ตอนที่แล้วตอนที่ 45 แต่งตั้งตัวแทน  
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 47: ข้าเทราก็อต, ขอบัญชา

ตอนที่46: คำวิงวอนของเอวา  


ย้อนเวลากลับไปซักเล็กน้อย

ลีโอที่ไปด้วยกันกับกองเรือของรอนดิเน่ได้ไปถึงราชรัฐอัลบราโทรแล้ว

เพื่อไม่ให้เกิดความตื่นตระหนกที่ไม่จำเป็น, จึงมีแค่เรือของลีโอกับเรือของราชารอนดิเน่เท่านั้นที่เข้าไปเทียบท่าและรับการต้อนรับจากราชาอัลบราโทร

“ข้าดีใจจริงๆที่ท่านมา, ราชารอนดิเน่”

“ในสถานการณ์ฉุกเฉินแบบนี้ข้าทนอยู่เฉยๆไม่ได้หรอก, ราชาอัลบราโทร”

พอพูดจบ, พวกเขาก็จับมือกันแน่น

การจับมือกันแบบนี้มันคือช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์สำหรับพระราชาของทั้งสองประเทศที่ห้ำหั่นกันมาอย่างยางนาน

กองเรือของทั้งสองประเทศซึ่งกำลังเฝ้าระวังอีกฝ่ายอยู่ก็ผ่อนคลายขึ้นเล็กน้อยหลังจากที่พระราชาของพวกเขาพบเจอกันโดยไม่มีเหตุการอะไรเกิดขึ้น

ลีโอกับเอลน่าที่พึ่งพบเขาเป็นครั้งแรกเองก็รู้สึกโล่งอกที่พวกเขาผ่านขั้นแรกไปได้อย่างราบลื่น

“ดูเหมือนว่าจะผ่านขั้นแรกไปได้แล้วสินะ”

“นั่นสินะ ถัดจากนี้ก็คือเรื่องที่ว่าจะจัดการกับมังกรทะเลยังไง”

ลีโอกับเอลน่าเดินตามพระราชาเข้าไปในปราสาทในขณะที่พูดคุยกัน

อย่างไรก็ตาม, จู่ๆเอลน่าก็หันกลับไปมองทางทะเลอย่างกระทันหัน และมือของเธอก็จับไปที่ดาบแล้ว

เธอชักมันออกจากฝักในทันที

“เอลน่า!?”

“อัศวินทุกคน, เตรียมเฝ้าระวัง! ปกป้ององค์ชายกับพระราชาเอาไว้! มันกำลังมาแล้ว!”

พอได้ยินคำสั่งของเอลน่า, อัศวินหลวงก็จัดแถวเป็นขบวนคุ้มกันพวกเขา

และในเวลาแทบจะพร้อมกัน, พายุหมุนก็ก่อตัวขึ้นในทะเล

มันก่อตัวขึ้นตรงกลางระหว่างกองเรือของรอนดิเน่กับอัลบราโทรและกลืนส่วนหนึ่งของทั้งสองกองเรือเข้าไป

ทุกคนถึงกับพูดไม่ออกในตอนที่เกิดเหตุการณ์ผิดปกตินี้อย่างกระทันหัน

หลังจากกลืนหนึ่งในสามของกองเรือของทั้งสองประเทศและเปลี่ยนพวกมันเป็นซากแล้ว, พายุก็หายไปอย่างกระทันหัน

จากนั้นมันก็มา

“มังกรทะเลลิเวียธาน......!?”

มันคือมังกรลำตัวยาวที่ถูกปกคลุมด้วยเกล็ดสีน้ำเงินซึ่งดูเหมือนสร้างขึ้นมาจากน้ำบริสุทธิ์

มันมีปีกกับแขนอย่างละคู่ ส่วนเท้าของมันน่าจะจมอยู่ใต้น้ำ มังกรที่ปรับตัวเข้ากับทะเล ลักษณะของมันนั้นใกล้เคียงกับงูแต่ว่าตัวใหญ่กว่ามาก

แค่ส่วนที่โผล่ขึ้นมาพ้นน้ำก็มีความยาวกว่า 50 เมตรแล้ว ทุกคนต่างก็ตัวสั่นเมื่อเห็นว่ารูปร่างของมันทั้งใหญ่และน่ากลัวกว่าที่ตำนานบอกเอาไว้มาก

โดยไม่สนใจปฏิกิริยาของผู้คน, ลิเวียธานก็ค่อยๆอ้าปาก

จากนั้นมันก็ยิงกระสุนน้ำลูกยักษ์ออกมา

มันเทียบกับสิ่งที่สามารถใช้เวทมนตร์น้ำธรรมดาสร้างขึ้นมาไม่ได้เลย

พอรู้สึกถึงอันตราย, เอลน่าก็ออกคำสั่งในทันที

“หนีเร็ว!”

