บทที่ 58 พลังของบอลโปร่งแสง!
บทที่ 58 พลังของบอลโปร่งแสง!
โครงกระดูกทั้งหกสลายหายไปตามอากาศ กุนไท่รู้สึกโศกเศร้าเล็กน้อยที่สูญเสียคู่ฝึกซ้อมของตนเองไป ยามนี้เขาผ่านการทดสอบแล้ว เขามองไปที่บอลแสงนั้นก่อนจะเดินเข้าไปหา
บอลโปร่งแสงให้ความรู้สึกราวกับมหาสมุทรที่กว้างใหญ่ มันอัดแน่นไปด้วยจิตวิญญาณ และเจตจำนงที่แข็งแกร่ง กุนไท่ยื่นมือไปแตะที่บอลแสงนั้นก่อนจะรู้สึกได้ถึงพลังจิตปริมาณมหาศาลไหลเข้าสู้ห้วงแห่งจิตของเขา ภายในห้วงแห่งจิตปริมาณพลังจิตเพิ่มสูงอย่างรวดเร็ว
เหงื่อเย็นเยียบไหลออกมา ชายหนุ่มอยู่ในท่านั่งขัดสมาธิ ภายในหัวได้ยินเสียงดังอย่างต่อเนื่องราวกับมีสงครามกำลังก่อขึ้นภายในหัวของตนเอง
ใบหน้าคมคายนั้นเริ่มซีดขาว ร่างเริ่มสั่นอย่างควบคุมไม่ได้ ขลุ่ยจักรพรรดิวิญญาณที่อยู่ภายในห้วงแห่งจิตนั้นเริ่มดูดซับพลังจิตของบอลแสงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ห้วงแห่งจิตไม่ได้รับภาระมากจนเกินไป
พลังจิตระดับกลางขั้น 1 ของเขานั้นพลันทะลวงผ่านกลายเป็นขั้น 2 ความแข็งแกร่งของพลังจิตนั้นสูงยิ่งขึ้นไม่หยุดหย่อน!
ปัง! พลังจิตระดับกลางขั้น 3!
กุนไท่ลืมตาขึ้นพร้อมกับบังเกิดกระแสพลังจิตไหลผ่านทางดวงตาของเขา! ชายหนุ่มรู้สึกหัวสมองโล่งปลอดโปร่งอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ตอนนี้ความแข็งแกร่งของพลังจิตของเขานั้นเทียบเท่ากับขอบเขตปรมาจารย์ยุทธ์แล้ว!
ภายในแหล่งกำเนิดพลังของกุนไท่ปรากฏดวงแก้วโปร่งใส มันคือเจตจำนงของเซียนพลังจิต ชายหนุ่มได้รับการสืบทอดมาเป็นที่เรียบร้อย ยามนี้เขาเข้าใจเจตจำนงของเซียนพลังจิตทั้งหมด เจตจำนงของเซียนพลังจิตคือการสร้างชื่อเสียงอีกครั้งด้วยนามของเซียนพลังจิต!
“ผู้อาวุโส ข้ามีเรื่องอยากจะถาม เหตุใดคนที่เข้ามาในป่านี้ถึงได้หายไป?” กุนไท่กล่าวถามขึ้น
“เป็นเพราะในป่าแห่งนี้มีสัตว์อสูรที่มีพลังจิตที่แข็งแกร่ง พวกมันสามารถใช้พลังจิตทำให้มนุษย์ตกอยู่ในการควบคุมของมันได้” เสียงที่แหบแห้งตอบกลับ
“เป็นเช่นนั้น” กุนไท่พยักหน้า
“ยินดีกับท่านด้วยที่สามารถได้รับการสืบทอด ตอนนี้ได้เวลาที่ข้าต้องเกิดใหม่แล้ว!” เสียงที่แหบแห้งดังขึ้นเป็นครั้งสุดท้าย
“ขอบคุณผู้อาวุโสมาก!” กุนไท่กล่าวพลางประสานมือก่อนจะออกจากที่นี่ไป
กุนไท่กลับขึ้นมาจากซากปรักหักพัง เขาพบเห็นว่าหมอกในป่านี้หายไปหมดแล้ว ความคิดหนึ่งของเขาพลันผุดขึ้นมา
“ต้นเหตุของหมอกพวกนี้ น่าจะเป็นเพราะการคงอยู่ของบอลโปร่งแสงเป็นแน่ เมื่อข้าได้รับเจตจำนงของเซียนพลังจิตมาแล้ว เลยทำให้หมอกพวกนี้จางหายไป ตอนนี้ถึงเวลาสมควรที่ข้าต้องออกเดินทางกลับทวีปอรุณเบิกฟ้า!”
