ตอนที่แล้วตอนที่ 103-104
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 107-108

ตอนที่ 105-106


กำลังโหลดไฟล์

ตอนที่ 105 : ความแตกต่าง

ปู้ฉืออีเผยสีหน้าเคร่งเครียด

อีกฝ่ายคือเหล่าไป่ เป็นนางกดดันไม่ใช่น้อย!

ปู้ฉืออีโจมตีต่อเนื่องอ เหล่าไป่เพียงต้านรับไปเรื่อย

สีหน้าปู้ฉืออียิ่งมายิ่งน่าเกลียด

เพราะนางทราบ ว่าเหล่าไป่เผชิญหน้ากับนางก็เสมือนก้อนฝ้ายที่แทบไม่ต้องออกแรงใด

ไม่ว่านางโจมตีดุดันเพียงใด ผลลัพธ์ก็คือไม่ได้อะไร ไม่ส่งผลอะไรแม้แต่น้อย

และเมื่อเวลาผันผ่าน ปู้ฉืออีจึงแปลกใจที่พบว่าการเคลื่อนไหวของนางโดนผลกระทบจากเหล่าไป่!

หรือก็คือ นางไม่อาจหยุดการโจมตีได้

เมื่อใดหยุดการโจมตี เมื่อนั้นคือนางพ่ายแพ้!

“เหตุใดเหล่าไป่ไม่โจมตี? เอาแต่ตั้งรับโดยตลอดเช่นนั้น?” รับชมภาพบนหน้าจอ ปู้หลี่เกื๋อกล่าวคำถามออก

เจียงเฉิงจวินเองก็สงสัยเช่นเดียวกัน

สำหรับคนทั้งสอง เหล่าไป่คล้ายถูกการโจมตีของปู้ฉืออีสะกดเอาไว้

กระนั้นทั้งสองก็รู้ตัวดี ว่าเรื่องราวมันไม่อาจเป็นเช่นนั้น

เหล่าไป่คือบุคคลแข็งแกร่งขอบเขตทดสอบเต๋าระดับที่เก้า ปู้ฉืออีก็เพียงขอบเขตจิตวิญญาณเท่านั้น

แม้เป็นในอารีน่า ขอบเขตพลังเท่าเทียมกัน กระนั้นทัศนวิสัยและประสบการณ์เป็นสิ่งที่ไม่อาจเทียบเปรียบ!

ด้วยเหตุนี้ คนทั้งสองจึงรู้สึกว่าตนอ่านสถานการณ์ไม่ออก

จี้อู๋ฮุยส่ายศีรษะพร้อมเผยยิ้ม “ขอบเขตพลังตอนนี้ไม่อาจมองเห็น เป็นปกติที่ไม่อาจเข้าใจ นับตั้งแต่เริ่ม ทิศทางการต่อสู้เป็นเหล่าไป่ควบคุมเอาไว้ การโจมตีของปู้ฉืออีจึงยากที่จะเข้าถึงตัว ขณะนี้ใกล้ตัดสินกันแล้ว”

เพียงจี้อู๋ฮุยกล่าวคำจบ เหล่าไป่ก็ลงมือแล้ว

กิ่งไม้แห้งเหี่ยวไม่ทราบว่าปรากฏในมือเหล่าไป่เมื่อใด ขณะนี้มันจ้วงแทงออกซึ่งหน้า

มหาเต๋าสู่พื้นฐาน!

เพียงหนึ่งกระบวนท่า ปู้ฉืออีรับรู้ได้ว่ากำลังเผชิญหน้ากับโลกคนละใบ

แม้ขอบเขตพลังเทียบเท่า กระนั้นการใช้พลังวิญญาณไม่อาจเทียบเปรียบกันได้!

