ตอนที่ 166 พบหน้าเพื่อนเก่า
ตอนที่ 166 พบหน้าเพื่อนเก่า
“ปับปี้รีบตามคาซิอุสไปเร็ว หัวหน้ากิลด์สั่งมาแล้ว!!” เดิมทีร็อคสตาร์เองก็มีอคติในตัวของปับปี้อยู่ไม่น้อยเช่นเดียวกัน แต่สำหรับเขาแล้ว หัวหน้ากิลด์เจสเปอร์คือตัวตนที่ยิ่งใหญ่มากพอจะกลบฝังอคติดังกล่าวให้เลื่อนหายไปได้
ในเมื่อเจสเปอร์เลือกที่จะเชื่อผู้เล่นปับปี้และไว้วางใจให้ชายคนนี้ขึ้นมาเป็นมันสมองให้กับกิลด์ ตัวเขาและคาซิอุสก็พร้อมที่จะให้การสนับสนุนอย่างไม่มีข้อแม้เช่นเดียวกัน
เพียงไม่นานหลังจากที่ได้รับข้อความจากเจสเปอร์ ปับปี้และร็อคสตาร์ก็รีบตามไปสมทบกับสมาชิกคนอื่นๆในทันที พร้อมกับแจ้งพิกัดของบอสเป็นระยะๆให้กลุ่มแกนนำที่กำลังมุ่งตรงมา
‘เอี้ยดด!!’ ‘ตูมมม~!!’ เสียงของเศษซากกิ่งไม้ที่ถูกทุบจนแตกละเอียดดังเล็ดลอดออกมาจากทางด้านหลังของป่าทึบ โดยมีกิลด์ Black Ratที่นำโดยคาร์ลอสและโอไบรอันกำลังช่วยกันจัดการกับต้นตอของเสียงที่ดังระงม
“ไม่ได้เรื่องสักคน!!…ผู้พิทักษ์ดึงบอสเอาไว้ให้นิ่งๆไม่เห็นหรือไงว่าพวกฉันเข้าไปโจมตีไม่ได้ เงินที่ฉันเสียไปไม่ได้เอาไว้จ้างคนไร้น้ำยาอย่างพวกแกนะ!”
“ก็อีแค่บอสแผนที่ธรรมดา ทำเป็นตื่นเต้นไปได้พวกมันก็เหมือนมอนสเตอร์ทั่วๆไปนั่นแหละ? ถอยไปและดูฉันให้ดี”
คาร์ลอสและโอไบรอันต่างรับส่งคำพูดที่บั่นทอนกำลังใจกันได้อย่างเหมาะเจาะ ไม่มีครั้งไหนที่สมาชิกในกิลด์ Black Ratจะทำอะไรได้ถูกผู้นำทั้งสองคนนี้เลยสักครั้ง ไม่ว่าจะสารพัดคำด่า คำดูถูก พวกเขาล้วนเจอกันมาหมด...แต่แล้วยังไงละ? มันเท่และมีอำนาจมากเลยไม่ใช่หรือไง? นี้คือสิ่งที่สมาชิกกิลด์ Black Rat มองผู้นำของพวกเขาแบบนี้จริงๆ สังคมกิลด์ได้หล่อหลอมให้พวกเขามีกระบวนการคิดเป็นอย่างนี้และแน่นอนว่ามันได้ถูกถ่ายทอดมายังสมาชิกของพวกเขาอีกด้วย.
“ไร้น้ำยาจริงๆ! อย่ามาเกะกะฉัน” ผู้เล่นทุกคนในกิลด์ต่างโยนความผิดให้แก่ผู้เล่นคนอื่นโดยไม่รู้สึกละอาย พวกเขาต่างคิดว่าตัวเองคือผู้เล่นระดับสูงส่วนคนอื่นนั้นเป็นเพียงแค่ตัวประกอบที่ไม่ได้เรื่อง ‘ย่าหหห์~!’ และชั่วขณะนั่นเอง หนึ่งในผู้เล่นกิลด์ Back Rat ที่ยกโขยงมากันเป็นร้อย ก็ได้พุ่งทะยานร่างออกไปเพื่อเข้าท้าทายบอสแผนที่ตัวนี้ทั้งๆที่แท้งค์ในทีมยังไม่สามารถควบคุมความเกลียดของบอสเอาไว้ได้
‘ตุ้บแผล่ะ!’
