บทที่ 114: กระดูกมังกร
ถ้าไม่เคยเห็นโรงงานสำหรับสร้างเรือและท่าเรือในเมืองแห่งรุ่งอรุณแล้วล่ะก็ คนๆ นั้นคงไม่มีทางเชื่อคำบอกเล่าของมัน
ไม่มีใครจินตนาการได้ถึงสุดยอดโรงงานสร้างเรือที่สูงและกว้างขนาดเท่าสนามฟุตบอลสิบสนามรวมกัน พวกเขาอาจไม่เข้าใจว่าทำไมเมืองรุ่งอรุณถึงได้สร้างโรงงานสร้างเรือขนาดใหญ่ไว้
โรงงานแห่งนี้มีทหาร 2,000 คนเฝ้าไว้ ทหารเหล่านี้ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของกองทัพและหน้าที่ของพวกเขาคือการคุ้มกันโรงงาน แน่นอนว่า หน้าที่ของพวกเขายังรวมถึงการดูแลท่าเรือซึ่งอยู่ห่างจากโรงงานออกไปสามกิโลเมตร ถ้ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้น นักรบโถวเหยินและเหล่าทหารที่ทะเลสาบสายรุ้งจะสามารถเข้ามาเสริมได้ในทันที
ไม่มีหาดทรายสีทองที่ทางใต้ มีเพียงแนวปะการังที่แข็งราวกับหินซึ่งตั้งอยู่เหนือระดับน้ำทะเล
แต่ด้วยสภาพภูมิศาสตร์ที่ตั้งของมัน ลมทะเลส่วนใหญ่จึงค่อนข้างสงบ และยากที่จะเกิดพายุ
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากพวกเขาอยู่ในเขตร้อนชื้นตามแนวชายฝั่งจึงทำให้มีฝนตกอยู่เรื่อยๆ
เมื่อวิลเลียมผ่านประตูเมืองเข้าไปในเมือง ท้องฟ้าก็มืดลง
เขารู้ว่าฝนกำลังจะตก เขาจึงตบบั้นท้ายของหมีใหญ่และให้มันตามองครักษ์ไปหลบฝน จากนั้นเขาก็เดินไปที่ห้องสร้างเรือที่ใหญ่ที่สุดในโรงงาน
ในขณะที่เขาเข้าไปในห้อง เขาก็อดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นมองสุดยอดเรือรบที่เป็นของเขา นั่นก็คือเรือรุ่งอรุณ
ใช่แล้วล่ะ
เขาสังเกตเรือรบขนาดใหญ่ มันมีสามชั้นและเสากระโดงเรือสามอัน มันถูกทาด้วยสีดำทั้งหมดและมันก็เปล่งประกายราวกับเงิน นี่คือสุดยอดเรือรบของเขา
มันมีความยาวถึง 121 เมตร กว้าง 32 เมตร สำหรับการเดินทางระยะสั้น มันสามารถรองรับกองทัพทั้งหมดได้ และส่วนสำหรับการเดินทางระยะยาว มันสามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึง 1,200 คน
ดาดฟ้าและส่วนลำตัวของเรือส่วนใหญ่ประกอบด้วยฮอร์นบีมดำคุณภาพระดับทองที่ผสมกับมิทริล แม้ว่าเรือเกือบทั้งลำจะถูกทาเป็นสีดำ แต่มันก็ยังคงส่องแสงสีเงินเป็นประกาย
เรือขับเคลื่อนด้วยพลังลม นอกเหนือจากเสากระโดงเรือที่ยังไม่ได้ติดตั้งแล้ว เรือยังสามารถพึ่งพาคริสตัลเวทย์มนตร์ 99 ชิ้นเพื่อเสริมพลังได้อีกด้วย มันสามารถเร่งความเร็วได้ระหว่าง 180 ถึง 260 นอตต่อชั่วโมง
นอกจากนั้นยังมีรูปืนใหญ่ 108 รูที่ด้านข้างของเรือ
ท้ายที่สุดแล้ว โลกนี้มีดินปืนและสไนเปอร์…
โดยเฉพาะปืนใหญ่เวทย์ที่เป็นอาวุธระดับสูงมาก นอกจากอาณาจักรมนุษย์ที่ทรงพลังและอาณาจักรเอลฟ์อีกสองสามอาณาจักรแล้ว ก็ไม่มีใครครอบครองปืนใหญ่เช่นนี้อีก