หลายวันผ่านไป...
ชายหนุ่มเดินทางผ่านป่าและภูเขามากมายตามข้างทางมีทั้งโจร สัตว์อสูรและอันตรายในทุกแบบมากมาย แต่มันก็ไม่ใช่ปัญหาแม้แต่น้อยสำหรับเขา!
กุนไท่พบเห็นเมืองอยู่เมืองหนึ่งข้างหน้าของเขา มันเป็นเมืองที่เล็กมากในสายตาของชายหนุ่ม เขาตัดสินใจพักในเมืองนี้ก่อนชั่วคราว
กุนไท่เข้ามาในเมืองแล้วเห็นผู้คนผ่านไปมามากมาย แม้เมืองจะเล็กแต่ผู้ที่อาศัยอยู่ที่นี่นั้นกลับมีเยอะมาก กุนไท่มองหาโรงเตี๊ยมสักแห่งเพื่อพักพิง เขาซื้อแผนที่จากการซื้อขายภายในเมืองมา จึงทำให้รู้ว่าตอนนี้ตัวเขาอยู่ในเมืองเหยี่ยชิง!
เมืองเหยี่ยชิงอยู่ในมณฑลห้าเขตปกครอง ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ขนาดเล็กของจักรวรรดิเหม่ยเยวี่ย กุนไท่ทำความเข้าใจคร่าวๆเพื่อแค่เดินทางไปในเส้นทางที่ถูกต้อง
เช้าวันรุ่งขึ้น ชายหนุ่มออกจากโรงเตี๊ยมไปแล้วหาขบวนเดินทางที่เร็วที่สุด และเขาก็ได้ไปกับขบวนกลุ่มสมาคมกลุ่มหนึ่ง
ขณะที่กุนไท่กำลังนั่งบ่มเพาะอยู่นั้น เขาพลันสัมผัสได้ถึงอันตรายข้างนอกขบวนรถเดินทาง เขาปรากฏตัวออกมาพร้อมกับพบเห็นผู้คนมากมายกำลังอยู่มองไปบนน่านฟ้า บนน่านฟ้านั้นมีชายวัยกลางคนสามคน มันแผ่กลิ่นอายของเผ่าโลหิตอสูรออกมา!
“พวกเจ้าอย่าได้ขัดขืน! ข้าไม่ได้มาสังหารพวกเจ้า ข้าแค่ต้องการเจ้าหนูนั้นแค่เดียวคนเดียว แล้วข้าจะไปทันที!” หนึ่งในนั้นชี้มาที่กุนไท่พร้อมกับกล่าวขึ้นมาอย่างดุดัน
ผู้คนที่อยู่รอบข้างกุนไท่พลันถอยออกมาทันที เพื่อสร้างระยะห่างกับชายหนุ่ม กุนไท่รู้สึกเคร่งเครียดขึ้นมา เขาไม่คิดเลยว่าอีกฝ่ายจะตามมาเจอเขาได้เร็วเช่นนี้ แม้กุนไท่จะกังวลแต่กลับไม่ได้แสดงอาการออกมา เขาพยายามสงบจิตใจให้อยู่ในเวลาปกติ
“หึ! ยอมมากับพวกข้าซะ! ไม่อย่างนั้นละก็....
ชายวัยกลางคนผู้นั้นกล่าวแล้วเว้นไว้ ทำให้ผู้คนที่ได้ฟังแล้วรู้สึกหวาดกลัว!
“อย่าได้แตะต้องกับศิษย์ในนิกายของพวกเรา!”
ทันใดนั้นปรากฏเสียงของชายชราขึ้น พร้อมกับปรากฏเงาร่างขึ้นอีกสามคน พวกเขายืนอยู่ตรงหน้ากุนไท่
“ไม่ต้องกังวลสหายน้อย! ข้ามาช่วยเจ้าแล้ว ท่านผู้นำนิกายส่งพวกเรามา!”
หนึ่งในนั้นกล่าวขึ้นเมื่อเห็นใบหน้าที่งุนงงของชายหนุ่ม
“ข้าว่าเจ้ารีบหนีไปซะ! พวกเราสามคนทำได้แค่เพียงต้านทานอีกฝ่ายเท่านั้น พวกเราจะยื้อไว้ให้!” อีกคนหนึ่งกล่าวเสริมขึ้นมา
“ผู้อาวุโส! พวกท่านอุตส่าห์มาช่วยเหลือข้า แล้วข้าจะทิ้งพวกท่านไปได้อย่างไร ข้าไม่ต้องการให้พวกท่านมาเสี่ยงชีวิตเพื่อศิษย์คนหนึ่งในนิกาย!”
“ข้าขอบใจในความหวังดีของเจ้า แต่นี่เป็นคำสั่งจากอาจารย์ของเจ้า ข้าว่าเจ้ารีบหนีไปดีกว่า เวลาเหลือไม่มากแล้ว!”
“เข้าใจแล้ว! ท่านผู้อาวุโสโปรดรักษาตัวด้วย!”
กุนไท่นั้นเชื่อมั่นว่าผู้อาวุโสทั้งสามต้องมีแผนรับมือไว้แน่ เพราะเพียงแค่คำสั่งของผู้นำนิกาย ไหนเลยจะยอมเสี่ยงชีวิตของตนเองเพื่อสู้กับผู้ที่แข็งแกร่งกว่าตน!
กุนไท่ไม่รอช้ารีบจากไปทันที! ผู้อาวุโสทั้งสามเห็นกุนไท่จากไปแล้วก็หันมาหาชายวัยกลางคนของเผ่าโลหิตอสูรทั้งสามคนพร้อมกับกล่าวขึ้นมาอย่างยั่วยุว่า
“เข้ามาเลยเจ้าพวกครึ่งๆกลางๆ มนุษย์ก็ไม่ใช่ อสูรก็ไม่เชิง! สรุปพวกเจ้าเป็นตัวอะไรกันแน่ ไม่อายบ้างหรือที่เกิดมาเป็นแบบนี้!”
“ใช่แล้ว พวกเจ้าที่เป็นพวกครึ่งๆกลางๆแบบนั้น มันเหมือนพวกชายแต่งหญิงเลย!”
ฮา ฮ่าๆๆๆๆ
อีกคนหนึ่งกล่าวเสริมขึ้นมาพร้อมกับหัวเราะเสียงดังลั่น
“บัดซบ! กล้าล้อเลียนถึงเผ่าพันธุ์ข้า! เจ้าพวกมนุษย์ชั้นต่ำ! ตายซะ!”
“พวกข้าเกิดมาแบบนี้ ก็ไม่ได้หมายความว่าข้าจะเหมือนบิดาของเจ้าเสียหน่อยที่แอบใส่ชุดภรรยาของตัวเองออกจากบ้านดึกดื่น!”
เผ่าโลหิตสูรที่ทั้งสามนั้นตะโกนขึ้นมาด้วยความเดือดดาล พวกมันโกธรแค้นกับคำพูดของมันเป็นอย่างมาก!
พวกมันทั้งสามพุ่งเข้าใส่ผู้อาวุโสทั้งสามของนิกายฟ้าสวรรค์คำรามพิโรธอย่างบ้าคลั่ง ก่อนจะเกิดการต่อสู้ที่รุนแรงขึ้น