Ep.261 - สังหารราชันย์
3/4
โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.261 - สังหารราชันย์
ฉินเฟิงยืนหยัดอยู่บนปราการศิลาดำ โชคดีที่ตัวปราการอยู่ในตำแหน่งสูง ทั้งยังก่อสร้างด้วยวัสดุเกรดพิเศษ มิฉะนั้นทั้งเกาะคงถูกกลืนหายไปกับทะเล ไม่หลงเหลือที่ยืนให้เขาหยั่งเท้า
แม้เมืองไห่จะถูกสร้างขึ้นมานานหลายปี แต่ปราการศิลาดำกลับสามารถต้านทานคลื่นกองทัพสัตว์ทะเลได้เสมอมา นั่นเพราะวัสดุที่ใช้สร้างมัน เป็นวัสดุจากต่างมิติ จึงไม่น่าแปลกใจที่แข็งแรงทนทานถึงขนาดนี้
อีกอย่าง ในช่วงกองทัพสัตว์ทะเลบุกในปีก่อนๆ ที่ไม่มีมนุษย์อาศัยอยู่ เหล่าสัตว์ร้ายไม่มีเหตุจูงใจที่จะพุ่งชนสิ่งปลูกสร้างขนาดใหญ่หลังนี้ ปราการศิลาดำจึงดำรงอยู่มาจวบจนปัจจุบัน
อาศัยประโยชน์จากชัยภูมิที่เหนือกว่า ฉินเฟิงราวกับปลากระดี่ได้น้ำ
กลิ่นอายแห่งความมืดพรั่งพรูออกมาอย่างบ้าคลั่ง แปรเปลี่ยนสัตว์ร้ายให้กลายเป็นหุ่นเชิดภายใต้การควบคุมของเขา จากนั้นก็ดึงแก่นพลังงานออกมา
อันที่จริงแล้ว หากนับแต่เริ่มถึงตอนนี้ ฉินเฟิงสามารถควบคุมซากศพได้นับหมื่นตน ซึ่งมันมากพอที่จะผลักดันสู่ชายฝั่ง บุกเข้าไปยังเมืองไห่เพื่อล้างแค้นแผนสกปรกของพวกมันได้
อย่างไรก็ตาม ฉินเฟิงมีความคิดเป็นของตัวเอง
“ถ้าใช้วิธีนั้น ฉันจะไม่กลายเป็นผู้ฝึกสัตว์หรอกหรือ?”
“ต่อให้กำลังจากภายนอกแข็งแกร่งเพียงใด มันก็เทียบไม่ได้กับการแข็งแกร่งจากภายใน ชีวิตที่สองฉันจะต้องทำให้ดียิ่งกว่าชีวิตก่อนหน้า มีเพียงวิธีนี้เท่านั้นถึงจะควบคุมโชคชะตาของตนเองได้!”
“ดังนั้น พวกชั่วในเมืองไห่ก็ปล่อยมันไว้ก่อน ใช้ซากศพผลิตแก่นพลังงาน แล้วดูดซึมมันเสริมแกร่งให้ตัวเองก่อนจะดีกว่า!”