พวกโนมส์และคนแคระได้พัฒนาปืนใหญ่เช่นกัน แต่ปืนใหญ่เหล่านี้ถูกใช้เพื่อเสริมกำลังโจมตีของอาณาจักรและราชอาณาจักร พวกเขานั้นถือเป็นอาวุธเชิงกลยุทธ์ในช่วงกลางของเกม
นอกจากนี้แร่ไนเตอร์ยังจัดเป็นทรัพยากรของชาติ มันไม่ใช่สิ่งที่สามารถซื้อขายหมุนเวียนได้ตามท้องตลาด
“โชคดีที่เป็นเวอร์ชัน 1.0 และหมู่บ้านเหล่านี้เป็นเพียงระดับเริ่มต้นเท่านั้น หากอาณาจักรเหล็กและอาณาจักรลาวาดำมีปืนใหญ่เมืองแห่งรุ่งอรุณก็จะไม่มีโอกาสพัฒนา” วิลเลียมถอนหายใจ
ไม่ใช่ว่าเมืองแห่งรุ่งอรุณไม่สามารถป้องกันปืนใหญ่ได้
แต่ปัญหาคือการป้องกันเช่นนี้จำเป็นต้องมีกำแพงเมืองที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นและวิลเลียมไม่มีนักเวทย์เพียงพอที่จะร่ายมนต์ให้กับกำแพงเมืองดังกล่าว
เขาสามารถทำการซื้อขายลับกับโมเสสได้หรือไม่?
เป็นไปไม่ได้! โมเสสจะไม่ทำอะไรสักอย่างแน่นอน และวิลเลียมก็ไม่ต้องการขายตัวเขาเช่นกัน...
โชคดีที่เมืองแห่งรุ่งอรุณตั้งอยู่ทางตอนใต้ซึ่งเป็นแหล่งที่มีแร่มากที่สุดในทวีปรีเจนดารี แน่นอนว่าไนเตอร์ก็รวมอยู่ในอุปกรณ์เหล่านี้ อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าเสียดายที่ในบรรดา โนมส์ที่โอดอมได้นำมาไม่มีใครสืบทอดทักษะการทำดินปืนหรือปืนใหญ่เลย แม้ว่าพวกเขาจะมีภูมิปัญญาในอดีต แต่ทักษะเหล่านี้ก็สูญหายไปแล้ว
ดังนั้นหลุมปืนใหญ่ 108 รูจึงสามารถใช้เป็นรูสำหรับยิงธนูได้เท่านั้น
แต่พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น วิลเลียมยังไม่พบมือปืน มันเป็นอาชีพที่ลับ ที่สุดแล้วสไนเปอร์ก็เป็นอะไรที่ดุร้ายแต่หายาก
ขณะที่เขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้
เอลฟ์วัยกลางคนที่สวมชุดคลุมสีเทาวิเศษก็ก้าวเข้ามาในห้อง วิลเลียมเลิกคิ้วและยิ้ม “แอนดรูว์ เรือรุ่งอรุณใกล้เสร็จแล้วหรือยัง”
“โอ้ ท่านลอร์ด” แอนดรูว์เป็นช่างสร้างเรือหลวงและเอลฟ์มูนไลท์ เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญที่สามารถสร้างเรือรบระดับอีปิคได้
การสร้างเรือรบไม่ใช่เรื่องง่าย ไอเท็มเชิงกลยุทธ์เช่นเรือรบเหล่านี้แตกต่างจากอุปกรณ์ทั่วไป พวกมันไม่มีระดับ แม้แต่ในอาณาจักรมนุษย์ มันก็ถือเป็นของล้ำค่า
หากไม่เป็นอย่างนั้น วิลเลียมก็คงไม่ได้ใช้จ่ายไปกับเรือรบมากมาย ทรัพยากรทั้งหมดที่เขาใช้ไปนั้นมีมูลค่าหลายแสนเหรียญทอง ถ้าเขาไม่ได้ใช้มันไปกับเรือรบ เขาก็คงจะสามารถซื้ออุปกรณ์รีเจนดารีระดับกลางได้ครึ่งหนึ่งชุดเลยทีเดียว…
