่แฝงมากับสายลมโชยทำให้ต้นไม้ใบหญ้าต่างแหลกละเอียดในพริบตา ความรุนแรงของมันทำให้ทั้งสองต่างกระเด็นออกไปคนละทิศละทาง
เสียงหอบหายใจดังถี่ของทั้งสองดังอย่างหนักหน่วง ไม่มีฝ่ายใดได้รับบาดเจ็บ สำหรับกุนหยูแล้วดูเหมือนว่าการต่อสู้ในครั้งนี้จะไม่ง่ายอย่างที่คิด ด้วยระดับการบ่มเพาะที่ห่างชั้นกันมากจนเกินไป หากมีผู้ที่เผอิญได้มาเห็นการต่อสู้ครั้งนี้ คนผู้นั้นคงอดที่จะรู้สึกชื่นชมกุนหยูไม่ได้
“เจ้าช่างแข็งแกร่งยิ่งนัก ข้าไม่เคยพบเจอใครที่มีร่างกายแข็งแกร่งเช่นนี้มาก่อน! ไม่น่าแปลกใจนักว่าเหตุใดบุคคลระดับสูงจึงต้องการจะสังหารเจ้ามากนัก!”
ครึ่งอสูรกล่าวออกมาอย่างหวาดกลัว ตัวมันไม่นึกไม่ฝันมาก่อนเลยว่า จะมีผู้ที่สามารถสู้ข้ามขั้นได้ราวกับตัวเอกในนิทานหลอกเด็ก นี่มันท้าทายสวรรค์เสียยิ่งกว่าเทพเซียนกลับมาจุติเสียอีก!
“หึ! นึกเสียใจแล้ว?”
กุนหยูปรับสภาพร่างกายให้กลับมาเป็นปกติ ก่อนจะเอ่ยออกไปด้วยท่าทียั่วยุ
“อย่าได้คิดว่าข้าจะไม่สามารถเอาชนะเจ้าได้!”
ครึ่งอสูรตอบกลับไปด้วยความเกลียดชังพร้อมกับเรียกอาวุธคู่กายออกมา ธนูสีดำเงาขนาดใหญ่ปรากฏขึ้น ส่งผลให้บรรยากาศรอบตัวของมันเปลี่ยนไป ดวงตาหรี่ลงจ้องมองมาที่กุนหยูพลางหัวเราะออกมาอย่างชั่วร้าย
“อย่าบอกนะว่า เจ้า! เจ้าถนัดการต่อสู้ระยะไกล แล้วก่อนหน้านี้เจ้ายังไม่ได้แสดงฝีมือที่แท้จริง?”
กุนหยูแสร้งทำเป็นกล่าวตกใจ หลังจากเห็นอาวุธคู่กายของอีกฝ่าย ตอนนี้เขารู้แล้วว่าก่อนหน้านี้อีกฝ่ายยังไม่ได้เอาจริง!
“ถูกต้อง ข้าถนัดการต่อสู้ระยะไกล เพราะฉะนั้นเตรียมตัวตายได้แล้ว!”
หลังจากที่มันกล่าวจบร่างของมันเลือนหายไปราวกับภูติพราย กุนหยูเพ่งมองไปโดยรอบพร้อมกับปลดปล่อยจิตสัมผัสอันแรงกล้าออกมา
ฟิ้ว!
ลูกธนูดอกหนึ่งพุ่งฝ่าอากาศมาที่ชายหนุ่มอย่างรวดเร็ว ด้วยสายตาอันเฉียบคมของกุนหยูสามารถมองเห็นได้ว่าลูกธนูนั้นหัวธนูไม่มีอันตรายอะไร แต่ตัวธนูนั้นมีพิษที่ทำให้เป็นอัมพาตอยู่ อีกฝ่ายตั้งใจใช้พลังให้น้อยลงในการยิง เพื่อหลอกล่อให้ตัวเขาใช้ฝ่ามือทำลายที่ตัวลูกธนู แล้วเขาจะติดพิษ!
