ตอนที่ 9 บ้านวาเลน
ตอนที่ 9 บ้านวาเลน
มินฮยอคเริ่มทำอาหารพลางเคี้ยวขนมปังอย่างเอร็ดอร่อย
เขาใช้มีดอันคมกริบตัดขนมปังทีละแผ่น และใส่กระเทียม เนย น้ำผึ้งและนมข้นลงในชาม และผสมให้เข้ากัน
หลังจากที่ส่วนผสมเข้ากันแล้ว เขาจึงได้บรรจงทามันลงบนแผ่นขนมปัง จากนั้นโรยผักชีตกแต่ง
จะต้องทำอะไรต่ออีก? ตอนนี้ฉันเตรียมทุกอย่างเสร็จหมดแล้ว
ผู้คนมากมายชื่นชอบในรสชาติของขนมปังกระเทียม
‘ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ เมื่อพวกเขาได้ลิ้มรสชาติของขนมปังกระเทียม ที่มีรสหวานปนเค็มมันช่างเเสนเอร็ดอร่อยเหลือเกิน’
เขานำขนมปังที่เตรียมไว้วางลงบนกระทะ เนื่องจากกระทะมีขนาดใหญ่มากพอกับจำนวนของขนมปังกระเทียมที่เขาเตรียมเอาไว้ เขาเลยสามารถอบมันภายในครั้งเดียว
เขาเปิดเครื่องและตั้งเวลาในการอบขนมปัง เขาจ้องมองขนมปังกระเทียมที่ค่อย ๆ เปลี่ยนสีเป็นน้ำตาลทอง
มินฮยอครู้สึกสนุกทุกครั้งที่รอฟังเสียง ติ้ง! เสียงนั่นเป็นสัญญาณเตือนบอกว่าขนมปังอบเสร็จแล้ว
‘อาหารของฉันรสชาติจะเป็นยังไงเนี่ย?’
มินฮยอคคิดพลางเคี้ยวขนมปังหงุบหงับ
‘งั้น! มาเริ่มทำซุปกันเถอะ แต่ช่างน่าเสียดายที่บ้านของอาจารย์วาเลนมีเพียงผงซุปสำเร็จ’
‘เมื่อครั้งจางอุคเป็นทหารในค่าย เขาทานอาหารที่น่าสะอิดสะเอียนนี้ ฉันขอโทษ แต่….’
มินฮยอคยังคงน้ำลายไหลเยิ้ม ถึงแม้สิ่งที่เขากินเป็นเพียงซุปสำเร็จ เช่นเคยถ้าไปทานอาหารร้านคงคัตสึญี่ปุ่นจะเสริฟซุปสำเร็จนี้เป็นเพียงเครื่องเคียงเท่านั้น
นี่เป็นอาหารที่ราคาถูก ทว่าเขาคิดว่าไม่ได้กินอาหารนี้มานานจึงไม่สามารถหยุดน้ำลายได้เลย
‘เพียงจินตนาการถึงรสเค็มเบา ๆ และรสสัมผัสที่นุ่มแต่หนาของขนมปัง ฉันก็อดน้ำลายไหลไม่ได้ ‘
เขาจุดเตาแก๊สด้วยไทดิดิกและเติมน้ำลงในหม้อตามสูตร หลังจากนั้นค่อยๆเทผงซุปสำเร็จและคนจนน้ำเดือด
‘ถ้านายโรยเกลือลงไปสักหน่อยจะได้รสชาติที่ดียิ่งขึ้น’
ขณะที่ซุปกำลังเดือดได้ที่ วาเลนก็ได้เดินออกมาพอดี
“โห ! กลิ่นหอมลอยคลุ้งไปทั่ว”
แต่เมื่ออาจารย์วาเลนเข้ามาในห้องครัวก็ต้องหยุดชะงักทันที
“น นาย นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย?”
“ซุปกำลังเดือดครับผม”
“หม้อที่อยู่ตรงนั้นหรือ?”
“ใช่ครับ!”
มินฮยอคตอบด้วยความมั่นใจ
‘ใช่! ท่านเข้าใจถูกแล้วครับ’
มินฮยอคต้มน้ำเดือดให้พอสำหรับปรุงซุปสำเร็จ 10 ถุง หม้อมีขนาดใหญ่ที่จะเสริฟได้อย่างน้อย 50 ถ้วย
“…อืมม”
อาจารย์วาเลนคร่ำครวญเบาๆ
***
***
ท่านอาจารย์วาเลนจ้องมองมินฮยอคด้วยสายตาว่างเปล่า ซึ่งเขาถือช้อนและส้อมเอาไว้ในมือใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มสดใสและนัยตาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
ขนมปังกระเทียม 80 ชิ้น กองอยู่บนโต๊ะเหมือนภูเขา
‘อืมม …’
อาจารย์วาเลนมองดูซุปที่เต็มจานของมินฮยอค เขาเห็นมินฮยอคตักซุปในหม้อเล็กจากหม้อซุปใหญ่ใต้โต๊ะ
อาจารย์วาเลนมองดูมินฮยอคตักซุปใส่ถ้วยของตน ซึ่งในทางกลับกันมินฮยอคก็กำลังใช้ทัพพีตักซุปอยู่เช่นกัน
‘เป็นกลิ่นที่ช่างหอมหวาน’
ความหอมของซุปโชยมาเเตะจมูกของมินฮยอค ซึ่งมันยิ่งกระตุ้นความหิวจนทำให้น้ำลายไหล
ถ้ายังงั้นก็ถึงเวลาที่จะกินซุปนี้ให้อิ่มหนำ ผมจะกินมันให้มากเท่าความเคารพที่ผมมีให้คุณเลยท่านอาจารย์!
มินฮยอคไม่ลืมที่จะทาเนยให้เขา
วาเลนค่อย ๆ หยินช้อน และลิ้มรสของซุป
และ ขณะนั้น..
กร้วบ!
เขาได้ยินเสียงเบา ๆ เมื่อวาเลนมองไปก็เห็นมินฮยอคกำลังเคี้ยวขนมปังกระเทียมชิ้นโต
‘ขนมปังที่เพิ่งทำสดใหม่ ทำให้ด้านนอกขนมปังกระเทียมมีความกรุบ แต่ด้านในยังคงนุ่มและอุ่น มีรสหวานปนเค็มมันอยู่ในปาก’
ยังไม่จบเท่านั้น
มินฮยอคใช้ช้อนใหญ่ตักซุปเข้าปากของเขา
‘เมื่อซุปเข้มข้นเข้าปาก มันจะไปละลายขนมปังกระเทียมแห้งทำให้มีรสชาติที่ดีขึ้น มันช่างโอชะสำหรับลิ้นเหลือเกิน’
เสียงเคี้ยวขนมปังกระเทียมที่ดูแสนอร่อย ใคร ๆ ก็สามารถเห็นจากมินฮยอค
‘ช่างมีความสุขเหลือเกิน’
หลังจากนั้น
“ฮูว…”
อาจารย์วาเลนเอามือกุมหน้าผากและหลังจากนั้น…
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
เขาหยุดหัวเราะไม่ได้เลย
“กร้วบบบ”
มินฮยอคที่กำลังเพลิดเพลินกับการกินขนมปังและซุปมองมาที่วาเลนด้วยสีหน้างุนงง
อาจารย์วาเลนหัวเราะพลางเอามือกุมท้อง
“นายรู้ตัวไหมมินฮยอค เวลาที่นายกินเนี่ยท่าทางดูเหมือนคนที่มีความสุขที่สุดในโลกจริง ๆ เชียว”
มินฮยอคพยัคหน้าตอบกลับอย่างแรง
“ไม่มีอะไรบนโลกนี้ทำให้ผมมีความสุขได้เท่ากับการกินแล้วครับ!”
หลายครั้งสิ่งที่ทำให้ผู้คนมีความสุขมากที่สุดไม่ใช่รถราคาแพง บ้านหรูหราหรือหญิงสาวหน้าตาดี เพียงแค่การกินก็ทำให้พวกเขามีความสุขที่สุดแล้ว
เช่นเดียวกับวาเลนและมินฮยอค
“ฉันก็มีความสุขกับมื้ออาหารวันนี้เช่นกัน”
วาเลนยิ้มกว้าง ถึงแม้มันจะกลายเป็นรอยยิ้มที่ขมขืนภายหลังก็ตาม
“ชีวิตประจำวันของฉันเหมือนเดิมทุกวัน ฉันไปทำงานและกลับบ้านที่ว่างเปล่า ไม่มีอะไรจะโดดเดี่ยวไปกว่าการกลับบ้านที่ต้องอยู่ตัวคนเดียว”
มินฮยอคทานอาหารต่อพร้อมตั้งใจฟัง นี่อาจเป็นการเสียมารยาท ทว่าวาเลนก็ประทับใจในตัวของเขา
"นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนมาขอกินข้าวกับฉัน ถึงแม้ว่านายจะตั้งใจก็ตาม"
เขาจ้องมองมินฮยอคด้วยความว่างเปล่า
“ตลอดเวลาที่ผ่านมาฉันคิดว่า ฉันคงไม่มีทางได้ยินเสียงใครทำอาหารในบ้านหลังนี้หรอก แต่ใครบางคน…”.
วาเลนยิ้ม
“กินข้าวกับฉันนะ”
“...”
มินฮยอคหยุดกินข้าวไปชั่วขณะ
อาหารธรรมดาดูเป็นอาหารพิเศษสำหรับใครบางคน
“ฉันจะเก็บความทรงจำมื้ออาหารนี้ไว้”
ประโยคนี้ทำให้มินฮยอครู้สึกปลื้มปริ่ม คงจะมีมื้ออาหารที่ใครบางคนจดจำตลอดไป
คนในกองทัพมักจะบอกว่า...หรือใครที่หิวมากๆ จะพูดว่ารามยอน บางคนก็บอกว่ามันคือฝีมือของแม่ที่จากไป
ทุกคนมีเมนูที่แตกต่างกันอยู่ในความทรงจำของพวกเขาเสมอ
“มันช่างน่าสรรเสริญจริง ๆ”
“อร่อยจริง ๆ ผมดีใจที่ได้ยินอย่างนั้นนะ”
“เริ่มกินกันเถอะ เราจะทิ้งอาหารที่อร่อย ๆ และปล่อยมันเย็นลงได้ยังไง”
“จริงครับ ท่านอาจารย์”
มินฮยอคเริ่มกินอาหารต่ออีกครั้งในขณะที่ใบหน้าของเขาเปี่ยมไปด้วยความสุข และอาจารย์วาเลนก็กินอาหารต่อพลางดูเขา
มินฮยอคและวาเลนมีมื้ออาหารที่แสนวิเศษด้วยกัน
***