อึดใจถัดมา ดาบยาวของปู้ฉืออีพลันต้องแหลกออกเป็นเสี่ยงพร้อมร่างสลายกลายเป็นแสง

“หนึ่งกระบวนท่า! เพียงหนึ่งกระบวนท่านับตั้งแต่เริ่มจนจบการต่อสู้!” ปู้หลี่เกื๋อกล่าวออกอย่างไม่คิดเชื่อ

“ข้าแพ้แล้ว” ปู้ฉืออีถอดหมวกออกพร้อมกล่าวคำเบา

“คุณหนูสกุลปู้ ตอนนี้คงทราบแล้วกระมังว่ามีจุดอ่อนที่ตรงใด?” เหล่าไป่เผยยิ้ม

ปู้ฉืออีพยักหน้ารับ

นับตั้งแต่เริ่มการประลอง นางก็ทราบว่าผลลัพธ์ต้องออกมาเป็นเช่นนี้

ไม่เพียงแต่ขาดแคลนประสบการณ์การต่อสู้ แต่ยังมีเรื่องของกระบวนท่า

เหล่าไป่ประหนึ่งหยกอันบริสุทธิ์ ทุกการเคลื่อนไหวราวกับออกมาจากสัญชาตญาณ การเคลื่อนไหวอย่างเสียเปล่าหาได้มีไม่!

จิตสำนึกการต่อสู้ มันราวกับผสานรวมเข้ากับร่างของเหล่าไป่โดยสมบูรณ์!

ประสบการณ์เช่นนี้ไม่ใช่ว่าใครก็สามารถมีได้!

และในร้านต้นตำรับขณะนี้ มันเป็นสถานที่ซึ่งทำให้รับรู้ถึงได้

เพราะการประลองในหอคอยแห่งการทดสอบ มันไม่มีความต่างอะไรกับโลกภายนอก

ภายในเกม ทุกความก้าวหน้าสามารถตระหนักรู้ได้!

ถัดจากนี้ จึงเป็นช่วงเวลาเล่นหอคอยแห่งการทดสอบแล้ว

กล่าวขานกันว่าต่อสู้ประลองต่อกันคือวิธีการอันดีที่สุดที่จะเพิ่มพูนกำลัง ปู้ฉืออีจึงเข้าท้าทายหอคอยแห่งการทดสอบโดยทันที

ส่วนเหตุผลที่โหมดอารีน่าไม่ถูกเลือกนั้น...

สาเหตุก็เพราะไม่มีคู่ต่อสู้ที่สมน้ำสมเนื้อ

ปู้หลี่เกื๋อและเจียงเฉิงจวินใกล้เคียงต่อกัน เหล่าไป่และจี้อู๋ฮุยก็ไม่อาจเป็นคู่ประลองกับนางได้ตลอด

ส่วนเถ้าแก่และเหยาซือหยาน...

ไม่คิดถึงจะดีกว่าแล้ว

เหล่าไป่และจี้อู๋ฮุยต่างก็เลือกเล่นโหมดความท้าทาย

จี้อู๋ฮุยค่อนข้างตื่นเต้นยามได้พบเห็นสัตว์อสูรปรากฏตัวออกมาเป็นครั้งแรก

กระนั้นขอบเขตพลังกลับกลายเป็นหลอมกาย เรื่องนี้ส่งผลให้เขาต้องปรับตัวเข้าหาสักระยะเวลาหนึ่ง

ส่วนปู้หลี่เกื๋อและเจียงเฉิงจวิน คนทั้งสองเลือกเข้าโหมดอารีน่าอย่างไม่รีรอ

ด้วยเพราะกำลังคนทั้งสองแตกต่างกันไม่มาก ต่างก็อยู่ที่ขอบเขตโชคชะตา และประสบการณ์การต่อสู้ก็ไม่ได้ต่างกันเท่าใด

แน่นอนว่าก่อนเข้าหอคอยแห่งการทดสอบ คนทั้งสามยังไม่ลืมที่จะซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป

ความเร็วการฝึกฝนเพิ่มขึ้นสิบแปดเท่าภายในหนึ่งชั่วโมง โอกาสนี้ต้องไม่สูญเปล่า

ตอนที่ 106 : เถ้าแก่ผู้ละเลยหน้าที่

คนทั้งห้าเข้าสู่หอคอยแห่งการทดสอบ ร้านต้นตำรับกลับคืนสู่ความสงบอีกครั้ง

กระนั้นความสงบคงอยู่ได้ไม่นาน

เพราะเสียงร้องของเจียงเฉิงจวินและปู้หลี่เกื๋อดังไปมาไม่หยุด

“บ้าฉิบ เจียงเฉิงจวิน ไอ้คนเล่นไม่ซื่อ!”

