L.P.T ตอนที่ 52 ผู้ช่วยที่ดีในป่า
20นาทีต่อมาในที่สุด ซาโต้ก็ต่อสู้และล่าถอยหนีการไล่ล่าของฝูงสเปียร์ได้ในที่สุด ตอนนี้เขาซ่อนตัวอยู่ในพงหญ้าหนาด้วยความช่วยเหลือของกลิ่นหญ้าและชุดลายพรางบนตัวเขา
นอกจากจะมีดวงตาที่มีการมองเห็นที่ยอดเยี่ยมสเปียร์ยังมีความไวในการรับกลิ่นที่ดีอีกด้วย ดังนั้นซาโต้จึงเลือกที่จะกลิ้งบนพื้นเพื่อให้ร่างกายถูกปกคลุมด้วยกลิ่นหญ้าเพื่อปกปิดกลิ่นของตัวเอง
วิธีการของซาโต้นับว่ามีประสิทธิภาพเช่นกันและหลังจากนั้นสเปียร์ที่ได้ไล่ตามในภายหลังก็ไม่พบซาโต้และซูแบท พวกมันจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องกลับไปทางเดิม
“ดูเหมือนว่าคงจะต้องหาทางอื่นกันแล้วละ เส้นทางที่นายเพิ่งบอกให้ฉันเดินไป น่าจะเป็นพื้นที่ของสเปียร์” หลังจากที่กลุ่มสเปียร์จากไปหมดแล้ว ซาโต้ที่ถูกปกคลุมไปด้วยเศษหญ้าทุกที่ก็เดินตามออกมาจากพื้นหญ้าแล้วพูดกับซูแบท
หลังจากนั้น ซาโต้ก็เดินตามรอยที่ทิ้งไว้บนต้นไม้บางต้นด้วยมีดล่าสัตว์ตลอดทางของเขากลับไปยังสถานที่ที่ห่างจากตำแหน่งเดิมไม่มากอย่างระมัดระวัง
คราวนี้เนื่องจากกลิ่นของซาโต้ยังถูกปกคลุมไปด้วยหญ้าและเขาไม่เลือกที่จะเดินในป่าในลักษณะเปิดโล่งแล้ว พวกสเปียร์ที่ลาดตระเวนอยู่ใกล้ๆจึงไม่พบเขาเข้าให้
ซาโต้ยังใช้ซูแบทเพื่อให้มันนำทางเขาและพยายามเลือกที่จะเดินในสถานที่ที่ไม่มีฝูงสเปียร์ลาดตระเวนและเนื่องจาก ซาโต้ไม่ได้เลือกที่จะใช้เส้นทางในป่า การเดินเข้าไปในหญ้าแบบนี้ของเขาจึงได้ทำให้เขาพบกับโปเกมอนจำนวนมากที่อยู่ในหญ้าตลอดทาง
ในหมู่พวกโปเกมอนที่ซ่อนตัวอยู่ในหญ้าเป็นโปเกมอนคุณสมบัติพืชแทบจะทั้งหมด ตราบใดที่โปเกมอนคุณสมบัติพืชเหล่านี้ซ่อนร่างของพวกเขาไว้ในหญ้าพวกมันก็สามารถกลมกลืนเข้ากับสิ่งแวดล้อมได้อย่างแนบเนียน เป็นเรื่องยากมากที่จะสังเกตุเจ้าพวกนี้ด้วยตาเปล่าๆ
โชคดีด้วยความสามารถในการตรวจจับคลื่นความถี่ของซูแบท ซาโต้สามารถสังเกตเห็นโปเกมอนป่าเหล่านี้ที่ซ่อนตัวอยู่ในหญ้าตลอดเวลา มันเลยให้เขาสามารถเดินหลบพวกมันได้ทันที
จริงๆแล้วภูติคุณสมบัติพืชส่วนใหญ่มีความอ่อนโยนมาก ตราบใดที่คนไม่ไปเหยียบพวกเขาเข้าเต็มๆพวกเขาก็จะเลือกที่จะไม่สนใจคุณเลยหรือแม้กระทั้งวิ่งหนีเพราะความขี้อายของพวกเขาเองก็มี
