ตอนที่ 169 ฉากเท่ๆเกิดปัญหา?
ตอนที่ 169 ฉากเท่ๆเกิดปัญหา?
หลังจากที่ทีมโปรดักชั่นได้รับไฟล์ฟุตเทจวิดีโอ(*Footage)จากหมวก VRของร็อคสตาร์และคาซิอุสมาจนครบทั้งสองไฟล์ พวกเขาก็เริ่มงานของพวกเขาโดยทันทีโดยมีผู้กำกับจางและอาเมลที่เป็นผู้ช่วยผู้กำกับนั่งแท่นควบคุมงานครั้งนี้อยู่ไม่ห่าง
“ก่อนอื่นเรามาดูฟุตเทจทั้งสองไฟล์ที่ได้รับมาเสียก่อน เพื่อกำหนดทิศทางว่าจะตัดงานออกมาในรูปแบบใด ส่วนจุดตรงไหนที่น่าเบื่อหรือต้องเพิ่มลูกเล่น ก็ให้อาเมลเป็นคนจดเวลาฉากสำคัญก็แล้วกัน!” เมื่อผู้กำกับจางสั่งงานและมอบหน้าที่ให้กับทุกคนจนครบถ้วน พวกเขาก็เริ่มต้นดูฟุตเทจที่ได้รับมาด้วยความตั้งใจ
‘บ้าน่า!!ฉันเองก็เล่นอาชีพนักล่าเหมือนกันแต่การยิงธนูจากระยะตรงนั้นให้โดนตัวผู้เล่นที่กำลังเคลื่อนที่ให้โดนเช่นนี้ คนที่ชื่อลูอิสนั้นทำได้ยังไงกัน??!!’
‘เหตุการณ์ตรงนี้ก็ไม่แพ้กัน...ดูสิประธานเจสเปอร์และรองกิลด์อามมี่บุกทะลวงไล่ฆ่าผู้เล่นกิลด์ Black Ratจำนวนสิบกว่าคนด้วยตัวของพวกเขาแค่สองคนเท่านั้นเอง นี้ใช่ไหมที่เขาเรียกว่า 2 รุม 10!!’
ทันทีที่ไฟล์ฟุตเทจทั้งสองถูกเปิดเล่นเสียงภายในห้องตัดต่อของทีมโปรดักชั่น TMY ก็มีแต่เสียงตะโกนร้องเชียร์ด้วยความสะใจหรือไม่ก็เสียงอุทานด้วยความตื่นเต้นตกใจ วนเวียนสลับกันอยู่เรื่อยไป~ 20 นาที...40นาที...80นาที...110นาที!!
เป็นเวลาเกือบ 2 ชั่วโมงที่เหล่าทีมงานนั่งดูฟุตเทจดิบๆที่ไม่ผ่านการตัดต่อด้วยความตื่นเต้น นี้ถือเป็นครั้งแรกในตลอดอาชีพการทำงานของพวกเขาที่ทุกคนต่างเพลิดเพลินกับวิดีโอดิบเช่นนี้ แม้แต่ตัวผู้กำกับจางและผู้ช่วยอาเมลเองก็เช่นกัน
‘ตื่นเต้น ตกใจ สนุก มีความสุข แอบลุ้น!!’ อารมณ์เหล่านี้ล้วนอยู่ในนี้ทั้งหมด ต้องอย่าลืมว่านี้คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงโดยที่ไม่มีการกำกับหรือถ่ายทำใดๆจากใครทั้งสิ้น แต่ผลลัพธ์ที่พวกเขาได้ดูผ่านทางหน้าจอ มันมีแต่คำว่าน่ามหัศจรรย์
“อาจารย์...อาจารย์...อาจารย์จาง!!” อาเมลต้องสะกิดเรียกผู้กำกับจางที่นั่งนิ่ง ตาค้างด้วยกันถึงสามที กว่าตัวผู้กำกับจะรู้สึกตัว “เอ่อ...จะให้พวกเราตัดต่อภาพยนต์เรื่องนี้...เอ้ย!!วิดีโอนี้กันออกมาในรูปแบบไหนดีครับ??!!”
“รูปแบบไหนยังงั้นเหรอ ฉันขอดูเวลาฉากสำคัญที่เธอจดก่อนแล้วกันอาเมล??!!”