“ว่าอะไร แพ้แล้วไม่ยอมรับงั้นหรือ?”

“คดโกงมีหรือยอมรับได้ ใช้ความสามารถมาสู้กันใหม่อีกครั้ง!”

“สู้ก็สู้ ผู้ใดกันกลัวเกรง...”

เรื่องราวก็เป็นเช่นนี้

แม้สามารถพูดในเกมโดยให้โลกจริงสงบสุขก็ทำได้ แต่ทั้งสองกลับเผยอารมณ์โพล่งออก...

เรื่องราวที่เกิดขึ้นไม่ต่างอะไรกับเด็กตีกันในร้านเกมยามพ่ายแพ้...

เหล่าไป่และจี้อู๋ฮุยต่างต้องปิดการรับรู้ภายนอก เพราะไม่เช่นนั้นอาจกระตุ้นโทสะจากเสียงรบกวนขึ้นมาได้

ปู้ฉืออีไม่ใช่ นางรู้สึกว่ารับฟังความวุ่นวายของคนทั้งสองเป็นการเสริมสร้างความสามารถในการเฉยเมยต่อโลกหล้าให้แก่นาง...

เหยาซือหยานนั่งด้านหลังโต๊ะพลางมองในร้าน

ลั่วฉวนขณะนี้ย้ายไปเอนกายพักผ่อนหน้าร้านอาบไล้แสงตะวันเหมือนเช่นเคย

แม้ว่ากำลังต้องเพิ่มขึ้น แต่ก็ควรต้องผ่อนคลาย จะอยู่แต่ในเกมทั้งวี่วันไม่ใช่เรื่องดี

เอาแต่สู้และสังหารนั้นไม่ดีต่อสุขภาพจิต ดังนั้นต้องอาบไล้แสงตะวันหาความผ่อนคลายเสียบ้าง!

ยิ่งพยายามยิ่งแข็งแกร่งก็ใช่ แต่ต้องไม่เร่งรีบจนเกินไป

ลั่วฉวนหลี่ดวงตาอิ่มเอมกับแสงตะวันอบอุ่น ความสงบเริ่มผุดขึ้นภายในใจ...

ก็เป็นเหมืองดังเมื่อวาน กู่หยุนซีและเจียงเหวิ่นฉางต่างมาถึงในตรอก

ทันทีเมื่อเดินเข้าตรอกมา สิ่งต้องตาเช่นเดิมที่ควรพบเห็นก็คือลั่วฉวนที่นอนเอนกายรับแสงตะวัน

“เถ้าแก่ไม่รู้สึกว่าละเลยหน้าที่บ้างเลยหรือ?” กู่หยุนซีอดไม่ได้ที่จะกระซิบ

“เหมือนปลาตากแห้งไม่มีผิด” เจียงเหวิ่นฉางกล่าวเสริม

แม้ทั้งสองทราบว่าลั่วฉวนแข็งแกร่งและเฉยชา อีกฝ่ายไม่ได้เผยซึ่งออร่าของยอดฝีมือเหมือนเหยาซือหยานแต่อย่างใด

เพราะเหตุนั้นกู่หยุนซีและเจียงเหวิ่นฉางจึงกล้ากล่าวเช่นนี้ออกมา

ร้านต้นตำรับแห่งนี้มีแต่เรื่องประหลาด!

ระหว่างพูดคุยไปพลาง คนทั้งสองจึงเดินไปหยุดตรงหน้าลั่วฉวน

“เถ้าแก่อาบแสงแดดอีกแล้วหรือ!” เจียงเหวิ่นฉางทักทายพร้อมเผยยิ้ม

ดวงตะวันถูกบดบัง ลั่วฉวนจึงต้องลืมตาขึ้น

รับชมสองเด็กสาว เขาจึงพยักหน้ารับพร้อมตอบคำเบา “วันนี้หอคอยแห่งการทดสอบมีโหมดการเล่นใหม่เพิ่มเข้ามา”

“โหมดการเล่นใหม่? เหวิ่นฉางมัวรออะไร รีบไปรับชม!” กู่หยุนซีเผยดวงตาเป็นประกายพร้อมดึงเจียงเหวิ่นฉางเข้าไปในร้าน

“เดี๋ยว อย่าดึง...” เจียงเหวิ่นฉางอับจนขณะโดนลากไป กระนั้นก็ไม่ลืมกล่าวกับลั่วฉวน “เถ้าแก่ พวกเราขอตัวก่อน”

ลั่วฉวนจึงพยักหน้ารับพร้อมหลับตานอนอาบไล้แสงตะวันต่อ...