อัศวินหลวงเชื่อในการตัดสินใจของหัวหน้าแล้วทำการอพยพพระราชาที่ยืนอยู่ใกล้ๆ

เอลน่าเองก็หนีไปกับลีโอ และในเวลาที่แทบจะพร้อมกัน, สถานที่ที่เอลน่ากับคนอื่นๆเคยยืนอยู่ก็ถูกโจมตีด้วยกระสุนน้ำลูกมหึมา

ด้วยเสียงที่ดังสนั่น, ผนวกกับหลุมยักษ์ที่เกิดขึ้นนั้นมันเหมือนกับว่าสถานที่แห่งนี้พึ่งถูกอุกาบาตตกใส่เลย

เมื่อเห็นแบบนี้, สีหน้าของลีโอกับเอลน่าก็เริ่มซีด

มันไม่ใช่เพราะอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับชีวิตของพวกเขา แต่มันเป็นเพราะพวกเขาตระหนักได้ถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นกในเมืองนี้ถ้าพวกเขาต่อสู้กับมังกรทะเลที่นี่”

“! เอลน่า! คอยสั่งการที่นี่แล้วทำการอพยพผู้คนซะ!”

“ลีโอ! แล้วเจ้าหล่ะ!?”

“ข้าจะขึ้นเรือออกไปจากที่นี่! อย่างน้อยข้าก็ต้องล่อมันออกไปจากเมืองให้ได้ไม่อย่างนั้นเมืองนี้ถูกทำลายแน่!”

“แบบนั้นมันบ้าบิ่นเกินไปแล้ว! แค่เรือลำเดียวจะไปทำอะไรได้!?”

“ข้าต้องไปออกคำสั่งกองเรือที่กำลังตื่นตระหนก! พวกเขาจำเป็นต้องมีผู้บัญชาการ!”

“พวกเขาไม่ใช่กองเรือของพวกเรานะเจ้าก็รู้ไม่ใช่หรอ!? ยิ่งไปกว่านั้น, พวกเขาคือกลุ่มคนที่ห้ำหั่นกันมาตลอดจนถึงเมื่อซักครู่นี้ถ้าเจ้าจัดการได้ไม่ดีเจ้าจะถูกยิงข้างหลังจากความสับสนของผู้คนได้นะรู้รึเปล่า!?”

“ท่านพี่ปลอมตัวเป็นข้าแล้วสร้างพันธมิตรนี้ขึ้นมาให้ข้า! ข้าจะไม่นั่งดูอยู่เฉยๆแล้วปล่อยให้มันล่มไปทั้งแบบนี้หรอก!”

หลังจากที่พูดออกมาแบบนั้น, ลีโอก็เริ่มวิ่ง

เอลน่าพยายามจะห้ามเขาแต่เธอก็ทำไม่ได้

ซึ่งนี่เป็นเพราะกระสุนน้ำลูกที่สองจากลิเวียธานกำลังจะเข้ามาแล้ว

กระสุนน้ำกำลังลอยอยู่เหนือศรีษะของเธอและมุ่งหน้าไปที่ใจกลางเมือง, เอลน่าต้องปัดป้องมัน

ซึ่งสุดท้ายแล้วกระสุนลูกที่สองนี้ก็ตกลงมาใกล้กับหลุมแรกและสร้างเป็นหลุมใหม่ขึ้นมา

“เราจะทนรับของแบบนี้ไปได้อีกนานแค่ไหนกันนะ.....”

เอลน่าพึมพำกับตัวเองในขณะที่มองแขนขวาที่ชาไปทั้งแขนและดาบคู่ใจของเธอ

ถ้าเธอใช้ดาบศักดิ์สิทธิ์ได้หล่ะก็นะ, ในขณะที่คิดแบบนี้เอลน่าก็เริ่มออกคำสั่งและทำการอพยพพระราชากับประชาชนในขณะที่คอยปกป้องพวกเขาจากกระสุนน้ำที่กระหน่ำเข้ามา

....

