ตอนที่ 79-80
ตอนที่ 79 : เถ้าแก่ที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
วันถัดมา
ลั่วฉวนตื่นขึ้นก่อนจะไปล้างหน้าและอาหารกินตามปกติ
แต่แทนที่จะออกไปนอนอาบแดด เขากลับเลือกเข้าหอคอยแห่งการทดสอบ
ทางด้านเหยาซือหยานก็เป็นเช่นเดียวกัน
การฝึกฝนถึงกับง่ายดายเพียงนี้
ทั้งสองหาได้สนใจไม่ว่าเมื่อคืนเกิดเรื่องราวอันใดขึ้น
ลั่วฉวนยิ่งไม่นำมาเก็บใส่ใจด้วยซ้ำ
เหยาซือหยานคือราชวงศ์สัตว์อสูรขอบเขตราชัน เรื่องราวข่าวลือของมนุษย์นางอย่างไรก็ไม่สนใจอยู่แล้ว
เป้าหมายของลั่วฉวนวันนี้คือผ่านโหมดปกติของชั้นแรกให้ได้!
ความแตกต่างระหว่างโหมดง่ายและโหมดปกติ คือขอบเขตพลังไม่อาจเลือกได้อย่างอิสระ!
ที่แห่งนี้ ผู้ท้าทายทุกคนจะอยู่ขอบเขตหลอมกายระดับสูงสุด
หรือก็คือ มีแต่ต้องพึ่งกำลังอันแท้จริงจึงสามารถผ่านไปได้ การใช้ขอบเขตสูงกว่าบดขยี้ไม่อาจกระทำได้อีกต่อไป
ลั่วฉวนสูดลมหายใจเข้าลึกก่อนจะปรับสภาวะอารมณ์
แม้ตายก็สามารถฟื้นคืนชีพได้ไม่จำกัดในที่แห่งนี้ แต่ความหวาดกลัวต่อความตายคือของจริง
ห้วงมิติผันแปรเล็กน้อย ร่างเงาจำนวนมากปรากฏขึ้นในอากาศ
แต่ผ่านไปเพียงไม่กี่ชั่วลมหายใจ หมาป่ายักษ์ทั้งสองที่หน้าตาประหลาดพลันปรากฏผ่านห้วงอากาศ
ร่างของหมาป่ายักษ์ปกคลุมด้วยผลึกแก้วส่องแสงสีม่วง
เจ้าตัวนี้คล้ายคลึงกับอสูรหมาป่าม่วงที่เทือกเขาจิ่วเหยา!
บนร่างของอสูรหมาป่าม่วง มันมีความผันแปรทางพลังวิญญาณคงอยู่ และมันไม่ด้อยไปกว่าของลั่วฉวน
หรือก็คือ อสูรหมาป่าม่วงสองตัวนี้อยู่ขอบเขตหลอมกายระดับสูงสุด!
เรียกว่าขอบเขตหลอมกาย ก็เป็นดังชื่อของมัน พลังวิญญาณจากฟ้าดินจะถูกรวบรวมสู่ในกายและทำให้ร่างกายแข็งแกร่งขึ้น
ที่ขอบเขตนี้ กำลังจะไม่แตกต่างกันเท่าใดนักในหมู่ผู้ฝึกตน
แน่นอนว่าสิ่งที่แตกต่างคือประสบการณ์การต่อสู้
ประสบการณ์การต่อสู้บ่อยครั้งก็สามารถพลิกผันการศึกได้!
เปรียบดังนักฆ่าผู้ซึ่งไร้พื้นฐานการฝึกฝนปะทะกับผู้ฝึกตนที่ไร้ประสบการณ์ต่อสู้ที่ขอบเขตหลอมกาย นักฆ่าอย่างไรแล้วก็มีชัยชนะในท้ายที่สุด!
เทียบเปรียบกับมนุษย์ สัตว์อสูรมีความโดดเด่นได้เปรียบเรื่องกำลังกายยิ่งกว่า!
โหมดปกติกล่าวได้ว่ายาก อย่างนั้นแล้วอีกสี่โหมดที่เหลือจะเป็นอย่างไร?
การศึกเริ่มขึ้นแล้ว!
เมื่อวานหลังตกตายในหอคอยแห่งการทดสอบไปนับร้อยครั้ง ลั่วฉวนจึงควบคุมกำลังให้เกิดความเปลี่ยนแปลงใต้พื้นดินได้บ้างแล้ว
แต่ก็เท่านั้น
เผชิญหน้าการโจมตีจากอสูรหมาป่าม่วงถึงสองตัวที่ขอบเขตทัดเทียมกัน อย่างไรผลลัพธ์ก็ไม่ต้องคาดเดา
ผ่านไปเพียงไม่กี่ชั่วลมหายใจ คอของลั่วฉวนก็ถูกฉีกออกและตกตาย!