ฉินเฟิงคว้าแก่นพลังงานขนาดใหญ่ และใช้พลังดูดกลืนของเขาอีกครั้ง พละกำลังกายเพิ่มพูนขึ้นไม่หยุดยั้ง
แม้หลังจากเกิดใหม่ ฉินเฟิงจะมีพรสวรรค์ชนิดต่อต้านเจตจำนงสวรรค์ แต่เขารู้ดี ว่าโลกใบนี้มันกว้างใหญ่เพียงใด เหนือฟ้ายังมีฟ้า อาณาเขตสามเฉิงน่ะแค่จุดเล็กๆบนแผนที่เท่านั้น
---เป็นอาณาเขตเล็กๆบนแผนที่ ที่มีมากมายราวกับขนวัว
แค่ข้ามอาณาเขตนี้ไป ด้วยความแข็งแกร่งของฉินเฟิงในปัจจุบัน มันไม่เพียงพอจะที่อาละวาดได้
กระทั่งเลเวล A ในอดีตอย่างฉินเฟิง เมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์ต่างๆในโลกกว้าง บางครั้งก็มีสิ่งที่เขาทำไม่ได้อยู่เหมือนกัน
สึนามิถาโถมเข้าใส่เกาะพิทักษ์อีกครั้ง น้ำเค็มลดระดับลงสู่ทะเลอีกครา เผยให้เห็นถึงสัตว์ร้ายที่ติดมา พวกมันดาหน้าเข้าหาปราการศิลาดำด้วยฟันและเขี้ยวอันแหลมคม
แต่สุดท้ายก็ถูกดึงเอาแก่นพลังงานไปโดยฉินเฟิงอยู่ดี
ส่วนศพเน่าเปื่อยของพวกมัน ฉินเฟิงไม่กล้าให้ไหลกลับคืนลงสู่ทะเล เพลิงโลกันต์แผดเผาศพ ส่วนวัตถุดิบขั้นสูงบางชนิดที่ไม่กลัวเปลวไฟ ทั้งหมดถูกเก็บกวาดโดยไป๋หลี
ตอนนี้ สึนามิครั้งล่าสุดได้โถมเข้ามา ชะล้างขี้เถ้ามลายหาย สัตว์ทะเลตนอื่นเข้ามาแทนที่อีกระลอก เป็นเช่นนี้ไม่มีทีท่าว่าจะสิ้นสุด
พลังสมาธิของฉินเฟิงถูกควบคุมอยู่ตลอดเวลา ฆ่าสังหารอย่างนุ่มนวล
กลยุทธ์นี้นับว่าเป็นอะไรที่โคตรเจ๋ง!
เพราะเมื่อถูกเปลี่ยนเป็นซากศพ นั่นหมายความว่าทุกตัวจะทิ้งแก่นพลังงานเอาไว้เบื้องหลัง
ตราบใดที่ฉินเฟิงดูดซับพวกมันต่อไปไม่หยุด ความแข็งแกร่งของเขาก็จะพัฒนาการขึ้นอย่างต่อเนื่อง
อีกทั้งแก่นพลังงานที่ถูกบ่มไว้ในสมอง ยังประกอบไปด้วยพลังสมาธิ ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นในส่วนของความแข็งแกร่งทางกายหรือพลังสมาธิของฉินเฟิง ทั้งหมดเพิ่มพูนขึ้นในเวลาเดียวกัน
คลื่นสัตว์ทะเลถาโถมมามากเท่าไหร่ ฉินเฟิงก็ยิ่งแกร่งขึ้นมากเท่านั้น
วู้มมมมม!
สึนามิระลอกใหญ่มาเยือนอีกครั้ง
ตู้ม!
คลื่นยักษ์พัดพาเอาสัตว์ทะเลนับพันตกลงนอกกำแพงปราการศิลาดำ สะเก็ดน้ำกระเด็นเข้ามา
ฉินเฟิงห่อหุ้มไป๋หลีด้วยกำลังภายใน อย่างไรก็ตาม เมื่อคลื่นทะเลลดระดับลง กลับปรากฏหนวดสีแดงเข้มที่ดูน่าหวาดกลัว พาดลงบนกำแพงปราการ
ดวงตาของฉินเฟิงหรี่แคบลง ท่ามกลางกองทัพสัตว์ทะเลคราวนี้ ปรากฏสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ถูกพัดมากับคลื่นด้วย
---เป็นราชันย์ปลาหมึก!
ครอบครองลำตัวยาวกว่า 40 เมตร ปุ่มดูดตามหนวดของมันราวกับปากขนาดเล็กแลดูน่าขวัญผวา ปีนป่ายขึ้นมาบนปราการศิลาดำ
ระดับราชันย์ปรากฏตัวขึ้นแล้ว!
ยังไงก็ตาม ความแข็งแกร่งของมันอยู่ที่เลเวล E1 เท่านั้น ไม่ทรงพลังเท่าฉินเฟิง ทว่าร่างของราชันย์ปลาหมึกใหญ่โตมากจริงๆ ซึ่งขนาดใหญ่โต ย่อมเป็นตัวแทนของพละกำลังมหาศาล
เมื่อฝ่ายที่ถูกซัดมาตามคลื่น และพบเห็นฉินเฟิง อารมณ์ดุร้ายก็แสดงออกทันใด
ชั่วพริบตาเดียว หนวดนับสิบของมันก็ตวัดเข้าใส่ฉินเฟิง
กึ้งงง!
หนวดปะทะโล่กำลังภายในของฉินเฟิง บังเกิดเสียงอันคมชัด กดดันโล่กำลังภายในจนเปล่งประกายริบหรี่ แทบจะแตกเป็นเสี่ยงๆ
ฉินเฟิงเร่งเปลี่ยนไปใช้มีดกษัตริย์ครามอย่างรวดเร็ว
“มีดเปลวเพลิง!”
ใบมีดสาดแสงกระพริบไหว มีดกษัตริย์ครามของฉินเฟิงทำมาจากวัตถุดิบราชันย์เลเวล D ฉะนั้นย่อมสามารถตัดหนวดศัตรูได้อย่างง่ายดาย
ราชันย์ปลาหมึกโกรธคลั่ง มันโบกสะบัดหนวดอื่นๆของตน กวัดแกว่งไปมา ราวกับคลื่นมหึมาถาโถม ยังไม่พอ กระทั่งกำแพงแข็งกล้าของปราการศิลาดำ ยังส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดไม่หยุด เศษฝุ่นผงจากวัสดุภายในเริ่มร่วงหล่น
โครม!
กำแพงนอกปราการศิลาดำพังทลายลง ฉินเฟิงโอบเอวไป๋หลี ระเบิดก้าวอัคคี หลบแรงปะทะในครั้งนี้
“พลุไฟสงคราม!”
ปัจจุบัน ฉินเฟิงได้มาถึงเลเวล E แล้ว เขามิใช่ชายคนเดิมอย่างที่แล้วมา พละกำลังกายแข็งกร้าว ส่งผลให้สามารถปลดปล่อยเทคนิคที่สามของกระบวนท่าวรยุทธมีดผลาญสวรรค์ได้สะดวกสบายมากขึ้น
เปลวไฟถูกยิงขึ้นสู่ฟากฟ้า เจาะทะลุร่างของราชันย์ปลาหมึก
แคว่กกกก!
ดั่งผ้าไหมที่ถูกฉีกขาด ร่างของราชันย์ปลาหมึกแยกออกเกือบจะกลายเป็นครึ่งซีก
ในช่วงเวลานั้นเอง ร่างของราชันย์ปลาหมึกร่วงตกลง แต่จู่ๆก็แตกตัวกลายเป็นปลาหมึกน้อยนับไม่ถ้วน เตลิดหนีไปคนละทิศทางอย่างรวดเร็ว แสดงออกชัดถึงความหวาดกลัว
“พอมาตอนนี้คิดจะหนี? ฝันเถอะ!” ฉินเฟิงชี้ไปทางปราการศิลาดำ ระเบิดอบิลิตี้ใหม่ออกมา
“แมกมาโลกันต์!”
กำแพงหินกลายเป็นลาวาสีแดงหนืด เปลี่ยนเป็นแอ่งล้อมรอบปลาหมึกน้อยไว้ภายใน
“ฮว๊ากกกกกก ….”
เสียงโหยหวนที่ฟังไม่ออกว่าใช่ของมนุษย์หรือสัตว์ดังสะท้าน เพียงได้ยินก็พอจะบอกได้ว่าสิ่งมีชีวิตที่กรีดร้องกำลังเจ็บปวดราวกับตกนรก ท่ามกลางความตื่นตระหนกก่อนตาย มันตัดสินใจก่อความวุ่นวาย!
วินาทีต่อมา หมอกสีดำพลันฟุ้งกระจาย สาดเข้าใส่ฉินเฟิง
หมอกสีดำนี้มิใช่ธาตุมืด หากแต่เป็นหมึกของราชันย์
หมึกนี้สามารถสร้างอาการอัมพาตได้อย่างรุนแรง และต่อให้เป็นฉินเฟิง ก็ไม่หาญกล้าพอที่จะท้าทายมัน
ไป๋หลีไม่รั้งรอให้ฉินเฟิงเอ่ยปาก เธอพาเขาหนีทันที
พรวด!
หมอกสีดำตกลงบนกำแพงปราการศิลาดำ กัดกร่อนจนเป็นหลุมบ่อขนาดย่อม
นี่คือการโต้กลับครั้งสุดท้ายของราชันย์ปลาหมึก!
สิ้นการตอบโต้ ราชันย์ก็งัดความสามารถในการเอาชีวิตรอดของมันออกมา ปลาหมึกน้อยต่อแถวเป็นทางยาว นำพาสหายที่ยังไม่สัมผัสต้องลาวามุดฝ่าไป สุดท้ายหลุดมาได้ตัวหนึ่ง พยายามว่ายกลับคืนลงสู่ทะเล
เห็นแค่เพียงมีดกษัตริย์คครามของฉินเฟิงบินตัดผ่านอากาศ พุ่งตกลงบนร่างของปลาหมึกน้อย
ฉัวะ!
ปลาหมึกน้อยถูกหั่นเป็นสองซีก!
และรอยตัดนี้ คือตำแหน่งเดียวกันกับอันก่อนหน้า พลังในการเปลี่ยนรูปดับสูญ ราชันย์ปลาหมึกกลับคืนสู่ร่างมหึมาดังเดิม หมึกน้อยที่ถูกลาวาหลอมเหลวก่อนหน้านี้เป็นเพียงเศษเสี้ยวร่างแยกของมัน
“ฝากเก็บใส่พื้นที่มิติด้วย วัตถุดิระดับราชันย์ตัวนี้เป็นของดี เอาไว้กลับไปพวกเราจะทำปลาหมึกย่างเป็นอาหารเย็น!” ฉินเฟิงกล่าว
ไป๋หลีวาดมือออก ดึงแก่นพลังงานระดับราชันย์ของอีกฝ่ายออกมา ขณะเดียว ร่างของปลาหมึกก็หายวับไป
“นี่สำหรับคุณ” ไป๋หลียื่นแก่นพลังงานราชันย์ปลาหมึกให้แก่ฉินเฟิง
“เธอเก็บเอาไว้เถอะ เจ้าสิ่งนี้สามารถใช้ดูดซับได้” ฉินเฟิงปฏิเสธ
เนื่องจากวิวัฒนาการของไป๋หลี หากไม่ใช้แก่นพลังงานระดับราชันย์ มันจะเป็นไปอย่างเชื่องช้า
อย่างไรก็ตาม ครั้งนี้ไป๋หลีกลับไม่คิดหวงแหนอาหารของตน แต่กลับมอบมันให้แก่ฉินเฟิง
“คุณกินมันก่อนเถอะ จะได้แข็งแกร่งขึ้น เพื่อคอยปกป้องฉันไง”
ฉินเฟิงรับเอาแก่นพลังงานมาด้วยรอยยิ้ม
สำหรับสุนัขจิ้งจอกที่มักจะหวงแหนอาหาร กลับตัดสินใจไม่กิน มอบให้เจ้านาย
--นี่สินะที่เรียกกันว่าพฤติกรรมไว้วางใจเจ้าของ!
ที่สำคัญ สัตว์ร้ายที่ครอบครองพลังมิติ จำเป็นต้องการให้เขาคุ้มครองตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจิ้งจอกน้อยจะใส่ใจเกี่ยวกับศักดิ์ศรีของเขา ไม่คิดเปล่งวาจาว่าเจ้านายในปัจจุบันอ่อนแอเกินไป
“ได้เกิดใหม่อีกครั้ง แล้วมีเธออยู่เคียงข้าง มันช่างมีความสุขจริงๆ!”
ขณะกล่าว แก่นพลังงานในมือของฉินเฟิงก็หดเล็กลงอย่างรวดเร็ว
แก่นอบิลิตี้ของฉินเฟิงหมุนวนโคจร แก่นพลังงานระดับราชันย์หายวับไปกับมือ แปรเปลี่ยนเป็นฝุ่นผง ถูกพัดพาลอยหายไปกับลมทะเล
ขณะเดียวกัน ฉินเฟิงสามารถตัดผ่านไปได้อีกขั้น
ก้าวขึ้นสู่เลเวล E5 !