L.P.T ตอนที่ 80 ความทุกข์
เพราะเวลาล่วงเลยมาถึงหกโมงเย็นกว่า เมื่อซาโต้มาที่โรงอาหารสาธารณะพร้อมกับการ์ดี จำนวนเทรนเนอร์ที่เข้ามาในห้องอาหารก็มีจำนวนมากแล้ว ทำให้โรงอาหารสาธารณะดูเหมือนจะแออัดมากเกินไปหน่อย
การพึ่งพาพ่อแม่และเพื่อนๆไม่ใช่เรื่องผิด เพราะเทรนเนอร์เป็นอาชีพที่มีความเสี่ยงสูงและการเดินทางคนเดียวนั้นก็อันตรายมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเทรนเนอร์มือใหม่
ดังนั้นภายใต้สถานการณ์ปกติเทรนเนอร์รุ่นเยาว์จะยังคงชอบเดินทางกับเทรนเนอร์ที่เป็นอาจารย์และเพื่อนที่ไว้วางใจได้ ประการแรกเพราะพวกเขาจะสามารถเข้าใจและช่วยเหลือกันเพื่อลดความเสี่ยงในการพบเจออันตรายและประการที่สองพวกเขาสามารถช่วยกันฝึกหรือชี้ถึงจุดบกพร่องสำหรับการเป็นเทรนเนอร์ในอานาคตของพวกเขา
ปัจจุบันในโรงอาหารสาธารณะของโปเกมอนเซนเตอร์ เทรนเนอร์สองสามคนต่อกลุ่มมารวมตัวกันเพื่อกินอาหารเย็นในทุกโต๊ะ และเมื่อโปเกมอนของตัวเองพูดคุยกัน พวกเขาก็จะหัวเราะมันเลยทำให้ตอนนี้บรรยากาศแลกลมกลืนกันมาก
การ์ดีเป็นโปเกมอนที่ได้รับความนิยมอย่างมาก หลังจากซาโต้นำการ์ดีเข้ามาในโรงอาหารสาธารณะ เทรนเนอร์หลายคนก็หันมาสนใจการ์ดีและซาโต้ผู้ซึ่งเป็นเจ้าของด้วย
การ์ดีมีการรับรู้ต่อสิ่งเร้าได้ดีมาก ดังนั้นเขาจึงสังเกตเห็นได้อย่างรวดเร็วว่ามีคนจำนวนมากกำลังมองเขาอยู่ แต่เขาก็เป็นคนกล้าหาญและมั่นใจในตัวเอง เขาเลยไม่สนใจเลยสำหรับสายตาหลายคู่ที่กำลังจดจ้องมาที่เขา ตอนนี้ใจของเขาได้ลอยไปหาอาหารอร่อยที่ซาโต้จะเตรียมให้กินแล้ว
การ์ดีไม่สนใจอะไรอีกแล้วและซาโต้ที่เป็นเทรนเนอร์ที่ผ่านประสบการณ์การต่อสู้ในป่ามาหลายครั้งก็ไม่ได้สนใจอะไร เขามองไปที่โรงอาหารทั้งหมดและสังเกตเห็นขอบหน้าต่างอย่างรวดเร็ว โต๊ะบริเวณนั้นคนบนโต๊ะเพิ่งกินอาหารเสร็จและกำลังเตรียมตัวออกเดินทาง
ก่อนที่ใครจะสังเกตเห็น ซาโต้ก็ก้าวไปข้างหน้าเพื่อไปยังตำแหน่งทันทีและในที่สุดก็ได้นั่งตรงตำแหน่งใกล้หน้าต่างได้สำเร็จ
ซาโต้พึ่งนั่งลงและกำลังจะเตรียมอาหารเย็นสำหรับโปเกมอนของเขา ยกเว้นซูแบทซึ่งไม่ชอบกินอาหารของโปเกมอนมาโดยตลอด เขาจึงได้เตรียมอาหารสำหรับโปเกมอนอีกสามตัวแทนโดยมันเป็นอาหารโปเกมอนระดับสูงที่มีคุณค่าทางโภชนาการ
การ์ดีที่อยู่ข้างๆซาโต้ก็ทำดีรอเขา มันไม่ได้กินทันทีหลังจากที่ซาโต้เตรียมอาหารให้เสร็จ แต่การ์ดีรออย่างอดทนเพื่อให้ซาโต้เตรียมอาหารให้เพื่อนร่วมทางคนอื่นๆ จากนั้นก็รับประทานอาหารร่วมกับเพื่อนๆมัน
เนื่องจากอาหรโปเกมอนระดับสูงเหล่านี้เป็นกระป๋องจึงสะดวกมากในการเตรียม ซาโต้ใช้เวลาไม่มากในการเตรียมอาหารเย็นของโปเกมอนเขา
"ออกมาเถอะ ได้เวลาอาหารเย็นแล้ว" หลังจากเสร็จสิ้นการเตรียมอาหารเย็น ซาโต้ก็ปล่อยโปเกมอนที่เหลืออีกสามตัวทันที
แสงสีขาวสามดวงโผล่ออกมาจากลูกบอลและร่างของซูแบท,นิโดรัน,คุไซฮานะ ก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าซาโต้ทันทีเพราะหลังจากการรักษาอย่างเต็มรูปแบบที่โปเกมอนเซนเตอร์ทั้งสามก็อยู่ในอารมณ์ดีมาก
หลังซาโต้ปล่อยโปเกมอนทั้งสามที่มีคุณสมบัติเป็นพิษออกมา มันก็ดึงดูดความสนใจของเทรนเนอร์คนอื่นๆในโรงอาหารสาธารณะอีกครั้ง ซูแบทและนิโดรันยังไม่เท่าไหร่แต่หลังจากได้เห็นคุไซฮานะพวกเเทรนเนอร์ก็ปรากฏหน้าตาของความรังเกียจบนใบหน้าของพวกเขา
เทรนเนอร์หญิงบางคนที่อยู่ใกล้กับซาโต้แสดงความไม่พอใจบนใบหน้าของพวกเขา แต่หลังจากพบว่าโปเกมอนของพวกเขาแสดงความกลัวต่อซูแบทและคุไซฮานะ พวกเขาก็เลือกที่จะหยุดเข้าไปหาเรื่องและหลังจากกินเสร็จพวกเขาก็รีบออกจากโรงอาหารสาธารณะพร้อมกับโปเกมอนโดยเร็ว
ในความเป็นจริง เทรนเนอร์ส่วนใหญ่ในโรงอาหารสาธารณะในปัจจุบันกำลังเดินอยู่ในเขตปลอดภัยที่ตั้งขึ้นโดย พันธมิตรลีก ดังนั้นพลังการต่อสู้ของโปเกมอนในมือพวกเขาจึงอ่อแอมาก หรับซาโต้และซูแบทกับคุไซฮานะของเขาแล้วดูเหมือนพวกนี้จะเป็นเพียงกลุ่มไก่ที่อ่อนแอยกเว้นเพียงไม่กี่ตัว
นี้คือความเป็นจริง เมื่อซูแบทและคุไซฮานะถูกปล่อยออกมาโปเกมอนส่วนใหญ่ที่กินอาหารอยู่ในห้องอาหารก็ตัวสั่น ตามสัญชาตญาณป่าที่ไม่เคยหายไปจากพวกมัน สัญชาตญาณกำลังบอกพวกมันว่าซูแบทและคุไซฮานะอันตรายมาก
ในทางกลับกันคุไซฮานะก็เริ่มอารมณ์ไม่ดีมาก แม้ว่าเธอจะร่าเริงมากขึ้นหลังจากใช้เวลาอยู่กับซาโต้และเพื่อนๆ แต่เธอก็ยังคงเป็นโปเกมอนที่อ่อนไหวมากอยู่ดี
จากสายตาที่รังเกียจของเทรนเนอร์และโปเกมอนรอบตัว เธอสามารถรู้สึกถึงมันได้อย่างชัดเจนและในขณะที่อารมณ์ของเธอก็เริ่มต่ำลงจนผิดปกติ
"ไม่สนใจพวกนี้เพียงแค่ทานอาหารเย็นกับเพื่อนของเธอก็พอ" เมื่อเห็นคุไซฮานะที่กังวลในเรื่องปมด้อยของเธอ ซาโต้ก็คุกเข่าลงและสัมผัสกับดอกตูมที่ส่งกลิ่นออกมาอย่างสบายใจ
"ซี ซี ~"
"นิโด นิโด ~~"
"ฮู้ววว ~~"
ในเวลานี้ซูแบท,นิโดรัน,การ์ดี เป็นกลุ่มแรกที่กระตุ้นคุไซฮานะโดยบอกว่าพวกเขาไม่สนใจและนิโดรันที่สนิทกับเธอที่สุดก็หยิบเอาหนึ่งในก้อนพลังงานคุณภาพสูงที่เขาซ่อนไว้ในหู ออกมาให้กับคุไซฮานะโดยไม่หวงแม้แต่น้อย
"นา ~" เมื่อได้ยินคำปลอบโยนและกำลังใจจากซาโต้และเพื่อนๆ ความหดหู่บนใบหน้าของคุไซฮานะก็บรรเทาลงทันทีและรอยยิ้มของเธอก็เริ่มปรากฏออกมา เธอพยักหน้าให้เพื่อนๆและยังคงกินอาหารโปเกมอนอย่างมีความสุข
สำหรับคุไซฮานะเพื่อนคือสิ่งที่สำคัญที่สุด ตราบใดที่เพื่อนไม่เกลียดเธอ สายตาของคนแปลกหน้าคนอื่นก็ไม่สำคัญ เธอจะไม่ยอมโดดเดี่ยวอีกต่อไป เพราะเธอมีเพื่อนที่ดีมากดังนั้นเธอจึงไม่จำเป็นต้องกลัวการอยู่คนเดียวอีกแล้ว
ในความเป็นจริงหลังจากผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ คุไซฮานะสามารถควบคุมการปล่อยกลิ่นตัวของเธอได้เป็นอย่างดี ภายใต้สถานการณ์ปกติตราบใดที่คุไซฮานะไม่ตกใจกลัวและรู้สึกอันตรายกลิ่นบนร่างกายของเธอก็แทบจะหมดไปด้วยซ้ำ
และเหตุผลที่คุไซฮานะพยายามอย่างหนักนี้ ก็เพื่อที่เธอจะสามารถควบคุมกลิ่นบนร่างกายของเธอให้เพื่อนที่เธอรักไม่ต้องรู้สึกอึดอัด แม้ว่าเพื่อนๆของเธอจะบอกว่าพวกเขาไม่สนใจ แต่เธอก็ยังรู้สึกเสียใจเล็กน้อยในใจเพราะเหตุนี้เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อเพื่อนเธอมากที่สุด เธอจึงพยายามอย่างหนัก ถ้าดูจากทั้งหมดนี้คุไซฮานะนับเป็นคนที่เข้าใจยากที่สุดในทีมของซาโต้เลย
"ปมด้อยของคุไซฮานะยังคงหนักเกินไปสำหรับเธอและมันคงต้องได้รับการแก้ไขโดยเร็วที่สุด มิฉะนั้นเธออาจจะปิดกั้นตัวเองจากสังคมอีกครั้งแน่ๆ ซึ่งถ้าเป็นยังงั้นจริงการพัฒนาของเธอก็จะแย่ลงในอนาคต" เมื่อเห็นอารมณ์ของคุไซฮานะฟื้นตัวขึ้นมากและสีหน้าก็ดีขึ้น แต่ซาโต้ก็ยังมีความกังวลในใจอยู่บ้าง
โปเกมอนยังคงเป็นสัตว์ที่มีอารมณ์เช่นกันและอารมณ์ของพวกมันจะส่งผลต่อสถานะของพวกมันอย่างมาก ดังนั้นนอกเหนือจากการฝึกโปเกมอนของตัวเองแล้วสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับเทรนเนอร์ก็คือการดูแลโปเกมอนของเขาให้จิตใจแข็งแรงสม่ำเสมอ
เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ปัจจุบันสุขภาพจิตของคุไซฮานะนั้นอ่อนแออย่างเห็นได้ชัดและเธอจะได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ในการต่อสู้และการเติบโตในอนาคต ดังนั้นตอนนี้ซาโต้กำลังพิจารณาที่จะหาวิธีที่จะได้รับหินพระอาทิตย์โดยเร็วที่สุด เพื่อให้คุไซฮานะนั้นพัฒนาเป็นคิเรอิฮานะ ด้วยวิธีนี้คุไซฮานะซึ่งพัฒนาในรูปแบบนี้เธอจะสามารถเอาชนะปมด้อยเก่าของเธอเองได้อย่างรวดเร็ว
นอกจากความจริงที่ว่าคุไซฮานะสามารถเอาชนะปมด้อยทางจิตใจเธอได้แล้ว ซาโต้ยังคาดหวังด้วยว่าสำหรับคุไซฮานะพัฒนาเป็นคิเรอิฮานะจะได้รับพลังที่ทรงพลังมากขึ้นและการเพิ่มความแข็งแกร่งของคุไซฮานะแบบนี้ก็จะกลายเป็นกำลังสำคัญสำหรับภารกิจต่อไปของเขา
แต่สิ่งที่ทำให้ซาโต้ไม่สบายใจในตอนนี้ก็คือหินพระอาทิตย์นั้นราคาไม่ถูก ในระบบแลกเปลี่ยนคะแนนภายในของ แก๊งร็อคเก็ตราคามันมีค่ามากกว่าหินพระจันทร์เสียอีก มันต้องใช้ถึง 12,000 คะแนนซึ่งสูงกว่าหินพระจันทร์กว่า 2,000 คะแนน
แน่นอนซโต้ผู้มีก้อนพลังงานมีมั่นใจมากในการได้รับหินพระอาทิตย์แต่ปัญหาสำคัญในตอนนี้คือเขาไม่สามารถกลับฐานได้ในตอนนี้ กล่าวคือเขาไม่สามารถใช้คะแนนภายในของแก๊งร็อคเก็ตเพื่อแลกเปลี่ยนมัน
ดังนั้นวิธีเดียวที่ซาโต้จะได้รับหินพระอาทิตย์คือการใช้เงินของพันธมิตรลีกเพื่อซื้อมัน แต่แม้ในระบบแลกเปลี่ยนคะแนนภายในขอแก๊งร็อคเก็ตราคามันก็แพงมากดังนั้นราคาในตลาดภายนอกคงน่ากลัวมากเช่นกัน
ยิ่งไปกว่านั้นในโลกโปเกมอนสิ่งต่างๆเช่นหินวิวัฒนาการนั้นมีค่ามากเสมอและเป็นสมบัติที่หาได้หรือหาไม่ได้เลย ภายใต้สถานการณ์ปกติยกเว้นแต่จะมีขุมกำลังขนาดใหญ่บางส่วนมีปริมาณสำรองบางส่วนคิดจะปล่อยออกมา มันจะไม่ค่อยมีการหมุนเวียนในตลาดเลย
ดังนั้นนอกจากเงินที่เพียงพอแล้ว ซาโต้ยังต้องมีโชคอีกจำนวนหนึ่งเพื่อให้ได้หินมาอีกด้วย