แน่นอนว่านี่เป็นเพียงส่วนใหญ่เท่านั้น เพราะมันยังมีภูติคุณสมบัติพืชบางตัวที่หงุดหงิดง่ายกว่า ตัวอย่างเช่นเมื่อ ซาโต้มาถึงต้นหญ้าหนาทึบก็มีคุไซฮานะตัวนึงปรากฏต่อหน้าซาโต้และเลือกที่จะโจมตีเขาทันที
จริงๆแล้วคุไซฮานะตัวนี้ แต่เดิมเคยนอนอยู่ในรูเล็กๆที่สร้างขึ้นเองใต้หญ้าและซาโต้ก็ดูเหมือนจะไปปลุกเธอโดยไม่ได้ตั้งใจเมื่อเขาเดินผ่านไป
เมื่อเธอสังเกตเห็นว่ามีคนแปลกหน้าเข้ามาใกล้ คุไซฮานะเธอจึงใช้วิธีการป้องกันที่เธอโปรดปรานในอดีตโดยส่งกลิ่นเหม็นก็แผ่ออกมาจากดอกตูมของเธอใส่ซาโต้ทันที
ทันใดนั้น หลังจากที่ซาโต้ได้กลิ่นหม็นนี้เขาก็รู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมากและใบหน้าของเขาก็แสดงร่องรอยของความรังเกียจโดยไม่ได้ตั้งใจและคุไซฮานะที่ซ่อนตัวอยู่ในหญ้าตัวนี้นั้นเห็นได้ชัดว่าเป็นเธอเป็นโปเกมอนที่อ่อนไหวมาก หลังจากที่สังเกตเห็นว่าซาโต้มีร่องรอยของความรังเกียจบนใบหน้า เธอกระโดดขึ้นจากหญ้าทันทีด้วยความโกรธและพุ่งเข้าไปทำร้ายเขา
และสิ่งที่ทำให้เกิดกลิ่นเหม็นนั้นก็คือของเหลวที่มีกลิ่นเหม็นอยู่ด้านบนดอกไม้ของคุไซฮานะ แถมของเหลวที่ตกค้างที่หยดออกมาจากปากของเธอก็ละลายและเหี่ยวแห้งไปที่ใต้เท้าของเธอได้ในทันทีที่มันตกลงพื้น จากนั้นเธอก็พ่นของเหลวนี้บินไปทางซาโต้และซูแบทอย่างรวดเร็วซึ่งมันจะแย่มากถ้าซาโต้หรือซูแบทถูกเจ้าของเหลวเหม็นๆนี้เข้าไปที่ตัว
เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีอย่างกะทันหันของคุไซฮานะ ซาโต้จึงคิดอย่างหนักเพราะตอนนี้เขาไม่ต้องการที่จะต่อสู้ในตอนนี้เพราะการต่อสู้อาจจะดึงดูดความสนใจของสเปียร์ที่กำลังลาดตระเวนอยู่รอบๆทันที พอถึงเวลานั้นการเผชิญหน้าฝูงสเปียร์พวกนั้นคงเป็นเรื่องที่ลำบากมาก
จากนั้นซาโต้ก็ใช้ดวงตาที่กำลังสว่างไสวด้วยแสงสีฟ้าจางๆจ้องมองไปที่คุไซฮานะและภายใต้ฟังก์ชั่นการตรวจของระบบข้อมูลที่ส่งก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าเขาทันที
ข้อมูลของคุไซฮานะมีดังนี้:
โปเกมอน:คุไซฮานะ
LV: ระดับ 22
คุณลักษณะ: พืช+พิษ
คุณสมบัติ: กลิ่นเหม็น
เพศหญิง
ทักษะหลัก: ดูดซึม,เติบโต,กลิ่นหอมหวาน,กรด,ผงพิษ,สปอร์อัมพาต,สปอร์นอนหลับ,สุดยอดการดูดซึม,พลังลับ (กรรมพันธุ์),การสังเคราะห์แสง(กรรมพันธุ์),พลังธรรมชาติ(การสอนทักษะ)
(absorb,growth,sweet scent,acid,poison powder,stun spore,sleep spore,mega drain,secret power (hereditary),synthesis(hereditary),nature power(skill teaching))
"จริงๆแล้วมันก็คือคุไซฮานะนี้เองและคุไซฮานะตัวนี้ยังมีพลังลับที่ได้มาจากกรรมพันธุ์อีกด้วยฉันนี้โชคดีจริงๆ" หลังจากที่ได้เห็นข้อมูลที่น่าตกตะลึงแล้วดวงตาของซาโต้ก็เผยให้เห็นแววแห่งความสุขและก็อดไม่ได้ที่จะแอบดีใจ
สำหรับลักษณะต่างๆของโปเกมอน ซาโต้ซึ่งเป็นแฟนพันธุ์แท้ของโปเกมอนนั้นย่อมรู้ดีว่าลักษณะของคุไซฮานะก็คือความเหม็น นั้นคือเมื่อคู่ต่อสู้ถูกโจมตีในระยะใกล้จะมีโอกาส 10% ที่ฝ่ายตรงข้ามจะตกอยู่ในสถานะอ่อนแอ และถ้ามีโปเกมอนที่โดดเด่นตัวนี้ถูกจัดให้เป็นอันดับแรกในทีมละก็โอกาสในการเผชิญหน้ากับโปเกมอนป่าจะลดลงถึง 50%ในเกมเลย(ห๊ะ? ในเกมมันมีความสามารถนี้เรอะ?)
ไม่น่าแปลกใจที่สภาพแวดล้อมโดยรอบเต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นที่แม้แต่สเปียร์และภูติป่าจำนวนมากที่ลาดตระเวนในบริเวณใกล้เคียงจึงหลีกเลี่ยงพื้นที่นี้ ปรากฎว่ามันเป็นเพราะคุไซฮานะที่มีกลิ่นเหม็นยังคงอยู่ที่นี่นี้เอง
แม้ว่าจะมีการกล่าวว่าคุไซฮานะมักจะส่งกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ออกมาตลอด แต่ก็เห็นได้ชัดอยู้ว่ากลิ่นของคุไซฮานะนั้นน่ากลัวกว่าดอกไม้เหม็นที่อยู่ในโลกเดิมของซาโต้อีก(ดอกบัวผุดจัดว่าเป็นดอกไม้ที่เหม็นที่สุดในโลก ลือกันว่าเป็นกลิ่มซากศพเลยนะ แต่สรุปกลิ่นมันเป็นยังไงผมก็ไม่เคยลองเหมือนกัน)
และทักษะ"พลังลับ" ซึ่งทักษะนี้จะขึ้นอยู่กับการใช้ในสถานที่ต่างๆ ผลของมันก็คือมันจะสามารถสร้างฐานลับขึ้นมาในพื้นที่ที่เราใช้ออกไปได้เช่นตรงผนังหิน ตรงต้นไม้ใหญ่ อุโมงค์ดินเป็นต้น
กล่าวได้ว่าทักษะนี้มีประโยชน์มากสำหรับเทรนเนอร์หรือใครก็ตามที่อาศัยอยู่ในป่า ด้วยทักษะนี้โปเกมอนจะสามารถสร้างที่พักพิงชั่วคราวสำหรับเทรนเนอร์ที่เดินทางไปในป่าได้
การโจมตีของคุไซฮานะไม่ได้เป็นอันตรายต่อซาโต้มากนัก และซูแบทที่รับรู้ถึงการโจมตีก่อนที่จะถึงตัวนั้น ก็ได้ใช้ทักษะป้องกันในทันทีเพื่อป้องกันซาโต้ที่ยืนอยู่ข้างหลัง โดยปิดกั้นกรดของคุไซฮานะอย่างสมบูรณ์
เมื่อคุไซฮานะเห็นสิ่งนี้เธอก็พ่นกรดออกมาจากปากของเธออีกทันที เพื่อโจมตีอีกครั้งและคราวนี้เป้าหมายคือซูแบทที่ได้ใช้ทักษะป้องกันไปแล้ว แต่หลังจากที่เธอเห็นการจ้องมองมาที่เธอของซาโต้เธอก็รีบหันหลังและหนีไปทันที
"อย่าปล่อยให้เธอหนีไป ซูแบทนายต้องจู่โจมอย่างรวดเร็วใช้ทักษะพายุหมุนเพื่อส่งกรดที่คุไซฮานะปล่อยออกมาคืนไปที่เธอ" หลังจากที่ตระหนักถึงคุณค่าอันมหาศาลของคุไซฮานะตัวนี้จากข้อมูลที่เห็น ซาโต้สั่งให้ซูแบทปิดล้อมคุไซฮานะทันที
ตั้งแต่การเอาชนะรัตตาซึ่งเลเวลสูงกว่าซูแบทมาก และการต่อสู้กับอาร์บอกที่เก่งกว่า จนถึงการเอาชนะสเปียร์หลาย10ตัว ในช่วงเวลาสั้นๆนี้ ซูแบทได้รับประสบการณ์การต่อสู้มากมายและตอนนี้เลเวลของมันเพิ่มขึ้นเป็นระดับ 18 แล้ว
เนื่องจากระดับที่เพิ่มขึ้นซูแบทจึงเรียนรู้ทักษะ"แสงแฟลช"โดยอัตโนมัติ ในขณะเดียวกันซูแบทก็รู้สึกถึงพลังที่เพิ่มขึ้นจากการที่เลเวลเพิ่มขึ้น ทำให้ตอนนี้ซูแบทเริ่มชอบต่อสู้กับภูติตัวอื่นอย่างรวดเร็วและตอนนี้มีภูติตัวอื่นเป็นฝ่ายริเริ่ม ซูแบทก็มีความสุขมากเมื่อเห็นเป็นเช่นนั้น
หลังจากได้รับคำแนะนำของซาโต้ ซูแบทก็ใช้ทักษะพายุหมุนโดยไม่พูดอะไรสักคำ พายุหมุนสีขาวที่หมุนทวนเข็มนาฬิกาจากสภาพแวดล้อมไปยังใจกลางก็ปรากฏขึ้นจากนั้นก็ล้อมรอบกรดของคุไซฮานะได้สำเร็จและบังคับส่งพวกมันกลับไปหาคุไซฮานะ
และเมื่อเห็นคุไซฮานะตื่นตระหนกเล็กน้อย ซูแบทก็ได้รีบควบคุมพายุหมุนสีขาวที่เต็มไปด้วยกรดจำนวนมากตามหลังคุไซฮานะทันที คุไซฮานะเห็นดังนั้นเธอก็ต้องการที่จะหลบหลีกแต่เนื่องจากความเร็วในการเคลื่อนที่ของเธอช้ากว่าทักษะของซูแบท เธอจึงชนเข้ากับมันและเมื่อเธอชน เธอจึงถูกพายุดูดเข้าไปในทันที
เนื่องจากธาตุพืชมีจุดอ่อนเป็นธาตุบินอยู่แล้ว มันจึงทำให้เกิดความเสียหายอย่างมากกับคุไซฮานะ และแล้วใบมีดลมที่มองไม่เห็นในพายุหมุนสีขาวก็เฉือนร่างกายของเธอให้เต็มไปด้วยรอยแผลเป็นมากมายและในนั้นยังมีกรดของเธอที่เคยปล่อยไปในพายุหมุนสีขาวเข้าโจมตีเธออีก ตอนนี้ร่างกายของเธอดูเหมือนจะอ่อนแอจนแทบจะยืนไม่ไหวแล้วด้วยซ้ำ
10วินาทีต่อมาคุไซฮานะที่มีแผลเป็นมากมายก็ร่วงลงสู่พื้น เธอพยายามจะลุกขึ้นจากพื้น แต่ลูกบอลระดับสูงที่มีโลโก้แก๊งร็อคเก็ต ก็พุ่งเข้าใส่เธอได้สำเร็จและทำให้เธอล้มลงอีกครั้งที่เดิมและจากนั้นบอลก็เปิดออกเพื่อจับคุไซฮานะทันที