บอสประจำแผนที่ต้นไม้แห่งพรไพรได้ทำการยกมือหวดร่างของผู้เล่นคลาสโจรคนหนึ่งที่วิ่งเข้ามาในระยะจนบี้แบน ก่อนจะมองจ้องกลับไปยังกลุ่มผู้เล่นที่หาญกล้าด้วยดวงตาสีแดงฉานราวกับปีศาจของมัน พร้อมกับเปิดฉากล่าสังหารครั้งนี้ขึ้น
การต่อสู้ของกิลด์ Black Rat ยังคงดำเนินไปอย่างดุเดือด สารพัดสกิลและเอฟเฟคต่างๆจากผู้เล่นนับร้อยคนได้ถาโถมเข้าใส่บอสต้นไม้แห่งพงไพรอย่างหนักหน่วง
“โจมตีเข้าไปอย่างนั้นแหละมีเท่าไรใส่ให้หมด...เลือดของมันลดลงแล้ว ดีมากกับอีแค่บอสตัวเดียวจะเอาอะไรไปสู้ผู้เล่นจำนวนร้อยคนได้ ฮ่าฮ่า!!”
“ดีมาก...ประกาศให้โลกรู้ไปเลยว่าพวกเรา Black Rat ก็เป็นกิลด์ชั้นนำเทียบเท่า Blood Cimmander และ Outlaws เหมือนกัน!!”
โอไบรอันและคาร์ลอสต่างหัวเราะออกมาด้วยความชอบใจ นี้ถือเป็นครั้งแรกที่พวกเขามีโอกาสได้พบกับบอสแผนที่ตัวเป็นๆ ซึ่งส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยมีกิลด์ใดสังหารบอสเหล่านี้ได้ทำให้พวกเขาหวังเป็นอย่างยิ่งว่าตนเองจะก้าวนำล้ำหน้าเหนือกิลด์อื่นๆ แต่ทว่าบอสแผนที่มันไม่ได้เรียบง่ายเหมือนอย่างบอสในดันเจี้ยนทั่วๆไป การที่กิลด์อื่นๆยังสังหารบอสระดับนี้ไม่ได้ ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาไร้ฝีมือแต่เป็นเพราะพวกเขามีโอกาสเพียงแค่ครั้งเดียวต่างหาก
ไม่มีข้อมูล ไม่มีโอกาสแก้ตัว ไม่ล่วงรู้เลยว่าจะได้เจออีกเมื่อไหร่ ทำให้ทุกคนจำเป็นรับมือกับการต่อสู้เฉพาะหน้า ซึ่งส่วนใหญ่ก็มักเลือกแผนการเข้าต่อสู้ตรงๆ โดยอาศัยการถล่มสกิลและใช้จำนวนผู้เล่นเข้ากดดันเหมือนๆกันหมด เหมือนอย่างเช่นที่กิลด์ Black Rat กำลังกระทำอยู่นั่นเอง
เมื่อบอสถูกกดดันอย่างหนักจากผู้เล่นจำนวนมาก แน่นอนว่ามันต้องเสียเปรียบอยู่แล้ว พลังชีวิตของมันค่อยๆลดลงเรื่อยที่ละนิด 100%...95%...82%...50%!! ผู้เล่นหลายคนเริ่มลำพองเมื่อได้เห็นเลือดของบอสที่เหลืออยู่ บวกกับการปลุกใจ ทำให้พวกเขาไม่ได้ระมัดระวังเลยว่ามอนสเตอร์ที่พวกเขากำลังสู้อยู่มันคือระดับบอสแผนที่ ที่มีสกิลเฉพาะตัวไม่ต่างอะไรกับบอสดันเจี้ยน
‘ซู่มมม~’
บอสต้นไม้แห่งพงไพรค่อยๆบิดร่างกายที่เต็มไปด้วยเปลือกไม้อันแข็งแกร่งของมันขึ้นช้าๆ ลมพายุค่อยๆพัดกิ่งก้างน้อยใหญ่ให้ปลิดปลิว ทิ้งเศษซากใบไม้แห้งๆจำนวนหนึ่งลงสู่กองดิน ใบไม้เหล่านั้นค่อยแตกๆขยายก่อนจะก่อตัวขึ้นใหม่เป็นต้นไม้ขนาดใหญ่ที่มีลักษณะคล้ายกับบอสต้นไม้แห่งพงไพร ในเวลาต่อมา ‘กรืดด!’
“มันเรียกลูกน้องได้...ถอยเร็ว??!!” แต่ก็สายไปเสียแล้ว...!! กว่าที่คาร์ลอสและโอไบรอันจะรู้ตัว ใบไม้ที่เติบโตขึ้นเป็นต้นไม้ใหญ่ก็ขยับเขยื้อนราวกับมีชีวิต พลางใช้รากไม้ที่งอกเงยเสียบแทงลูกน้องของเขาจนล้มตายกันไปหลายคนมิหนำซ้ำพลังชีวิตของมันที่เคยลดลงจนเหลือต่ำกว่าครึ่ง เวลานี้กลับเพิ่มขึ้นจนมากกว่า 80% เข้าไปแล้ว
‘ลูกน้องพวกนี้สามารถดูดพลังจากผู้เล่นและฟื้นให้กับบอสของมันได้!’
ปับปี้ ร็อคสตาร์และคาซิอุสต่างมองการต่อสู้ที่ดูเหมือนจะดุเดือดของกิลด์ Black Rat มาตั้งแต่ต้น แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ไม่ได้มีความคิดที่จะเข้าไปขัดขวางหรือแย่งบอสแต่ประการใด ไม่ใช่ว่าพวกเขามีน้ำใจหรือทำตัวเป็นคนดีอะไรเทือนนั้นหรอก พวกเขาแค่ลองเชื่อในสิ่งที่ปับปี้พูดมาก็เท่านั้นเองเพราะนับตั้งแต่วินาทีแรกที่กิลด์ Black Rat เข้าไปเปิดบอสต้นไม้แห่งพงไพร ปับปี้ที่ตามมาสมทบกับร็อคสตาร์ก็ได้ฟันธงออกมาแล้วว่ายังไงก็ไม่มีทางที่กิลด์ Black Rat จะเอาชนะบอสตัวนี้ได้ก่อนที่สมาชิกแกนนำหลักของพวกเขาจะตามมาถึงได้แน่ๆ
แม้สมาชิกคนอื่นจะมีคำถามถึงความสงสัยว่าเหตุใดปับปี้ถึงได้มั่นใจขนาดนั้น แต่เมื่อร็อคสตาร์ได้เปิดข้อความที่เจสเปอร์ส่งมาให้ก่อนหน้านี้ให้กับสมาชิกคนอื่นได้ดู ทุกคนก็ต่างยอมลดทิฐิและอคติของตนเองลงไม่มากก็น้อย
“หัวหน้าคาร์ลอส...พวกเราควรหนีกันดีไหม บอสมันกำลังไล่ฆ่าคนของเราจนจะหมดอยู่แล้ว หากพวกเราตายกันหมด เกรงว่าต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะฟื้นคืนได้??!!”
“ไม่! ห้ามใครหนีทั้งนั้น นี้มันคือโอกาสของเราที่จะได้สร้างชื่อพวกแกจะทิ้งโอกาสนี้ไปหรือไง? ให้คนของเราทุ่มกำลังลงไปอีก สังหารบอสให้ได้!!”
โอไบรอันรีบกล่าวเตือนคาร์ลอสหัวหน้าของเขาอย่างร้อนรน เมื่อได้เห็นสถานการณ์ตรงหน้าที่ไม่สู้ดีของกิลด์...ที่ลำพังตอนนี้กลับกลายเป็นว่าจากผู้เล่นนับร้อยคนเหลืออยู่เพียงไม่กี่สิบคนเท่านั้น
แต่ไม่ว่าชายหนุ่มจะพูดเตือนยังไง หัวหน้าหัวขบถของพวกเขาก็ไม่มีทีท่าว่าจะฟังคำเตือนเหล่านั้นเลยสักนิด มิหนำซ้ำยังให้คนที่เหลือรอดบุกเข้าไปอีก
‘ยังคงนิสัยเดิมไม่เปลี่ยนแปลงสินะ นายนี้มันไม่เหมาะกับการต่อสู้จริงๆ คาร์ลอส…!’
“บอสตัวนี้ฉันจะรับต่อเอง พวกนายเหนื่อยมามากแล้วไปพักเถอะ...เอาเลยลูอิส!!”
‘ฟ่าวว!’
“พวกแกเป็นใคร??!!”
การต่อสู้ของกิดล์ Black Rat พลันหยุดชะงักลง เมื่อจู่ๆได้มีร่างของผู้เล่นจำนวน 6 คนกระโดดเข้ามาขัดจังหวะการต่อสู้ของพวกเขากับบอสแผนที่ พร้อมทั้งประเคนคมดาบและสรรพวุธต่างๆเข้าใส่ สิ่งมีชีวิตทั้งหมดที่หลงเหลืออยู่ในบริเวณ ไม่ว่าจะเป็นบอสแผนที่หรือผู้เล่นกิลด์ Black Rat ที่กำลังงุนงง
“แจมบอส!!พวกมันกำลังมาแย่งบอสของเรา รีบฆ่าเจ้าพวกนี้เร็ว??!!”
โอไบรอันที่ได้สติก่อนใครเพื่อน รีบร้องตะโกนบอกสมาชิกคนอื่นๆให้ได้รับรู้ถึงกลุ่มที่ไม่ประสงค์ดีนี้...แต่ถึงกระนั้นก็ดูเหมือนว่ามันจะสายไปเสียแล้ว
เมื่อตัวเขาเองก็กำลังตกเป็นเป้าของอีกฝั่งอยู่ด้วบเช่นกัน ‘ฟิ้วว!’ ลูกธนูจำนวนหนึ่งพุ่งแหวกอากาศตรงเข้าหาชายหนุ่มอย่างรวดเร็ว ‘ฉึกก!’ ก่อนที่มันจะปักลงตามร่างกายของโอไบรอันจนทั่วทั้งร่างกาย
“กะ...แก ลูอิส!!”
โอไบรอันแทบจะหลงลืมความเจ็บปวดที่ได้รับไปเสียถนัด เมื่อได้เห็นเจ้าของลูกธนูที่ยิงใส่ตน คืออดีตเพื่อนสมัยเด็กของเขานั่นเอง
“ใช่ฉันเอง...ไม่ได้เจอกันนานนะโอไบรอัน เป็นยังไงบ้าง? โอ้…แต่เท่าที่ดูคงจะไม่สบายดีเท่าไหร่หรอกเนอะก็เล่นรับลูกธนูจากฉันไปตั้งเยอะแน่ะจริงไหม?”
“ลูอิสแกมันหน้าไม่อาย แกหักหลังเพื่อนของแกแล้วยังทำเรื่องที่น่าสมเพชนี้อีก แกและกลุ่มของแกเตรียมใจไว้เถอะ ฉันจะเป็นคนกระชากหน้ากากของพวกแกเอง”
“หน้าไม่อาย? น่าสมเพช? หักหลังเพื่อน? ฉันต่างหากที่ควรจะพูดคำนี้ ส่วนเรื่องกระชากหน้ากากอะไรนั่น...ไม่จำเป็นต้องช่วยฉันหรอก ถึงยังไงที่ฉันมาในวันนี้ก็เพื่อการนี้โดยเฉพาะอยู่แล้ว”
ลูอิสมองดูร่างของโอไบรอันที่เต็มไปด้วยลูกธนูจากฝีมือเขาที่ยิงใส่ด้วยความชอบอกชอบใจ แม้จะมีการกระทบฝีปากเรื่องเพื่อนกันเล็กน้อย แต่สำหรับลูอิสแล้วไมตรีและความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อนระหว่างตัวเขากับโอไบรอันที่มีให้กันมันจบลงไปนานแล้ว มันจบลงไปตั้งแต่วินาทีที่เขาถูกเพื่อนที่เติบโตมาด้วยกันกล่าวหาว่าเป็นคนทรยศแล้ว
ลูอิสสูดหายใจเล็กน้อยก่อนจะง้างธนูขึ้นประทับบ่าอีกครั้งด้วยใบหน้าที่ไร้อารมณ์พร้อมกับปลิดฉากเรื่องที่คั่งค้างกันมานานด้วยสองมือของเขาเอง [Perfect Aim!!]
[ท่านได้ทำการสังหารผู้เล่น ‘โอไบรอัน’ โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร สถานะของท่านจะถูกปรับเปลี่ยนเป็นฆาตกร 24 ชั่วโมง]
หากมองไปยังแผงรายชื่อผู้เล่นปาร์ตี้แกนนำกิลด์ Rising Sun เวลานี้คงตกใจไม่น้อย เมื่อ 4 รายชื่อที่อยู่ด้านบน ล้วนเปลี่ยนเป็นสีแดง(ฆาตกร)พร้อมกันหมด ไม่ว่าจะเป็น เจสเปอร์ อามมี่ ลูอิสและสลิป
ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นผลมาจากการที่พวกเขาทั้ง 4 ได้สังหารผู้เล่นกิลด์ Black Rat นั่นเอง โดยสาเหตุที่พวกเขาต้องทำถึงขนาดนี้และยอมติดสถานะฆาตกรเป็นเวลา 24 ชั่วโมงก็เพื่อที่จะล้างค่าความเสียหายทั้งหมดที่บอสต้นไม้แห่งพงไพรได้ผูกกับผู้เล่นกิลด์ Black Rat เอาไว้อยู่ยังไงล่ะ
หากไม่ทำเช่นนั้นถึงพวกเขาจะเป็นผู้ที่สังหารบอสตัวนี้ลงได้ แต่ไอเท็มและค่าประสบการณ์ที่บอสมอบให้ทั้งหมดก็ยังตกเป็นของผู้เล่นกิลด์ Black Rat อยู่ดี แน่นอนว่าเจสเปอร์จะยอมให้เกิดเรื่องนี้ขึ้นไม่ได้ เพราะบอสตัวนี้คือความตั้งใจที่เขาเลือกแล้วว่าจะใช้เป็นการเปิดเผยตัวตน เช่นนั้นแล้วเจสเปอร์ไม่มีทางยอมให้คนที่เฝ้ารอการส่องแสงของพระอาทิตย์ต้องผิดหวัง!!
ส่วนเรื่องความแค้นระหว่างเขากับคาร์ลอสนะเหรอ? มันไม่จบแค่ครั้งนี้ครั้งเดียวแน่
‘ฉันกับนายยังมีเรื่องต้องสะสางกันอีกเยอะ!!’
“ร็อคสตาร์ คาซิอุสทุกอย่างเรียบร้อยดีนะ จำไว้ต้องแนบเนียนดีที่สุดอย่าให้ใครรู้ว่าพวกเราตั้งใจถ่ายทำ ‘ผวัววะ!’ Miss!!...สลิปดึงบอสไว้ก่อน!!” เจสเปอร์สอบถามถึงความพร้อมเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะกล่าวประโยคติดปากที่เขามักพูดเสมอยามทำเรื่องตื่นเต้น เพื่อปลุกใจคนอื่นๆ
“Rising Sun It's....!!”
...โปรดติดตามตอนต่อไป...
เข้าไปร่วมพูดคุยกับไรท์หรือสมาชิกนักอ่านคนอื่นๆได้ที่แฟนเพจตามลิงค์ด้านล่างเลยนะครับ
www.facebook.com/writelazy