กุนหยูตัดสินใจหลบลูกธนูแล้วหาตำแหน่งของอีกฝ่าย แต่กลับไม่พบร่องรอยเลยแม้แต่น้อย อีกฝ่ายเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านการซุ่มโจมตีอย่างแท้จริง
“ข้าคงต้องเอาจริงมั่งแล้ว!”
สิ้นเสียงที่กระหายเลือดของกุนหยู บนฟากฟ้าปรากฏกระบี่หนักขนาดเท่าตัวคนหล่นลงมาจากฟ้ามาใส่มือซ้ายของกุนหยูที่รอรับเอาไว้ พลังต่อสู้เพิ่มสูงขึ้นอย่างน่าหวาดหวั่น กระบี่หนักเล่มนี้มีรวดลายที่แปลกประหลาดมันเปล่งรัศมีสีแดงกระหายเลือด ทำให้สิ่งมีชีวิตทุกชนิดต่างร้องขอชีวิตกับมัน มันคืออาวุธคู่กายของกุนหยูมีชื่อว่า ‘กระบี่ยักษ์ราชัน’
กุนหยูจับกระบี่หนักในมือสองข้างก่อนจะฟ้าลงไปที่พื้นอย่างรุนแรง บังเกิดแรงสั่นสะเทือนเลือนลั่นทั่วทั้งพื้นดินพร้อมกับระเบิดออกมาอย่างต่อเนื่องราวกับกับอุกกาบาตถล่มลงมา
“หากหาไม่พบ ก็ไม่ต้องหา!”
กุนหยูกล่าวขึ้นด้วยรอยยิ้มที่น่าสยดสยอง
ตูม ตูม!
พื้นดินยังคงระเบิดอย่างต่อเนื่องไม่มีท่าทีว่าจะหยุด รอบตัวของกุนหยูเปล่งรัศมีเทพสงครามออกมา พลังต่อสู้ของเขาในตอนนี้เหนือขอบเขตผู้เยี่ยมยุทธ์ไปแล้ว!
อ๊ากกกก!
เสียงร้องแห่งความเจ็บปวดดังออกมาพร้อมกับร่างคล้ายมนุษย์ร่างหนึ่งกระเด็นปลิวขึ้นท้องฟ้า ร่างกายของมันเปียกชุ่มไปด้วยเลือด มันตกลงมาที่พื้นพร้อมกับหอบหายใจอย่างหนักหน่วง สีหน้าของมันปรากฏความเจ็บปวดออกมา
กุนหยูเดินไปหาอีกฝ่ายราวกับปีศาจผู้ชอบคร่าชีวิตของผู้คน แต่ละก้าวของเขานั้นทำให้พื้นดินสั่นไหว ท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีโลหิตและมีฝนตกลงมา แต่สิ่งที่น่ากลัวคือฝนนั้นเป็นโลหิต!
ความหวาดกลัวกัดกินใจจิตใจของมันไปจนหมดสิ้น มันคลานมาหาที่เท้าของชายหนุ่มพร้อมกับกล่าวขึ้นมาด้วยน้ำเสียงอ้อนวอนว่า
“นายท่าน! ได้โปรดปล่อยข้าไปเถอะ! ข้าผิดไปแล้ว ข้ามันโง่งมที่คิดริอาจจะต่อกรกับท่าน! ได้โปรดไว้ชีวิตข้าด้วย”
ฮา ฮ่าๆๆๆ!
กุนหยูหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่งก่อนจะกล่าวขึ้นมาว่า
“ตอนแรกคิดจะสังหารข้า แล้วตอนนี้คิดจะขอให้ข้าไว้ชีวิตเจ้า? ขอบอกเลยว่า...ไม่! ข้าไม่ได้ดื่มเลือดสดๆมานานมากแล้ว ขอข้าลิ้มลองหน่อยเถอะ!”
หลังจากที่กุนหยูกล่าวจบ เขาพลันใช้กระบี่หนักในมือ ฟาดฟันใส่ครึ่งอสูรที่นอนอ้อนวอนอยู่ตรงหน้าอย่างเลือดเย็น และยังคงฟันต่อเนื่องไม่หยุดหย่อน!
ปัง!
แต่ละการฟาดฟันนั้นทำให้ร่างของอีกฝ่ายระเบิดออกทันทีพร้อมกับระเบิดออกมาอย่างต่อเนื่อง หากมีผู้อื่นมาพบเห็นคงได้เสียสติไปแล้ว หรือหากมีจิตใจที่เข้มแข็งคงได้หมดสติไปแทน กุนหยูเลียเลือดที่กระเด็นมาแถวมุมปากของตนเอง ก่อนจะเช็ดเลือดออกไปทั้งหมด
“อ้า ไม่ได้สัมผัสเลือดมานาน มันช่างหอมหวานยิ่งนัก!”
กุนหยูเผยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสุขก่อนจะพุ่งทะยานจากไปอย่างรวดเร็ว ตอนนี้กุนหยูตัดสินใจว่ายังไม่คืนร่างให้กุนไท่ เพราะเขาอยากออกมาข้างนอกตั้งนานแล้ว แต่กลับไม่มีโอกาส แต่ตอนนี้มีพวกเผ่าโลหิตอสูรตามล่ากุนไท่อยู่ พวกมันจดจำรูปลักษณ์ของชายหนุ่มได้รวมถึงลักษณะปราณด้วย แต่สำหรับกุนหยูนั้นไม่ใช่ แม้จะมีใบหน้าที่เหมือนกัน แต่สีผมและสีนัยน์ตานั้นกลับแตกต่างกัน รวมถึงลักษณะของปราณที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงอีกด้วย!
กุนหยูหาลำธารพร้อมกับชำระร่างกายเพื่อลบกลิ่นเลือดออก และเปลี่ยนอาภรณ์ใหม่เพราะตัวเก่ามีเลือดติดเต็มไปหมด เขาสวมใส่อาภรณ์สีแดงและคลุมด้วยผ้าคลุมสีดำ ทำให้เขาดูหล่อเหลาเสียยิ่งกว่ากุนไท่มากนัก ดูราวกับบุตรของเทพเจ้าที่สามารถทำให้แดนเทพเกิดความโกลาหลได้ด้วยใบหน้าเพียงอย่างเดียว
เขาหยิบแผนที่ขึ้นมาเปิดดูว่าตนนั้นอยู่ที่ใด เมื่อดูเสร็จแล้วชายหนุ่มมองซ้ายมองขวาพร้อมกับวิ่งออกไปทิศทางหนึ่ง กุนหยูใช้จิตสัมผัสหาสัตว์อสูรที่เป็นจำพวกบินได้ เพื่อที่จะได้เอาไว้สำหรับการเดินทาง
แกว้ก!
เสียงของสัตว์อสูรประเภทนกดังขึ้นข้างหน้าของกุนหยู ตอนนี้เขาได้มาถึงที่อยู่ของมันแล้ว! มันเป็นถ้ำขนาดไม่ใหญ่มากนัก ตรงหน้าถ้ำมีนกขนาดใหญ่สูง 3 เมตร มีขนสีดำที่ปกคลุมทั่วร่างของมัน ปีกของมันนั้นมีถึงสี่ปีก มันขึ้นชื่อทางด้านความเร็วเมื่ออยู่บนอากาศ แต่เมื่อมันอยู่บนพื้นนั้นมันจะมีความอ่อนแอเป็นอย่างมาก
กุนหยูเข้าไปหามันอย่างรวดเร็ว พร้อมกับใช้พลังจิตที่แข็งแกร่งกดดันมันจนยอมศิโรราบแต่โดยดี และใช้มันเป็นพาหนะในการเดินทาง