ยังไม่ทันที่อาเมลจะร้องห้าม ผู้กำกับจางก็ดึงสมุดจดของอาเมลไปจากมือเจ้าตัวเสียแล้ว ทว่าเมื่อผู้กำกับจางได้เปิดอ่านสมุดจดดั่งกล่าวของอาเมล เจ้าตัวที่ยืนอยู่ด้านข้างก็หน้าถอดสีขึ้นมาทันที
“. . .”
[00.35 - 05.26 ลูอิสสู้กับผู้เล่น...]
‘แค่นี้? ทั้งหมดมีเพียงประโยคลูอิสสู้กับผู้เล่นประโยคเดียว 1 หน้ากระดาษที่เหลือล้วนว่างเปล่า! สะอาดเอี่ยม! เกลี้ยงเกลา!!’ ใช่แล้วอาเมลไม่ได้จดอะไรเพิ่มเติมลงไปในสมุดจดของเขาเลย ทั้งหมดมีเพียงแค่นั้นจริงๆ จึงไม่แปลกอะไรที่อาเมลจะหน้าถอดสีเมื่อถูกผู้กำกับจางดึงสมุดจดในมือของเขาไปดู
“ไม่ใช่ฉันคนเดียวสินะ? ที่ตื่นเต้นไปกับฟุตเทจของเจสเปอร์จนลืมไปเลยว่าพวกเราต้องทำงาน งั้นเอายังงี้เจสเปอร์ได้มีคำขออะไรพิเศษเพิ่มเติมอะไรลงมาหรือเปล่าถ้ามีก็ยึดตรงจุดนั้นเป็นแก่นสำคัญก่อนก็แล้วกัน”
“มีเพียงแค่ขอให้ตัดคุณไอรีนออกจากฉากทั้งหมดเท่านั้นครับ...แต่ว่าถ้าตัดเธอไปในความคิดของผม ฉากสุดเท่ที่เป็นจุดจุดไคลแม็กซ์ของฉากทั้งหมด จะส่งผลกระทบอะไรหรือเปล่า?”
ผู้กำกับจางนิ่งไปสักพักหนึ่งก่อนที่จะเปิดไฟล์ฟุตเทจทั้งสองอันที่มี เทียบกันไปมาซ้ำไปซ้ำมาอยู่หลายนาที ก็ต้องส่ายหน้าด้วยความผิดหวังเพราะจากที่ได้ด้ดูจนถี่ถ้วนอยู่หลายครั้ง ฉากดังกล่าวที่มีของทั้งสองไฟล์นั้นกลับติดภาพของไอรีนไปเสียทั้งหมด
“เราควรจะโทรไปขออนุญาตท่านประธานดีกว่าไหมครับอาจารย์ อย่างน้อยก็พูดให้เขาเปลี่ยนใจเรื่องการตัดคุณไอรีนออกสักครั้ง??!!”
“เปล่าประโยชน์! เจสเปอร์ไม่เปลี่ยนใจหรอกเพราะที่เขาตัดสินใจแบบนี้ก็เพื่อปกป้องตัวของไอรีนยังไงล่ะ? อย่าลืมสิว่าไอรีนยังมีสัญญากับต้นสังกัดของเธออยู่ ถึงแม้ว่ามันใกล้จะหมดลงในปลายปีที่จะถึงนี้แล้วก็ตาม ถึงอย่างไรต้นสังกัดก็สิทธ์ในตัวของไอรีนอยู่”
แน่นอนว่าจากการที่ผู้กำกับจางเคยทำงานอยู่ในสถานีโทรทัศน์ขนาดใหญ่เป็นธรรมดาที่เขาจะรู้เรื่องของสัญญานักแสดงหรือข่าวซุบซิบวงในมาบ้าง โดยเวลานี้ไอรีนและวง Blessingของเธอแทบจะไม่มีผลงานอะไรเลยนับตั้งแต่หมดการโปรโมทซีรีย์เรื่อง รักใสๆของยัยเพี้ยนที่ผู้กำกับจางเป็นคนกำกับเป็นงานชิ้นสุดท้าย
ได้ยินไม่ผิดนัก...ไอรีนและสาวๆวง Blessingไม่มีงานแสดงและผลงานเพลงใหม่ๆออกมาให้แฟนคลับได้รับชม รับฟัง มาหลายเดือนแล้ว ทั้งหมดนี้ไม่ใช่ว่าไม่มีคนจ้างงานหรือไม่มีผู้กำกับคนไหนสนใจมอบบทดีๆให้ แต่เป็นเพราะค่ายต้นสังกัดกำลังพยายามหาทางกดดันพวกเธอให้ต่อสัญญาอยู่ยังไงล่ะ