อาจกล่าวได้ว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายแม้แต่กับอาณาจักรมนุษย์ที่จะสร้างเรือรบแบบนี้
ปัญหาใหญ่คือการหาคนต่อเรือ การรวบรวมวัสดุยังทำให้เกิดปัญหา ที่สำคัญกว่านั้นคืออาณาจักรมนุษย์ในทวีปรีเจนดารีมักไม่ลงทุนกับเรือ
แอนดรูว์เป็นนักเวทย์ธาตุไม้เลเวล 56 แต่อาชีพเสริมของเขามีความสำคัญกว่าอาชีพหลักของเขามาก นอกจากนี้เขายังฝึกฝนอาชีพหลักเพื่อสนับสนุนอาชีพเสริมของเขาอีกด้วย หากเขาไม่ทำเช่นนั้นแอนดรูว์ซึ่งมีอายุถึง 100 ปีก็คงจะไม่อยู่ในเลเวลที่ต่ำเช่นนี้
“มาสเตอร์ มันไม่ง่ายอย่างที่ท่านพูดเลย” แอนดรูถอนหายใจ “ท่านขอให้เราสร้างตัวเรือด้วยกำลังทั้งหมดของเรา เรามั่นใจว่าจะใช้วัสดุที่ดีที่สุดที่เรามี”
“ดังนั้นเราจึงเลือกต้นไม้เหล็กสีดำจากป่าแบล็คลีฟซึ่งเหมาะสมที่สุด…”
“หลังจากที่เราซื้อต้นไม้เหล็กดำอันล้ำค่าแล้ว เราต้องร่ายมนต์ให้มันแปรรูป ทำให้แห้ง และใส่มิทริลเข้าไป จากนั้นเราต้องร่ายมนต์อีกครั้งและจัดให้…”
“แต่โครงของเรือลำนี้แข็งแรงมาก ข้าไม่สามารถควบคุมมันได้อีกต่อไป กระดูกมังกรธรรมดาคงไม่สามารถทนได้”
“กระดูกมังกร?” วิลเลียมหัวเราะอย่างมีเลศนัย ดูเหมือนว่าแอนดรูว์และคนอื่นๆ จะไม่รู้เรื่องการสังหารมังกร
เมื่อคิดได้ถึงเรื่องนี้ เขาจึงขอให้พนักงานในโรงงานต่อเรือขยับออกไปข้างนอกและจัดที่ว่าง แอนดรูว์และพนักงานทำตามที่ได้รับคำสั่ง
จากนั้น ด้วยการโบกมือของวิลเลียม
ศพของมังกรไฟความยาวหลายสิบเมตรก็โผล่ขึ้นมาจากอากาศ!
"มังกร!!!"
“พระเจ้า มังกรยักษ์ นั่นคือมังกรยักษ์งั้นหรือ?”
“มังกรตัวนี้มาจากไหน? มันตายแล้วเหรอ?”
แอนดรูว์ไม่สนใจเสียงตะโกนจากคนอื่น ๆ เขาเดินเข้าไปอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเองกับศพของมังกรไฟ เขาสัมผัสเกล็ดที่หักของมังกร, เปลือกตาของมัน, หรือแม้แต่ปากและฟันของมัน...
ต่อจากนั้น
แอนดรูกลืนน้ำลาย หูที่แหลมคมของเขาอ่อนลงและเขาก็ตกอยู่ในความตะลึง “มาสเตอร์ ท่านเป็นผู้สังหารมังกรหรือเปล่า”
“ใช่ เราเผลอฆ่ามังกรไฟที่ภูเขาหิมะแห่งทะเลตะวันออกไป” วิลเลียมยักไหล่เหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่
ในขณะที่เขาพูดจบ
ทั้งโรงงานก็เกือบจะกลายเป็นฉากวุ่นวาย
นักต่อเรือทั้งหมดอดไม่ได้ที่จะคุกเข่าลง พวกเขามองไปที่ลอร์ดของพวกเขาอย่างชื่นชมผู้ซึ่งตอนนี้เป็นถึงดราก้อนสเลเยอร์!
ทันใดนั้นแอนดรูว์ก็เข้าใจ เขากำลังจะคุกเข่าลงบนพื้นแต่วิลเลียมดึงเขาขึ้นมาเสียก่อน “เรือยาว 121 เมตร มังกรไฟตัวนี้จะเล็กเกินไปสำหรับมัน เจ้าจะสามารถหลอมรวมกระดูกมังกรเข้าด้วยกันและเพิ่มวัสดุหายากเพื่อให้เหมาะกับเรือรบได้หรือไม่?”
“ได้แน่นอน แต่เราต้องการมิทริลมากกว่านี้” ดวงตาของแอนดรูว์เป็นสีแดง เขาต้องการที่จะกลืนมังกรไฟเข้าไปในอึกเดียว
ดวงตาของเขามัวราวกับว่าเขากำลังคิดอะไรบางอย่าง แต่เขาก็ยังพูดต่อ “มาสเตอร์ ถ้าท่านไม่ต้องการปีกเหล่านี้ ข้าสามารถทำให้มันเป็นเสากระโดงเรือได้ ท่านต้องการเกล็ด, เลือด, ผลึกมังกร…”
“อะแฮ่ม นอกเหนือจากกระดูกมังกรแล้วเราต้องการทุกอย่าง…” วิลเลียมหยุดเขาจากการฝันกลางวันอย่างรวดเร็ว
แอนดรูว์เข้าใจ เขายอมให้วิลเลียมเก็บเลือดและผลึกมังกรเอาไว้อย่างแน่นอน เขาเผลอละโมบเกินไป
วิลเลียมเคารพจิตวิญญาณของแอนดรูว์ในด้านการค้นคว้า เรือรุ่งอรุณมีความสำคัญมาก แต่ส่วนอื่นๆ ของมังกรก็สำคัญไม่แพ้กันสำหรับเขา เขาจึงทำได้เพียงยักไหล่ “เราให้ได้แค่กระดูกมังกร สิ่งที่เจ้าต้องทำคือนำกระดูกมังกรออกให้หมด”
“แต่ปีกมังกรมันหนามาก ท่านจะสร้างเสากระโดงจากพวกมันได้อย่างไร”
“พวกมันหนามาก นอกจากนี้ยังมีเกล็ดที่หนาเป็นชั้นๆ มันต้องหนักมากอย่างแน่นอน แต่มาสเตอร์ ท่านได้คิดถึงเรื่องนี้หรือไม่? พวกมันคือปีกของมังกรยักษ์ มันเป็นวัสดุเวทย์”
“เมื่อมังกรยักษ์กระพือปีกมันไม่ได้อาศัยพลังจากปีกเพียงอย่างเดียว”
“ปีกอาศัยลมเพื่อให้มังกรยักษ์บินขึ้นไปในอากาศได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นเมื่อปีกมังกรสัมผัสกับลมพวกมันจะเบามาก”
“ดังนั้นถ้าเราตัดและยืดปีกมังกร และเสริมอาคมสักหน่อย เราก็สามารถเปลี่ยนมันให้เป็นเสากระโดงคุณภาพสูงได้ มันจะมีพลังป้องกันสูงอีกด้วย นี่จะเป็นสิ่งที่เสากระโดงอื่นเทียบไม่ได้” แอนดรูว์มองไปที่ศพของมังกรยักษ์และอดไม่ได้ที่จะสัมผัสศพมังกร พฤติกรรมของเขาเหมือนกับเด็กตอนที่ได้ของเล่นใหม่ เขาไม่สามารถปล่อยมันลงได้เลย
วิลเลียมหัวเราะทันที “แล้วเจ้าจะรออะไรอีก? กระดูกและปีกของมังกรเป็นของเจ้า แค่อย่าแตะต้องส่วนที่เหลือและปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเรา”
"จริงๆหรือ?"
“แอนดรูว์ เราเชื่อใจเจ้า” วิลเลียมตบไหล่ของเขาอย่างจริงจัง
สักพัก
ดวงตาของแอนดรูว์ก็เปล่งประกาย มันดูราวกับว่าเขาได้เห็นชีวิตใหม่ของเขา ดูเหมือนว่าเขาจะพบภารกิจของเขาแล้ว
ดังนั้น เขาจึงโยนเสื้อคลุมวิเศษทิ้งและกำกริชของเขา เขาคำราม “เริ่มทำงานกันเถอะ ทุกคน กลับไปทำงาน ข้าจะแล่มังกรไฟเอง และจำเอาไว้ว่าใครก็ตามที่กล้าขโมยเนื้อมังกรไฟ ข้าจะทำให้มันจมลงในมหาสมุทรด้วยตัวข้าเอง!”