ฟื้นคืนชีพ และสู้อีกครั้ง
และจากนั้นไม่นานลั่วฉวนก็ตายอีกรอบ!
ฟื้นคืนชีพ ตาย ฟื้นคืนชีพ ตาย...
ลั่วฉวนวนเวียนกับวัฏจักรเช่นนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
สำหรับเขา เวลาคือสิ่งสำคัญ!
ด้วยฐานะเถ้าแก่ร้าน เขาต้องใช้เวลาให้คุ้มค่า
หากพิจารณาให้ดี ทุกครั้งที่เริ่มศึก ลั่วฉวนจะยืนหยัดได้นานขึ้นทีละน้อย
พรสวรรค์เช่นนี้กล่าวได้ว่าน่ากลัว!
ขณะเวลาไหลผ่าน กำลังของลั่วฉวนก็เติบโตขึ้นเรื่อย...
“ผู้คนที่ภายนอก พวกนั้นพูดคุยอันใดกัน?” เมื่อกลับถึงโรงเตี๊ยมจันทราเมรัยหลังมื้ออาหารเช้า กู่หยุนซีจึงกล่าวถามด้วยความสงสัย
เมื่อวานที่กลับมาถึงโรงเตี๊ยมจันทราเมรัย นางก็ฝึกฝนอยู่โดยตลอด ที่ออกมาจากห้องก็เพียงเพราะรับประทานอาหาร
“ไม่ทราบหรือ?” ดวงตาเจียงเหวิ่นฉางเบิกกว้างตื่นตะลึง ใบหน้านั้นเผยความไม่เชื่อ “เรื่องราวนี้แทบจะรู้กันทั้งนครจิ่วเหยาแล้วกระมัง?”
“หยุดเวิ่นเว้อและบอกข้ามาได้แล้ว”
กู่หยุนซีไม่พอใจต่อคำตอบของเจียงเหวิ่นฉาง มือของนางยื่นเข้าไปยังเอวอีกฝ่ายทำให้หัวเราะ
“ฮ่าฮ่าฮ่า ก็ได้ หยุดก่อน เช่นนี้ข้าเล่าไม่ได้...”
เมื่อเป็นอิสระจากมือกู่หยุนซีแล้ว เจียงเหวิ่นฉางจึงค่อยเผยท่าทีพร้อมบอกเล่าเรื่องราวที่ทราบออกมา
ตอนที่ 80 : หอคอยแห่งการทดสอบชั้นที่สอง!
“นครจิ่วเหยามีผู้แข็งแกร่งเพียงนั้นอยู่ด้วย?”
หลังได้ทราบจากเจียงเหวิ่นฉาง ใบหน้ากู่หยุนซีจึงเผยอาการตื่นตะลึง
หากจักรพรรดิเทียนชิงผู้ซึ่งเป็นขอบเขตทดสอบเต๋าระดับสูงสุดยังเผยท่าทีเช่นนี้ต่ออีกฝ่าย ก็กล่าวได้ว่านั่นเป็นยอดฝีมือลึกลับที่มีขอบเขตพลังอย่างน้อยก็ราชันแล้ว
“น่าเสียดายที่อีกฝ่ายฉีกกระชากมิติเดินทางกลับ จึงไม่ทราบว่ากลับไปยังที่ใด”
เจียงเหวิ่นฉางถอนหายใจด้วยความเสียดาย
“เพราะอะไรกัน ไม่ใช่ว่าแม่นางเจียงเกิดดอกไม้ผลิบานในหัวใจหรอกกระมัง?” กู่หยุนซีเผยยิ้มซุกซน “เจ้ากล่าวก่อนหน้า ว่าอีกฝ่ายแข็งแกร่งและหาได้อายุเยอะกว่าพวกเราไม่!”
“นี่เจ้า... อย่าได้...”
มันคล้ายใจของนางถูกเปิดออก เจียงเหวิ่นฉางเผยใบหน้าแดงก่ำ ขณะนี้แสร้งทำเป็นโกรธเกรี้ยวทุบตีกู่หยุนซีอย่างเบามือ
กระนั้นกู่หยุนซีก็ไม่คิดยอม นางสู้ตอบกลับ
ทุบตีกันไปมาพักหนึ่งทั้งสองจึงค่อยออกจากโรงเตี๊ยมจันทราเมรัย
ทั้งสองยังไม่ลืมที่จะไปร้านของเถ้าแก่
สินค้าลึกลับ เกมที่เพิ่มการฝึกฝนได้ ทั้งหมดรอพวกนางอยู่
ไม่ช้าทั้งสองจึงมาถึงตรอกอันคุ้นเคย
ซึ่งไม่เหมือนดังเมื่อวาน วันนี้ไม่พบเห็นเถ้าแก่ร้านนอนอาบแดดที่หน้าร้าน
พวกนางก็ไม่ได้คิดมากแต่อย่างใด ฝีเท้าเพียงมุ่งตรงเข้าไปยังในร้านต้นตำรับ
อย่างไม่คาดคิด ทั้งเถ้าแก่และเสมียนประจำร้านต่างสวมหมวกเล่นเกมกันทั้งคู่
แต่เพียงเมื่อกู่หยุนซีคิดเรียกหาเหยาซือหยาน เจียงเหวิ่นฉางพลันขัดคำนางไว้
“รอเดี๋ยว รับชมเถ้าแก่กับพี่ซือหยานก่อนดีกว่า”
เพราะได้ยินปู้หลี่เกื๋อเรียกหาเหยาซือหยานเช่นนี้ เจียงเหวิ่นฉางจึงเรียกหาตามไปด้วย
ดวงตากู่หยุนซีเผยประกายพร้อมพยักหน้ารับ
กู่หยุนซีและเจียงเหวิ่นฉางมีข้อสงสัยต่อเถ้าแก่ผู้ลึกลับ และโฉมงามเฉกเช่นเหยาซือหยาน
เรื่องราวเช่นนี้ไม่ใช่มีโอกาสง่ายได้พบเห็น!
“ชั้นสองของหอคอยแห่งการทดสอบหรือ? คู่ต่อสู้คืออสรพิษมงกุฎทองในเทือกเขาจิ่วเหยา!”
หลังได้พบเห็นภาพฉากที่ตรงหน้าเหยาซือหยาน ทั้งสองจึงอุทานร้องออก
อสรพิษมงกุฎทอง เป็นสัตว์อสูรที่คล้ายงู เมื่อเติบโตเต็มที่จะยาวถึงหลายเมตร และมันมีกำลังแข็งแกร่งทัดเทียมขอบเขตคืนต้นกำเนิด!
ที่น่ากลัวกว่านั้น คืออสรพิษมงกุฎทองอยู่เป็นฝูง พวกมันอย่างน้อยปรากฏตัวครั้งหนึ่งก็นับสิบตัว!
ลักษณะเด่นของพวกมัน ก็คือมงกุฎทองที่บนหัว!
นั่นคือจุดอ่อนเดียวของพวกมัน!
เหยาซือหยานในจอภาพถูกปิดล้อมโดยอสรพิษกว่าสิบตัว!
“ไม่น่าเอาชนะ... เดี๋ยวนะ?!”
ภายในหอคอยแห่ง่การทดสอบ แม้กำลังของอสรพิษมงกุฎทองถูกสะกดข่มเอาไว้ แต่มันก็ไม่ใช่อะไรที่จะเทียบเปรียบกับสัตว์อสูรทั่วไปได้!
และทั้งสองไม่ทราบกำลังแท้จริงของเหยาซือหยาน ดังนั้นจึงคิดว่าไม่น่าจะผ่านชั้นนี้ไปได้
แต่สิ่งที่ได้เห็น คือโลกหล้าที่คล้ายพลิกกลับด้าน!
ดาบคืออาวุธที่เหยาซือหยานชื่นชอบใช้งาน
ในมือของนาง ดาบคมกริบสีขาวราวหิมะเผยประกายเย็นเยือก
ด้วยเผชิญหน้ากับอสรพิษมงกุฎทองนับสิบตัว เหยาซือหยานไม่เผยอาการแตกตื่นใดให้พบเห็น
เป็นที่คาดเดาได้ไม่ยาก ว่านางคิดอยากทดลองใช้วิธีการหลากหลาย
กระนั้นอสรพิษมงกุฎทองก็ไม่ใช่มีสติปัญญาอ่อนด้อย พวกมันทราบวิธีการร่วมมือโจมตีเป็นฝูง!
โจมตีหลายครั้ง รุกเข้าหา จากนั้นจึงป้องกัน!
ลงมืออย่างฉะฉาน ถอยกลับในอึดใจ และไม่ละโมบโจมตีจนตกเป็นเหยื่อ!
มันราวกับทราบวิธีปิดล้อมโจมตีเป็นอย่างดี...
เหยาซือหยานทราบดีว่าหากเป็นเช่นนี้ ท้ายที่สุดแล้วนางจะพ่ายแพ้!
ต่อให้กำลังแท้จริงของนางคือขอบเขตราชัน แต่ผลลัพธ์นี้ก็ไม่อาจแปรเปลี่ยน!
เหยาซือหยานจึงตัดสินใจเด็ดขาดพร้อมเลือกที่จะเริ่มลงมือแล้ว!