หลายๆคนอาจสงสัยว่าการไม่ป้อนงานหรือดองศิลปิน จะเป็นการกดดันตัวไอรีนได้ยังไง มีแต่จะรั้งให้พวกเธอไม่ยอมต่อสัญญาสิไม่ว่า...ทว่า ในแวดวงบันเทิง มันมีความซับซ้อนและการย้อนแย้งในตัวที่บุคคลภายนอกไม่รู้อยู่มากพอสมควร
การที่ต้นสังกัดดองงานศิลปินเปรียบได้ดั่งฟางเส้นสุดท้ายที่พวกเขาจะทำให้แล้ว ในเมื่อเริ่มรู้ว่านักแสดงหรือศิลปินในสังกัดกำลังจะทอดทิ้งตัวเองไปนั้นเท่ากับว่าพวกเขากำลังจะขาดแหล่งทำเงินไปแล้วยังไงล่ะ ไม่สามารถทำเงินแล้วจะดันผลงานให้อีกทำไม? สู้เอาเวลาไปดันคนที่สามารถสูบเงินต่อได้อีกหลายปีไม่ดีกว่าเหรอ? แม้ผลตอบรับอาจจะได้ไม่เท่ากับรายได้ที่ไอรีนเคยทำ แต่เรื่องแบบนี้ให้เวลาเป็นตัวตัดสินจะดีกว่า!
ส่วนไอรีนและวง Blessing นะเหรอ? เมื่อถูกดองงานก็เท่ากับว่าพวกเธอไม่มีกระแส พอไม่มีกระแสแล้วใครจะอยากได้ตัวพวกเธอไปทำงาน? มันมีเรื่องละเอียดอ่อนอีกมากมายเหลือคณาที่ค่ายต้นสังกัดสามารถทำกับอนาคตของ ดารานักแสดง ที่เลือกไม่ต่อสัญญากับพวกเขา อาจมีบ้างที่ทั้งสองฝ่ายจบสัญญากันด้วยดีจากกันด้วยความแฮปปี้ทั้งสองฝ่าย แต่ก็มีอีกมากที่จบลงไม่สวยดั่งเช่นสถานการณ์ปัจจุบันของวง Blessing รุกกี้(**Rookie)ไอดอลหญิงเบอร์ต้นๆที่เคยได้รับการยอมรับว่าเป็นวงหน้าใหม่ยอดเยี่ยมเมื่อ 2 ปีก่อน
“หากที่ฉันฟังมาทั้งหมดเป็นเรื่องจริง...จากประสบการณ์ของฉัน บอกตามตรงว่าวง Blessing ของพวกเธอน่าจะหมดอนาคตในวงการแล้ว??!!”
ผู้กำกับจางถอนหายใจออกมาด้วยความไม่สบายใจ แต่เดิมเขาเองก็ถือเป็นแฟนคลับรุ่นคุณลุงที่ชื่นชอบในตัวนักร้องทั้ง 4 คนอยู่ก่อนแล้วไม่ว่าจะเป็น ไอรีน ยูมี นาเดียและโลวี้
“เฮ้อ...!! ภายในใจของคุณไอรีนคงจะกังวลไม่น้อย”
ทีมโปรดักชั่นค่อยๆหันไปมองบนจอมอนิเตอร์ที่แสดงภาพนักบุญหญิงไอรีนกำลังร่ายคำอวยพรด้วยสายตามุ่งมั่น ปราศจากความกลัวอยู่นั่นเอง ทีมงานทั้งหลายก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาตามๆกัน
‘ภายใต้ความงดงามที่พวกเขาเห็นยังมีความเศร้าอีกมากมายเก็บซ่อนเอาไว้ไม่ให้คนอื่นรู้อยู่อีกสินะ!!’
แน่นอนว่าเจสเปอร์เองก็ไม่รู้เรื่องดังกล่าวเช่นเดียวกัน เขารู้เพียงแค่ผิวเผินว่าในช่วงนี้ไอรีนและพี่สาววง Blessingของเธอไม่ค่อยมีงานมากเหมือนแต่ก่อน อาจจะอยู่ในช่วงพักผ่อนของเธอหรือของวงตามแต่ที่ไอรีนได้เล่าให้ฟังเท่านั้น.