“สวัสดีพี่ซือหยาน!”

คนทั้งสองเข้ามาในร้านพร้อมกล่าวทักทายเหยาซือหยานที่โต๊ะ

เหยาซือหยานเผยยิ้มรับ “วันนี้ก็มาเล่นหอคอยแห่งการทดสอบหรือ?”

“ถูกต้องแล้ว!” กู่หยุนซีพยักหน้ารับ “เถ้าแก่เพิ่งกล่าว ว่าหอคอยแห่งการทดสอบมีของใหม่เพิ่มเข้ามา แนะนำให้พวกเราแล้ว!”

เหยาซือหยานจึงชี้ไปทางปู้หลี่เกื๋อและเจียงเฉิงจวิน “โหมดอารีน่า เป็นสถานที่ให้ผู้เล่นปะทะต่อกันอย่างอิสระ”

ด้วยไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น ปู้หลี่เกื๋อและเจียงเฉิงจวินตะโกนร้องออกมาอย่างถูกจังหวะ

ทั้งกู่หยุนซีและเจียงเหวิ่นฉางต่างนิ่งค้าง

นั่นเล่นเกมหรือว่าอะไร?

“หือ? สองคนตรงนั้นใครกัน?” เจียงเหวิ่นฉางพบเห็นเหล่าไป่และจี้อู๋ฮุย ขณะนี้กล่าวถามด้วยความสงสัย

แม้ได้พบเจอเหล่าไป่เมื่อวาน กระนั้นวันนี้แตกต่างอย่างมหาศาล เป็นผลให้ทั้งสองไม่อาจจำจดได้

เมื่อคืน แม้มู่หรงไห่เถิงและหยิงอู๋จี้ทราบว่าเหล่าไป่ข้ามผ่านทัณฑ์สายฟ้า กระนั้นก็ไม่ได้บอกกล่าวต่อเหล่าศิษย์แต่อย่างใด

ดังนั้นทั้งสองจึงไม่ทราบเรื่องราวแม้แต่น้อย

ส่วนว่าจี้อู๋ฮุยเป็นใครนั้น...

ไม่ใช่ทุกคนที่ทราบว่าจักรพรรดิแห่งเทียนชิงหน้าตาเป็นอย่างไร

.

“พบเจอกันเมื่อวานลืมแล้วหรือ?” เหยาซือหยานเผยยิ้ม

กู่หยุนซีและเจียงเหวิ่นฉางเผยความสับสน

พบเจอเมื่อวาน?

ไฉนจึงไม่ทราบ?

“เป็นเหล่าไป่” พบเห็นสีหน้างงงันของคนทั้งสอง เหยาซือหยานจึงบอกกล่าวออกไป

“พี่ซือหยานล้อกันเล่นหรือ? เหล่าไป่จะเยาว์เช่นนี้ได้อย่างไรกัน?” คนทั้งสองยังไม่คิดเชื่อ

“เหล่าไป่รอดพ้นจากทัณฑ์สายฟ้าเมื่อคืน ขณะนี้สำเร็จคืบหน้าสู่ระดับที่เก้า ดังนั้นจึงคืนความเยาว์วัย” เหยาซือหยานกล่าวบอก

กู่หยุนซีและเจียงเหวิ่นฉางเผยสีหน้าตื่นตะลึง

ทันใดนี้เองคนทั้งสองค่อยจดจำได้ ว่าเมื่อวานพบเห็นเรื่องราวใหญ่โตอันใด

อย่างเหนือความคาดคิด ต้นตอของเรื่องราวเมื่อวานถึงกับเป็นเหล่าไป่!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด