ตอนที่ 154 ผู้เล่นออกเดินทาง
ตอนที่ 154 ผู้เล่นออกเดินทาง
“ท่านมาควิส...เอ่อท่านเจสเปอร์ ข้าสัญญาว่าจะไม่ทำอีกแล้วได้โปรดอย่าขุ่นเคืองต่อกันเลย ข้าแค่ทำไปตามหน้าที่เท่านั้น”
“ในเมื่อเป็นเช่นนั้น...ข้าก็จะไม่ถือโทษโกรธท่านก็แล้วกันและหวังว่าเรื่องแบบนี้มันจะไม่เกิดขึ้นอีก ไม่ใช่แค่ตำแหน่งยศศักดิ์มาควิสเท่านั้น หากในวันหน้าข้ามีโอกาสได้รับการแต่งตั้งในดำรงยศศักดิ์ดยุก(Duke)ข้าก็หวังว่าหัวหน้าสมิธจะยังคงปฏิบัติต่อข้าเหมือนสหายสนิทแบบนี้ต่อไปนะ??!!”
เจสเปอร์เองก็ไม่รู้ว่าในอนาคตของเขาจะก้าวขึ้นไปสู่ยศศักดิ์สูงสุดของเมืองอัลคาเดียได้อย่างที่ตั้งใจไว้หรือไม่ แต่ถึงกระนั้นเขาก็ไม่อยากให้ NPC ที่เขาสนิทสนมด้วยต้องเปลี่ยนท่าทีการปฏิบัติตัวไปเพียงเพราะฐานะที่ห่างชั้นกัน ไม่ใช่แค่เฉพาะในโลกเสมือนจริงเท่านั้นที่เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ โลกแห่งความจริงก็มีให้เห็นอยู่บ่อยครั้งที่เพื่อนสมัยเรียนที่เคยสนิทสนมด้วยต้องจากลากันไปเพียงเพราะคำนิยามที่ถูกเรียกว่า เงินตรา การงานหน้าที่และฐานะสังคม
มันอาจจะมีที่ประธานบริษัทระดับพันล้านมานั่งดื่มเครื่องดื่มมึนเมากับเพื่อนสมัยเรียนที่เป็นลูกจ้างธรรมดาแต่ก็เป็นเพียงแค่ส่วนน้อยเท่านั้น ในอดีตเจสเปอร์เองก็เคยประสบพบเจอมากับตัว วันที่เขามีพร้อมทั้งฐานะและทรัพย์สินหมู่มิตรมากมายล้วนเข้าหา แต่พอเมื่อวันที่เขาหมดตัวไร้เงินทองมิตรที่เคยสังสรรค์กลับหดหาย จนมีอยู่วันหนึ่งที่เขาได้เจอเพื่อนฝูงเหล่านั้นอีกครั้งและได้มีโอกาสได้รวมโต๊ะอาหาร วันวานที่เคยหอมหวานบรรยากาศที่เคยคึกคักกับมีแต่ความอึดอัด ทั้งสองฝ่ายไม่ว่าจะเป็นเจสเปอร์หรือตัวเพื่อนฝูงต่างมีเส้นกั้นบางๆ ที่ต่างฝ่ายต่างรู้ว่ามันคืออะไร แม้จะไม่มีใครพูดออกมาตรงๆ แต่เจสเปอร์รับรู้ถึงมันได้
ดังนั้นในเมื่อเขาที่ได้โอกาสครั้งที่สองในโลกแห่งความจริงตัวเขาไม่อาจไปปรับเปลี่ยนสภาพสังคมให้เป็นดั่งใจหวังได้ งั้นโลกเสมือนจริงอย่างน้อยเขาก็ขอให้มีเรื่องลักษณะนี้ให้น้อยที่สุดกับมิตรภาพของเขาก็แล้วกัน
“ได้ท่านไม่ต้องกังวลเรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก...ขอเพียงท่านไม่ตัดขาดความสัมพันธ์จากข้าไป ข้าสมิธก็สัญญาว่าจะอยู่เป็นกัลยานิมิตรกับท่านไปตลอด”หัวหน้าสมิธกล่าวด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น แสดงถึงความจริงใจกับคำพูดที่กล่าวออกไปเมื่อสักครู่ แต่ทว่าสายตาของเขาไม่ได้จับจ้องอยู่ที่เจสเปอร์เลยแม้แต่นิดเดียว
‘อึก!!’
เสียงกลืนน้ำลายอึกใหญ่ของหัวหน้าสมิธดังออกมาอย่างชัดเจน ตลอดเวลาที่เขาปรับความเข้าใจกับมาควิสเจสเปอร์ เขาพยายามอดกลั้นความหิวโหยที่ต้องต่อสู้กับกลิ่นของเครื่องเทศที่ลอยคลุ้งอยู่บนหม้อใบใหญ่โดยมีพี่สาวบับเบิ้ล นักเล่นแร่แปรธาตุที่ได้รับสกิลเสริมการทำอาหารระดับทอง เป็นคนปรุงรสอยู่หน้าเตา ด้วยท่าทางทะมัดทะแมง
เวลานี้สกิลการทำอาหารของพี่สาวบับเบิ้ลไม่ได้มีแค่การย่างเนื้อที่รสเลิศเพียงเดียวอีกต่อไปแล้ว แม่ครัวแห่งร้านอาหารสมาคมได้พัฒนาการทำอาหารของเธอไม่ว่าจะเป็นการต้ม,ผัด,แกง,ทอด,ปิ้งย่าง สารพัดวิธีที่เชฟพ่อครัวแม่ครัวจะเรียก พี่สาวบับเบิ้ลล้วนทำได้หมดและผลลัพธ์ที่เธอทำได้ก็ทำให้ทุกคนต้องตกตะลึงจนต้องอ้าปากค้างไปอีกครั้ง นั้นก็คืออร่อย...ผิด!! มันแน่นอนอยู่แล้วว่าต้องอร่อย อาหารจากสกิลทำอาหารระดับเกรดสีทองมีหรือจะรสชาติแย่
มันต้องมีอะไรพิเศษกว่าคำว่าอร่อนสิถึงจะทำให้ทุกคนอ้าปากค้างได้ คำตอบก็คือ...? ค่าสถานะที่ได้รับมันเปลี่ยนไปยังไงล่ะ!!
อาหารของพี่สาวบับเบิ้ลมีค่าสถานะที่ได้รับจากการกินเปลี่ยนไป ถึงแม้จะใช้วัตถุดิบหลักเป็นส่วนผสมแบบเดียวกัน แต่ถ้าหากเปลี่ยนวิธีการทำไป ค่าสถานะที่ได้รับจะเปลี่ยนไปด้วย ยกตัวอย่างเช่น เนื้อหมาป่าที่เธอกำลังทำอยู่ หากเธอนำมันไปย่าง ค่าสถานะที่ได้รับการแทบจะเหมือนกับเนื้อออร์คไม่ผิดเพี้ยน แตกต่างกันตรงที่เนื้อหมาป่าอาจได้รับค่าสถานะมากกว่าเล็กน้อย ตามปริมาณเกรดของเนื้อและความแข็งแกร่งของมอนสเตอร์ที่เอามาทำ เนื้อออร์คย่างช่วยฟื้นฟูพลังชีวิต 5% หากเป็นเนื้อหมาป่าย่างก็จะช่วยฟื้นฟูพลังชีวิต 6% เป็นต้น
ส่วนถ้าพี่สาวบับเบิ้ลเปลี่ยนวิธีการทำจากการย่างมาเป็นการต้ม ค่าสถานะที่ได้รับก็จะได้รับตามนี้ เพิ่มพลังเวทมนต์ 5% อัตราการป้องกันเวทมนต์ธาตุน้ำแข็ง 10% เป็นต้น
นี้ต่างหากที่คือสิ่งที่ทำให้ สมาชิกในกิลด์ Rising Sun ต้องอ้าปากค้าง อาหารที่พวกเขากินเข้าไปนั้น สามารถเลือกได้แล้วว่าอยากจะเพิ่มสถานะในส่วนไหน หลังจากนี้หากผู้เล่นทั่วไปพบเห็นผู้เล่นที่นั่งล้อมวงกินอาหารกันก่อนเริ่มการเก็บเลเวล ก็สันนิษฐานได้เลยว่าต้องมาจากกิลด์ Rising Sun แน่ๆ 100%
“นั้นท่านแม่ครัวกำลังทำอาหารชนิดใดกัน ทำไมกลิ่นของมันช่างหอมเตะจมูกขนาดนี้ ท่านเจสเปอร์ยังมีเรื่องที่ต้องคุยกับข้าอีกหรือไม่? ไม่สิ...ถ้ามีก็เอาไว้หลังจากที่ข้ากลับมาก็แล้วกันนะสหาย”
“. . .”
หัวหน้าสมิธไม่รอที่จะให้มาควิส ยศศักดิ์ที่เหนือกว่าผู้นี้ได้เอ่ยปากแม้แต่นิดเดียว NPC ผู้นี้พูดเองเอ่อเองจนเสร็จสรรพ พร้อมกับทะยานร่าง กระโดดไปทางห้องครัว คล้ายกับโลดแล่นอยู่ในทุ่งลาเวนเดอร์ที่มีผีเสื้อไต่ตอมหยอกเย้ากับดอกไม้อันหอมหวาน เพียงแต่มันขัดกันตรงผีเสื้อที่ว่านั้นมีแต่ NPC ชายฉกรรจ์กล้ามเป็นหมัดๆจากบรรดาช่างตีเหล็กฝึกหัดที่ยืนล้อมพี่สาวบับเบิ้ลต่างหากล่ะ!!
ภายในสมาคมช่างตีเหล็กต่างวุ่นวายไปกับการขยายร้านค้าให้กว้างขวางขึ้นและติดป้ายประกาศเชิญชวนให้กับผู้เล่นได้รับทราบถึงกำหนดการงานประมูลที่จะจัดขึ้นที่ร้านสมาคมในอีก 10 วันข้างหน้า
‘ก๊องแก๊ง!!’ ‘ซูมม!!’ ‘ป๊อกแป๊ก!!’
เสียงตีเหล็ก เสียงตอกไม้ล้วนดังกระหึ่มไปทั่วบริเวณ ผู้เล่นที่เขามาซื้อของในเวลานี้ต่างก็สนอกสนใจกับกิจกรรมที่กำลังจะเกิดขึ้นเป็นอย่างมาก ข่าวเรื่องที่ร้านค้าสมาคมจะจัดการประมูลเริ่มแผ่กระจายออกไปทั่วเมืองอัลคาเดีย กิลด์น้อยใหญ่เริ่มรับรู้ กิลด์ Blood Commanderที่ตั้งตัวเป็นศัตรูกับร้านค้าสมาคมมาตั้งแต่แรกก็พร้อมกลืนน้ำลายตัวเอง ขานรับกิจกรรมที่กำลังจะเกิดโดยพร้อมเพรียงด้วยเช่นกัน
‘การประมูลครั้งแรกหลายคนพลาดมันไป ครั้งนี้พวกเขาจะพลาดอีกไม่ได้!!’
ด้วยชื่อเสียงจากการจัดงานในครั้งที่แล้ว ที่ร้านค้าสมาคมเล่นใหญ่หักหน้า กิลด์และผู้เล่นที่มาปั่นป่วน ถึงกับเรียนเชิญเจ้าเมือง Fernando แห่งเมืองอัลคาเดียมาเป็นประธานเปิดงานได้ พร้อมทั้งเจ้าเมืองยังมอบเควสพิเศษให้กับบรรดาผู้เล่นที่มาร่วมงานในวันนั้นเป็นกรณีพิเศษอีกเป็นจำนวนมาก ข่าวที่เกิดขึ้นนี้แม้จะผ่านไปนานแล้ว แต่ยอดเข้าชมและยอดแสดงความคิดเห็นก็ยังสูงจนติดท็อปของกระดานสนทนาอาณาจักรกรีนเวต้าอยู่เลย
[จริงหรือเปล่า!!ที่ร้านค้าสมาคมแห่งเมืองอัลคาเดียจะจัดงานประมูลไอเท็ม]
[เป็นความจริง...ฉันเป็นผู้เล่นของเมืองอัลคาเดีย วันนี้ฉันมีโอกาสได้ไปซื้อของที่ร้านค้าสมาคมของพวกเขาและก็ได้เห็นป้ายประกาศที่ว่านี้ติดอยู่จริง ไม่เชื่อดูสิ ‘PIC’]
[+1 ยืนยันอีกเสียง...ฉันก็เป็นผู้เล่นที่มาจากเมืองอัลคาเดียด้วยเช่นกัน ขอเสริมความเห็นด้านบนว่าไม่ใช่มีแค่ประกาศจัดงานประมูลเพียงอย่างเดียวนะ ครั้งนี้พวกเขาลงทุนขยายร้านค้าเพิ่มเติมอีกด้วย]
[ฉันเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่า เมืองอีรูไดซ์ของฉันยังเป็นเมืองหลวงอยู่อีกหรือเปล่า? เพราะวันนี้ฉันเห็นผู้เล่นและกิลด์จำนวนมากเริ่มออกเดินทางไปที่เมืองอัลคาเดียกันมากกว่าสามร้อยคนแล้ว]
[ฉันและกิลด์ของฉัน จากเมืองซัลฟอร์ด กำลังออกเดินทางไปร่วมงานแล้ว ถึงกิลด์ของฉันจะไม่สนเรื่องเจ้าเมือง NPC อะไรนี้สักเท่าไร่ แต่เรื่องชื่อเสียงของไอเท็มที่ขายในร้านของพวกเขามันโด่งดังอย่างมากที่เมือง ซัลฟอร์ดของพวกฉัน]
[เมืองซัลฟอร์ดก็มาร่วมด้วยยังงั้นเหรอ? ฉันที่อยู่เมืองสโตนวิลเลจ ก็จะไปร่วมด้วยเช่นกัน นี้ถือเป็นครั้งแรกของพวกฉันเลยที่จะได้เดินทางไกลขนาดนี้ หวังว่าไอเท็มที่ขายในร้านจะสุดยอดตามคำร่ำลือก็แล้วกัน??!!]
จากงานเล็กๆที่เจสเปอร์คิดจะจัดเพียงแค่ในหมู่ผู้เล่นเมืองอัลคาเดียเมืองเกิดของเขา บัดนี้เมื่อข่าวลือได้แพร่กระจายออกไปกลับกลายเป็นว่า งานเล็กๆที่พวกเขาคาดหวังเริ่มขยายใหญ่มากขึ้นเรื่อยๆ จนแทบจะครอบคลุมไปทั่วทั้งอาณาจักร ไม่ว่าจะเป็นผู้เล่นจากเมืองอีรูไดซ์ที่ถือเป็นเมืองหลวง เมืองซัลฟอร์ดที่อยู่ติดกับเมืองอัลคาเดีย หรือเมืองสโตนวิลเลจที่มั่งคั่งไปด้วยทรัพย์กรแร่ ขาดแค่เพียงผู้เล่นจากเมืองฟรอสวิลเลจและเมืองเมิร์กแฮมที่อยู่ห่างไกลกับเมืองแซนนิกซ์ที่กำลังประสบปัญหาขาดแคลน 3 เมืองเท่านั้นที่ไม่ได้ตอบรับเรื่องการประมูลในครั้งนี้
“หัวหน้า!!ดูในกระดานสนทนาเร็ว เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแล้ว!!” สลิปที่กำลังนั่งอู้อยู่บนนั่งร้านก่อสร้าง ได้เปิดกระดานสนทนาขึ้นมาอ่านเพื่อฆ่าเวลา ก็ร้องตะโกนเรียกเจสเปอร์ที่อยู่อีกฝากด้วยความตกใจ พร้อมกับชี้ไปที่หน้าต่างสนทนาที่ตัวเขากำลังเปิดอ่านอยู่ให้กับหัวหน้ากิลด์ได้ดู
แต่ยังไม่ทันที่เจสเปอร์จะได้เปิดกระดานสนทนาขึ้นมาดู ตัวเขาก็ได้ยินเสียงแตรสัญญาณที่ใช่เฉพาะงานพิธีสำคัญของราชวงศ์ ดังมาจากด้านนอกก่อนที่เสียงขบวนที่ว่ากำลังมุ่งตรงมายังสมาคมช่างตีเหล็กที่มีหัวหน้าสมิธเป็นผู้ดูแล ที่กำลังเพลิดเพลินไปกับต้มแซ่บเนื้อจากรสมือของพี่สาวบับเบิ้ลที่โรงครัวอย่างอิ่มหนำ!!
“ท่านมาควิส!!ขบวนของท่านเจ้าเมืองFernando รออยู่ที่หน้าประตูทางเข้าสมาคม เห็นว่ามีเรื่องจะขอพบกับท่านมาควิสและหัวหน้าสมิธโดยด่วน”
“ข้าทราบแล้ว...เจ้ารีบไปต้อนรับท่านเจ้าเมืองให้เข้ามาเถอะ ข้าจะไปตามหัวหน้าสมิธให้มาพบเอง!”
NPC ช่างตีเหล็กฝึกหัดคนหนึ่งรีบมาแจ้งเรื่องที่ท่านเจ้าเมืองได้มาเยือนร้านค้าสมาคมให้กับเจสเปอร์ได้รับรู้ ก่อนจะรีบวิ่งกลับไปเปิดประตูต้อนรับ เจ้าเมือง Fernandoให้เข้ามายังด้านในตามคำสั่งของเจสเปอร์พร้อมกับนำทางขบวนของท่านเจ้าเมืองมายังโกดังที่หัวหน้าสมิธและมาควิสเจสเปอร์ได้คอยท่าต้อนรับอยู่ก่อนแล้ว
“โอ้ไม่ได้พบกันเสียนาน...ท่านผู้กล้าเจสเปอร์ได้เลื่อนยศเป็นถึงระดับมาควิสแล้วหรือนี้ ข้าขอยินดีกับท่านผู้กล้าด้วย!!”
“ที่ข้ามีวันนี้ได้ก็เพราะมีท่านเจ้าเมืองคอยให้การสนับสนุน เป็นข้าที่ควรขอบคุณท่านเสียมากกว่า…ท่านเจ้าเมืองเดินทางมายังที่นี้คงจะเหนื่อยน่าดู ลองชิมอาหารจากร้านอาหารของเราก่อนแล้วค่อยมาคุยธุระเถอะ”
เจสเปอร์เชื่อว่าการที่เจ้าเมือง Fernando ได้มาหาเขาในวันนี้น่าจะต้องมีเรื่องสำคัญบางอย่างมาคุยกับเขาแน่ๆ แต่เพื่อไม่ให้บรรยากาศตึงเครียดมากจนเกินไป เขาจึงได้ออกอุบายเชื้อเชิญให้ ท่านเจ้าเมืองและทหารที่มาในวันนี้ได้กินอะไรให้อิ่มท้องเสียก่อน เผื่อว่าอาหารพวกนี้จะช่วยลดความยากที่เขาต้องเผชิญจากปากของท่านเจ้าเมืองลงได้บ้าง
ซึ่งมันก็เป็นจริงอย่างที่เจสเปอร์ได้คาดเดาเอาไว้ หลังจากที่ท่านเจ้าเมืองได้รับประทานต้มแซ่บเนื้อหมาป่าที่ยกออกมาเสิร์ฟจนเกลี้ยงชามแล้ว NPC ผู้นี้ก็รีบกลับเข้าเรื่องอย่างรวดเร็ว
“ข้าได้รับรายงานมาว่าทางร้านสมาคมกำลังจะจัดงานประมูลใช่หรือไม่?”
แต่ไม่รู้เป็นเพราะรสชาติของอาหารด้วยหรือเปล่า น้ำเสียงของท่านเจ้าเมืองกลับดูผ่อนคลายอย่างเห็นได้ชัด
“ใช่!!เป็นความจริงที่ร้านของเรากำลังจะจัดงานประมูลขึ้นจริงๆ แต่ข้าไม่ยักรู้ว่าการจัดการประมูลนี้จะถือว่าผิดกฏของบ้านเมืองหรือต้องแจ้งให้กับท่านเจ้าเมืองได้รับทราบ หากข้ารู้ก่อนหน้านี้จะไม่ปล่อยให้ท่านได้ยินจากปากคนอื่นอย่างแน่นอน”
“ท่านผู้กล้ากังวลเกินไปแล้ว...ที่ข้ามาในวันนี้ก็เพื่อจะมาแจ้งให้ท่านทราบเฉยๆว่า ทางราชวงศ์จะขอเข้าร่วมงานประมูลในครั้งนี้ของท่านด้วยเท่านั้นเอง”
‘ราชวงศ์?’
‘องค์หญิงซีซีเรียจะอยากได้อุปกรณ์ของเขาไปทำไมกัน?’
‘ไม่ใช่สิ...ราชวงศ์กรีนเวต้าไม่ได้มีแค่องค์หญิงซีซีเรียคนเดียวสักหน่อยและตอนนี้เธอก็ยังประจำอยู่ที่ป้อมปราการ Mirage Tower อยู่ด้วย ถ้าอย่างนั้นหรือว่าจะเป็น...??’
‘องค์ชาย Aeron!!’
“องค์ชาย Aeronผู้ปกครองเมืองเมิร์กแฮม จะมาร่วมงานประมูลของข้าอย่างนั้นเหรอ??!!”
...โปรดติดตามตอนต่อไป...
เข้าไปร่วมพูดคุยกับไรท์หรือสมาชิกนักอ่านคนอื่นๆได้ที่แฟนเพจตามลิงค์ด้านล่างเลยนะครับ
www.facebook.com/writelazy