สรุปแล้วเอาเป็นว่าพักเรื่องของวง Blessing นี้ไว้ก่อนเพราะมันยังไม่ใช่สาระสำคัญอะไรที่จำเป็นต้องรู้ในตอนนี้เอาเพียงรู้ไว้แค่คราวๆเหมือนกับที่เจสเปอร์รู้ไว้ก็พอ
“งั้นในส่วนของฉากไคลแม็กซ์ที่มีคุณไอรีนติดเข้ามาพวกเราจะทำยังไงกันดีครับ...อาจารย์ จะให้พวกเราตัดทิ้งตามคำขอของท่านประธานหรือจะให้เบลอในส่วนของคุณไอรีนทิ้งไปดี?”
ในเมื่อใช้งานในส่วนของไอรีนนี้ไม่ได้แล้ว จุดไคลแม็กซ์ที่เจสเปอร์ดวลเดียวกับบอสแผนที่ที่พวกเขาเห็นพ้องต้องกันว่าเป็นฉากที่ดีที่สุดจะต้องถูกตัดทิ้งทั้งหมดยังงั้นหรือ? จะให้เบลอทิ้งไปใส่เอฟเฟคเข้าปกคลุมก็ดูจะ...เอ๊ะ!!มันก็ได้ไม่ใช่หรือไง นี้มันโลกมายาที่พวกเขาเชี่ยวชาญ การจะตัดแต่งตัดต่ออะไรลงไปก็ไม่มีใครรู้
‘นี้แหละที่เรียกว่าเสน่ห์ของการตัดต่อล่ะ!!’
“ย้อนภาพกลับไป~พอหยุด!! เอาหมอนี้แหละ...ดูจะเหมาะที่สุดในการมาใส่แทนไอรีน ที่สุดแล้ว ตกลงตามนี้! ทุกคนเริ่มลงมือได้เก็บทุกช็อตที่มีเจ้าหมอนี้แล้วคัดแยกออกมาและส่วนฉากไหนที่มีไอรีนติดมาก็ให้ตัดทิ้งทั้งหมดตามความเหมาะสม ถ้าตัดไม่ได้ก็ให้ใส่เอฟเฟคบังหน้าและรูปร่างของเธอเอาไว้”
‘ต๊อกแต๊ก!!’
เมื่อผู้กำกับจางได้สรุปแผนงานทั้งหมด ทีมงานตัดต่อก็เริ่มลงมือในส่วนของพวกเขาโดยทันที ก่อนที่ความเงียบจะเข้าปกคลุมพื้นที่ในห้องทำงาน ไม่มีเสียงพูดคุยใดๆกันอีกต่อไป พวกเขาต่างใช้สมาธิจดจ่ออยู่กับหน้าจอตรงหน้าซึ่งมีเพียงเสียงกดแป้นคีย์บอร์ดและเสียงคลิกเมาส์ที่ดังต่อเนื่องเท่านั้น...!!~
เช้าวันต่อมาหลังจากที่เหล่าทีมโปรดักชั่นลุยงานกันมาจนหามรุ่งหามค่ำ พวกเขาก็ได้ตัดต่อฟุตเทจทั้งหมดจนเสร็จเรียบร้อย พร้อมกันนี้มันก็กำลังถูกฉายเพื่อยืนยันขั้นตอนสุดท้ายอยู่ตรงหน้าเจ้าของผลงานที่เพิ่งลุกจากที่นอน
‘แกร๊กก...หาววว zZz!!’
‘พลั่กก!!’
“เจส!!สนใจงานหน่อย...มานั่งหาวแบบนี้หัดเกรงใจผู้กำกับจางที่โต้รุ่งมาทั้งคืนบ้าง?” เจ้ซันนี่และพี่สาวบับเบิ้ลสองเลขาผู้เข้มงวดได้กระทุ้งศอกเอาเต็มสี่ข้างของเจ้านายหนุ่มอย่างแรงเพื่อขับไล่อาการง่วงเหงาหาวนอนของเจสเปอร์ให้หมดไป
“จะไม่ให้ผมง่วงได้อย่างไร? ก็ดูงานที่พวกเขาเอามาให้ดูสิ สาบานเถอะว่านี้ตัดแล้ว คอยดูเถอะเมื่อวิดีโอนี้ถูกปล่อยออกไป ไม่ใช่ผมคนเดียวที่โวยวายแน่!!”
เจสเปอร์แอบเคืองเล็กน้อยที่ถูกพรัดพรากจากเตียงนอนอันแสนนุ่มสบายของเขา แล้วยังต้องมานั่งตรวจงานตั้งแต่ตะวันยังขึ้นไม่เต็มฟ้าแบบนี้ ถึงเขาจะมีวุฒิภาวะมากกว่าคนอื่นๆในช่วงอายุเดียวกันแต่ก็อดไม่ได้ที่จะครุ่นเคืองเล็กน้อยตามประสามนุษย์ปุถุชน
ยอมรับเสียเถิดถึงจะอายุมากเท่าใดและมีวุฒิภาวะมากแค่ไหน การถูกปลุกให้ตื่นมาทำงานในช่วงวันหยุด ไม่ใช่เรื่องน่าอภิรมย์สำหรับทุกคนเลยแม้แต่น้อย
หลังจากที่ชายหนุ่มทนนั่งดูวิดีโอที่ได้จากผู้กำกับจางตั้งแต่ต้นจนจบ เจสเปอร์และคนอื่นๆที่เหลือก็ไม่มีอะไรให้ต้องปรับแก้ไขอีก ไม่ว่าจะเป็นเสียงประกอบฉากที่ผสมกันได้อย่างลงตัวระหว่างเสียงเพลงภายในเกมและเอฟเฟกต์ปรุงแต่งที่ใส่เพิ่มเข้ามา ทั้งหมดล้วนดึงดูดแถมยังทำให้ผู้ชมได้ลุ้นกับฉากต่อสู้เข้าไปด้วยอีก
“แม้ว่าวิดีโอนี้จะนานไปสักหน่อยแต่ ฉันได้ตัดเผื่อเอาไว้ทั้ง 2 ชุดแล้วเพื่อเตรียมลงให้กับทางในส่วนของกิลด์และสำหรับข่าวในช่อง TMY”
ผู้กำกับจางตบอกด้วยความพอใจ ปัจจุบันนี้กระแสการบริโภครับชมของผู้คนนั้นนับว่าแปลกประหลาด บางคนชอบดูอะไรที่ยาวๆนานๆเป็นชั่วโมงก็มี ส่วนบางคนที่มีวิถีชีวิตเร่งรีบอะไรที่เกิน 10 นาทีก็กดเลื่อนทิ้งผ่านไปโดยไม่สนใจก็มี เอาเป็นว่าทำไว้ 2 ตัวเลยก็แล้วกัน
วิดีโอความยาวก็ลงในส่วนของช่องทางเพื่อโปรโมทกิลด์ไปและวิดีโอสั้นๆก็ให้ลงเป็นไฮไลต์ในส่วนของภาคข่าวที่ช่องทีวีออนไลน์ TMY ก็แล้วกัน โดยวิดีโอไฮไลต์ก็ให้ลงห่างจากวิดีโอความยาวหลักสัก 1 ชั่วโมงก็แล้วกัน
‘1 ชั่วโมง!! แล้วยังงี้ไม่กลัวช่องอื่นจะปาดหน้าแย่งลงไฮไลต์ปาดหน้าไปก่อนเหรอ??’
ผู้กำกับจางไม่กลัวเลยสักนิดเพราะอะไรนะเหรอ!! เอาเป็นว่าวิดีโอความยาวหลักลงเสียก่อนก็รู้คำตอบเอง...?
*Footage คือภาพบันทึกดิบๆ ที่ยังไม่ผ่านกระบวนการขั้นตอนการตัดต่อใดๆลงไป เพื่อนำไว้ใช้ประกอบเป็นงานวิดีโอที่ทุกคนได้ดูเป็นลำดับต่อไป
**Rookie มือใหม่ เด็กใหม่ ไม่มีประสบการณ์
...โปรดติดตามตอนต่อไป...
เข้าไปร่วมพูดคุยกับไรท์หรือสมาชิกนักอ่านคนอื่นๆได้ที่แฟนเพจตามลิงค์ด้านล่างเลยนะครับ
www.facebook.com/writelazy