“กัปตัน! เริ่มทำการสวนกลับได้!”

“การจะต่อกรกับพี่เบิ้มแบบนั้น, ปืนใหญ่ของพวกเราก็ไม่ต่างอะไรจากปืนยิงถั่วหรอกนะครับ!”

“ลงมือเถอะหน่า!”

“ท่านนี่เป็นคนไร้เหตุผลจริงๆนะครับรู้ตัวรึเปล่า! พวกเราจะเคลื่อนพลแล้ว! เตรียมตัวซะเจ้าพวกบ้า!”

พอได้รับคำสั่งจากลีโอ, กัปตันเรือก็พาเรือของลีโอเข้าสู่ตำแหน่งโจมตีและยิงปืนใหญ่เวทมนตร์ของพวกเขา

อย่างไรก็ตาม, มันทำให้เกล็ดแข็งๆของมังกรเป็นรอยไม่ได้ด้วยซ้ำ

แต่ถึงอย่างนั้น, ลีโอก็ยังสั่งให้ลูกเรือของเขาโจมตีต่อไป

จากนั้นเขาก็หยิบเครื่องขยายเสียงเวทมนตร์ขึ้นมา

“ถึงกองเรือของรอนดิเน่และอัลบราโทรที่อยู่ในระแวกนี้! ข้าคือเจ้าชายลำดับแปดของจักรวรรดิ, ลีโอนาร์ด เลคส์ แอดเลอร์! ตอนนี้พวกเรากำลังจะดึงความสนใจของลิเวียธานด้วยการโจมตีมัน! ถ้ายังมีเรือลำไหนของทั้งสองประเทศที่ไม่หวั่นกลัวมังกรทะเล, ขอให้ตามพวกเรามา! แค่นิดหน่อยก็ไม่เป็นไร! พวกเราจำเป็นต้องล่อมันออกจากท่าเรือให้ได้! มีเรือลำไหนที่พร้อมจะจมไปด้วยกันกับข้ารึเปล่า!?”

จากนั้นก็มีเรือลำนึงตอบสนองต่อเสียงเรียกของลีโอในทันที

ในตอนที่พวกเขาเห็นเรือของลีโอ, พวกเขาก็หันหัวเรือไปทางลิเวียธานและเคลื่อนที่เข้ามาสนับสนุนลีโอ

“ขอข้าติดตามไปด้วยนะครับ, องค์ชาย”

มันคือเรือลำแรกที่เคยเข้ามาหยุดอัลในตอนที่เขาพยายามจะเข้าเทียบท่า

คนแรกที่สังเกตเห็นก็คือกัปตันเรือของลีโอ

“องค์ชาย! นั่นมันเรือจากเมื่อตอนนั้นนี่ครับ!”

“ตอนนั้นนี่ตอนไหน?”

“ก็เรือที่เข้ามาหยุดพวกเราในตอนที่พวกเราพยายามจะเข้าเทียบท่ายังไงหล่ะครับ!”

พอได้รับแจ้งจากกัปตัน, ลีโอก็นึกย้อนเรื่องราวที่ได้ยินมาจากอัล

อย่างไรก็ตาม, เนื่องจากอัลพูดแค่ว่าเขาเข้าเทียบท่าได้, ลีโอจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากพูดไปตามน้ำ

“อ๋อ, เรือเมื่อตอนนั้นเองสินะ”

ถ้ามีเหตุการณ์ผิดแปลกอะไรก็ช่วยเล่ามาให้หมดสิครับท่านพี่, ลีโอบ่นอยู่ในใจ

แต่ถึงอย่างนั้น, ลีโอก็ยังคงคิดว่านี่แหล่ะนะคือพี่ชายของเขา ถ้าอัลไม่ได้บอกเขาก็แสดงว่ามันต้องเป็นสิ่งที่เขาไม่คิดว่ามันจำเป็นถึงขนาดต้องเล่าให้ลีโอฟัง

“คงมีอีกเยอะสินะที่ท่านพี่ยังไม่ได้บอก”

ในขณะที่พึมพำ, ลีโอก็หวังอยู่ในใจว่าจะได้ยินมันจากเขา

อัลเป็นพี่ชายที่ยอดเยี่ยมสำหรับลีโอมาโดยตลอด นี่คือสาเหตุที่ลีโอมักจะรู้สึกดีใจในตอนที่ได้ยินเขาทำเรื่องที่น่าทึ่ง และบอกพวกเขา

เห็นไหมหล่ะ, พี่ชายของฉันสุดยอดไปเลยใชไหม

ในขณะที่คิดแบบนั้น, เรือจากราชรัฐอัลบราโทรก็เริ่มมารวมตัวกันรอบๆเขา

ราวกับไม่มีอะไรจะเสียแล้ว, เรือจากรอนดิเน่เองก็เริ่มเข้าร่วมด้วย

เมื่อเห็นแบบนี้, ลีโอก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่แล้วออกคำสั่ง

“เหล่าผู้กล้าจากกองเรือของทั้งสองประเทศเอ๋ย, ข้ารู้สึกเป็นเกียรติจริงๆ เราจะทำการโจมตีพร้อมกัน! เราจะดึงความสนใจของลิเวียธานมาที่พวกเรา!”

ด้วยเหตุนี้เอง, กองเรือที่พึ่งตั้งขึ้นเป็นการชั่วคราวนี้ก็เริ่มยิงใส่ลิเวียธาน

อย่างไรก็ตาม, สายตาของลิเวียธานยังคงจับจ้องไปที่เมืองหลวงของอัลบราโทร

ลีโอสามารถจุดแรงบัลดาลใจให้กับกองเรือจนพวกเขามาช่วยดึงดูดความสนใจของมันได้แต่ลิเวียธานก็ยังคงพ่นกระสุนน้ำออกมาโดยไม่สนใจอะไร

ที่ท่าเรือ, เอลน่าสามารถเปลี่ยนวิถีกระสุนได้แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะหายไปไหน

การเบี่ยงกระสุนน้ำให้ไปลงในพื้นที่รกร้างนั้นได้เปลี่ยนสภาพผิวของตึกอาคารและภูมิประเทศในจุดที่มันลงจอด

ด้วยสถานการณ์ที่เหมือนนรกนี้, มีเด็กสาวคนนึงที่เดินเข้าไปในสำนักงานสาขาของกิลด์ อย่างไรก็ตาม, สาขานี้ได้ถูกทำลายไปบางส่วนแล้วและพนักงานก็ลี้ภัยไปนานแล้วด้วย

แต่ถึงอย่างนั้น, เด็กสาวก็ยังคงมุ่งหน้าไปที่สำนักงานสาขา

ห้องสื่อสารทางไกลอยู่ที่นั่น มันคือสถานที่ที่พวกเขาใช้รายงานการปรากฎตัวของมังกรทะเลเมื่อครู่ก่อน ที่นั่น, เด็กสาว, เอวา, คุกเข่าของเธอลง

“ได้โปรดเถอะค่ะ.....ได้โปรดเถอะ.....จะเป็นใครก็ได้.....ได้โปรดช่วยประเทศของข้าด้วย....ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป, ประเทศของข้าคงถูกทำลายแน่.....! มังกรทะเลจะกลืนกินผู้คนทั้งหมดของเรา.......! จะเป็นใครก็ได้.....ได้โปรดช่วยประเทศของเราที..... ได้โปรดยอมรับคำขอนี้แล้วเอาชนะมังกรทะเลเพื่อพวกเราด้วย.....!”

เอวาทิ้งคนคุ้มกันของเธอแล้วแยกมาจากประชาชนที่กำลังลี้ภัยคนอื่นๆเพื่อมุ่งหน้ามายังสถานที่แห่งนี้

เธอรู้ว่ากิลด์นักผจญภัยมีห้องสื่อสารทางไกลที่สามารถติดต่อกับสาขาอื่นได้ ดังนั้นเอวาจึงร้องขออย่างไม่หยุดหย่อนราวกับว่าเธอกำลังภาวนาต่อพระเจ้า

คนกลุ่มเดียวที่เธอสามารถพึ่งพาได้ในตอนนี้ก็คือนักผจญภัย

นักผจญภัยแรงค์ SS จากกิลด์น่าจะทำอะไรบางอย่างกับสถานการณ์นี้ได้

ด้วยความคิดเช่นนี้, เอวาก็ทำการขอความช่วยเหลือต่อไปเรื่อยๆ

การกระทำนี้มันกระโดดไปไกลเกินกว่าการคาดการณ์ของเอวาจริงๆเพราะคำขอของเธอนั้นกำลังออกอากาศไปยังกิลด์นักผจญภัยทุกสาขาทั่วทวีป

ในตอนที่อาคารถูกทำลายไปบางส่วน, ห้องก็ถูกเปลี่ยนเป็นโหมดออกอากาศที่จะถ่ายทอดบทสนทนาไปยังกิลด์นักผจญภัยทุกแห่ง แต่เดิมนั้น, มันคือโหมดที่ใช้ในการรายงานเมื่อเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินขั้นวิกฤตระดับสูงสุดไปยังกิลด์สาขาทั้งหมดที่อยู่ทั่วทวีป และด้วยเหตุนี้เองตอนนี้คำขอของเอวาจึงได้กระจายไปทั่วทวีปแล้ว

คำขอของเอวานั้นไม่ได้ถ่ายทอดไปถึงแค่พนักงานกิลด์เพียงอย่างเดียวแต่ยังรวมถึงนักผจญภัยที่อยู่ข้างในของแต่ละสาขาด้วย

หลังจากได้ยินคำขอของเธอ, นักผจญภัยบางคนก็อยากจะทำอะไรซักอย่างเพื่อช่วยเหลือเธอแต่พวกเขาไม่มีวิธีที่จะไปทางใต้

ซึ่งนี่เองก็กำลังเกิดขึ้นข้างในสาขาเมืองหลวงของจักรวรรดิ

“บ้าชะมัด.....!”

“นี่พวกเราทำอะไรไม่ได้เลยหรอ!?”

“เงียบเถอะหน่า! ต่อให้เสนอตัวอยากจะช่วยอยู่ที่นี่ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงหรอก!”

“ว่าไงนะ!? ไม่เห็นหรอว่ามีผู้หญิงกำลังร้องขอความช่วยเหลือจากพวกเราอยู่!?”

“แล้วอยู่ในสภาพแบบนี้จะช่วยเธอได้ยังไงหล่ะ!?”

นักผจญภัยที่กำลังดื่มเหล้าเบียร์ของพวกเขาได้ยินคำวิงวอนขอความช่วยเหลือของเด็กสาวแล้วสาปแช่งให้กับความไร้พลังของตัวเอง

จากนั้นพวกเขาก็หยุดสาปแช่งแล้วกระเดือกเหล้าลงไป, พวกเขากำลังรอให้มีใครซักคนปรากฎตัวขึ้นมา

อย่างไรก็ตาม, คำวิงวอนของเอวาก็ยังคงดำเนินไปอยู่ในระหว่างนี้

ด้วยความที่มันเป็นโหมดที่ถูกออกแบบมาสำหรับสถานกาณร์ฉุกเฉิน, เสียงของเธอจึงกำลังออกอากาศไปทั่วทวีป

พวกพนักงานเองก็มีสีหน้าเศร้าสลด

ในขณะนั้นเอง, ก็มีชายคนนึงเข้ามาในกิลด์ เขาก้าวเข้ามาในสำนักงานสาขาแล้วตอบสนองต่อคำวิงวอนของเธอ

“ข้าจะไปเดี๋ยวนี้แหล่ะ รอแปบนึงนะ”

มันคือการตอบสนองที่คาดไม่ถึงสำหรับเอวา

เธอไม่เคยคิดเลยว่าจะมีคนตอบกลับมาจริงๆ

ยิ่งไปกว่านั้น, เขาบอกว่ากำลังจะมาแล้วด้วย

ในขณะที่เอวากำลังสับสนกับสิ่งที่เขาพูด, ก็มีรอยแตกเกิดขึ้นในอากาศที่อยู่ใกล้ๆกับเอวา

จากตรงนั้นมีชายชุดคลุมสีดำและหน้ากากสีเงินปรากฎตัวขึ้น

“ใครหรอคะ.....?”

“นักผจญภัยแรงค์ SS ที่ทำงานให้กับสาขาเมืองหลวงของจักรวรรดิ, ซิลเวอร์ ข้ามาที่นี่เพื่อตอบรับคำขอของเจ้า

แน่นอนว่าเสียงนี้ถูกออกอากาศไปยังกิลด์นักผจญภัยทั้งหมดที่อยู่ทั่วทวีปด้วย

ณ ตอนนี้, มีนักผจญภัยหลายคนที่ส่งเสียงเชียร์ให้กับการปรากฎตัวของตัวแทนของพวกเขา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด